xs
xsm
sm
md
lg

“ใจบัว” ดาราสาวเปิดหน้าสู้! ถูกตร.อนาจาร ลั่นคนอายต้องไม่ใช่หนู! ข้องใจเพื่อนไม่ช่วยเป็นพยาน ร่ำไห้เกลียดตัวเอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ใจบัว” ดาราสาว ถูกสารวัตรอนาจาร ร่ำไห้เปิดใจ สภาพจิตใจย่ำแย่ โทษตัวเองดูแลตัวเองไม่ดี ไว้ใจเพื่อนมากเกินไป ลึกๆ สงสัยเพื่อน ข้องใจทำไมเพื่อนไม่เป็นพยานให้ ลั่นเพิ่งพบจิตแพทย์ หลังเกิดเหตุนอนไม่หลับเลย ปล่อยโฮสุดเกลียดตัวเอง ทำไมถึงเชื่อเพื่อน จากนี้จบแล้ว ตัดขาดเพื่อน คาดหวังให้ตร.ยอมรับผิด ส่วนเรื่องคดีเอาเรื่องถึงที่สุด ย้ำคนที่อายต้องไม่ใช่หนู!

กรณีที่ “น.ส.ใจบัว ฮิดดิง” อายุ 26 ปี นักแสดงชาวไทยลูกครึ่งฮอลแลนด์ พร้อมด้วย “ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด” ทนายความ เดินทางเข้าพบตร.สน.คันนายาว เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับสารวัตรสอบสวน สน.บางพลัด ข้อหาอนาจาร โดยเหตุเกิดที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านคู้บอน ตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค. ที่ผ่านมา

ล่าสุดวันนี้ (9 ส.ค.) ใจบัวพร้อมทนายษิทรา ได้แถลงข่าวเปิดใจที่สำนักงาน sittra law firm ถึงความคืบหน้าคดี รับข้องใจทำไมเพื่อนถึงไม่มาเป็นพยานให้ตน จากนี้ประกาศตัดเพื่อน ร่ำไห้โทษตัวเองที่ดูแลตัวเองไม่ดี

ทนาย : “อย่างที่พี่ๆ ทราบข่าวกันดีว่าได้แจ้งความสารวัตร สน.บางพลัดไป เรื่องอนาจารต่อหน้าธารกำนัล ซึ่งวันนั้นผมก็พาน้องไปดำเนินคดีเรียบร้อยแล้ว ทราบข่าวความคืบหน้าคดี ได้มีการคุยกับผู้กำกับสน.คันนายาว ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ สถานที่เกิดเหตุ ทราบมาว่าทางผู้ต้องหาไปรับทราบข้อกล่าวหา พิมพ์ลายนิ้วมือแล้ว และให้การปฏิเสธ ส่วนพยานอื่นๆ นอกจากน้องที่ให้การกับพนักงานสอบสวนแล้ว ก็มีอีกสองปากที่เข้าไปแล้ว แต่ส่วนของเพื่อนเขาอีกหลายคนที่พนักงานสอบสวนเรียกไป เห็นผู้กำกับแจ้งมาว่ายังไม่ได้รับความร่วมมือ ไม่ยอมไปให้ปากคำ ในส่วนเรื่องวินัยมีการคุยกับท่านผู้กำกับสน.บางพลัดแล้ว ท่านก็แจ้งมาว่าตอนนี้บก.น.7 มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบว่าเรื่องนี้จะเป็นการกระทำความผิดวินัยร้ายแรงแค่ไหน เดี๋ยวถ้าเกิดยังไง คงต้องให้น้องให้ไปการกับคณะกรรมการตรวจสอบวินัยอีกทีนึง ส่วนวันนี้น้องก็คงมาเล่าที่มาที่ไปว่าวันนั้นเกิดเหตุได้ยังไง”

ใจบัว : “ตอนนี้ที่บัวออกมาพูด เพราะสภาพจิตใจเริ่มดีขึ้นแล้ว และไม่อยากให้ใครตกเป็นเหยื่อแบบนี้อีก ตัวบัวเอง บัวรู้สึกแย่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากๆ แล้วก็โทษตัวเองมาตลอดว่าหนูดูแลตัวเองไม่ดี และไว้ใจเพื่อนมากเกินไปค่ะ อีกอย่างหนูไม่คิดว่าคนที่อยู่ในนั้น เขาก็เป็นตร. ก็ไม่คิดว่าตัวหนูจะโดนตร.กระทำเองค่ะ”

