“รอง เค้ามูลคดี” ยอมรับตกใจและช็อก เพราะผูกพันกันมากกว่า 50 ปี และตนก็เป็นคนที่พากย์เสียงในหนังให้ “แอ๊ด สมบัติ” กว่า 400 เรื่อง บอกเป็นพี่ที่มีแต่รอยยิ้ม และตำแหน่งศิลปินแห่งชาติเหมาะสมที่สุดแล้ว เพราะเป็นคนที่มีวินัยในการทำงานมาก มีน้ำใจ และเป็นคนที่รักเดียวใจเดียว อยากให้รุ่นลูก รุ่นหลานดูเป็นตัวอย่าง
เป็นอีกหนึ่งคนที่ทำงานร่วมกันมายาวนานกับพระเอกตลอดกาล “แอ๊ด สมบัติ เมทะนี” สำหรับนักแสดงอาวุโส “รอง เค้ามูลคดี” ที่ยอมรับว่าตกใจและช็อกมากตอนที่รู้ข่าว เพราะเมื่อวันเกิดก็ยังเห็นคลิปที่อีกฝ่ายเต้นอย่างแข็งแรงอยู่เลย ซึ่งตนและนักแสดงรุ่นพี่ก็ผูกพันกันมาก และตนก็เป็นคนที่พากย์เสียงให้มากที่สุดกว่า 400 เรื่องทีเดียว
“ผมทราบข่าวตอน 8 โมงเช้า ก็โทรศัพท์เข้าไป ทางครอบครัวก็บอกพี่แอ๊ดหลับไปแล้ว นี่ยังช็อกอยู่เลย เมื่อก่อนเราอยู่บ้านใกล้กัน คือต้องบอกว่าพี่แอ๊ดกับผมผูกพันกันมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผมเป็นคนเดียวที่พากย์หนังที่พี่แอ๊ดแสดงมากที่สุด พากย์ประมาณ 400 เรื่อง ก็ไปมาหาสู่กันตลอด เมื่อก่อนพี่แอ๊ดอยู่ซอยประดิษฐ์ผล ว่างๆ เราก็ขับรถไปบ้านพี่แอ๊ด พอตอนหลังอยู่บ้านติดกันก็เดินไปมาหากันตลอด เราเดินไปกินข้าวบ้านพี่แอ๊ด พี่แอ๊ดเดินมากินข้าวบ้านเรา
อาการป่วยของพี่แอ๊ดไม่มีเลย พี่แอ๊ดแข็งแรงกว่าผมอีก ผมยังแข็งแรงสู้เขาไม่ได้เลย ที่เจอกันล่าสุดก็เมื่อเร็วๆ นี้ เมื่อวันเกิดแกยังเต้นรำอยู่เลย แข็งแรงมาก แต่เราไม่ได้ไป เพราะติดถ่ายละคร แต่เขาส่งคลิปมา แกยังเต้นรำได้ พอได้ยินข่าวก็ถึงได้ช็อกมาก แกไม่มีวี่แววจะไม่สบายเลย
เมื่อเช้าก็บอกพี่ตุ๊ โชคดีแล้วนะ อย่างพี่แอ๊ดไม่ได้เคยสร้างความเดือดร้อนให้ลูกให้เมียเลย หลับไปเฉยๆ ไม่ต้องเสียเงินค่าโรงพยาบาลอะไร เขาไปสบายแล้ว เหลือแต่เราต้องดูแลตัวเองต่อ เมื่อเช้าผมก็กราบที่หน้าอกแก ขอให้พี่ไปอยู่ภพภูมิที่ดีนะ เดี๋ยวผมจะทำบุญไปให้พี่ เพราะใส่บาตรทุกเช้าอยู่แล้ว ก็อุทิศให้พี่แอ๊ดอีกคน”
