“นุ่น วรนุช” รื้อสกิลนาฏศิลป์ รำถวายองค์ปฐมพระพิฆเนศวร เสริมความปังให้ละครเข็มซ่อนปลาย โคจรมาเจอ “เก้า จิรายุ” ในรอบ 17 ปี ชมเด็กๆ ที่เคยแสดงด้วยกัน โตมาหล่อและเก่ง พร้อมชูป้ายไฟซัปพอร์ต “ยอร์ช ยงศิลป์” หวังอะไรขอให้ประสบความสำเร็จ ขำๆ บอกลูกหล่อ เพราะแม่ดี
ต้องรื้อความจำกับวิชานาฏศิลป์ ในรอบไม่ต่ำกว่า 5 ปีเลยทีเดียว สำหรับ “นุ่น วรนุช ภิรมย์ภักดี”ที่เมื่อวันก่อน ได้ออกมาโชว์ความสามารถแบบจัดเต็ม รำ “ภารตนาฏยัม” ถวายบูชาสักการะองค์ปฐมพระพิฆเนศวร เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับละคร เข็มซ่อนปลาย ล่าสุดวันนี้ (18 ส.ค.) ในงานบวงสรวง ก็เจ้าตัวก็ได้เผยถึงเรื่องนี้ ว่าเป็นอะไรที่ยากมาก ถึงแม้จะมีสกิลอยู่บ้าง แต่การเต้นแบบอินเดียก็ไม่ได้เหมือนกับการรำทั้งหมด
“ที่ไปรำมา จริงๆ โปรเจกต์การรำเริ่มมาจากคุณเจี๊ยบ (โสภิตนภา ชุ่มภาณี) เพราะพี่เจี๊ยบบอกว่ามาทำละครช่อง 7 เลยอยากจะรำถวาย แล้วก็นับถือกันอยู่แล้วเพราะนุ่นเองก็เป็นเด็กนาฏศิลป์ อยู่กับองค์พระพิฆเนศมาตั้งแต่เด็กๆ พอพี่เจี๊ยบบอกแบบนั้นเราก็โอเคงั้นรำด้วย ตอนนั้นก็คิดว่าจะรำอะไรดี พอดีได้ไปเห็นการรำถวายแบบอินเดียเลยคิดว่าเอาเป็นอันนี้ไหม หลังจากนั้นพี่เจี๊ยบก็ติดต่อครูที่วิทยาลัยซึ่งเป็นของรุ่นน้องที่กรมศิลป์ ฝึกกันอยู่ 4 ครั้ง แต่ว่าครั้งแรกกับครั้งที่ 2 ห่างกันประมาณ 2 เดือน
ยอมรับว่ายากอยู่ถึงแม้ว่าจะมีสกิลการรำแต่ว่าการเต้นแบบอินเดียก็ไม่ได้เหมือนกับการรำทั้งหมด จังหวะการย่ำเท้าค่อนข้างยากแล้วก็ต้องให้เป๊ะด้วย ตอนแรกตั้งใจจะรำกัน 3 คน แต่ฐิสา (วริฏฐิสา ลิ้มธรรมมหิศร) ไม่ยอมรำด้วย เลยมีนุ่น น้องเจี๊ยบ (ชมพูนุช ปิยธรรมชัย) และพี่เจี๊ยบ แต่พอดีพี่เจี๊ยบไม่สบายเลยไม่สามารถมารำได้ วันนั้นเลยเหลือแค่นุ่นกับน้องเจี๊ยบ 2 คน แต่ความยากคือความพร้อมที่จะให้มันเท่ากันเป๊ะๆ มันยากมาก”
ความเป็นนางรำเก่า ก็สามารถทำให้ไหลลื่น จับจังหวะได้
“น่าจะเป็นเรื่องของการจับจังหวะได้ แล้วก็ดีใจที่หลายคนชื่นชมในความงดงามอ่อนช้อย เราก็เป็นคนไทยเนอะ แล้วก็เป็นเด็กนักเรียนนาฏศิลป์ไทยด้วยก็ยังอยากให้อะไรที่เป็นศิลปะต่างๆ ไม่ว่าจะแขนงไหนก็ตามให้ยังคงอยู่”
ไม่มีช็อตรำแล้วขนลุก แต่มีฝนพรมลงมาในบางจังหวะเพลง