ทนาย : “ตอนนี้เล่ากี่ที น้องเขาก็ยังทำใจไม่ได้ น้องบอกผมว่าเขารู้สึกผิดที่เอาตัวเองไปอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น เขาก็สงสารคุณแม่”

ใจบัว : “วันนั้นตัวบัวได้ไปงานวันเกิดรุ่นพี่ค่ะ ตอนช่วงประมาณตีหนึ่งถึงตีสอง ตัวเราได้เจอกับเพื่อนๆ ซึ่งเป็นเพื่อนที่รู้จักมาเป็นสิบปี ตัวบัวตั้งใจไปกินข้าวต่อเลยติดรถเพื่อนไป แต่คือเพื่อนบอกว่าเปลี่ยนแพลนนะจะไปบ้านรุ่นพี่คนนึง แล้ววันนั้นฝนตกหนักมาก บัวก็เลยโอเคไป เดี๋ยวไปเรียกแท็กซี่ตรงนั้นก็ได้ พอบัวไปถึงก็เข้าบ้าน เพราะเพื่อนบอกให้เข้าไปนั่งรอในบ้านก่อน พอเข้าไปก็เจอเจ้าของบ้าน และตัวตร.เอง ก็พูดคุยกันนิดหน่อย แต่ไม่ได้มีอะไรมาก ก็มีการกินดื่มกันปกติ จนบัวรู้สึกว่าไม่มีใครตามมาสักที บัวขอกลับบ้านดีกว่า ก็เลยขอกลับบ้านไป แต่ตัวเพื่อนที่รู้จักนานมาก เขาบอกว่าให้กลับพร้อมกัน ไปงีบตรงโซฟาก่อน เพราะมันก็ดึกมากแล้ว บัวก็ง่วงด้วย บัวก็ไม่ได้คิดว่าจะมีเหตุการณ์อะไรแบบนี้เกิดขึ้น เพราะเรารับรู้ว่าโอเค มันมีตร.อยู่ในนี้นะ ไม่คิดว่าเขาหรือใครจะมาทำอะไรเราได้ จนบัวรู้สึกตัวอีกทีประมาณ 9 โมงเช้า รู้สึกว่ามีคนมานอนอยู่ข้างๆ แล้วใช้มือจับที่หน้าอกอยู่ (เสียงสั่น)

หลังจากนั้นบัวก็สะบัดออก เพราะตกใจ ส่วนเขาก็ลุกลี้ลุกลน กลับไปนั่งตรงโต๊ะกินข้าว ตอนนั้นบัวทำอะไรไม่ได้ บัวหันมองซ้ายมองขวาก็ไม่เจอเพื่อนบัวแล้ว บัวเลยไปแชตหาคนที่บัวรู้จักอยู่ในกลุ่มโต๊ะกินข้าว บอกว่าช่วยด้วย คนเสื้อเทาเมื่อกี้มาลวนลามนะ ตัวเพื่อนเองก็ไม่กล้า เขาก็โอเค ทำเป็นตะโกนขึ้นมาหน่อยได้ไหม ให้ออกไปส่งหน่อย ตอนนั้นบัวคิดแค่ว่าต้องออกจากตรงนี้ เพราะเขาเองก็ไม่ได้อยากจะยอมรับอะไรขนาดนั้น พอเขารู้ตัวว่าบัวรู้ตัวแล้ว เขาก็ลุกลี้ลุกลนนิดหน่อยแล้วกลับไปนั่งตามปกติค่ะ ส่วนเพื่อนที่ไปด้วยกันไม่อยู่ ตอนนั้นหนูไปกับเพื่อนหนูประมาณ 4-5 คนเลยนะคะ พอในเหตุการณ์เหลืออยู่แค่ 2 คนค่ะ ยังไม่นับตร.กับเจ้าของบ้าน ระหว่างหนูนอนอยู่ตรงโต๊ะกินข้าว มีทั้งเจ้าของบ้านและตัวเพื่อนอีกคนนึงและตร.ที่เพิ่งลุกออกไป ตอนนั้นทุกคนตื่นกันหมดแล้ว

