เป็นยูทูบเบอร์สาวชื่อดัง “เก๋ไก๋ ณัฐธิชา นามวงษ์” หรือ “เก๋ไก๋สไลเดอร์” ที่มียอดผู้ติดตามถึง 15.9 ล้านวิว แต่ตั้งตั้งแต่ประกาศเลิกรากับแฟนหนุ่ม “สไปร์ท SPD” หรือ “เนติเจน เนติรัตนไพบูลย์” เก๋ไก๋ ก็หยุดทำคลิปลงยูทูบไปเลยนานถึง 1 ปี ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมาย อาทิ เลิกกันเพราะคอนเทนต์ หรือกับการโพสต์ลอยๆ ว่า ฉันจะหยุดเพื่อที่จะให้แฟนเก่าได้มียอดฟอร์โลว์เพิ่มขึ้นมา
ล่าสุด เก๋ไก๋สไลเดอร์ ได้ร่ำไห้เปิดใจกับ “วู๊ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา” ในรายการ WOODY FM ถึงเรื่องราวที่ผ่านมาตลอด 1 ปี โดยยอมรับว่าการเป็น เก๋ไก๋สไลเดอร์ ในวันนี้ มันโดนปรับจูนเพราะฟีดแบคจาก สังคม คนรอบข้าง จนบางทีไม่แน่ในว่าเก๋ไก๋ที่นั่งอยู่ตอนนี้เป็นเราจริงหรือเปล่า
“มันรู้สึก นี่สรุปเราปรับมาว่าจะเป็นเรา แล้วตัวเรามันเป็นยังไง เหมือนเราเปลี่ยนไปตามความคิดของเราเองที่มีคนอื่นบอกอีกที ตั้งแต่เริ่มมาแรกๆ เราไม่ได้ทำเพื่อที่ให้คนอื่นบอกว่าเราทำอย่างโน้นอย่างนี้ หรือว่าเราเป็นยังไง เราน่ารักแบบนี้ เราไม่น่ารักแบบนั้น เราทำเพื่อเก็บไว้ดูตัวเราเองในวันที่เมมในโทรศัทพ์อาจจะเต็ม เก็บคลิปไม่ได้ เก็บเป็นความทรงจำแล้วย้อนกลับไปดู เรารักตัวเองนะ มีใครบ้างที่ไม่รักตัวเอง”
ยันเลิก “สไปร์ท SPD” จริงไม่ใช่คอนเทนต์
“เราต้องทำแบบนั้นทำไม ในเมื่อมันเป็นอย่างนั้นก็คือเป็นอย่างนั้น แต่คนอื่นอาจจะคิดอีกมุมนึง เขาอาจจะดูจากในหนังที่ตอนจบอาจจะหักมุมก็ได้ เพราะเวลาที่เราทำคลิปเราจะมีการหักมุมเพื่อสร้างความสนุกให้กับคอนเทนต์ ทีนี้เขาเลยคิดว่าชีวิตจริงที่เราเลิกกัน จริงๆแล้วเรายังไม่ได้เลิกกัน เราวางแผนทำเป็นว่าเราเลิกกัน แต่ความจริงแล้วเราไม่ได้เลิกกัน”
“ทำใจไม่นานค่ะ แต่พอเลิกมาแล้วเรามาคิดว่าพอตื่นขึ้นมามันก็เหมือนไม่มีเขาแล้ว ก่อนหน้านี้เราจะชอบจินตนาการว่าถ้าฉันไม่มีเขา ฉันจะอยู่ได้ไหม แล้วฉันก็ดีใจทุกครั้งที่ตื่นขึ้นมาแล้วยังมีเขา พอความจริงไม่มีเขาแล้ว ตื่นขึ้นมามันหวิวๆเพราะเขาเป็นคอมฟอร์ทโซนของเรา ตอนที่ติดสินใจเลิกกันมันไม่นานเลย เราเหมือนเรียกร้อยอะไรซักอย่าง คือการที่เราได้หยุดหรือทำอะไร มันจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด แล้วมันก็ดีจริงๆ สำหรับทุกๆ คน”
