“ตุ้ย ธีรภัทร” ภูมิใจได้ร่วมงานกับฮอลลีวูด ในภาพยนต์ 13 Life เรื่องราว 13 คนติดถ้ำที่ถ้ำหลวง เผยช่วงนี้งานกลับมาแน่นเหมือนเดิม ทั้งหนังและละครออกอากาศพร้อมๆ กัน
ห่างหายจากงานหน้าจอไปพักใหญ่ทีเดียว สำหรับหนุ่มมาดเข้ม “ตุ้ย ธีรภัทร สัจจกุล” ที่ล่าสุดกำลังจะมีผลงานออกมาให้เห็นกันรัวๆ ทีเดียว ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าเป็นงานที่ถ่ายทำกันไว้ตั้งแต่ก่อนช่วงโควิด รวมถึงละครที่ถ่ายทิ้งไว้กว่า 3 ปี และทุกงานก็จะมาออกมาพร้อมกันในช่วงนี้
“ถ้าหนังเรื่อง The Lake บึงกาฬ ก็ถ่ายกันไว้ 5 ปีได้แล้วครับ ถ่ายทำกันเป็นช่วงๆ นะครับ ผมว่าหลักๆ ที่เว้นเพราะว่าโควิดด้วย แต่ใช้คำว่าดูเหมือนจะนาน แต่ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่เราได้เติมให้มันสมบูรณ์แบบมากขึ้นครับ ตอนนี้เริ่มกลับมาแล้วครับ ผมว่าจังหวะที่พอทุกคนเริ่มปรับตัวกับการดำรงชีวิตในรูปแบบใหม่ การทำงาน การเตรียมตัวหรือการงานแผนอะไรมันก็จะคุ้นเคยมากขึ้น"
"ตอนนี้งานก็ค่อนข้างแน่นนะครับ น่าจะช่วงเดือนที่ผ่านมานี่แหละที่ค่อนข้างจะมีอะไรต้องทำเยอะพอสมควร ตอนนี้ยังไม่มีถ่ายเรื่องอะไรเพิ่ม แต่งานแสดงที่จะออกมาก็มี The Lake บึงกาฬ แล้วก็จะมี 13 Life อีกเรื่องก็จะเป็นละครทาง PPTV เรื่อง กั๊กนักรักซะเลย ทั้งหมดถ่ายช่วงก่อนโควิด มีเรื่อง 13 Life ที่ถ่ายระหว่างโควิดเมื่อปีที่แล้ว ไปถ่ายที่ออสเตรเลีย”
ภูมิใจและตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับฮอลลีวูด และเป็นหนังที่เกิดในประเทศไทยด้วย
“จริงๆ แล้วก็ไม่ได้หายไปไหนนะ ถ้าไม่นับโควิด งานแสดงก็ยังมีต่อเนื่อง แต่จังหวะที่งานจะออกจริงๆ มันก็จะขยับไปขยับยังไงไม่รู้ออกมาเดือนเดียวกันหมด (หัวเราะ) ก็จะเป็นภาพยนตร์ 2 เรื่องในเดือนนี้ และละครอีก 1 เรื่องครับ จริงๆ เรื่อง 13 Life ก็เป็นอีกเรื่องที่ภูมิใจนะ จริงๆ ก็ภูมิใจคนละแบบ ตอนที่ได้รับการติดต่อก็ตื่นเต้นเลยครับ คือเราไม่คิดหรือไม่กล้าคาดหวัง ตื่นเต้นตั้งแต่แคสติ้ง เพราะมันเป็นแคสติ้งกับผู้กำกับเลย ก็จะสั่นๆ หน่อย"
"ภูมิใจครับ การทำงานมันก็มาจากการตั้งใจที่อยากทำทุกงานให้ภูมิใจเสมอ แต่โปรเจ็คนี้มันเลยความคาดหวังความคิดของเราไปเยอะมาก และโอกาสที่ได้ก็ถือเป็นความโชคดีและเป็นเกียรติมากๆ เพราะเรื่องราวด้วย ทีมงานผู้กำกับด้วย เพราะเป็นเรื่องราวที่เกิดในประเทศเราเองเลย เป็นเหตุการณ์ที่อยู่ในใจของคนไทยทุกคน และเป็นเรื่องราวที่ประทับใจคนทั่วโลกนะครับ สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วโลก ผมว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นอีกเรื่องที่นอกจากผมจะเป็นส่วนเล็กๆ มากๆ ในการที่จะมีโอกาสได้เป็นส่วนหนึ่งในการสื่อสารชีวิตที่ทุ่มเท เสียสละเพื่อสร้างความหวัง เพื่อภาระกิจหนึ่งภาระกิจ ซึ่งเราอาจจะไม่ได้คาดหวังหรือมันเลยความคาดหวังไปแล้ว แต่ปาฎิหารย์เกิดขึ้นได้ และสิ่งที่มันเลยเหตุและผลไป ผมเชื่อว่ามันเกิดจากหัวใจที่ร่วมแรงร่วมใจกัน”
เผยตอนที่ได้ดูข่าวทีมหมูป่าติดถ้ำตอนนั้นถึงกับร้องไห้
“ยอมรับเลย ตอนดูข่าวได้เห็นจดหมายของโค้ชเอกที่เขาเขียนออกมา คือน้ำตาไหลเอง ปกติผมก็ไม่ได้ดูอะไรแล้วเป็นแบบนี้นะ แต่มันเป็นชีวิตคนจริงๆ เป็นหัวใจของคนจริงๆ เป็นความรู้สึกจริงๆ ที่เป็นเหตุการณ์ที่เขาก็ไม่รู้ว่าจะได้ออกมาหรือเปล่า ไม่รู้ว่าเขาจะได้มีชีวิตต่อไปอีกเท่าไหร่ สภาพในถ้ำเป็นยังไง อ๊อกซิเจนเป็นยังไง ผมว่ามันเป็นสิ่งที่เป็นจริงที่สุด และตกผลึกที่สุดสำหรับมนุษย์คนนึง เพราะที่สุดแล้วมนุษย์ก็มีแค่นั้นแหละครับ จะเห็นไม่เห็น จะรู้ไม่รู้ แต่เรามีความหวัง"
"ทุกอย่างโฟล ทุกอย่างค่อนข้างเป็นการทำงานที่ไหลลื่น คือผมไม่อยากจะใช้คำว่ามืออาชีพหรือไม่มืออาชีพ เพราะการทำงานของเราก็มืออาชีพอยู่แล้ว ทุกอย่างค่อนข้างจะไหลลื่นในมุมของการวางแผน การทำงาน การสื่อสาร มันทำให้ทุกอย่างค่อนข้างจะโฟล ก็ถือเป็นเกียรติประวัติ เป็นประสบการณ์ที่ดีครับ พอมีโอกาสดีๆ เข้ามาเราก็ดีใจ ตอนนี้ก็มีงานอื่นๆ ติดต่อมาบ้างครับ ก็ค่อยๆ ดูไปครับ ส่วนใหญ่เป็นแพลตฟอร์ม ก็มีเรื่องที่กำลังพิจารณาอยู่ครับ”