ก่อนหน้านั้นตร.เขาไม่ได้ส่งสายตาหรืออะไรเลย เขานั่งอยู่ตรงข้ามหนูด้วยซ้ำ ตัวหนูอยู่แต่กับเพื่อน ไม่ได้มายุ่งเกี่ยวกันเลย ไม่ได้มาพูดคุย หรือทำเจ้าชู้ใส่เรา ถามว่าตอนลวนลามเขามีอาการมึนเมาไหม บัวคิดว่าไม่นะคะ บัวคิดว่าถ้าคนเมาคงไม่เห็นรีแอ็กชั่นลุกลี้ลุกลนออกไปขนาดนั้น บัวว่าเขาน่าจะมีสติ สภาพการแต่งกายบัวจำได้ว่าเขาใส่เสื้อสีเทา กางเกงขาสั้นสีน้ำเงินค่ะ หลังเป็นข่าวเขาติดต่อมาอีกไหม ถ้าติดต่อที่บัวโดยตรงไม่มีนะคะ แต่ก็พอได้ยินมาบ้าง ไม่แน่ใจว่าพยายามติดต่อคนที่บัวรู้จัก แต่ตัวเขาเองไม่เคยติดต่อบัวมาเลย”

ข้องใจทำไมเพื่อนไม่ให้ความร่วมมือ
ทนาย : “ตอนนี้น้องเขารู้สึกว่าไปด้วยกัน แต่ตื่นเช้ามาทำไมหายกันหมดเลย และติดต่อไม่ได้ มาวันนี้ผมก็เล่าให้น้องฟังอีกว่าเพื่อนไม่ให้ความร่วมมือ น้องอาจงงๆ อยู่ว่าตัวเพื่อนจะยังไงหรือเปล่า แต่ตัวผมแปลกๆ แล้วแหละ”

ใจบัว : “ตอนหนูกลับบ้านไปแล้ว หนูมีโทร.ไปหาเขา พูดถึงเหตุการณ์นี้ แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก เขาก็ไม่ได้มารับทราบเป็นพยานอะไร”

ลึกๆ สงสัยเพื่อน
ใจบัว : “ลึกๆ ก็สงสัยค่ะ ก็รู้จักมาเป็นสิบปีแล้ว เที่ยวด้วยกันตลอด ไม่เชิงกลุ่มเที่ยว บัวเจอเขาล่าสุดเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว แต่ก่อนหน้านี้ก็เจอกัน ถามไถ่ตลอด ทานข้าวด้วยกันบ่อยค่ะ ตอนที่ไป มีตัวใจบัว เพื่อนอีก 4 คนเป็น 5 คน พอตอนเช้าก็เหลือใจบัว และเพื่อนใจบัวอีกคนนึงที่นอนหลับไม่รู้เรื่อง และอีกคนที่สนิทกับตร.กับรุ่นพี่ คนที่พาใจบัวไป ที่เหลือออกไปไหนไม่รู้คนที่พาเราไปเขายังอยู่ เขานั่งอยู่ที่โต๊ะกินข้าว แต่เขาบอกว่าเขาไม่เห็น คนที่ไลน์คุยก็คือคนนี้ค่ะ ตร.เป็นรุ่นผู้ใหญ่กว่าค่ะ”

ตอบไม่ได้เพื่อนเป็นนางนกต่อหรือไม่ แต่แย่และรับไม่ได้ไปแล้วที่อีกฝ่ายทิ้งตน จากนี้คงจบแล้ว
ใจบัว : “บัวตอบไม่ได้เลยค่ะ ไม่กล้าไปพาดพิง กับเพื่อนคนที่พาเราไปก็รู้สึกแย่ รับไม่ได้ อยากจะเข้าใจเขาแต่เข้าใจไม่ได้จริงๆ ว่าทำไม ตัวบัวเองก็ยังถามเขาอยู่เลยว่าจะไม่เห็นได้ยังไง ทำไมปล่อยให้เขามานอนตรงนี้ ต่อให้เขาไม่เห็นว่าเขาทำอะไรบัว แต่จุดนั้นที่เขายังนั่งอยู่ เขาไม่เอะใจบ้างเหรอ ผู้ชายคนนี้ไปนั่งอยู่ตรงไหน ปล่อยให้มานอนข้างบัวได้ยังไง ซึ่งโซฟาเป็นตัวแอลค่ะ จุดที่ใจบัวนอน เป็นจุดที่ยื่นขายื่นตัว ไม่ได้กว้างมากค่ะ ตัวบัวอยู่ข้างนอก แต่ตัวผู้ชายอยู่ข้างใน กับเพื่อนก็คิดว่าน่าจะจบค่ะ ตอนนี้คุณแม่ก็ยังตกใจว่าทำไมเขากลับก่อน ทำไมเขาทิ้งเราไว้แบบนี้ ถึงตอนนี้คงไม่มีอะไรต้องถามแล้วค่ะ บัวคิดว่ามันชัดเจนแล้ว สำหรับบัวนะ”

