xs
xsm
sm
md
lg

ไวรัล tiktok คุณแม่ “หมวย อริสรา” ถูกยกให้เป็น “แม่ผู้ไม่มีขีดจำกัด” คลานเข่าขอใบสมัคร ให้ลูกสาวสอบเข้าโรงเรียนดัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กลายเป็นไวรัลใน tiktok ที่แม้รายการนี้จะออนแอร์ผ่านมาเป็น 10 ปีแล้วก็ตาม สำหรับการออกรายการแบบพร้อมหน้าพร้อมตาของครอบครัว “ดร.หมวย อริสรา กำธรเจริญ” หรือ “ดร.อริสรา วิภาตะวัต” ผู้ประกาศข่าวคนดังมากกว่าความสามารถ ที่ครั้งนึงเจ้าตัวได้พาคุณแม่ “จุฑารัตน์ กำธรเจริญ” มาออกรายการ “ครอบครัวเดียวกัน” ออนแอร์ทางไทยพีบีเอส ที่เจ้าตัวเป็นพิธีกร แต่ในวันนั้นรับหน้าที่เป็นแขกรับเชิญ พร้อมเซอร์ไพร์สกับแขกพิเศษอย่างพี่ชาย “นพพร กำธรเจริญ” ผู้กำกับละครซิตคอม ที่มาเปิดเผยเรื่องราวในครอบครัว

ซึ่งสิ่งที่กินใจจนกลายเป็นไวรัล เพราะแม้รายการจะออนแอร์มานานแล้ว แต่คำว่า “แม่” ที่ทำเพื่อลูกของตัวเองนั้น มันช่างยิ่งใหญ่ ในหลายๆ ประโยคกับเรื่องราวที่ “คุณแม่จุฑารัตน์” ถ่ายทอดออกมานั้น สมกับคำว่า “คุณแม่ผู้ไม่มีขีดจำกัด” เพราะการที่อยากให้ลูกตนเองมีอนาคต มีการศึกษาที่ดี แม่คนนี้ทำทุกอย่าง แม้กระทั่งคลานเข่าเพื่อจะขอใบสมัครให้ลูกตัวเอง จนทำให้ “ดร.หมวย” ประสบความสำเร็จไม่ว่าจะได้รับเกียตรินิยมหรือคำนำหน้าว่า ดร.

หมวย : คือแม่ทำไม่ต่างกัน คือพอพี่ชายได้เรียนโรงเรียนดีๆ พอมาถึงหมวย แม่ก็บอกว่าก็ต้องพยายามให้ได้เรียนโรงเรียนดีๆ ซึ่งตรงนี้หมวยทึ่งมากเลย (น้ำตาเริ่มคลอ) คือไม่คิดว่าผู้หญิงคนนึงจะพยายามให้ลูกเรียนดีๆ แม่เราไม่ได้มีความรู้อะไรเลย เพราะตอนที่แม่พาไปสมัคร หมวยยังไม่รู้เลยว่าแม่รู้จักโรงเรียนนี้ได้ไง เป็นเรื่องที่ทึ่งมาก บ้านเราก็อยู่ไกล บ้านเราไม่ได้ร่ำรวย และที่มากไปกว่านั้น เวลาที่แม่ไปเฝ้า แม่เขียนหนังสือไม่ได้

แม่ : แม่ก็ใช้วิธีคือผู้ปกครองคนไหน เขาดูน่าใจดีหน่อย หรือถ้าคนไหนยิ้มๆ เราก็ไปอ้อนเขาหน่อย แต่ทำครั้งเดียวนะ ให้เขาเขียนข้อความให้นะ และอย่างของหมวย คือเขาไม่ขายใบสมัครให้แม่ และแม่เห็นมาแมร์หลุยส์ พอเขาออกจากห้องน้ำ แม่ไม่มีความอายเขานะ แม่คุกเข่าตามเขาไปจากห้องน้ำไปถึงออฟฟิศ ก็คลานตามเขาไป ถามแม่ว่าแม่สนใจคนอื่น ไฮโซเขามองแม่ แม่ไม่สนใจ คนอื่นเขาก็เห็น แต่แม่ไม่อายนะ