เล่าหยุดไป 1 ปี แต่ทำไมถึงมีข้อความออกมาว่าฉันจะหยุดเพื่อที่จะให้แฟนเก่าได้มียอดฟอร์โลว์เพิ่มขึ้นมา
“เราคุยกับเขาว่าถ้าเธออยากมีคนดูหรือผู้ติดตาม ก็ต้องให้คนโฟกัสไปที่เขา เขาต้องไปทำของเขาอย่างภาคภูมิใจและเต็มที่ ซึ่งจริงๆเราจะทำของเราไปด้วยก็ได้ แต่เราเลือกที่จะไม่ทำ มันไม่มีเหตุผลว่าเพราะอะไรเราถึงคิดและเลือกทำแบบนี้ เหตุผลสำหรับเรามันไม่ต้องเป็นหลักการ แต่มันเป็นความรู้สึกก็ได้ เราเป็นคนมีความรู้ ความสามารถ เป็นคนเก่งคนนึง เราได้รับมา เราเห็นเขาส่งมาให้เราเป็นคนที่เก่ง มีความสามารถ เราก็ส่งกลับไปในแบบที่เขาอยากจะทำอะไรก็ให้เขาทำ”
ตอนนี้มีคนคุยแล้ว บอกเมื่อก่อนมองคนที่หน้าตา แต่ตอนนี้ชอบคนที่อยู่ด้วยแล้วมีความสุข
“มีคุยอยู่ค่ะ คือเมื่อก่อนมองที่หน้าตาดี คนนี้หล่อเกาหลี ดูมีเสน่ห์ หวาน อบอุ่น เมื่อก่อนชอบสไตล์พระเอกๆ หน่อย แต่ตอนนี้คือรู้สึกว่ามันเป็นรูปร่างภายนอก ชอบแบบมวลที่เราอยู่ด้วยแล้วมีความสุข”
“เป็นแนวสู้เลย (หัวเราะ) คือถ้าใครมาจีบเราจะไม่ชอบให้ใครมาจีบ เราก็จะจีบกลับสู้กลับให้เขาเขินไปเลย แต่ถ้าเขายังอยู่ได้ ก็แสดงว่าเขาก็สู้เหมือนกัน เราชอบแบบตรงๆ แต่ตะมุตะมิ บางทีเราก็เจ็บปวดอยู่ แล้วเขามาพูดตรงๆ ให้เราได้มองเห็น เราก็จะมีสติมากขึ้น สำหรับรักครั้งใหม่ต้องเป็นคนที่ให้กำลังใจเรา แล้วก็ชื่นชมเราบ้าง (หัวเราะ) เราทำอะไรก็อยากให้เขาเทคแคร์ดูแล”
ไม่ชอบคนโกหก ทำอะไรก็ผิดไปหมด
“จะไม่ชอบคนที่โกหก หรือแบบเราทำอะไรก็ผิดไปหมด ปากซีดไปก็ผิด แต่งตัวโป๊ไปก็ผิด ใส่เสื้อผ้าตัวใหญ่ไปก็ไม่ได้ต้องไปเปลี่ยน ไม่ได้เป็นตัวของตัวเองเลย ทุกอย่างผิดไปหมด คือเราเป็นคนไม่มั่นใจอยู่แล้ว แต่แสดงความมั่นใจตลอด เพราะความมั่นใจคือสิ่งที่เราสร้างขึ้นมา(น้ำตาซึม) มันก็เหนื่อยนิดนึง คือเหมือนมันยังไม่ลงตัวมั้ง มีบางเรื่องที่ไม่มั่นใจ”
ร้องไห้เล่าสิ่งที่ตัวเองไม่มั่นใจที่สุด ร้องไห้บ่อยมาก แต่ไม่มีใครเห็น