คาดหวังให้อีกฝ่ายยอมรับผิด
ใจบัว : “บัวไม่รู้เรื่องกฎหมายว่าสูงสุดมันเป็นยังไง แต่สำหรับบัวตอนนี้ สิ่งที่บัวทำมันถูกแล้วในความรู้สึกบัว ไม่รู้ข้างใน ตามกฎหมายตร. หรือวินัยตร. บัวไม่เข้าใจตรงนี้เลย แต่ตอนนี้บัวคาดหวังกับเขาคือการยอมรับผิด ยอมรับตรงๆ ว่าเขาทำ เพราะบัวไม่รู้ว่าบัวได้อะไรจากเรื่องนี้ บัวออกมามีแต่เสียหาย แล้วถ้าเสิร์จขึ้นกูเกิ้ล ก็แค่ว่าใจบัวโดนทำอนาจาร (ร้องไห้) ตอนแรกไม่ได้กะว่าจะให้เป็นเรื่องราวใหญ่โต หนูให้โอกาสเขาที่จะขอโทษหนูแล้ว แต่คุณพ่อหนูเป็นชาวต่างชาติ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมตร.ถึงทำแบบนี้ (ร้องไห้) เขาบอกตร.ทำไม่ถูก หนูทำถูกแล้ว หนูไม่ต้องอาย (ร้องไห้) ควรเป็นเขาต่างหากที่ต้องอายที่ทำแบบนี้”

รับดื่มของมึนเมา แต่มั่นใจตัวเองมีสติ
ใจบัว : “ดื่มค่ะทั้งตัวหนูและในกลุ่ม แต่หนูมั่นใจว่าหนูมีสติ หนูแค่รู้สึกว่าดึกแล้ว ฝนตก หนูอยากกลับบ้าน หนูบอกว่าหนูง่วง อยากกลับบ้าน แต่เพื่อนก็บอกว่าไปนอนรอก่อนเดี๋ยวกลับพร้อมกัน หนูก็มั่นใจว่าเดี๋ยวกลับพร้อมกัน แต่สุดท้ายก็ไม่ใช่ค่ะ ถามว่าคิดว่าถูกวางยาไหม เขาเป็นตร. เราก็ไม่ได้คิดแบบนั้น”

เผยผลกระทบ เสียหายไปแล้ว
ใจบัว : “ก็มีผลกระทบค่ะ มันเสียหายไปแล้ว ไม่มีอะไรที่ดีกับตัวหนูเลย ไม่มีถูกยกเลิกงาน ช่วงนี้เป็นช่วงหนูพักผ่อนอยู่ หนูเพิ่งกลับจากต่างประเทศค่ะ”

เพิ่งไปพบจิตแพทย์ เพราะนอนไม่หลับเลย ร่ำไห้เกลียดตัวเองทำไมถึงเชื่อเพื่อน
ใจบัว : “เพิ่งไปพบจิตแพทย์มา เพิ่งไปรับยามา เพราะว่าหนูนอนไม่หลับเลย เหมือนแพนิคไปแล้ว ตอนเหตุการณ์เกิดแรกๆ เหมือนหนูร้องไห้ รู้สึกไม่โทษใคร โทษตัวเองว่าทำไมไม่กลับบ้าน (ร้องไห้) ทำไมถึงไปเชื่อ เกลียดตัวเองไปช่วงนึง (ร้องไห้) แต่พอหนูได้คุยกับเพื่อน กับพ่อกับแม่ พ่อบอกว่ายูจะแต่งตัวยังไงก็ได้ ใช้ชีวิตยังไงก็ได้ แต่เขาไม่สมควรมาทำให้ชีวิตยูเป็นแบบนี้ ต่อให้หนูอยู่ที่ไหนเขาก็ไม่ควรมาลวนลามหนู มันไม่ได้ผิดที่หนูค่ะ หลังจากนี้ก็คงขยาดไปเลยค่ะ ยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดค่ะ เพราะหนูไม่เห็นในส่วนความพยายามในการออกมารับผิดชอบกับเขาเลย หนูไม่เห็นอะไรตรงนี้เลย”