“ไม่ได้รู้สึกขนลุก แต่จะมีบางท่ากับเนื้อเพลงบางจังหวะ ที่มีฝนพรมลงมานิดหนึ่งค่ะ”
เป็นการรำในรอบไม่ต่ำกว่า 5 ปี รำไปนับจังหวะไป
“ไม่ได้รำมานานมาก น่าจะในรอบไม่ต่ำกว่า 5 ปี เพราะที่รำครั้งล่าสุดก็เป็นตอนเรื่องพิษสวาท เรียกว่าก็มีการรื้อฟื้นเบาๆ ตอนแรกที่เห็นครูรำก็แบบห๊ะ! แล้วที่เห็นในคลิปที่หน้ายิ้มๆ ข้างในคือนับจังหวะตลอดเลย(หัวเราะ)”
โคจรกลับมาเจอ “เก้า จิรายุ ละอองมณี” ในรอบ 17 ปี
“ใช่ๆ ตอนนั้นเล่นเป็นป้าหลานกัน แต่เรื่องนั้นก็เป็นดรามาของป้ากับหลานที่ไม่ยอมกัน แล้วเขาก็เป็นเด็กปากจัดน่าตี”
คนชมว่าผ่านมา 17 ปี ยังสวยสต๊าฟมาก
“เรียกว่าก็โตทันกันจนได้มาเล่นด้วยกันอีกครั้ง ขอบคุณที่ทุกคนยังให้โอกาสในการทำงานตรงนี้ค่ะ”
ชม “เก้า-ยอร์ช” เติบโตมาหล่อและเก่ง มีวินัยตั้งใจทำงาน เป็นความภูมิใจของทุกคน หวังอะไรไว้ก็ขอให้ประสบความสำเร็จ
“หล่อทุกคนเลยเนอะลูกๆ หลานๆ เขาเป็นคนเก่งด้วยค่ะ แล้วก็มีวินัยตั้งใจในการทำงาน อย่างเก้าเองเวลาเล่นด้วยกันเขาก็เป็นคนที่เหมือนฟังตัวละครพูด ซึ่งการฟังคู่ที่เล่นด้วยมันค่อนข้างสำคัญมากๆ มันก็จะได้อะไรที่พิเศษๆ ออกมา ส่วนน้องยอร์ช (ยงศิลป์ วงศ์พนิตนนท์) เอง ตอนนี้ก็ได้ไปเดบิวต์ที่เกาหลีแล้ว นุ่นว่าก็เป็นความภาคภูมิใจของทุกคน ไม่ใช่แค่นุ่นคนเดียว ไม่ว่าอะไรที่เขาตั้งใจ ที่เขาหวังก็อยากให้ประสบความสำเร็จ”
รู้มาก่อนว่า “ยอร์ช” ชอบและอยากเดบิวต์” วันนี้มีโอกาสแล้วก็ไม่อยากให้พลาด พร้อมซัปพอร์ตชูป้ายไฟ
“จริงๆ ทราบมาระยะหนึ่งแล้วว่าเขาชอบและอยากไปเดบิวต์อะไรอย่างนี้ แต่ก็ไม่รู้จังหวะไหนอะไรยังไง แต่วันนี้เขามีโอกาสแล้วก็อยากให้เขาไม่พลาดโอกาสนี้ (เตรียมเป็นติ่งชูป้ายไฟเลยไหม?) ยังไงก็ ซัปพอร์ตอยู่แล้วค่ะ”
ยังไม่มีโอกาสได้คุยกับ “ยอร์ช” แต่เป็นกำลังใจให้เด็กไทยทุกคน ชมลูกหล่อทุกคน เพราะมีแม่ดี
“ไม่ได้คุยเลยค่ะ แต่ก็จะมีพี่ๆ ที่เป็นฝั่งผู้จัดการคุยผ่านๆ มาบ้าง เราก็เป็นกำลังใจให้เด็กไทยทุกคนเลยค่ะ (แต่น้องยอร์ชหล่อมากเนอะ?) หล่อ…ลูกหล่อทุกคน มีแม่ดีไง ไม่หรอกค่ะ อันนั้นก็เป็นในละครเนอะ แต่ว่ามันก็เหมือนเป็นซิมโบลิกเพราะว่าเราเล่นละครทองเนื้อเก้าด้วยกัน แล้วเรื่องนั้นก็ประสบความสำเร็จค่ะ”