 คุกเข่าตามไปถึงออฟฟิศ ซึ่งมันก็ไกลมาก พอมาแมร์หลุยส์เข้าออฟฟิศ แม่เห็นแม่พระ แม่จะไปร้องทุกข์ อยากให้แม่พระฟังทุกข์ของแม่บ้าง เราอยากให้ลูกสาวเรียนที่นี่ และมาแมร์หลุยส์เขาให้ใบสมัครสอบ แม่ดีใจมาก พอถึงเวลาสอบเสร็จแล้ว ทุกคนก็โทร.หาผู้ปกครองกันเองว่าได้จดหมายยืนยันว่าสอบติดไหม ซึ่งทุกคนได้ แต่ของหมวยไม่ได้ผลประกาศสอบ แม่ก็กินไม่ได้นอนไม่หลับ จะทำยังไง แม่ก็ไปกรมไปรษณีย์ก็ไปหาเลย ไปหาว่ามีจดหมายตกหล่น สรุปไม่มีจดหมาย จำได้ว่านั่งสามล้อ 20 บาทไปถามมาสเซอร์ว่าทำไมหมวยไม่ได้จดหมาย เขาก็ตอบว่าไม่รู้อย่างโน้นอย่างงี้ แม่ก็ไปร้องทุกข์กับแม่พระ และกลับมาหามาเซอร์อีกครั้ง เขาก็เปิดลิ้นชัก สรุปจดหมายอยู่ในลิ้นชักจริงๆ 

ถ้าเป็นหมวย ที่ต้องทำเหมือนแม่ คุกเข่า คลานไปเพื่อที่จะต้องการให้ลูกตัวเองเรียน คิดว่าคงไม่ทำ
หมวย : คิดว่าคงไม่ ตามความรู้สึกเราว่าถ้ามันจะต้องลำบากขนาดนั้น เรียนที่อื่นก็ได้ ทำไม่ได้เท่าแม่ที่ทำให้เรา เรื่องนี้เป็นเรื่องที่หมวยทึ่งมากที่สุด จนวันที่เราจบ ม.6 จบปริญญาตรี จบโท จบเอก นี่คือพื้นฐานสำคัญที่แม่วางให้ ไม่งั้นเราจะไม่ได้มีโอกาสที่จะได้มาขนาดนี้ 

นอกจากนี้คุณแม่ยังมีความสามารถมากกว่าคำว่าแม่ซะอีก
นิก : คุณแม่ออกแบบบ้าน ทาสีบ้าน ทาสีรถ คุณแม่เป็นช่าง ฉาบปูน ทำทุกอย่าง

แม่ : คือถ้าเรียกเขามาทำ ค่าจ้างมันแพง เราทำเองดีกว่า คือบ้านเราเป็นตึกแถว เราก็จะเย็บทำผ้าคลุมตู้เย็น เราเป็นช่างเสื้อมาก่อน อย่างปูนเราก็ซื้ออุปกรณ์มายาเอง เราไปคลองถม เราก็ซื้อน็อตเอาไว้สำหรับมาเจาะโน่นนี่นั่น อุปกรณ์ก็จะมีค้อนคู่กาย หรืออุปกรณ์สกัด คีมล็อก

หมวย : เรารู้ว่าแม่ทำได้ทุกอย่าง แต่เราก็อยากให้เรียกช่างมาซ่อม 

แม่เคยพูดว่าคนอื่นรัก ไม่เท่าแม่เกลียด
นิก : เราจะได้ยินตอนที่เราเฟี้ยว เราจะรู้สึกว่าทำไมแม่ไม่เข้าใจเรา และเป็นครั้งแรกๆ ที่แม่พูดประโยคนี้ เรายังเด็ก เราก็จะต่อต้าน แต่สิ่งที่แม่พูด เต็มไปด้วยความหวังดี แต่ความรักของคนอื่นมันอาจจะเทียบไม่ได้กับความรักที่มีแม่มีให้เรา

หมวย : เราก็เคยได้ยินประโยคนี้เหมือนกัน จะเป็นช่วงที่ไม่เชื่อฟังแม่ เห็นคนอื่นดีกว่า แม่จะคอยเตือนว่าความรักของคนอื่น ยังไม่เท่ากับคำเตือนของแม่ หรือถ้าสมัยนั้น เราก็คิดว่าทำไมแม่ขี้บ่น ซึ่งในวันนี้คำบ่นของแม่เต็มไปด้วยความรัก ซึ่งมันมากกว่าคำพูดหวานๆ ที่เราได้รับมาจากนอกบ้าน

แม่ : (ยิ้ม) คือแม่รัก แต่ไม่รู้จะพูดยังไง เขาไม่ค่อยเชื่อแม่ แม่เสียใจที่เขาไม่เชื่อแม่ แม่เกลียดยังไง ก็ดีกว่าคนอื่นรักนะลูก แม่เต็มไปด้วยความหวัง และความห่วงใย 

