xs
xsm
sm
md
lg

“สิงโต ปราชญา” เผยสาเหตุ เบรกเรียนต่ออเมริกา เหตุทำบ้านบานปลายเกือบ 10 ล้าน!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สิงโต ปราชญา” ยอมรับเครียดก่อนคอนเสิร์ต ห้ามกินของทอด ห้ามนอนดึก แถมเป็นคนที่จำเนื้อเพลงไม่ค่อยได้ กลัวจะตาม “คริส” ไม่ทัน แต่พอจบก็เหมือนปลดปล่อย กินทุกอย่างที่อยากกิน แถมกลับมาเล่นเกมดึกได้เหมือนเดิม บอกแพลนเรียนต่อตอนนี้ต้องพักก่อน เพราะหมดงบไปกับการทำบ้านเกือบ 10 ล้านแล้ว

จบคอนเสิร์ตใหญ่ไปเรียบร้อย สำหรับนักแสดงหนุ่ม “สิงโต ปราชญา เรืองโรจน์” กับคอนเสิร์ต Love Out Loud Fan Fest 2022 ที่รวมเหล่าคู่จิ้นสายวายเอาไว้ถึง 4 คู่ด้วยกัน ซึ่งหนุ่มสิงโตเผยถึงเรื่องนี้ในงานบวงสรวงซีรีส์ Viu Original เรื่อง SHADOW เงา/ล่า/ตาย ณ มิวเซียมสยาม บอกว่าเครียดมาก เพราะเป็นคนจำเนื้อเพลงไม่ค่อยได้ ก็เลยกลัวจะตามหนุ่ม “คริส พีรวัส แสงโพธิรัตน์” ไม่ทัน

“ตอนนั้นก็จะมีปัญหาเรื่องเนื้อเพลง เราก็จะมาโฟกัสเรื่องเนื้อเพลง แต่คริสจะเป็นคนที่จำเนื้อเพลงไวมาก เขาก็จะมูฟออนไปเรื่องต่อๆ ไป ไม่ว่าจะเป็นการรันคิวต่างๆ ก็เลยทำให้เรากลัวตามน้องไม่ทัน โมเมนต์ในคอนเสิร์ต ก็เป็นคอนเสิร์ตที่เครียดพอสมควรเลย เพราะเป็นคอนเสิร์ตแรกที่คิดหลายๆ อย่างเองด้วยกันหมด ไม่ว่าจะการเลือกเพลงหรือการทำโชว์ต่างๆ ก็จะต้องมานั่งประชุมกัน นั่งคิดด้วยกันว่าเพลงนี้เราร้องไหวไหม หรือโชว์แบบนี้มันจะโอเคไหม ทุกคนจะสนุกไหม ทุกคนจะเอ็นเตอร์เทนตามไหม

มันไม่ใช่แค่แฟนคลับคู่เราด้วยสิครับ แต่มีแฟนคลับของทุกๆ บ้าน รู้สึกว่าพอเราโชว์อะไรออกไปแล้วหรือร้องเพลงอะไรออกไปแล้วเขามีความรู้สึกร่วม หรือมีส่วนร่วมในสิ่งที่เรากำลังโชว์ออกไป แค่โบกแท่งไฟตามแค่นี้ผมก็รู้สึกว่าประทับใจมากแล้วครับ”

เผยพอจบคอนเสิร์ตเหมือนปลดปล่อย กลับมากินทุกอย่างที่เคยอยากกิน
“พอโชว์จบก็คุยกันในระดับนึงครับ พอเคลียร์คอนเสิร์ตไปแล้วก็เหมือนโล่ง รู้สึกปล่อยตัวเองในระดับนึงเลย เพราะช่วงใกล้คอนเสิร์ตก็จะไม่ทานของทอด ไม่ทานดึก เพราะกลัวกรดไหลย้อนแล้วกระทบเสียง แต่พอจบคอนเสิร์ตผมก็กินทุกอย่างที่ผมอยากกินเลย พอจบคอนเสิร์ตแล้วสิ่งที่คุยกับคริสไม่ใช่เรื่องคอนเสิร์ตเยอะนัก แต่เป็นการเล่นเกมด้วยกันมากกว่า เพราะก่อนหน้านั้นไม่กล้านอนดึกมากกลัวกระทบเสียง

อนาคตจะได้กลับมาร่วมงานกันอีกไหม อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอนเลย ผมไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ขึ้นมาเพอร์ฟอร์มในระดับนี้อีกหรือเปล่า แต่ก็รู้สึกว่างานอื่นๆ ก็ยังมีอยู่นะครับ และเมื่อวานก็ครบรอบ 6 ปีโซตัสพอดี เป็นเรื่องบังเอิญมาก จริงๆ โซตัสสร้างโอกาสให้ผมมากๆ ครับ พูดได้ตามตรงว่าถ้าไม่มีโซตัสในวันนั้น ก็คงไม่มีสิงโตในวันนี้จริงๆ เป็นการเปิดโอกาสในการแสดงของสิงเยอะมาก”

