“อั๋น สิรคุปต์” เผยทุกคนในครอบครัวยังช็อก เพราะตั้งตัวไม่ทัน ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เร็วแบบนี้ เพราะไม่มีสัญญาณอะไรบอกล่วงหน้ามาก่อน พ่อก็ยังแข็งแรงดี ด้าน “ท็อป-ไทด์” ยอมรับตกใจ เพราะเพิ่งจัดงานวันเกิดครบรอบ 85 ปีไปให้เมื่อเดือนมิ.ย. “พ่อแอ๊ด” ยังเต้นได้เป็นชั่วโมง เสียดายอยู่ไม่ถึง 100 ปี ยกให้เป็นคู่ครอบครัวตัวอย่างของวงการบันเทิง ไม่ต้องกังวลจะจัดการทุกอย่างให้
เรียกว่าช็อกกันหมดตั้งแต่ทราบข่าวการเสียชีวิตของพระเอกตลอดกาลอย่าง “แอ๊ด สมบัติ เมทะนี” เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ขณะที่ครอบครัวเองก็เผยว่ายังรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทาง “อั๋น สิรคุปต์ เมทะนี” ลูกชายคนโต พร้อมกับ “ไทด์ เอกพัน บรรลือฤทธิ์” และ “ท็อป บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” ก็ออกมาเปิดใจว่ายังทำใจไม่ได้ เพราะเพิ่งจัดงานวันเกิดให้ไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานี่เอง
อั๋น : “ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ตั้งตัว ยังช็อกอยู่ เพราะไม่มีสัญญาณอะไรเลยครับ เมื่อคืน 3 ทุ่มก็ยังพาเขาขึ้นไปนอนอยู่ ไปดูทีวีปกติ ปกติเขาถ้าไม่ดูมวยเขาก็ขึ้นนอน พาขึ้นบันไดนอนทุกวัน เมื่อคืนก็ปกติ อาการเจ็บป่วยถ้าหนักๆ เลย ก็คือหลายปีที่แล้ว แต่อันนั้นก็โอเคหมดแล้ว ตอนนั้นคือติดเชื้อในกระแสเลือด ที่เข้าไอซียูไป แต่ก็รักษาหาย ก็โอเคแล้วเป็นปกติ ปัจจุบันโรคประจำตัวก็ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วงครับ เราก็ดูแลกันปกติเลย ก็มีเรื่องไปตามอายุ มีเรื่องลุกขึ้นบันได ช่วยดูๆ หน่อย เพราะอายุมากก็อาจจะมีปัญหาเรื่องข้อไปตามวัย อาการพวกนี้ก็ปกติ
หลังจากนี้ยังไม่ได้วางอะไรเลยครับ มันกะทันหันมากครับ เรื่องสั่งเสียไม่เคยคุยเรื่องนี้กัน เพราะจริงๆ แล้วคนที่กังวลจะเป็นฝั่งคุณแม่ คุณพ่อก็จะสบายๆ อยู่แล้ว พี่ท็อป-พี่ไทด์รู้ดี เขาเป็นคนอารมณ์ดี เพราะฉะนั้นเรื่องที่กังวลผมเชื่อว่าไม่มี อาจจะมีห่วงเรื่องลูกๆ ลูกสาว นอกนั้นก็ไม่มีอะไร หลานก็มีแล้ว เขาก็แฮปปี้ เขาก็พูดคุยอารมณ์ดีปกติเลยครับ พี่ไทด์ยังแซวๆ แกแกล้งนอนหลับหรือเปล่า เพราะคุณพ่อชอบแกล้ง แกชอบอำอยู่แล้ว”
เผยครอบครัวไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต
อั๋น : “จะไปติดใจอะไร ไม่ครับ แต่ที่ตอนแรกบอกจะไปนิติเวชเพื่อชันสูตร คือถ้าจะมีขั้นตอนนั้นคงเป็นตามข้อปฏิบัติตามกฎหมายอะไรแบบนั้นมากกว่า แต่ถามว่าเป็นแบบนั้นก็คือตอนนี้ทางญาติไม่ติดใจ เพราะแพทย์ก็สรุปสาเหตุการเสียชีวิตว่าเป็นโรคชรา น่าจะเป็นอาการที่เป็นโรคชรามากกว่า คนมาถาม ผมก็บอกว่าแกหลับไปเฉยๆ ทุกคนก็บอกว่าโชคดี
ตอนนั้นเวลาน่าจะประมาณ 6 โมงเช้า เข้าใจว่าประมาณนั้น ตอนนั้นคุณแม่อยู่กับคุณพ่อ ลูกๆ ไปออกกำลังกายตอนเช้า พอได้ข่าวก็รีบกลับ ตอนกลับทางโรงพยาบาลก็ปั้มหัวใจไม่ทัน เรากลับมาพูดคุยกับเขาไม่ทัน”
ไทด์ : “คือก่อนที่คุณพ่อจะไปท่านไม่ได้พูดอะไรเลยใช่ไหม คือหลับไปตามเวลา ตามปกติ แล้วก็ไม่ได้มาสั่งเสียอะไร ไม่มี คือหลับไปเลย”
อั๋น : “ปกติพ่อจะนอนก็ประมาณ 4 ทุ่มกว่า เพราะเมื่อคืนไปส่งประมาณ 3 ทุ่ม แล้วก็ยาวเลย คิดว่าท่านจากเร็วเกินไปไหมเหรอ ก็ถ้าเป็นไปได้เนอะ (น้ำตาซึม)”
ไทด์ : “แต่อายุ 85 ก็ถือว่าโอเคแล้วนะ คุณพ่อมีบุญมากนะครับ ที่นอนแล้วหลับไปเลย นิพพานไปเลย หายากมากที่เป็นแบบนี้ และคุณพ่อเท่าที่ผมสัมผัสมาเกือบ 40 ปีที่ได้รู้จัก เป็นคนที่ไม่มีต่อว่าใคร ไม่อะไรใครทั้งนั้น ทำให้ขำ ทำให้คนมีเสียงหัวเราะ อยู่ด้วยแล้วมีความสุข ไม่เคยนินทาใคร ไม่เคยอะไรใครเลย เวลาท่านเสียจากไปท่านก็ไปสบายๆ หลับไป ผมถือว่าเป็นคนมีบุญมาก มีบารมีมาก”
บอกตอนนี้ต้องช่วยกันดูแล “แม่ตุ๊ กาญจนา เมทะนี” เพราะตอนนี้แม่ก็ยังช็อกและรับไม่ได้เหมือนกัน
ท็อป : “ผมก็บอกแม่ตุ๊ว่าแม่สบายใจได้นะ ทุกอย่างในงานนี้พวกผมจะดูแลเอง เพราะผมคลุกคลีกับพ่อแอ๊ดมาก็พอๆ กับคุณเอกพัน หลังๆ เรารู้เลยว่าพ่อแอ๊ดต้องการความสุข ต้องการอยากจะเห็นเพื่อนๆ อยากจะเห็นลูกๆ อยากเห็นทุกคนมีความสุข เพราะฉะนั้นทำไม 4-5 ปีที่ผ่านมาทำไมผมต้องพาพ่อออกมาทานข้าว มาจัดงานวันเกิดให้พ่อแอ๊ด ล่าสุดเมื่อ 26 มิ.ย. ผมยังอัดคลิปไว้เลย แกเต้นแบบไม่มีใครรู้เลยว่าแกเป็นอะไร แล้วเต้นเป็นชั่วโมง
