“บีม กวี” บอกเตรียมไว้หนวดรอลูกสาวฝาแฝด วางแพลนเลี้ยงลูก 4 คน แบบพ่อดูแฝดพี่ แม่ดูแฝดน้อง ชมพี่ธีร์-น้องพีร์เก่งมาก เวลาพี่ๆ ให้ของไหว้สวย ทำใจลูกเข้าสู่วัยซุกซนและต่อต้าน อยากให้ทำอะไรต้องพูดตรงข้ามหมด ออกงานแต่ละทีต้องวางแผนสองชั้น เริ่มสอนภาษาอังกฤษให้ เพราะใกล้เข้าโรงเรียนแล้ว
ออกงานพร้อมหน้าพร้อมตาเป็นแพ็กเกจครอบครัวอีกแล้ว สำหรับพ่อพ่อ “บีม กวี ตันจรารักษ์” ที่วันนี้ (16 ส.ค.) ได้ควงคุณแม่คนสวย “ออย อฏิพรณ์ จิตต์ธรรมวงศ์” พร้อมกับสองแฝด “น้องธีร์-น้องพีร์” มาร่วมงานแถลงข่าว สสส. เปิดตัวเอ็ดดูเทนเม้นท์แอปพลิเคชัน Me Books “ปลุกหนังสือให้มีชีวิต” ณ อุทยานการเรียนรู้ ทีเค พาร์ค ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งงานนี้พ่อบีมและออย ก็ได้ออกมาเผยถึงการวางแผนเลี้ยงลูกทั้ง 4 คนให้ได้ฟังกัน พร้อมอัปเดตพัฒนาของแฝดพี่ทั้งสองว่าตอนนี้ซนมากตามวัย
บีม : “สองแฝดซุกซนมากตอนนี้ ต่อต้านด้วยบ้างที แบบช่วยดึงตรงนี้หน่อยนะลูก เขาจะไม่มา”
ออย : “แต่ถ้าพูดว่า อย่ามานะ เขาจะมา ต้องพูดตรงข้าม”
บีม : “ผมคิดว่าเป็นวัยของเขาด้วยครับ วันนี้มาออกงาน ก็บอกเขาว่าเดี๋ยวพ่อพ่อกับหม่ามี๊จะมาทำงานกันนะ อยากมาด้วยไหม ซึ่งเวลาถามไปแบบนี้ เขาก็จะบอกว่า มาด้วยๆ”
ออย : “ถามว่าเขาเข้าใจไหม ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เวลากลับบ้านไป เวลาเขาได้ของเล่นได้ขนมจากพี่เอ็ม (ผู้จัดการ) เขาก็จะบอกว่าเนี่ย ของเล่นเขาได้มาเพราะว่าไปทำงานมา”
บีม : “เขาพูดบ่อยว่าเขาจะไปทำงาน คือจริงๆ ผมคิดว่าพอมาอยู่ข้างหน้าเนี่ย เขาก็รู้สึกสนุกนะ แต่เขาก็รู้สึกว่าฉันไม่อยากจะทำตามตามที่คนบอกหรอก ฉันอยากจะเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งก็ต้องอธิบายให้เข้าใจเวลามาเจอคนอื่น ว่ามันเป็นช่วงวัยของเขา ถ้าเด็กเดินลงเวทีไป ก็ดูพ่อแม่ไปก่อน (หัวเราะ) ต้องขอโทษด้วย ผมก็ไม่สามารถบังคับได้ครับ อย่างวันก่อนไปร้องเพลงที่สระบุรี ตามคิวผมต้องขึ้นไปร้องคนเดียว แต่เขาก็ขึ้นมาเต้นด้วย คือไม่สามารถคอนโทรลอะไรได้อยู่แล้ว”
ออย : “แล้วแต่อารมณ์ คือจริงๆ เราพยายามจะเตรียมพร้อมเขาในระดับหนึ่งอยู่แล้ว อย่างเช่นให้เขานอนมาให้พอ ทานให้อิ่มก่อน มาถึงก็จะได้ไม่มีปัจจัยอื่นที่จะเข้ามาแทรกให้เขาอารมณ์ไม่ดี อย่างวันนี้ก็คือผิดแผนมาก เพราะว่าด้วยความที่งานมันไม่ได้จัดเย็นมาก แล้วช่วงที่เขานอน มันไม่ใช่เวลานอนเขาไง เขาไม่ยอมนอนเพิ่งมานอนตอนอยู่บนรถ แล้วก็นอนไม่ถึงชั่วโมงก็ตื่นขึ้นมา เลยเหมือนจะแฮงค์ๆ นิดหนึ่ง (หัวเราะ)”
