“แอนนา เสือ” เผยตื่นเต้นได้มาเจอแม่ครั้งแรกหลังจากประกวดเสร็จ และได้กลับมาดูห้องเช่าห้องเดิมที่เคยอยู่ บอกความทรงจำทุกอย่างกลับมาหมด ตนไม่เคยคิดว่าตัวเองยากลำบาก แต่ทุกอย่างทำให้ตนมีวันนี้ พร้อมขอพรคุณแม่ให้ได้มงฯ 3 กลับมาประเทศไทย ด้าน “คุณแม่แดง” เผยดีใจที่ลูกประสบความสำเร็จ แต่ก็ยังอยากจะทำหน้าที่กวาดขยะเหมือนเดิม อยากให้บ้านเมืองสะอาด
วันแม่ปีนี้ถือว่าพิเศษสุดๆ สำหรับสาวสวย “แอนนา เสืองามเอี่ยม” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2565 เอามากๆ เพราะเป็นการได้กลับมาเจอคุณแม่ครั้งแรกหลังจากที่ประกวดเสร็จไปร่วมเดือน แถมได้กลับมาเยือนห้องเช่าเดิมที่เคยอยู่มาตั้งแต่เด็ก ที่วัดช่างเหล็ก ซึ่งคุณแม่ “แดง สมพร ศรีบุญเรือง” ก็เผยว่าดีใจที่ลูกสาวประสบความสำเร็จขนาดนี้ เพราะตนก็ตั้งใจทำงานให้ลูกได้เรียนสูงๆ พอเห็นวันนี้ก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง
แอนนา : “ได้เจอครั้งแรกหลังการประกวดเลยค่ะ เพราะตอนที่แอนนาประกวดอยู่คุณแม่หลับ (หัวเราะ) เพราะคุณแม่ต้องทำงานเช้าด้วย”
แม่แดง : “ดีใจค่ะ แล้วแต่ดวงของเขาค่ะ”
แอนนา : “คุณแม่สนับสนุนตั้งแต่เวทีแรกเลยเนอะ แม่ก็สนับสนุนมาตลอดค่ะ หนูอยากจะตอบแทนแม่บ้างนะคะ (หัวเราะ) เพราะแม่หนูเขินครั้งแรกที่ได้สายสะพายคือเวทีไหนเหรอคะ นางนพมาศใช่ไหมแม่”
แม่แดง : “นางนพมาศ โรงเรียนมหรรณพาราม”
แอนนา : “นางนพมาศตอนม.ปลายค่ะ ปี 2557 เป็นสายสะพายแรกที่ได้”
แม่แดง : “แม่ก็ภูมิใจที่เขาเป็นเด็กดีค่ะ ไม่ดื้อ ก็เคยแอบคิดเหมือนกันว่าเขาอาจจะได้เป็นนางงาม ตั้งแต่เด็กๆ น้องจะเป็นคนตั้งใจเรียนค่ะ เขาขยันเรียน กลับมาก็ขลุกอยู่แต่ห้องกับแม่ชี อ่านหนังสือ แม่ก็อยากให้เขาได้เรียนได้สูงๆ ไม่อยากให้เขาลำบาก อยากให้เขามีความรู้การศึกษาเยอะๆ สูงๆ จะได้ผลักดันให้ชีวิตเขาดีขึ้นค่ะ ตอนนั้นแม่ก็เหนื่อย แต่พอได้เห็นหน้าลูกก็หายเหนื่อยค่ะ อยากให้เขาประสบความสำเร็จได้ไปถึงจุดมุ่งหมายค่ะ วันที่รู้ว่าเขาเรียนได้เกียรตินิยมอันดับ1 ก็ดีใจค่ะ วันนี้เห็นลูกประสบความสำเร็จก็หายเหนื่อยค่ะ ลืมความเหนื่อยไปเลยค่ะ วันที่เขาประกวดก็ได้ดูอยู่ค่ะ ดูถึง 4 ทุ่มกว่าแล้วก็หลับ ตอนนั้นมงฯ ลงหัวแล้วค่ะ (หัวเราะ)”