เผยต้องพักแพลนเรียนต่อไว้ก่อน เพราะหมดกับค่าทำบ้านไปเกือบ 10 ล้าน
“ก็ตรงกับความตั้งใจของเรามากครับ จริงๆ แล้ว LOL แฟนเพลงเนี่ย มันถูกประกาศว่าจะจัดมาตั้งแต่ปี 2020 แต่ด้วยสถานการณ์โควิดก็ถูกเลื่อนมาเรื่อยๆ และช่วง 2020 ก็เป็นช่วงที่ผมเริ่มคิดแล้วว่าอยากเรียนต่อ ก็เลยคิดว่าจะเอาโชว์หลายๆ อย่าง เพลงหลายๆ เพลงมาใช้ในการที่เผื่อในอนาคตเราไปเรียนต่อด้วย

ทุกอย่างคิดไว้ในหัวพักใหญ่แล้วเหมือนกันครับ แต่ด้วยสถานการณ์โควิดมันก็เลยถูกเลื่อนออกไป ตอนนี้เรื่องเรียนต่อก็ยังคิดอยู่เหมือนเดิมนะครับ เพียงแต่มันมีเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้เราต้องเอาเงินในจุดที่จะเรียนต่อไปใช้กับการซื้อบ้านก่อน ก็ยังไม่ทิ้งแพลนเรียนต่อครับ แต่ตอนนี้บ้านบานปลายมากครับ (หัวเราะ) แค่ค่าอินทีเรีย พวกตกแต่งภายในก็ 2.5 แล้ว ตอนแรกคิดว่าไม่น่าจะเกิน 7 ล้านทั้งหมดนะครับ แต่ตอนนี้เกิน 7 ไปอีก 2.5 แล้วครับ ตอนนี้เริ่มไปเรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้ว ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนลงดีเทลว่าแอร์ต้องใช้กี่ยูนิตอะไรพวกนี้ครับ

เป็นโครงการบ้านนี่แหละครับ ด้วยความที่เราไม่ได้ซื้อเป็นบ้านเดี่ยว เราก็เลยใส่ใจในเรื่องของการตกแต่งนิดนึง อย่างบุผนังกันเสียง เพราะเรามองว่าในอนาคตเราน่าจะมีโอกาสได้ใช้ห้องที่คล้ายๆ เป็นสตูดิโอรูม เผื่อในอนาคตแคสเกม (หัวเราะ) เผื่อซ้อมร้องเพลง ก็เลยคิดว่ามันน่าจะต้องใช้พื้นที่เก็บเสียงพอสมควร นี่ก็ทำมาเกือบๆ ครึ่งปีแล้วครับ คิดว่าน่าจะเรียบร้อยปีหน้า คิดว่าต้นๆ ปีแต่ยังไม่รู้เลยว่าปีไหน”

บอกทำบ้านไว้เผื่ออนาคตพ่อผ่าตัด จะได้พักฟื้นง่ายๆ
“ถามว่าเป็นบ้านในฝันไหม สิงไม่ได้มีบ้านในฝันที่เป็นสเปกตายตัวขนาดนั้นครับ เพราะว่าปกติแล้วผมอยู่คอนโด เรียกได้ว่าทำงานเสร็จกลับมาก็นอนอย่างเดียว ก็เลยไม่ค่อยมีบ้านในฝันในหัวเท่าไหร่ แต่นี่ก็ถือเป็นบ้านหลังแรกครับ ก็เลยตามใจตัวเองเยอะพอสมควร อย่างโทนสีบ้านก็ออกไปโทนสีดำ ทุกอย่างที่ตัวเองชอบใส่หมดเลยครับ สีดำล้วนๆ ดำทองครับ แพลนเรื่องเรียนก็เลยต้องพักไปก่อนครับ แต่เหตุผลการทำบ้านมาก่อนเรื่องเรียน เพราะว่าพ่อสิงถ้าอนาคตต้องผ่าตัด แล้วบ้านหลังเก่าห้องน้ำอยู่ชั้นล่าง ห้องนอนอยู่ชั้นบน ก็จะพักฟื้นลำบากครับ ก็เลยคิดว่าทำบ้านก่อนดีกว่า เรายึดครอบครัวก่อน

แต่ผมไม่ได้บอกพ่อเรื่องนี้นะ (หัวเราะ)​ แต่พ่อก็ตามใจทุกอย่างอยู่แล้ว เราทำด้วยความเต็มใจครับ ก็ถ้าหลังจากนี้เราพร้อมก็เรียนต่อครับ ผมอยากเรียนฟิล์มโปรดักชั่น แต่มันใช้งบประมาณเยอะพอสมควร และจริงๆ เรื่องไปเรียนต่อต่างประเทศ ผมอยากไปอเมริกา พ่อก็เป็นห่วงเรื่องเหยียดเชื้อชาติที่เคยเป็นกระแสก่อนหน้านี้ พ่อก็เลยห่วง แต่เราก็คอยกล่อมพ่ออยู่ตลอดว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วง











กำลังโหลดความคิดเห็น