ปัดอีเวนต์ครอบครัวแน่น เดือนหน้าจะลดแล้ว เหลือ “บีม” รับงานคนเดียว
บีม : “ก็ไม่ได้เยอะอะไรมาก จริงๆ เดือนนี้ก็มี 2 งานนี้แหละครับ ไม่ได้เยอะอะไรขนาดนั้น”
ออย : “ถามว่าจะงดรับงานตอนไหน เพราะใกล้คลอดแล้ว คือจริงๆ เดือนกันยายนค่ะ พี่เอ็มก็จะไม่ค่อยรับอะไรให้ออยแล้ว แต่ว่าถ้าสมมติเป็นบีมคนเดียว ก็ยังทำงานปกติค่ะ”
บีม : “แต่ถึงเวลาจริงๆ อาจจะมีไปก็ได้นะ แบบผมอยู่บนเวทีคนเดียว แล้วเขาอยู่ข้างๆ คอยซัปพอร์ต เพราะนี่ก็เบื่อเหมือนกันอยู่บ้าน เขาก็เหมือนได้ออกมาเที่ยว แล้วเวลาเราเดินทาง เราก็จะพยายามหาวิธีที่ไปแบบสบายสุด อย่างวันก่อนไปต่างจังหวัด เราก็เอารถคันใหญ่ไป แบบมีคนช่วยขับรถให้ มีที่กว้างๆ”
การพาลูกออกแต่ละงาน เหมือนต้องวางแผนสองชั้น เพราะคาดการณ์อะไรไม่ได้เลย
ออย : “มันเหมือนต้องวางแผนสองชั้น คือเรื่องของเวลาที่แต่ละงานเขาก็จะจัดไม่ตรงกัน เราก็ยังคาดการณ์ไม่ได้ด้วย ว่าหน้างานมันจะมีคนเยอะแค่ไหน คือถ้าเยอะมากๆ เด็กก็จะไม่ค่อยโฟกัสเท่าไหร่ ยิ่งถ้ามีพี่ๆ ที่เขาเอ็นดูลูกมากๆ เขาก็จะมีสิ่งของต่างๆ บรรณาการมา ลูกก็จะมองแต่ขนม ออยก็เลยคุยกับบีมว่า หรือเราจะประกาศว่าหยุดรับของชำร่วยนะจ๊ะอะไรแบบนี้ (หัวเราะ)”
บีม : “เพิ่งไปมางานหนึ่ง ก็มีเยอะอยู่เหมือนกัน”
ออย : “คือจริงๆ มีทุกงานค่ะ แต่เยอะน้อยก็แล้วแต่จำนวนคน เอาจริงๆ งานแรกที่เราไปก็เซอร์ไพรส์เหมือนกัน ตอนนั้นไปสวนสัตว์ เราก็ตกใจว่าคนเยอะจริงๆ ไม่คิดว่าคนจะอยากเจอน้องขนาดนี้ค่ะ ถามว่าโชคดีไหมที่ลูกไม่ตื่นคน จริงๆ พี่พีร์เขาก็ตื่นคนนะ เพียงแต่ว่าเขาเก็บอาการ จะสังเกตได้ว่าพอเขาอยู่สักพักหนึ่งแล้วเขาเครียดมากๆ เขาจะเริ่มให้ออยอุ้มแล้ว ทุกงานเลย ตอนจบปุ๊บแม่ต้องอุ้ม แล้วจริงๆ ออยอุ้มเขาไม่ได้แล้ว ทีนี้ด้วยความที่โอเคมันจะจบแล้ว เราก็อยากจะให้ทุกอย่างมันสมูท เราก็ต้องอุ้มเขาเพื่อให้ทุกอย่างมันเรียบร้อย แล้วการอุ้มหรือยกของหนักๆ มันจะทำให้เราเกร็งหน้าท้อง อาจจะทำให้ปากมดลูกสั้น คลอดก่อนกำหนด คุณหมอก็จะไม่อยากให้อุ้มหรือยกของหนัก”
บีม : “แต่ไปตรวจครั้งล่าสุดก็โอเคนะครับ เขาจะวัดปากมดลูก ก็อยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างดีมาก”
