เปิดคลิป “ปราง” เคยขอเลิก “โต้ง ทูพี” เหตุเพราะเวลาไม่ตรงกัน จนยากจะปรับตัว แม้จะรักมากแค่ไหน แต่ถ้าต้องอดทนก็ไม่ไหว พร้อมเหตุการณ์โป๊ะแตก! เจอกันโดยไม่ได้นัดหมาย กว่าจะกลับมาคบกันเป็นแฟนอีกที ก็รอนานกว่า 2 ปี ยอมรับกว่าจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม ก็ยังมีกังวลกลัวประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย
ยังคงคลุมเครืออยู่ว่าไม่รู้แล้วสรุปว่าความสัมพันธ์ของ “ปราง กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล” กับแรปเปอร์หนุ่ม “โต้ง Twopee” ว่าสรุปแล้วยังไงกันแน่! เพราะนอกจากทั้งคู่ยังไม่ออกมาเคลียร์ความชัดเจนให้แฟนๆ ได้สบายใจ แต่ก็มีชาวเน็ตเรียกร้องอยากเห็นภาพคู่ของทั้งสองคน แต่หากย้อนกลับไปถึงความสัมพันธ์ของคู่นี้ จากรายการ “มารีฝากไว้ให้คิด” ซึ่งพิธีกรคือ “มารี เบรินเนอร์” ที่ได้เปิดใจ “สาวปราง” ถึงความสัมพันธ์ว่าครั้งนึงเคยบอกเลิก “หนุ่มโต้ง” เหตุเพราะเวลาไม่ตรงกัน จนยากจะปรับตัว โดยเทปนี้ได้ออกอากาศไปวันที่ 1 มิ.ย. 2564 ทางช่อง One Playground
“คือต้องบอกก่อนว่าไลฟ์สไตล์ปรางกับโต้งที่แตกต่างกันมาก อันนี้เป็นวงกลมของปราง อันนี้เป็นวงกลมของโต้ง มันก็จะมีจุดที่มันคอลแล็ปกัน แต่มันกลายเป็นว่าเราได้ไปเจอโลกอีกใบนึง ซึ่งเราก็เอ็นจอยที่จะเรียนรู้ แต่เขาเองมาเจอเรา เขาก็จะงงๆ แปลกๆ ไม่เคยเจอ แต่เขาก็เอ็นจอย แต่มันก็ยังมีส่วนอื่น ที่ไม่สามารถคอลแล็ปกันได้จริงๆ เราก็รู้สึกว่ามันยังมีส่วนอื่นที่เราสองคนยังแตกต่างกันมาก
ซึ่งสิ่งที่ต่างกันมากที่สุดคือเรื่องของเวลา บางทีเขาเป็นคนใช้ชีวิตกลางคืนมากๆ 4 ทุ่มเขาเพิ่งออกจากบ้านเอง ไปทำเพลง ไปทำงาน ไปร้องเพลง แต่ 4 ทุ่มเราเองต้องกลับบ้านแล้ว และ 8 โมงเช้าเราต้องตื่นไปทำงาน ไปถ่ายละคร แต่เขาตื่นประมาณ 3-4 โมง แล้วเราก็พยายามที่อยากจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันให้มากที่สุด แต่มันก็ลำบาก แค่หาเวลามาเจอกันมันก็ยากแล้ว มันจะเป็นความเหนื่อยขึ้นมาเอง ว่าทำไมต้องพยายามขนาดนี้ เมื่อไรที่เราต้องใช้ความพยายามมากเกินไป เราจะรู้สึกท้อ ต่อให้เรามีความรักมากแค่ไหนก็ตาม
