“ปั้นจั่น ปรมะ” รับเลิกนางแบบลุคญี่ปุ่น “มิชิมะ ริสะ” 3-4 เดือนแล้วด้วยหลายเหตุผล แต่ยังมีมิตรภาพที่ดีต่อกันอยู่ รับน้องอายุ 21 ปีเอง ต้องไปใช้ชีวิต อย่าไปคาดหวังว่าเขาจะมาหยุดที่เราคนเดียว ส่วน “ปราง กัญญ์ณรัณ”เลิก “โต้ง ทูพี” จริงไหม อย่าพาดพิงมาทางตนเลยเพราะตัวเองก็ยังเอาตัวไม่รอด
ดูส่อแววเลิกกับนางแบบสาวลุคญี่ปุ่น “มิชิมะ ริสะ” มาพักนึงแล้ว หลังจากที่ฝ่ายหญิงกลับไปเรียนต่อที่ประเทศญี่ปุ่น โดยก่อนจะแยกกันไป “ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย” ก็ได้มอบแหวนแทนใจไว้ให้ต่างหน้าด้วย แต่หลังๆ เริ่มสังเกตเห็นกันได้ว่าในอินสตาแกรมของปั้นจั่นไม่มีภาพของแฟนสาว หรือรูปคู่เลย ซึ่งปั้นจั่นก็ออกมายอมรับแล้วว่าได้เลิกกับริสะ มาได้ 3-4 เดือนแล้ว
“ไม่ต้องลือหรอก เลิกกัน 3-4 เดือนแล้ว แต่ว่าไม่ได้บอกใครเพราะว่าไม่ได้ออกงานเลย สาเหตุก็เป็นปัญหาของคนสองคนนั่นแหละ เราก็ทำเต็มที่แล้ว อาจจะเป็นด้วยเรื่องของอายุ ตอนแรกบอกว่าอายุไม่มีปัญหา เราก็พยายามจะให้มันเป็นอย่างนั้น แต่ว่าบางทีมันก็มีปัญหาว่ะ (หัวเราะ)
เรื่องของระยะทางที่เขาต้องบินไปเรียนต่อมีผลด้วยไหม ที่จริงผมว่ามันก็มีผลหลายๆ อย่าง แต่ว่าเรื่องที่ไปต่อไม่ได้ก็ขอให้เป็นเรื่องของคนสองคนแล้วกัน แต่เราก็เลิกกันด้วยมิตรภาพที่ดี ผมเองก็ยังเป็นห่วงน้องเขาอยู่ เพียงแค่ว่าอาจจะไม่ได้ทักทายเพราะว่ามันยังเพิ่งหมาดๆ แผลจะได้สมานเร็วๆ”
ตอนนี้สภาพจิตใจมูฟออนได้แล้ว ไม่อยากมีข่าวรักๆ เลิกๆ ขอพักเรื่องความร้กพักนึง
“ตอนนี้โอเคครับ เราโตแล้วและก็มูฟออนได้สบายมาก จริงๆ มันมีสัญญาณมาเรื่อยๆ แล้วแหละ ด้วยความที่เราโตกว่า เราก็พยายามที่จะประคับประคองให้เต็มที่ แต่ว่าพอถึงจุดหนึ่งมันไปต่อไม่ได้มันก็ตามนั้น ผมเองก็บอกน้อง น้องยังเด็กอยู่เลย ถ้าเกิดว่าเขาจะต้องไปใช้ชีวิตอะไรยังไงก็จะได้ไม่ต้องมาผูกอยู่กับผมคนเดียว เพราะตอนผมอายุ 21 ผมยังโลดแล่นไปตามที่ต่างๆ อยู่เลย ฉะนั้นเราอย่าไปคาดหวังว่าเขาอายุ 21 แล้วเขาจะมาหยุดที่เราคนเดียว