ต้องจัดสรรของเล่นอย่างดี เพราะมีแฟนๆ ให้มาเยอะมาก
ออย : “อู้หู…สมมติว่ามีมา 5 อย่าง แล้วเขาชอบ 1 อย่างอยู่ อีก 4 อย่างเราต้องรีบเก็บเข้าสต๊อกก่อน ตอนนี้ถ้าเห็นในไลฟ์ คือห้องลูกเหมือนห้องเก็บของ คือของเล่นทุกอณู เราก็กลัวว่าเด็กจะเหมือนถูกสปอยล์ เลยพยายามบาลานซ์ แต่เราก็เข้าใจคนที่เอามาให้นะ เขานานๆ เจอที เขาก็อยากจะมีอะไรมาให้”
บีม : “ทุกครั้งที่รับมา เขาจะจำได้หมด ว่าเมื่อวานนี้มีคนให้อันนี้ๆ อันนี้หายไปไหน แต่บางทีเราก็จะเอาไปเก็บไว้บ้าง บางมันก็เยอะเกินไป แล้วก็อยากให้เขาโฟกัสเป็นอย่างๆ ไปด้วย เพื่อพัฒนาการเขา”
ออย : “หรือบางทีของเล่นมันโตเกินกว่าวัยของเขา เราก็จะไปเก็บไว้ให้ก่อน พอถึงวัยที่เขาเล่นได้แล้วค่อยเอาออกมาเล่น ไม่งั้นมันจะเสียก่อนค่ะ คือแค่มาเจอกันก็ดีใจแล้ว ไม่ต้องมีของมาให้ก็ได้”
ชมลูกเก่งมาก เวลารับของจะไหว้สวยตลอด
บีม : “ก็พยายามบอกเขาว่า เวลามีคนให้อะไรต้องขอบคุณนะลูก ก็ดีที่เขาเชื่อ แต่จริงๆ ใจคืออยากได้มาก ให้ทำอะไรก็ได้ ไหว้สวยมาก พนมมือสวย เราก็ดีมากลูก เก่งมาก”
เตรียมพร้อมรับมือการเลี้ยงลูก ให้พ่อดูแลพี่ๆ ส่วนแม่ดูแลน้องๆ คิดว่าเอาอยู่แน่นอน
ออย : “เขารู้ตัวอยู่แล้ว เขาจะต้องรับบทดูแลคนโตไป เพราะว่าอีก 2 คนคลอดมา ออยคงจะต้องเป็นตัวหลักที่จะต้องดู คือเราก็รู้แหละว่ามันคงจะวุ่นวาย เพราะว่าท้องแรก จากที่คิดว่าวุ่นวายแล้ว มันคือวุ่นวายไปกว่านี้อีก ออยก็คิดว่าครั้งนี้คงจะวุ่นวายกว่าที่เราคิดเอาไว้แต่ก็คิดว่ามันจะผ่านไป (หัวเราะ)”
บีม : “คิดว่าน่าจะเอาอยู่ เพราะผมมักจะถามพ่อกับแม่ว่าเลี้ยงลูก 4 คนมายังไง ถามบ้านออยด้วยเหมือนกัน เขาก็บอกว่าก็โอเค เดี๋ยวมันก็จะมีหนทางเอง”
เชื่อลูกๆ ปรับตัวเก่ง เพราะเริ่มทำความเข้าใจไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ว่าแม่ต้องดูน้อง หนูต้องมานอนกับพ่อ
บีม : “ผมว่าลูกผมปรับตัวค่อนข้างเก่งมาก เขาจะรู้นะว่ามันมีเหตุปัจจัยยังไง แล้วเราก็พยายามจะบอกเขาตลอดว่าอีกหน่อยจะมีน้องนะ น้องอยู่ตรงไหน แล้วหนูต้องปฏิบัติกับน้องอย่างไร คือบอกไปว่าหม่ามี๊อาจจะต้องดูแลน้องนะ หนูมานอนกับพ่อนะ เราทำความเข้าใจเขาตั้งแต่เนินๆ ถึงเวลาเขาจะได้ไม่มาปฏิเสธ”
