“นุ๊ก สุทธิดา” เผยคืบหน้าคดีฟ้องผู้เช่าบ้าน คู่กรณีชดใช้แค่หลักแสนสองแสน ลั่นทำร้ายผิดคน ถึงราคานี้สู้ไม่คุ้มแต่บาทเดียวก็จะเอา ไม่คืนเงินก็ติดคุก พร้อมเผย ไม่อยากให้ “น้องปาแปง” เรียนหมอ กังวลและนอยด์ ลูกเรียนเก่ง ได้เต็มทุกวิชา ส่วนหาคู่ให้ “น้องปิ๊ปโป้” แค่แซว อยากให้มีแฟนเป็นผู้นำ
หลังจากที่เคยมีเรื่องราวฟ้องร้องอดีตผู้เช่าบ้าน ที่ใช้บ้านเป็นสถานที่ย้อมถุงมือยางทางการแพทย์เพื่อนำไปจำหน่ายใหม่ มีการจับกุมลูกจ้างมั่วสุมยาเสพติด ล่าสุด “นุ๊ก สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา” ก็ได้เผยความคืบหน้าในงานร่วมบริจาคเงินเพื่อสร้างศาลเจ้าไต้ฮงกง ป่อเต๊กตึ้ง ว่าศาลตัดสินแล้ว ให้คู่กรณีจ่ายค่าเสียหายหลักแสนสองแสน ลั่นต่อสู้ในราคานี้ไม่คุ้ม แต่ก็จะสู้ บาทเดียวก็จะเอา พร้อมแจงกรณี “น้องปาแปง” อยากเรียนหมอ ทำไมถึงนอยด์
“คดีฟ้องใช่ไหมคะ ศาลตัดสินแล้ว แค่อาจจะไม่ได้จำนวนเยอะมาก มันก็แค่หลักแสนสองแสน ไม่ได้เยอะเท่ากับสิ่งที่เราสูญเสียไป แต่เราก็คิดว่ายังไงเราก็ต่อสู้ให้ถึงที่สุด ตอนนี้มันก็เข้าสู่กระบวนการที่จะต้องเรียกมาไกล่เกลี่ย แต่เราได้สืบทราบมา ว่ามีการย้ายของ ก็เลยไปแจ้งความซ้ำอีกทีหนึ่ง คือเราชนะคดีเขาต้องจ่ายเงินเรา แต่เขาได้มีการยักย้ายทรัพย์สิน ตั้งใจจะโกงเจ้าหนี้ แต่ว่าอันนี้เราก็ต้องมาคุยกันอีกที เพราะเป็นแค่การแจ้งความเฉยๆ เพราะว่ามันมีมูล แค่เราก็ต้องมาสืบพยานอีกที ว่าเขามีเจตนาจริงๆ หรือเปล่า
รู้สึกว่าหมายเรียกครั้งที่ 2 กำลังออก แต่ครั้งแรกก็ยังไม่มานะ ครั้งที่สองก็เดี๋ยวรอดู เพราะถ้าเรียก 2 ครั้งก็จะเป็นหมายจับ ก็อยากที่บอกว่าเรื่องนี้รู้อยู่แล้วว่ามันยาวมาก แล้วมีหลายคนติดต่อนุ๊กมาว่าโดนแบบนี้แล้วก็ปล่อยไป เพราะการที่เราจะเสียเวลา เสียสติ แล้วก็เสียเงินทอง เพื่อที่จะต่อสู้กับคนแบบนี้ ในราคานี้ มันไม่มีใครคุ้ม แต่นุ๊กรู้สึกว่าถ้านุ๊กไม่ทำ จะปล่อยเขาไปแบบนี้ เขาก็จะไปทำกับคนอื่นอีก เราควรจะเรียกร้องความเป็นธรรม”
ลั่นทำร้ายผิดคน บาทเดียวก็จะเอา ถ้าไม่คืนก็ติดคุก
