xs
xsm
sm
md
lg

“อาร์ตี้ ธนฉัตร” เตรียมหย่า สักรูปกอลิล่าทับหน้าเมียเก่า (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“อาร์ตี้ ธนฉัตร” เตรียมหย่ากับภรรยา สักรูปกอลลิล่าทับหน้าภรรยา อยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ ส่วนเรื่องหนี้สินไม่ขอพูดถึง เข็ดเรื่องความรัก ขอพักหัวใจก่อน ตอนนี้กลับมาอยู่บ้านกับครอบครัวมีความสุขมาก



หลังจากที่เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา “ส้ม ศุภมาศ”ภรรยาของพระเอกหนุ่ม “อาร์ตี้ ธนฉัตร ตุลยฉัตร” ได้ออกมาโพสต์ไอจีประกาศตามหาสามีให้มาเซ็นใบหย่า และให้กลับมารับผิดชอบภาระที่ทิ้งเอาไว้ด้วย แต่จากนั้นฝั้งพระเอกหนุ่มก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ และแทบจะเรียกว่าหายตัวไปเลยก็ว่าได้ แต่ล่าสุดอาร์ตี้ก็ออกมาปรากฎตัวครั้งแรกในงานแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์ The Lake บึงกาฬ ณ เมเจอร์รัชโยธิน เจ้าตัวเผยว่าเรื่องราวผ่านมากว่าครึ่งปีแล้ว ตนไม่อยากพูดถึงอีก และตอนนี้ตนก็มูฟออนแล้ว

“เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้วครับ ทุกอย่างมันก็จะจบแล้ว ไม่อยากเอ่ยถึงบุคคลที่สาม แต่ถ้าถามมุมส่วนตัวผมตอนนี้ก็แฮปปี้ มีความสุขดีครับ สถานะตอนนี้ก็อีกนิดนึงครับ เร็วๆ นี้จะหย่าครับ บอกได้แค่นี้ครับ”

บอกสักรูปกอลิล่าทับรอยสักรูปหน้าภรรยา
“ก็เหลืออีกประมาณ 1-2 รอบครับ จริงๆ งานแก้มันก็ไม่ได้ 100% ก็เอาที่ตัวเราไหว เอาที่ช่างไหวมากกว่า ก็ตั้งใจจะลบหมดเลยครับ เพราะโจทย์ที่ได้รับมาก็คือถ้าเป็นแบบใหม่ได้เลยมันก็จะดี แต่จริงๆ แล้วสุดท้ายมันก็อยู่ที่ร่างกายของตัวผมเองว่าจะไหวแค่ไหน คือถ้าลบด้วยเลเซอร์จะเจ็บกว่าครับ ก็เลยเลือกที่จะเปลี่ยนลาย ก็คือทั่วไปที่เขาทำกันก็คือสักทับ แก้ลายครับ ก็ได้ลายเป็นกอลิล่าครับ ด้วยความที่ของเดิมเป็นเนื้อสี ช่างเขาบอกว่ามันต้องย้ำให้สีมันสวย แล้วพอเป็นงานใหม่ทับเข้าไป เหมือนเนื้อมันด้านแล้ว ก็เลยต้องกดทับเข้าไปอีก แล้วยิ่งต้องใช้สีดำย้ำหลายๆ รอบ ก็เลยเจ็บ แต่กอลิล่าไม่ได้มีความหมายอะไรครับ แค่มันเป็นสีดำ ช่างก็เลยหาโจทย์มาให้ครับ"

"จริงๆ ผมมองว่าการสักทับไม่จำเป็นจะต้องมีอดีตที่ฝังใจหรืออะไร บางคนมันไม่สวยแล้วก็อยากจะเปลี่ยนตามยุคตามสมัย เพราะรอยสักมันก็มีลายใหม่มากขึ้น ผมว่าเป็นธรรมดา”

สภาพจิตใจโอเคดี ได้กลับไปใช้ชีวิตกับครอบครัว
“เอาจริงๆ ตั้งแต่เมื่อปลายปีที่แล้ว สภาพจิตใจผมโอเคมาก เพราะผมได้กลับไปอยู่กับครอบครัว คือครอบครัวเป็นอะไรที่เรามีความสุขที่สุด คนอาจจะคิดเราเศร้าหรือเปล่า ซึ่งพูดไปเขาก็ไม่เชื่อ แต่เรามีความสุขที่ได้กลับมาอยู่บ้าน ได้อยู่กับพ่อกับแม่ ได้อยู่กับหมา แค่นี้ผมก็มีความสุขแล้ว และอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ จนค่อยๆ กลับมาทำงานครับ ผมก็ใช้ชีวิตปกติ ก็คือต่างคนต่างใช้ชีวิตครับ"