แอนนา : “แต่ตอนที่หนูโทร.ไปคือหลับแล้ว มาคุยกันอีกทีตอนเช้า”
แม่แดง : “ตอนนี้คนรู้จักมากขึ้น เวลาเดินไปไหนคนก็ยิ้ม เรียกแม่นางงามๆ มีแต่คนทักว่าเป็นแม่นางงามค่ะ ก็ไม่ได้ทำตัวลำบากนะคะ เฉยๆ ค่ะ (หัวเราะ) แต่ก็เขินค่ะ”
แอนนา : “นี่ก็เขินค่ะ”
แม่แดง : “ก่อนจะบินไปประกวดเขาก็มาขอพรจากแม่ ขอให้เขาได้มงฯ 3 กลับคืนมาให้ประเทศไทยค่ะ แม่ก็อวยพรให้เขาได้ค่ะ”
ตื้นตันได้กลับมาเจอบรรยากาศเก่าๆ
แอนนา : “ร้องไห้เลยค่ะ ตอนแรกที่แอนนามาถึงทุกอย่างยังเหมือนเดิมเลย แค่ทุกอย่างรู้สึกเล็กลงเฉยๆ เพราะเราก็โตขึ้นด้วย พอเรากลับไปที่ห้องหลังนั้นทุกอย่างมันกลับมาหมดเลย แอนนาจำได้ว่าวันที่แอนนาอยู่ตรงนั้นแอนนาใช้ชีวิตยังไงบ้าง จำได้ว่าแอนนามองตรงข้ามไปเจอทวดยังไงบ้าง (น้ำตาซึม) ก็อยู่ตั้งแต่ป.3 จนจบมหาวิทยาลัยเลยค่ะ แต่แอนนามีความสุขนะคะ ที่จะร้องไห้เพราะตื้นตันนะคะ (หัวเราะ) เพราะตอนที่แอนนาอยู่ที่นั่นไม่เคยรู้สึกลำบากเลย ทุกความรักที่คุณแม่ คุณพ่อ คุณทวดมอบให้มันเติมเต็มทุกอย่างได้หมดเลย
มันน่าจะเป็นความเคยชินด้วยค่ะ แอนนาไม่เคยคิดว่าชีวิตที่โตมาลำบากเลย เพราะเราอาจจะชินกับสิ่งที่เรามีอยู่แล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่แอนนาเรียนรู้ได้ตั้งแต่โตมา อาจจะมีบางครั้งที่ตอนเด็กรู้สึกว่าทำไมเราไม่ได้อย่างเขา แต่พอโตมามองย้อนกลับไปคือเราไม่สามารถเลือกได้เลยว่าเราอยากมีห้องแบบไหน มีอะไรที่มันครบกว่านี้ แต่สิ่งที่เราทำได้จริงๆ คือการโฟกัสข้างหน้ามากกว่า สิ่งนี้อาจจะเป็นเครื่องยืนยันให้ทุกคนได้เห็นว่าแม้ว่าแอนนาจะเติบโตมาจากที่ไหน แม้ว่าทุกคนตอนนี้กำลังจะล้มหรือว่าตัวเองด้อยกว่าคนอื่นยังไง ก็อยากให้ทุกคนเชื่อและรักในตัวเอง รักในคุณค่าของตัวเองค่ะ แอนนาว่าชีวิตเรามีครั้งเดียวอยากให้ทุกคนทุ่มเทกับสิ่งที่ตัวเองฝันไว้ มันก็อาจจะประสบความสำเร็จได้ บางคนอาจจะประสบความสำเร็จมากกว่าแอนนาด้วยซ้ำค่ะ
บอกไม่บังคับให้แม่เลิกทำอาชีพกวาดขยะ ถ้าแม่มีความสุขก็ไม่ขัดใจ
แอนนา : “มาถึงวันนี้แอนนาก็อยากให้คุณแม่มีความสุข แต่ในเรื่องงานแอนนาจะให้คุณแม่เลือกดีกว่าว่างานไหนที่คุณแม่มีความสุขน้อยที่สุด แล้วแอนนาจะซัปพอร์ตคุณแม่ตรงนั้นเอง จะทำในหน้าที่ที่ลูกคนนึงจะสามารถทำให้ได้ค่ะ และจะเคารพการตัดสินใจของคุณแม่ทุกอย่างเลย จะไม่บังคับหรือไม่ให้คุณแม่ไขว้เขว ก็ให้คุณแม่ตัดสินใจเองค่ะ แต่เราก็จะซัปพอร์ตคุณแม่เหมือนที่คุณแม่ซัปพอร์ตหนู”