คือไม่เชิงเผื่อใจอะไร เราก็คิดว่ามันจะไปได้ดี มันพยายามเต็มที่ ไม่ได้อยากมีข่าวรักๆ เลิกๆ หรอก เพราะมันไม่ได้เป็นข่าวที่ดีกับภาพลักษณ์ของเรา แต่ว่าเราก็ทำตามความรู้สึกของเรา ถ้าเราเจอแล้วรู้สึกว่ามันปิ๊งเราก็พยายามทำให้มันดีที่สุด แต่ว่าตอนนี้มันไม่มีแล้ว แล้วเราก็อาจจะพักสักพักหนึ่ง เพราะหมอลักษณ์บอกว่าราศีกรกฎห้ามมีแฟนก่อนเมษายนปีหน้า ไม่งั้นจะเหมือนตกนรกทั้งเป็น ฟันธง! (หัวเราะ)”
รับเชื่อที่ “หมอลักษณ์ ฟันธง” ทัก รวมถึงคนรอบๆ ตัวก็บอกให้พักเรื่องนี้ไปก่อน
“(พยักหน้า) แม่บอกพักบ้าง ผู้จัดการบอกพักก่อน ผมเองก็อยากพัก ไม่ได้มีแอบคบใคร เพราะส่วนตัวเป็นคนเปิดเผย (รอบนี้คือจะพักจริงแล้วใช่ไหม?) มันพูดไม่ได้ พอพูดไปแล้วเดี๋ยวพอเจอปั๊บก็กลายเป็นกลับคำพูดอีก คือจะมาก็มา แต่เราขอใช้เวลาในการดูเยอะขึ้น พอโตแล้วด้วย บวกกับเห็นหลายคู่ แล้วพอเจอกับตัวเองก็รู้สึกว่าตกลงเราจะมีคู่ไหมวะ บางทีก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมการหาคู่แท้มันยากเหลือเกิน โชคชะตาเราบางทีอาจจะต้องอยู่คนเดียวมั้ง แต่ถ้ามีเข้ามาก็โอเค
มันไม่เชิงอกหัก เพราะว่ามันคือการคุยกันแล้วก็จบลงด้วยกัน ไม่ใช่แบบว่าเขาไปมีใหม่หรืออะไร แต่ว่าก็เสียใจทั้งคู่นั่นแหละ อย่างที่บอกว่ามีเหตุบางอย่างที่ทำให้เราไปต่อด้วยกันไม่ได้ มันก็เฮิร์ตเป็นธรรมดา แต่ฟังเพลงเพราะขึ้น จริงๆ นะลองอกหักกันดูสิ”
พร้อมเปิดใจแต่ขอทำความรู้จักเป็นเพื่อนกันไปก่อน
“เปิดครับ เปิดตลอดเวลา ไม่ได้มานั่งปิด แต่ก็คืออยากรู้จักกันเป็นเพื่อนก่อน พูดยาก อยากขอลองศึกษาบ้าง ไม่ใช่ว่าเจอปุ๊บโอ้โห! ผูกติดเป็นเงื่อนพิรอด ทุกคนก็ตัดสินผมอย่างนี้มาโดยตลอดอยู่แล้วไง แม่ผมยังสอนเลยว่าหัดพูดปกป้องตัวเองบ้าง แมนเกินไปแล้วก็โดนด่าว่าเจ้าชู้อย่างโน้นอย่างนี้”
ไม่พูด ไปถามกันเอง “ปราง กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล” เลิก “โต้ง ทูพี” จริงไหม
“เขามีแฟนจนจะแต่งงานแล้ว ไม่เอาไม่พูด ไปถามเขาสิ อย่ามาถามผม ผมไม่รู้ อย่ามาพาดพิง ไม่ได้อึกอัก อย่าให้ผมเป็นสุนัข อย่าพาดพิง ถามว่าเห็นข่าวบ้างไหม ผมก็รู้ตามที่ผู้จัดการส่วนตัวบอกว่ามันมีข่าวนะ (หัวเราะ) เพราะว่าเขาเพิ่งแฮปปี้เบิร์ธเดย์ผมไป โต้งก็แฮปปี้เบิร์ธเดย์ผม ทุกอย่างก็ดูปกติดีนะ คนเรามันมีกระทบกระทั่งกันได้ แล้วเดี๋ยวเขาก็ประคับประคองกันไป เราไปแกว่งน้ำให้มันขุ่นนะ แล้วเรื่องของคนอื่นอย่าถามผม เพราะผมยังเอาตัวไม่รอดเลย (หัวเราะ)”