เมื่อเช้าผมถึงช็อกที่แม่โทร.มาบอกว่าพ่อเสีย มันกะทันหันมากเกินไป เมื่อก่อนวันที่ 26 ก่อนจะจัดงานวันเกิดพ่อ ก็ยังบอกแม่เลยว่าถ้าแม่ไปก่อนพ่อ แม่ไม่ต้องห่วงนะ ผมจะดูแลพ่อและลูกๆ ให้ดีที่สุด หรือไม่ก็ขอให้อยู่ด้วยกันตลอดไป พ่อก็ยังบอกว่าดีใจ ขอบคุณมาก ก็บอกแม่ไว้แล้วว่าทุกอย่างเดี๋ยวเราจัดการให้ ไม่ต้องห่วง คุณแม่จะกังวลเรื่องนี้”
เผยเสียดายเคยสัญญากันไว้ว่าอยากให้อยู่ถึงอายุ 100 ปี
ท็อป : “ตอนนั้นพ่อแอ๊ดสุขภาพดีมาก ทุกคนยังงงเลยว่านี่คือ 85 ที่เต้นแบบไม่มีเหนื่อย แล้วใส่กางเกงยีนส์แบบวัยรุ่นที่เขาใส่กันอายุ 20 กว่า แล้วแกใส่เต้น ผมดูแล้วยังงงเลย เพราะไม่น่าเกิดกับพ่อแอ๊ดได้ ก็ยังร้องเพลงด้วยกันอยู่เลย ก็ถึงงง เพราะเจอล่าสุดแกแข็งแรงมาก ก็มีนิดเดียวเรื่องของตา เพราะจะเห็นเวลาแกเดินจะเดินไม่ค่อยถนัด
ก็อยากจะต่อว่านิดนึงว่าพ่อแอ๊ดไม่ได้ทำตามสัญญานะครับ บอกว่าจะอยู่กับพวกเราถึง 100 ปี ก็ยังบอกพ่อแอ๊ดว่าพ่อต้องอยู่ให้ถึง 100 ปีนะ เพราะพ่อเป็นคนแรกในวงการบันเทิงที่แข็งแรงจะอายุถึง 100 ปี แต่ก็ไม่ได้ทำตามสัญญาที่บอกไว้ แต่พ่อแอ๊ดไม่ต้องห่วงนะครับ เรื่องแม่และน้องๆ พวกเราคนวงการบันเทิงก็จะดูแลอย่างเต็มที่ให้อย่างดีที่สุด พ่อแอ๊ดไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้นครับ”
บอกยกให้เป็นคู่รักและครอบครัวตัวอย่างของวงการบันเทิง
อั๋น : “สภาพจิตใจคุณแม่ตอนนี้ผมว่าคุณแม่ก็คงคล้ายๆ กัน ยังงงอยู่ ยังรับไม่ได้กับเรื่องแบบนี้ เพราะผมไม่เชื่อว่าจะมีใครรับได้เร็วหรือไวกับเรื่องแบบนี้ ก็อาจจะต้องใช้เวลาสักพักนึงนะครับ ระหว่างนี้ก็ลูกๆ หลานๆ พี่ท็อป พี่ไทด์ก็คงดูแล และน้องๆ ก็ดูแลอยู่แล้วครับ”
ไทด์ : “ทุกคนมองว่าพ่อแอ๊ดกับแม่ตุ๊เป็นคู่รักตัวอย่างนะ ก็เสียดาย ถ้าพูดถึงเวลาก็โอเคนะ 85 ปีสำหรับพ่อแอ๊ด และเกือบ 60 ปีที่ได้อยู่ด้วยกันกับแม่ตุ๊ เหมือนเป็นคนๆ เดียวกัน อะไรก็แล้วแต่ที่เกิดขึ้น เห็นพ่อแอ๊ดที่ไหนก็ต้องเห็นแม่ตุ๊ที่นั่น ทั้งสองไม่เคยจากกัน ไม่เคยแยกกันเลย เพราะฉะนั้นตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องเยียวยาจิตใจของแม่ตุ๊ให้ดี และให้ได้รับความสุขมากที่สุด ก็เสียใจและเสียดายว่าครอบครัวพ่อแอ๊ดและแม่ตุ๊เป็นครอบครัวตัวอย่างที่คนในวงการบันเทิงเอาเป็นเยี่ยงอย่างเลยครับ”