“กระบวนการพวกนี้ ก็ไม่รู้ว่าเราจะได้ถึงตามจำนวนนั้นอีกหรือเปล่า แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ เราก็สู้ ฝากบอกไว้แล้วกันนะคะ ว่าเขาทำร้ายผิดคนแล้ว บาทเดียวก็เอาถ้าไม่คืนก็ติดคุก แค่นั้นเองค่ะ เอาจริงค่ะ คือเขาทำเป็นหายไปเลย ตำรวจออกกมายเรียกก็ยังนิ่งอยู่ค่ะ ซึ่งก็ไม่เป็นไรค่ะ ตามกระบวนการเลย รู้ว่าต่อสู้แบบนี้มันนานมาก อย่างที่บอกเจ้าทุกข์คนอื่นเขารู้เขาถึงไม่สู้เพื่อเงินหลักแสน แค่เราคิดว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องเงิน มันคือการที่จะหยุดคนคนหนึ่งให้เลิกทำอะไรแบบนี้กับคนอื่น มันเสียหายทั้งทรัพย์สินทั้งจิตใจ เขาควรจะได้รับการชดใช้บ้าง ไม่ใช่ว่าทุกวันนี้ก็ยังใช้ชีวิตแบบมีความสุขปกติ ประกอบธุรกิจอะไรแบบนี้เหมือนเดิม ก็คืออีกยาวไกล แต่ยังไงก็จะสู้ค่ะ ยังไงก็ต้องชำระเราค่ะ”
ปล่อยให้เช่าในแบบที่เป็นกันเอง เป็นสถานดูแลผู้ป่วย ได้บุญดีกว่าได้เงิน
“ก็ไม่ได้ปล่อยเช่าสักทีเดียวค่ะ ต้องบอกว่าเป็นรุ่นพี่ที่รู้จักกัน เขามาทำเป็นสถานดูแลผู้ป่วย ซึ่งเราก็ถือว่าเราได้บุญไปด้วย แล้วก็มีคนมาอยู่ มันก็ไม่ถึงกับเป็นค่าเช่าค่ะ เป็นเหมือนช่วยๆ กัน เขาก็มาดูแลบ้านให้เรา เราก็ได้บุญในส่วนที่มีคนแก่มาอยู่ที่บ้านแบบนี้ค่ะ เป็นการปล่อยเช่าในราคาที่เป็นกันเองเป็นการแบบช่วยกันมากกว่า ซึ่งเราก็รู้สึกว่าอย่างนี้ก็สบายใจกว่า เรารู้จักกันในระดับหนึ่ง แล้ววิธีการทำงาน การพูดเรารู้สึกว่างานที่ทำมันก็เป็นประโยชน์กับสังคม เราเลยรู้สึกว่าเอาแบบนี้เราก็สบายใจกว่า ได้บุญดีกว่าได้เงินคือเป็นสถานที่ดูแลคนแก่ อาจจะได้ใช้บริการเร็วๆ นี้ (หัวเราะ) อันนี้เราสกรีนแล้วเป็นคนดีแน่นอน ดูจากการดูแลคนสูงอายุแล้ว เขาดูแลดี และเราก็คุยหมด จะเอาคนแก่มามดขึ้น หนอนขึ้นไม่เอานะคะ (หัวเราะ)
อย่างที่บอกว่าเราไม่ได้ปล่อยเช่าแบบมีค่าเช่า เราเหมือนแลกเปลี่ยนกัน เขาก็ไปรีโนเวตเท่าที่เขาต้องการ แต่บ้านหลังนั้นเฉพาะแค่ที่เราต้องทำความสะอาดวันเดียวก็ไม่จบ ต้องประมาณ 3 วันเป็นอย่างต่ำ แล้วราคาก็เป็นหลักหมื่นอัปที่จะทำความสะอาดพวกนี้ แต่ก่อนที่เขาจะเข้ามานุ๊กก็ซ่อมไปบางส่วน เพราะมีบางส่วนที่มันแย่มาก กับรุ่นพี่คืออยากเรียกว่าเก็บค่าเช่าเลย เราก็ช่วยๆ กัน คือดูจากวิธีการจ่ายค่าน้ำค่าไฟ เขาทำเป็นระบบเลย มันตรงเวลาเป๊ะมาก ไม่เหมือนคนอื่นๆ ที่เราต้องนั่งแบบภาระมาทวง แล้วค่าไฟมันก็สมเหตุผล”