ทนาย : “ก็มีผู้ใหญ่วงการตร.โทรศัพท์มาสอบถามว่าเรื่องราวเป็นยังไง แล้วบอกว่าเรื่องนี้ต้องดำเนินการให้ถึงที่สุด ตร.จะเอาเรื่องทุกมิติ ถ้ามีการกระทำความผิดในส่วนไหน มิหลังตร. คนนี้ ทราบว่าเป็นพนักงานสอบสวนอยู่บางพลัด ก่อนหน้านี้เขาอยู่ทองหล่อมาก่อน ส่วนพฤติกรรมก่อนหน้านี้ไม่ทราบว่าเขาเคยทำแบบนี้มาก่อนหรือเปล่า”

ทนายสงสัยทำไมเปลี่ยนแผนกะทันหัน ไม่ให้ความร่วมมือกับตร.
ทนาย : “ตร.ออกหมายเรียกไปแล้ว ถ้าไม่มาสองครั้งตร.ก็มีสิทธิ์ออกหมายจับ ผมสงสัยแน่นอน อยู่ๆ ไปกินข้าวแล้วเปลี่ยนแผนกะทันหัน แล้วน้องก็นั่งไปด้วย พอตื่นเช้ามาไม่อยู่แล้ว และไม่ยอมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตร. ประสบการณ์เป็นทนายความมา เราก็รู้สึกเอะใจแล้วล่ะว่าเป็นอะไรหรือเปล่า ต้องให้เจ้าหน้าที่ตร.สืบสวนสอบสวนต่อไปว่าทำคนเดียว หรือมีนกต่อ หรือมีคนร่วมกระทำความผิดด้วย เบื้องต้นยังเป็นคดีอนาจารอย่างเดียว แล้วก็ต่อหน้าธารกำนัลด้วย ซึ่งเป็นความผิดอันยอมความไม่ได้ ส่วนบ้านที่เกิดเหตุ เป็นบ้านคนอื่น ส่วนเจ้าของบ้านไม่ยอมมาให้การด้วย ตร.เรียกไปแล้ว เขาไปต่างจังหวัด ไปพร้อมกับเพื่อนเขานี่แหละครับ ถ้ามีการสมคบกันหลายๆ คน ก็อาจเป็นซ่องโจรได้ ถ้ามีการตั้งใจทำมาก่อน”

ใจบัว : “เพื่อนเรากับเจ้าของบ้านเป็นเพื่อนกันค่ะ บัวไม่เคยรู้จัก ไม่เคยรู้ภูมิหลัง ไม่มีใครที่รู้จักเขาเลย กับเพื่อนหลังเกิดคดีความบัวก็ไม่อยากคุยแล้ว คนที่เราตื่นมาเจอเขานอนอยู่ เขาก็มาเป็นพยานให้เรา เขาก็ขอโทษเรา พยานคนนี้เขาไปพร้อมบัว ไปกับบัวค่ะ เขาไม่ได้รู้จักอะไรกับทางฝั่งโน้น ส่วนคนที่พาเราไป เราไม่ให้อภัยค่ะ เขาเป็นเพื่อนผู้ชายที่รู้จักกันมานาน เขาก็รู้จักกับตร. เราคิดว่าเขาน่าจะสนิทกันนะคะ ในความคิดหนู เพื่อนที่ชวนไป ทำธุรกิจอะไร บัวไม่ทราบเลยค่ะ เขาทำหลายอย่าง แต่ไม่อยากไปเจาะจงเขา ไม่ขอพูดถึง เขาไม่ได้ทำงานในวงการบันเทิงค่ะ”

ลั่นยอมรับไม่ได้ วอนทุกคนที่โดนอย่าอาย อย่าทำให้กลายเป็นเรื่องปกติ
ใจบัว : “ก็ขอฝากนะคะ ไม่ว่าใคร เพศไหนที่เจอเหตุการณ์นี้ ที่เข้าข่ายอนาจาร อย่าอาย ไม่ต้องอาย ไม่ว่าคนทำเราเขาจะเป็นใคร จะเป็นตร.หรือใครก็ตาม เรามีสิทธิ์รักษาสิทธิ์ในร่างกายเรา เรามีสิทธิ์เรียกร้อง เรามีสิทธิ์เอาผิดคนที่มาล่วงเกินเรา เราไม่จำเป็นต้องอายเลยค่ะ ตอนนี้มีผู้หญิงหลายคนที่โดนแบบบัว แต่เขาไม่กล้าเพราะรู้สึกว่าน่าอาย บัวคิดว่าต้องกล้า ไม่งั้นเรื่องนี้ก็จะกลายเป็นเรื่องปกติ เราไม่สามารถมองเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติในสังคมได้ เรายอมรับไม่ได้ค่ะ”











กำลังโหลดความคิดเห็น