แต่ตอนนั้นเรารู้สึกว่าเราไม่ไหวแล้ว เป็นช่วงที่ทำงานเยอะ เรามีหลายอย่างที่ต้องโฟกัส จริงๆ ปรางเป็นคนที่มีความฝันเยอะ เกี่ยวกับครอบครัว อยากซื้อบ้าน อยากพาครอบครัวไปเที่ยวเมืองนอก และตอนนั้นมันยังทำอะไรไม่ได้สักอย่างเลย ก็เลยรู้สึกว่า ถ้าเรายังมานั่งแบ่งเวลาไปดูแลแฟนด้วย ต้องมานั่งปรับตัวกันอีก ก็เลยรู้สึกว่าเราเบรกกันดีกว่า ปรางว่าเรื่องความสัมพันธ์มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน บางทีมานั่งพูดแบบนี้ มันค่อยข้างยากนะ
วันที่บอกเลิกเขา ก็คือวันนั้นก็เหมือนเป็นวันที่เจอกันปกติ ก็ยังโทร.คุยกันปกติ แล้วเราก็เริ่มอธิบายความรู้สึก แล้วเขาก็เหมือนตกใจ ว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งพอมาถึงวันนี้ ปรางก็เข้าใจได้ ก็รู้สึกผิดเหมือนกัน แต่ตอนนั้นที่พูดไปก็หวังว่าเขาจะเข้าใจ แต่นี่ก็อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ 2 ปีที่เลิกกันไป ก็เลยทำให้ 2 ปีที่ไม่ได้เป็นเพื่อนกัน หมายถึงว่าหายไปเลย
ซึ่งก็ชอบมีคนถามว่าไม่เจอกันเลยเหรอ เป็นไปได้ยังไงวงการมันก็แคบนะ ก็บอกว่าทำไมจะไม่เจอ เจอบ่อยด้วย แต่เจอแบบผ่านๆ ซึ่งมีครั้งนึงเป็นครั้งที่ปรางรู้สึกผิดมาก ปรางว่ามันเป็นครั้งที่ทำให้เรารู้สึกว่าน่าจะกลับมาเป็นเพื่อนกันได้แล้ว ไม่น่าจะเป็นแบบนี้ มันแย่มาก ก็คือที่ทองหล่อ กำลังจะเดินๆ เล่นมือถือ พอเงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นผู้ชายคนนึงเดินออกมาจากร้าน เราก็ตกใจ เพราะเราอยู่คนเดียว แล้วไม่รู้ว่าตกใจอะไรด้วย เพราะผ่านมาแล้วเกือบ 2 ปีแล้ว เขาไม่เห็นเรา เขาก็เดินผ่านไปอย่างนี้ เราก็แบบจะทำยังไงดี แล้วพอหันไปข้างๆ มันมีพุ่มไม้อยู่ ก็เลยเอาตัวเข้าไปหลบในพุ่มไม้ (หัวเราะ)
เอาหน้าเข้าไปในพุ่มไม้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะทำไปทำไม แล้วแบบเขาก็น่าจะไปแล้วแหละ เขาคงไม่เห็นหรอก ก็ก้มๆ แบบหลบๆ แล้วก็หันกลับมา โต้งยืนมองเราอยู่(หัวเราะ) หน้าเราแบบเหวอๆ ซึ่งไม่รู้จะทำไงต่อ ก็เลยหยิบมือถือขึ้นมาแล้วโทรหาเพื่อน แล้วเขาก็เดินข้ามถนนไป
เราเลยคิดว่าถ้าเราโดนแบบนี้ เราคงแย่มาก เราก็เลยส่งข้อความไปบอกว่า เมื่อกี้ขอโทษจริงๆ มันตกใจ เขาก็เลยบอกว่าไม่เป็นไร เขาก็ไม่ได้เข้าไปทักเหมือนกัน มันก็เป็นเหมือนไอเดียที่เราเริ่มคิดว่าคนอื่นเขาเลิกกัน เราก็เห็นหลายคู่ที่เขาเลิกกันและก็กลับมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ซึ่งมันก็เป็นเจตนาที่เราอยากจะเป็นอยู่แล้ว ก็เลยเป็นเราที่เริ่มคุยกับเขาก่อน ประมาณว่าเออ..