"ผมเป็นนักแสดงที่มีผลงานมากที่สุดในโลก เพราะพระเอกอินเดียที่บันทึกไว้ยังมีแค่ 500 กว่าเรื่อง นางเอกที่เล่นด้วยมีหลายคน ตอนนี้ก็ยังมีติดต่อกับนางเอกเก่าๆ บ้างเพราะบางคนยังมีชีวิตอยู่ อย่างอมรา (อมรา อัศวนนท์) เปี๊ยก อรัญญา (อรัญญา นามวงศ์), มี๊ พิศมัย (พิศมัย วิไลศักดิ์) แล้วก็มีอี๊ด เพชรา (เพชรา เชาวราษฎร์)"
“สมบัติ เมทะนี” เคยให้สัมภาษณ์กับมติชนสุดสัปดาห์ เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งจากบทสัมภาษณ์ดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ และยืนยง ในฐานะ “พระเอกตลอดกาล” ที่ทุกคนพร้อมใจกันขนานนามให้
ทั้งนี้ สมบัติ เมทะนี ฝากลงานเฉพาะในส่วนของการแสดงภาพยนตร์ไว้มากถึง 617 เรื่อง
ในช่วงรุ่งเรื่อง เคยรับงานแสดงพร้อมกันถึง 28 เรื่อง
และรับบทเป็นพระเอกมากถึงปีละ 40 เรื่อง
จนได้รับการจารึกชื่อ จาก กินเนสส์บุ๊ค ในฐานะนักแสดงที่รับบทเป็นพระเอกมากที่สุดในโลก
เสียชีวิตเมื่อเช้าของ วันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2565 สิริอายุ 85 ปี
**********
พระเอกในตำนาน ผู้ได้รับการยกย่องให้เป็น “ศิลปินแห่งชาติ” สาขาศิลปะการแสดง (ภาพยนตร์-ละครโทรทัศน์)ประจำปี 2559 นับเป็นปูชยนียบุคคล ผู้ทรงคุณูปการอย่างยิ่งยวด โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 จวบจนวาระสุดท้ายแห่งชีวิต
“สมบัติ เมทะนี” หรือที่ผู้คนมักเรียนอย่างติดปากว่า “อาแอ๊ด” เกิดเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2480 ที่จังหวัดอุบลราชธานี ก่อนจะโยกย้ายตามบิดาที่เป็นข้าราชการกรมรถไฟเข้ามาใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ แถบละแวกปทุมวัน
หลังจากจบการศึกษาระดับชั้นมัธยมจากโรงเรียนเทพศิรินทร์ ก็เริ่มต้นเส้นทางการทำงานประจำ ก่อนที่จะลาออกมาเมื่อฐานะการเงินของบริษัทไม่ดี
หลังจากนั้นก็เข้าศึกษาต่อระดับอนุปริญญาที่โรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย และเข้าเกณฑ์ทหาร 6 เดือน เมื่อพ้นเกณฑ์ ก็ตั้งใจจะรับราชการ แต่ดวงชะตาก็ขีดเส้นทางให้ก้าวเข้ามาในวงการบันเทิง ด้วยบุคลิกรูปร่างที่สูงใหญ่ เตะตา มีผลงานการแสดงภาพยนตร์ทางโทรทัศน์ ทางช่อง 7 ขาวดำ (ช่อง 5 ในปัจจุบัน) คู่กับนางเอกชื่อดังในสมัยนั้น อย่าง “วิไลวรรณ วัฒนพานิช” ในเรื่อง “หัวใจปรารถนา” โดยการชักนำของ “นำดี วิตตะ” หัวหน้าคณะละครโทรทัศน์พจนาภิรมย์ หลังจากนั้นจึงเริ่มมีผลงานแสดงภาพยนตร์เรื่องแรก “รุ้งเพชร” คู่กับ “รัตนาภรณ์ อินทรกำแหง” ภาพยนตร์ 16 มม.ของ น้อย กมลวาทิน เข้าฉายวันที่ 30 พฤศจิกายน 2504 ที่โรงภาพยนตร์เอ็มไพร์