พูดความในใจในหลายๆ เรื่องที่ไม่ได้พูดกัน
นิก : อ๋อ ในเรื่องของลูกสะใภ้ เพราะแม่เราเป็นคนสะอาดมาก เพื่อนบ้านจะรู้กันดี และคนก็จะบอกว่าลูกสะใภ้จะเข้ากับแม่ได้เหรอ แต่ทำไปทำมา ภรรยาผมคือสะอาดสูสีกับแม่ผมเลย ความเป็นระเบียบร้อยเหมือนกัน อย่างหมวยก็แต่งออกไป น้องชายก็รับราชการ ปกติเราก็อยู่กับแม่ ทะเลาะกันไปมา สรุปสะใภ้กับแม่เข้ากันดีมา จนเราเรานั่งเหวออยู่ตรงกลาง ทีมเดียวกัน

แม่ : อย่างของหมวยมีเรื่องที่ทำให้แม่ประทับใจ เพราะเขาโทร.มาถามว่ากินข้าวยัง แม่อยู่บ้านเหรอ แม่จะนอนดูโทรทัศน์ และเขาก็พูดต่อว่า หมวยห่วงแม่นะ (ร้องไห้) แม่ปิดบ้านดีๆ  นะ แม่สบายใจดีเหรอ พอตอนเช้าเจอลูกชายก็เล่าให้ฟังว่า เมื่อคืนหมวยโทร.มาหาแม่ บอกว่าห่วงแม่ อยู่ด้วยกันมากว่า 30 ปี หมวยไม่เคยพูด (น้ำตาคลอ) วันนี้หมวยบอกว่าห่วงแม่ แม่ฟังและแม่ซึ้งใจมาก

หมวย : คืออาทิตย์ที่แล้วแปลกมากเลยนะ ปกติอาทิตย์นึงจะโทร.ไป หรือบางทีงานเยอะ นานๆ ทีโทร.หา แต่อาทิตย์ที่แล้ว หมวยโทร.ทุกวันเลย

แม่ : แม่ก็แปลกใจ แม่ก็เล่าให้ลูกฟัง แม่ดีใจ ทุกวันนี้ก็ห่วงหมวย สงสารหมวย เพราะทำงานหนักทุกวัน แม่แค่อยากฟังเสียงหมวย เพราะเขาทำงานหนัก ปกติอยู่บ้านแม่จะทำอาหารที่เขาชอบให้ อย่างเวลาไปทำงานเช้า แม่ก็จะปอกของเอาไว้ให้เขาไปกินในรถ แม่สงสารหมวย เขาทำงานเยอะมาก

หมวย : พอแต่งงานมาแล้ว ไม่ใครดูแลอาหารการกินของเราได้ดีกว่าแม่เราแล้ว แม่จะรู้ว่าเราอยากกินอะไร ชอบกินอะไร คือทุกครั้งที่ทำอาหารมาให้ อย่างวันนั้นที่เราพูด คือไม่รู้สึกอะไร แต่เราแค่เป็นห่วง แม่ไม่มีโทรศัพท์มือถือ เราแค่อยากโทร.กลับบ้าน และวันไหนแม่ไม่รับสาย เราจะเป็นห่วงมาก ว่าแม่จะไปไหนหรือเปล่า (ร้องไห้) ถ้าวันนึงเราโทร.กลับไปที่บ้าน แล้วไม่คนรับสาย ชีวิตเราจะเป็นไง ก็เลยบอกไป อยากจะบอกว่ารักแม่มากๆ นะ ทุกวันนี้แม่ให้ทุกอย่าง โดยเฉพาะเรื่องการเรียน ที่เราได้ดี เพราะคำอธิฐานของพ่อและแม่ แม่ขอพรให้หมวยทุกวันเลย

แม่ : แม่ใส่บาตรและขอพรให้ลูกๆ ทุกคน

หมวย : หมวยรักแม่นะ หมวยอยากให้แม่อยู่กับหมวยไปนานๆ

แม่ : หมวยบอกว่ามีอะไรให้บอกหมวยนะ แต่แม่พูดตรงๆ ถ้าแม่ไม่มี แม่ก็จะไม่ขอลูก อย่าว่าแต่ขอลูกเลย ถ้าไม่มีกิน แม่ก็ไม่ขอใคร เรื่องขอจะหลุดจากปากแม่ มันน้อยมาก















กำลังโหลดความคิดเห็น