จริงๆ มันนานมากแล้วนะ เราควรจะเป็นเพื่อนกันได้แล้ว เราบอกว่าเราคิดว่าเราโอเคแล้ว ไม่อยากให้มีเหตุการณ์แบบวันนี้เกิดขึ้น เขาก็บอกว่าโอเคได้ ไว้วันไหนกินข้าวกันไหม แต่เราก็ยังไม่ไปอยู่ดี เพราะเราก็อยากจะรักษาระยะห่างไว้ก่อน ผ่านไปอีก 1 เดือน เขาก็ถามว่าอยากเป็นเพื่อนกันจริงเหรอ ไม่เห็นชวนไปกินข้าวเลย วันไหนไม่เห็นบอกเลย ก็เลยไป
พอเจอกันก็ได้คุยกัน 5-6 ชม. น่าจะได้ ได้เคลียร์กัน แต่ก็ไม่ใช่ว่าตกลงจะกลับมาเป็นแฟนกันเลยนะ ก็คุยกันอีกเป็นปีเลย แล้วตอนที่โต้งขอรอบ 2 โต้งก็พูดอีก ว่าเราเป็นแฟนกันได้ยังเนี่ย ก็ตอบกลับไปว่า อืม เหมือนเดิม การกลับมามันไม่ง่ายเลย กลัวจะซ้ำรอยเดิม อะไรนิดนึงเราก็จะคิดเยอะ เดี๋ยวเหมือนตอนนั้นอีกแน่เลย แต่ก็ต้องขอบคุณเขาด้วยที่เขาช่วยเรา พอเราเริ่มรู้สึก เขาก็จะเหมือนพยายามพูดอธิบาย ว่ามันไม่ใช่อย่างที่คิดนะ เพื่อให้เรามั่นใจ ก็โชคดีที่เขาเปลี่ยนได้ แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนทุกอย่างหรอก อย่างเรื่องตื่นเช้า มันเปลี่ยนไม่ได้หรอก ทุกวันนี้ยังเป็นปรางที่ตื่นเช้า แล้วโต้งเขาก็ยังทำงานเหมือนเดิมที่ตื่นสาย ก็เลยทำไงรู้ป่ะ วันไหนที่จะไปกินข้าวกัน แล้วปรางต้องตื่นมาทำงานตั้งแต่เช้า ปรางก็จะกินกาแฟตอน 6 โมงเย็น (หัวเราะ) อันนี้เราก็ปรับตัวเข้าหาเขา ปกติประมาณเที่ยงคืนก็หลับแล้ว ก็เลยเป็นทริคใหม่
ซึ่งการกลับมาคบกันครั้งนี้ เราสัมผัสได้ว่าแม่เป็นห่วงเรามาก แม่ทุกคนก็คงรู้สึกแบบนี้ ถ้าเรากลับไปคบกับคนเดิม แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเลย ไม่ได้มานั่งอธิบายด้วยซ้ำ ว่าโต้งเปลี่ยนไปแล้วนะคะ แต่ก็แค่บอกว่าขอลองดูแล้วกัน ถ้าจะเสียใจ ก็เดี๋ยวจะเป็นเราเองที่รับผิดชอบความรู้สึกนี้ ก็โชคดีที่แม่เข้าใจ และปีนึงที่กลับไปศึกษากับโต้งใหม่ ไม่ได้บอกใครเลย คบกันแบบแอบ และคนเริ่มมารู้ว่าตอนที่เราไปภูเก็ด และใส่หมวก ซึ่งชาวเน็ตจำได้ว่านี่คือหมวกโต้ง โอเคเปิดก็ได้ (หัวเราะ)”
พิธีกรถามว่านี่คนสุดท้ายหรือเปล่า?
“บอกอยู่ตลอดว่าแต่งกับคนนี้แหละ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ ปรางยังปล่อยวางเรื่องที่บ้านไม่ได้ เพราะเรายังเป็นห่วงเรื่องที่บ้าน เราก็ดูแลมาตลอด และตอนนี้จะให้มูฟออกมา เรายังทำใจไม่ได้”