"สมบัติ เมทะนี” มีผลงานการแสดงภาพยนตร์อย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ยุค 16 มม. พากย์สด จนถึง ยุคภาพยนตร์สโคป 35 มม.เสียงพากย์ในฟิล์มและซาวด์ออนฟิล์ม(บันทึกเสียงขณะถ่ายทำ)
มีผลงานที่สร้างชื่อเสียงมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เกียรติศักดิ์ทหารเสือ, ศึกบางระจัน, จุฬาตรีคูณ, เล็บครุฑ ตอน ประกาศิตจางซูเหลียง, กลัวเมีย, ฟ้าทะลายโจร ฯลฯ ได้รับพระราชทานรางวัลตุ๊กตาทองครั้งแรกในฐานะดารานำฝ่ายชายยอดเยี่ยม จากเรื่อง “ศึกบางระจัน” (2509 พิศมัย) ของ สุพรรณ พราหมณ์พันธุ์
เส้นทางในวงการแสดงในฐานะพระเอกก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุด ภายหลังการเสียชีวิตของพระเอก “มิตร ชัยบัญชา” ในปี พ.ศ. 2513 .
จากบทบาทของพระเอกอันดับหนึ่ง ก็ก้าวขึ้นมาอีกขั้น ด้วยการลงทุนสร้างและกำกับภาพยนตร์ด้วยตนเองครั้งแรกในชื่อ “เมทะนีฟิล์ม” เริ่มจากภาพยนตร์ 35 มม. เรื่อง “ไม่มีคำตอบจากสวรรค์” (2516 สมบัติ-อรัญญา) และต่อเนื่องมาอีกหลายเรื่อง โดยภาพยนตร์ เรื่อง “สลักจิต” (2522 สมบัติ-จารุณี) เป็นผลงานการสร้างภาพยนตร์ที่ทำรายได้มากที่สุด
นอกจากนั้นยังมีผลงานการกำกับภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง เช่น “ลูกสาวกำนัน”, “แม่แตงร่มใบ” และ “น.ส.ลูกหว้า”
ไม่เพียงจะมีผลงานในวงการบันเทิงเท่านั้น แต่ “สมบัติ เมทะนี” ยังมีบทบาททางการเมืองนับตั้งแต่ ปี พ.ศ.2549 อีกด้วย
ในด้านชีวิตครอบครัว สมรสกับ “กาญจนา เมทะนี” ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านกัน เมื่อปี พ.ศ. 2502 ตั้งแต่ก่อนจะเข้าสู่วงการบันเทิงง มีบุตรด้วยกันทั้งหมด 5 คน คือ “สิรคุปต์ เมทะนี” (อั๋น) , “เกียรติศักดิ์ เมทะนี” (อั้ม), “ศตวรรษ เมทะนี” (เอ้),” พรรษวุฒิ เมทะนี” (อุ้ม) และ “สุดหทัย เมทะนี” (เอ๋ย)
ทางด้านการศึกษา จบการศึกษาสูงสุดระดับปริญญาเอกสาขารัฐประศาสนศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย
**********
การเสียชีวิตของ “สมบัติ เมทะนี” พระเอกผู้ยิ่งใหญ่ และบุคคลอันเป็นที่รักของผู้คนรอบข้าง นับเป็นความสูญเสียครั้งสำคัญในวงการบันเทิง ที่ยังความเศร้าโศกเสียใจให้กับผู้คนเอย่างใหญ่หลวง
แม้จะสิ้นชื่อ แต่ผลงานยังคงจารึกไว้ในความทรงจำ และเป็นตำนานของวงการบันเทิงตลอดกาล
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศาสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 20-26 สิงหาคม 2565