เผยเป็นคนมีวินัย มีน้ำใจ และมีความรับผิดชอบต่องานมาก
“จริงๆ เราผูกพันกันมาก ตั้งแต่ผมอายุ 20 กว่า และ 50 ปีที่ผมแสดงกับพี่แอ๊ด เขาเป็นพระเอก เราเป็นตลกตามพระเอก เล่นกันมาตลอด เลิกกองก็ตามกันไป ไปหาที่บ้าน มันผูกพันกันมาก พี่แอ๊ดเป็นคนตลกมาก เป็นคนที่น้องๆ ให้ความเคารพ สิ่งหนึ่งที่ทุกคนยกให้พี่แอ๊ดคือความมีวินัย ถ่ายหนัง เลิกมาถึงบ้านตี 5 อาบน้ำ นิดเดียวออกจากบ้านแล้ว กองนัด 9 โมง แกไปนอนรอบนรถ พี่แอ๊ดเป็นตัวอย่างให้น้องๆ ได้เรียนรู้
พี่แอ๊ดเป็นคนที่ไม่ใช่ต้องมาคอยสอน แต่แกจะทำให้ดู อะไรที่แกช่วยได้แกจะช่วยมาก มีครั้งหนึ่งสแตนอินเลือดออกน่ากลัว แกบอกไม่ต้อง เดี๋ยวพี่เล่นเอง รถมอเตอร์ไซค์ขี่บนสะพาน แกทิ้งมอเตอร์ไซค์แล้วขึ้นบนสะพานกระโดดลงน้ำ และในเรื่องเรือจะมาพอดี ปรากฏว่ากระแสน้ำเปลี่ยนเรือมาเร็ว แกก็ลงไปเลย คือถ้าเป็นคนอื่นขาหักไปแล้ว ก็คงต้องถ่ายใหม่ แต่พี่แอ๊ดไม่ แกกัดฟันลุกขึ้นยืน ถ่ายต่อ ไม่ต้องมาถ่ายใหม่ คือที่สุด ความเป็นศิลปินของแก ความรับผิดชอบต่องาน”
บอกเหมาะกับตำแหน่งศิลปินแห่งชาติที่สุดแล้ว
“จริงๆ พี่แอ๊ดกับศิลปินแห่งชาติเหมาะสมที่สุด แกเป็นทั้งศิลปินที่เป็นแบบอย่างให้รุ่นน้องได้ดู ทั้งมีวินัย ความรับผิดชอบการงาน มีทั้งความสนุกสนาน ตอนที่ผมต้องพากย์เสียงให้เขาตอนนั้นเกร็งมาก ทำไมเขาให้เราพากย์คนนี้ ตอนนั้นยังไม่สนิทกับพี่แอ๊ด โห พระเอกอันดับหนึ่งเลย เกร็งไปหมดเลย แต่พอพากย์ไปได้ไม่เท่าไหร่ได้เล่นหนังด้วยกัน
ตอนเล่นหนังกับพี่แอ๊ดเรื่องผู้กองยอดรัก เขาเป็นพระเอก แล้วเราเป็นตัวตามพระเอก อยู่กับเขามาสิบๆ ปี ไม่เคยเห็นพี่แอ๊ดบ่นเหนื่อยเลย ต่อยผู้ร้าย 4-5 คน แกก็ยังคึกเหมือนเดิม ในเรื่องของความรักแกก็เป็นแบบอย่างที่ดี พี่แอ๊ดรักเดียวใจเดียว อย่างเราก็ยังพอมีเล็กๆ น้อยๆ แต่พี่แอ๊ดไม่มีเลย ขาวสะอาด รักเดียวใจเดียวตั้งแต่เริ่มแรกกับพี่ตุ๊ จนถึงปัจจุบัน ก่อนจากกันไปแกก็ยังรักพี่ตุ๊เหมือนเดิม ทำยังไงให้ลูกๆ หลานๆ ได้ดูเป็นแบบอย่าง คนอะไรครอบครัวก็ดี งานก็ดี น้ำใจอะไรก็ดี”