“พูดไม่ฉะฉาน คิดวน ทำอะไรแล้วคิดว่าเรายังทำให้คนอื่นรักหรือชอบไม่ได้ ไม่สวย ชอบบอกกับตัวเองว่าเรายังไม่สวย แล้วเราต้องทำอะไรบ้าง แล้วก็ไปหาทำแต่มันไม่เป็นตัวเรา มันทำให้ไม่มั่นใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็กระทบ พอมันกระทบเรื่องนึงมันก็กระทบหลายๆเรื่อง (ร้องไห้) ทำอะไรก็คิดเยอะเป็นกังวลไปหมดเลย เราไม่อยากใช้ชีวิตแบบนี้ เราร้องไห้บ่อยมาก แต่ไม่มีใครเห็นเราคิด เราบอกของเราเอง ร้องไห้มันคืออ่อนแอ”
พอถึงตรงนี้ วู๊ดดี้ก็พูดกับเก๋ไก๋ว่า…“ใครบอกว่าร้องไห้มันคืออ่อนแอ การร้องไห้มันคือการระบายสิ่งที่มันค้างคาอยู่ มันคือความงดงามด้วยซ้ำไป เราเจอคนที่เรารักที่เราไม่ได้เจอเขามานานเราก็ร้องไห้ มีคนตายจากไปเราก็ร้องไห้ การร้องไห้มันเป็นการแสดงอารมณ์ การที่เราเก็บไว้ต่างหากมันเป็นการเก็บตัว มันไม่ธรรมชาติ คุณอายุ 25 ปีแล้ว คุณมาไกลมากและคุณรู้ทุกเรื่อง คุณเก่ง คุณฉลาด 15.9 ล้านวิว ถ้าคุณไม่เป็นแบบนั้นคุณจะมาได้ไกลขนาดนี้ได้ยังไง”
ตรงนี้ เก๋ไก๋ พูดต่อว่า…. “มีคนบอกว่ามาได้ทุกวันนี้เพราะสไปร์ท เราเชื่อว่าเรามาได้เพราะพ่อแม่ ครอบครัว ครู แฟนๆและเขา ทุกคน เป็นส่วนหนึ่งของตรงนั้น ตอนนั้นเวลาเราอยากจะทำอะไร มันมีไฟ แต่มันรู้สึกว่าเราทำ เราได้ เราทำไปด้วยกันแล้วมันก็ได้ไปด้วยกัน แต่พอวันหนึ่งเราหยุดคนเขาก็บอกว่าเราทำต่อไปไม่ได้แล้ว ไม่ดี ไม่ปัง เพราะว่าเราไม่มี ไม่มีเขา แล้วเราก็เชื่อ แล้วก็ไม่รู้ว่าจะทำให้ใคร”
ถึงตอนท้ายนี้ วู๊ดดี้ ก็ให้กำลังใจ เก๋ไก๋ ว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะคิดว่าเราไม่สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง ไม่มีอะไรที่เราต้องกลัวอีกแล้ว ทุกคนรอคอยที่จะเห็นคุณเบ่งบานแบบที่คุณควรจะเป็น ทุกอย่างมันผ่านไปแล้ว และวันนี้ฉันจะทำให้มันดีที่สุด อยู่กับปัจจุบัน นึกถึงอนาคตของตัวเอง รักตัวเองให้มากๆ ทุกคนรอให้กำลังใจคุณอยู่ ทำเอาเก๋ไก๋ น้ำตาร่วงปล่อยสะอึกสะอื่น “มันทำไม่ได้แล้ว” วู๊ดดี้ปลอบ “มันจะไม่เกิดขึ้นเพียงข้ามคืน คุณต้องมีกำลังใจ”
ทั้งนี้ในส่วนของหนุ่มสไปร์ทนั้นหลังจากที่เลิกกับสาวเก๋ไก๋เจ้าตัวก็ได้ไปทำช่องยูทูบของตนเองในชื่อ SpriteDer SPD มีผู้ติดตามประมาณ 9.74 ล้านคน โดยมีรายงานว่ารายได้ต่อปีในการทำช่องยูทูบของเจ้าตัวนั้นอยู่ที่ 60 ล้านบาทเลยทีเดียว