แม่แดง : “ก็ยังอยากจะทำงานกวาดถนนเพื่อจะทำให้บ้านเมืองสะอาด อยากจะทำหน้าที่อยู่ค่ะ ตลอดเวลาที่แม่ทำมาก็อยากทำให้บ้านเมืองสะอาดค่ะ”
ขอพรคุณแม่ให้ได้มงฯ ที่ 3 กลับมา
แม่แดง : “อยากเห็นน้องในแบบไหนบ้างเหรอคะ แม่ก็อยากให้น้องไปแสดงหนัง (หัวเราะ) แต่ปีนี้เป็นวันแม่ที่พิเศษมากค่ะ”
แอนนา : “ตอนที่กราบคุณแม่ก็บอกคุณแม่ว่าอวยพรให้หนูด้วยนะ เพราะความฝันนี้เป็นความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับหนูเลยค่ะ คุณแม่ก็บอกว่าขอให้ประสบความสำเร็จ ขอให้ได้ที่ 1 กลับมา ขอให้ได้มงฯ 3 ค่ะ ถือเป็นคำอวยพรที่ยิ่งใหญ่มากๆ เลยค่ะ และทำให้แอนนามีกำลังใจที่จะทำทุกๆ อย่างเพื่อที่จะไปคว้ามง 3 มาให้ทุกคนค่ะ ตอนนี้ก็เตรียมตัวเยอะอยู่ค่ะ มีการคุยกับแม่ปุ้ยกับทีมแล้วค่ะ เราจะมีการวางแพลนแนวทางแน่นมากๆ เลย อยากทำทุกอย่างให้เต็มที่ค่ะ ขอกำลังใจจากพี่ๆ และทุกๆ คนด้วยนะคะ จริงๆ จะได้ไปนิวยอร์กไม่ตื่นเต้นนะคะ แต่ตื่นเต้นที่จะได้ไปเดินทางม้าลายที่นิวยอร์กมากกว่า (หัวเราะ) เดี๋ยวเอารูปมาฝากคุณแม่ด้วย
ก็ยังได้พักผ่อนปกติค่ะ มันเหมือนเป็นหน้าที่มากกว่าที่เราต้องทำ เพราะเราได้รับตำแหน่งนี้มาแล้ว และแอนนายินดีที่จะทำ มันเหมือนเป็นเกียรติมากๆ ที่แอนนาได้รับตำแหน่งนี้ ยังไงก็จะทำทุกหน้าที่ให้เต็มที่ที่สุดค่ะ”
ยืนยันคุณพ่อไม่ได้โกรธที่มีแฟนคลับไปขอถ่ายรูปตอนทำงาน
แอนนา : “เรื่องที่มีคนมาขอถ่ายรูปกับคุณพ่อ แอนนาก็คุยกับคุณพ่อเบื้องต้นแล้วค่ะว่าคุณพ่อโอเคไหมหลังจากที่เราได้เห็นภาพ ซึ่งคุณพ่อบอกว่าไม่ได้ตะขิดตะขวงใจอะไร แต่ว่าตอนนั้นเขาทำงานอยู่ ก็เลยอาจจะกลัวว่าคนที่มาขอถ่ายรูปด้วยจะเปื้อนมากกว่า ก็เลยพยายามเดินหนี ที่คุณพ่อบอกว่ากลัวท่านเหม็นน่ะค่ะ แต่สุดท้ายแล้วแอนนาเข้าใจทั้งสองฝ่ายนะคะ เพราะแฟนคลับแอนนาทุกคนก็อยากให้กำลังใจคุณพ่อเหมือนกัน แต่ก็อยากให้ทุกคนดูเวลาที่เหมาะสมกว่านี้หน่อยค่ะ ซึ่งแฟนคลับทุกคนแอนนาเชื่อว่าน่ารักอยู่แล้วค่ะ และคุณพ่อไม่ได้โกรธหรือว่าไม่โอเคนะคะ และแอนนาก็ไม่ได้โกรธทุกคนด้วยค่ะ”