ออย : “คิดว่าเข้าใจนะคะ อย่างบางวันที่ออยกับบีมต้องไปทำงานแล้วกลับบ้านดึก คือปกติออยจะเป็นคนอาบน้ำแล้วพาเขาเข้านอน แต่ทีนี้บางที นานๆ ทีนะคะจะเป็นป้านุชเป็นคนพาเขาอาบน้ำ แล้วพาเขาเข้านอน ซึ่งเราจะพูดคุยกับเขา ซึ่งเขาก็ไม่งอแง แต่ถ้าแม่อยู่แม่ต้องทำนะ (หัวเราะ)”
บีม : “เวลามีคนอื่นทำให้เขา อย่างอาบน้ำ เขาให้ความร่วมมือมากกว่าพ่อกับแม่อีก ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม พอเป็นพี่เลี้ยงทำไมมันดูง่ายจังเลยลูก”
ออย : “ทั้งๆ ที่ออยก็เคยถามพี่นุชว่า ออยยังดุไม่พออีกเหรอ คือทุกคนก็รู้ว่าออยก็ดุนะ คือเขาจะเรื่องเยอะกับเรา ลองของแม่รึเปล่า(หัวเราะ)”
บีม : “ถามว่าไหวไหม ตอนนี้เตรียมพร้อมอยู่ครับ อย่างน้อยก็สัก 3 เดือน”
ออย : “เขาเตรียมจะไว้หนวดด้วยนะ”
บีม : “ก็ถามเขาเหมือนกัน ว่าตอนที่พ่อผมมีน้องสาวเขาไว้หนวดแบบเป็นเดือนเลย หนวดแบบหลอมแหลม ผมก็เลยคิดว่าเดี๋ยวจะลองดูบ้าง เอาตั้งแต่ก่อนคลอดเลย สักวีคหนึ่งก่อนคลอด”
ออย : “คือวันที่ลูกคลอด คือพ่อจะเป็นเหมือนโจรสลัด”
บีม : “เดี๋ยวลองดูจังหวะอีกทีครับ”
ออย : “เราก็งง ออยก็ถามว่าเขาไว้หนวดเพื่ออะไร มันเป็นการแก้เคล็ดหรือเปล่า”
บีม : “นั่นดิ ผมเห็นรูปพ่อเขาไว้ เดี๋ยวไปถามพ่ออีกทีดีกว่าว่าไว้ทำไม แต่เขาก็เป็นเคล็ดเนอะ คนโบราณ”
เริ่มสอนลูกๆ พูดภาษาอังกฤษ เพื่อเตรียมตัวเข้าโรงเรียน ไม่อยากให้ไปหนักที่ครู
บีม : “ใช่ เราเริ่มเตรียมตัวให้ลูกเข้าโรงเรียน ไปดูว่าเขาจะสอบอะไรบ้าง ก็คือมีการแนะนำตัว”
ออย : “มีการลากเส้น ใช้กล้ามเนื้อเขียน แต่ยังไม่เป็นตัวหนังสือนะคะ ก็จะเป็นโยงเส้นโค้งค่ะ กลัวลูกสอบไม่ผ่าน กลัวลูกไม่มีที่เรียน (พอไหวไหม?) ตอนนี้คือยังไม่ได้ (หัวเราะ)”
บีม : “ไม่แน่นะที่รัก จะได้ให้พี่เลี้ยงสอน”
ออย : “อ๋อ เพราะมันจะง่ายขึ้น”
บีม : “ตอนนี้ได้ My name is...คือเหมือนวัยต่อต้าน เขารู้นะ แต่เขาจะพูดคำอื่น พี่ธีร์คือหนักเลย”
ออย : “อย่างถามอันนี้คืออะไร เมื่อก่อนก็ตอบ แต่วันนี้คือ ปุกิ คือถ้าลูกจะปุปุกิก็คือพูดจาไม่รู้เรื่องแล้วนะ คือจำอะไรที่มันผิดๆ ไป”
บีม : "เขาก็ให้ความร่วมมือบางครั้งครับ แต่ระยะหนึ่งเขาก็จะรู้แหละ ว่ามันเป็นหน้าที่ที่เขาต้องทำ ไม่ได้กดดัน เราแค่เราอยากให้เขาเตรียมตัวไว้ก่อน”
ออย : “คือไม่อยากให้ไปหนักที่ครูมาก ทางเราก็เกรงใจ แล้วเดี๋ยวเขาก็จะแบบเอ๊ะ…ฉันเห็นในคลิป ทำไมเธอดูฉลาด เอ๊ะ…ยังไง (หัวเราะ)”