"จริงๆ เรื่องราวที่ว่าใหญ่โตตอนนั้นผมไม่รู้เรื่องอะไรเลยครับ มีที่บ้านนี่แหละบอก แต่ผมก็บอกว่าไม่ต้องอ่านให้ผมฟัง ผมไม่อยากรับรู้ เราอยากพักสมอง อยากพักทุกอย่าง ผมก็ตัดสินใจไม่เล่นโซเชียลเป็นเดือนเลย อยู่กับตัวเอง อยากจะลองไม่เล่นโซเชียลดูว่ามันจะเป็นยังไง ซึ่งมันมีความสุขมากครับ ผมมองว่าไม่แย่ครับ ไม่ได้นอยด์ หรือเสียใจ อย่างที่บอกผมมีความสุขมาก เพราะทุกอย่างมันเกิดขึ้นแล้ว ผมก็บอกไม่ถูก คือปัญหามันเป็นของคนสองคน ตอนนั้นมันไม่ได้กระทบจิตใจ เพราะว่าเราเลือกที่จะออกมา พอทุกอย่างต่างคนต่างเดินกันแล้ว เราก็เดินต่อไปในอนาคตแค่นั้นเอง”

ปัดตอบเรื่องหนี้สินที่ทิ้งไว้ บอกตอนนี้อยากเริ่มต้นชีวิตใหม่
“อันนี้ผมไม่ขอตอบดีกว่า ให้เป็นเรื่องภายในแล้วกันครับ แต่ไม่ได้มีปัญหาอะไรครับ ผมก็เคลียร์ไปทีละเรื่อง บางสิ่งบางอย่างมันก็ต้องใช้เวลาครับ ซึ่งเรื่องมันก็นานมาแล้ว มันก็ค่อยๆ เป็นไป ก็ยังเคลียร์กันไม่ลงตัวครับ อีกนิดเดียวครับ อยู่ในระหว่างดำเนินการครับ ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับธุรกิจหรือมือที่สาม คือด้วยความที่ผมไม่ได้อ่าน ผมก็เลยไม่รู้ว่าเขาเขียนอะไรบ้าง เพราะเราออกมาแล้ว เราไม่อยากรับรู้อะไรแล้ว ณ ตอนนั้นมันอยู่กับปัจจุบัน ซึ่งเรากำลังมีความสุข ณ ตรงนั้น อีกอย่างเป็นช่วงคาบเกี่ยวด้วย พอมันข้ามมาปี 65 ปีใหม่แล้วก็เริ่มใหม่ เป็นคนใหม่ที่อยู่ในร่างเดิม"

"ถามว่าเข็ดความรักมั้ย ก็เข็ดครับ ณ ตอนนี้ยังพอก่อนครับ มันพูดไม่ได้ว่าหัวใจเรามันเจ็บหรือไม่เจ็บ แต่สิ่งที่ได้มามันคือประสบการณ์เรื่องความรักในการใช้ชีวิตคู่ จริงๆ แล้วมันก็มีทั้งดีและไม่ดี แต่สุดท้ายแล้วถ้ามันไปต่อไม่ได้มันก็คือไปไม่ได้”

เผยตอนนี้มูฟออน ไม่มองย้อนกลับหลังอีก
“ปัญหาใหญ่ที่ทำให้ไปต่อกันไม่ได้ ผมก็จำไม่ได้แล้วครับ เพราะพอวันนี้เราเลือกที่จะเดินไปข้างหน้าแล้ว ก็ทิ้งมันไปตั้งแต่ปี 64 แล้ว เริ่มใหม่ พอเราเดินออกมาก็ไม่ได้หันหลังกลับไปมองอีก เราก็มุ่งไปข้างหน้าอย่างเดียว ตอนนี้มูฟออนแล้วครับ ทั้งหมดทุกอย่างเลยครับ ก็ได้กลับมาทำงานมากขึ้น ได้ทำอะไรแปลกใหม่มากขึ้น ซึ่งผมว่ามันเป็นเรื่องที่ดีครับ ถ้าคนส่วนใหญ่จะมองว่าฝ่ายชายมักจะผิดเสมอ(หัวเราะ) มันเรื่องของมุมมองครับ เราไปห้ามความคิดเขาไม่ได้ ถ้าคนจะมองว่าผิดมันก็ผิดอยู่ดีครับ"

"ทุกวันนี้ก็ไม่ได้เจอ ไม่ได้คุย และเราจะไม่เอ่ยถึงกันและกันครับ เรื่องวันหย่าที่ต้องเจอกัน สมัยนี้มันมีหลากหลายแบบที่ผมได้ยินมานะครับ(ไม่อยากเจอ) ผมว่ามันผ่านมาครึ่งปีแล้ว ต่างคนต่างแยกย้ายกันใช้ชีวิตของใครของมันดีกว่า เราก็มีความสุขตรงนี้ของเรา (ไม่ถึงขั้นตัดญาติขาดมิตรใช่มั้ย) จะตอบยังไงให้มันดูดี (หัวเราะ) เอาเป็นว่าทุกวันนี้ผมเดินเส้นทางของผมครับ แค่นั้นเอง”











กำลังโหลดความคิดเห็น