กังวล “น้องปาแปง” จะสอบเทียบเข้าเรียนหมอ อาจเพราะห่วงแม่ป่วย
“อาจจะเพราะแม่ป่วยบ่อยมั้งคะ นุ๊กก็มีไม่ทราบ แต่ก็มีความกังวลเล็กๆ น้อย เพราะการที่ลูกจะเรียนหมอ มันเหมือนพ่อแม่ต้องปลูกฝังเรื่องเรียนมาระดับหนึ่งเลย แต่นุ๊กไม่เคยไปบอกลูกให้ตั้งใจเรียน มีแต่เน้นกิจกรรม เราก็ไม่รู้ว่าวันหนึ่งลูกเราจะมีความอยากที่จะมาเรียนด้านนี้ แล้วเขาก็เพิ่งเปลี่ยนได้ปีนี้เอง อยู่ๆ ก็เปลี่ยน คือเขาเป็นเด็กที่ถ้าเขาคิดว่าอะไรที่เขาควรทำ เขาก็จะทำๆ ไม่มีปรึกษาใครทั้งนั้น จะทำเลย อย่างมากเขาก็จะคุยกับครู แล้วก็พยายามสอบ แต่คนรอบข้างเขาไม่มีใครสนับสนุนเลย เพราะว่ากลัวไม่อยากให้เขาเครียด แต่คุณครูบอกว่าน้องแอบอ่านหนังสือเอง
คือตอนนี้น้องอายุ 16 เขาสอบเทียบจบม.6 แล้วอีกไม่กี่เดือนก็น่าจะจบม.6 แล้วก็ทำคะแนนสอบเข้าปริญญาตรี เลือกคณะเกี่ยวกับหมอ ซึ่งคะแนนสอบเทียบเนี่ยก็เต็มตลอด จริงๆ ไม่เคยเรียนเก่งมาก่อนนะคะ อยู่ๆ ก็มาพุ่งเลย คือเขารู้ตัวว่าเขาอยากเป็นอะไร เขาก็ตั้งใจเรียนขึ้นมาเลย ครูเองก็ช็อกค่ะ เพราะส่วนมากผ่าน 80 เปอร์เซ็นต์ก็เก่งแล้ว แต่น้องทำได้เต็มทุกวิชา แม่ก็ตกใจแล้วก็นอยด์นิดหนึ่ง”
รับไม่อยากให้ลูกเรียนหมอ อยากให้คิดให้ถี่ถ้วน
“ไม่อยากค่ะ คือนุ๊กกำลังจะบอกว่า ถ้าใครตัดสินใจทำอะไรด้วยความรัก มันก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าเราตัดสินใจเลือกเพราะเหตุผลอื่นมาซัปพอร์ต ก็อยากให้คิดให้ถี่ถ้วนนิดหนึ่ง คือชีวิตคนเรามันสั้นมาก เชื่อว่าทุกอาชีพมันมีเกียรติหมดแหละ ถ้าเรารักในอาชีพเรา แล้วมันจำเป็นมากที่จะต้องมีความสุขก่อนเงินทอง ก็กลัวว่าระหว่างเรียนจะเหนื่อยไหม จะมีความสุขไหม ถ้าชอบก็ทำ แต่ถ้าเราไม่ได้ชอบเต็มร้อย ลองดูอาจจะมีด้านอื่นหรือเปล่า แต่คือนุ๊กรู้ว่าเขาตัดสินใจเพราะเหตุผลอะไร คือปาแปงคิดเยอะแต่พูดน้อย เขาคงมองว่าชีวิตเขาต้องการอะไร แล้วอะไรที่จะพาให้เขาไปในสิ่งที่เขาต้องการได้”
ประกาศหาคนมาดูแล “น้องปิ๊ปโป้” แค่แซว ถ้ามีแฟนเป็นผู้นำได้จะดีมาก
“ก็แซวเขา เพราะเขาขี้กลัว ถ้าเขามีแฟนเป็นผู้นำได้ ก็จะดีมากเลย ตอนนี้แม่เริ่มทำใจได้แล้วค่ะ จากเมื่อก่อนที่นึกไม่ออกว่าลูกมีแฟนต้องทำตัวยังไง แต่พอเราได้เรียนรู้แล้ว ว่าลูกมีแฟนเหมือนเราได้มีลูกสาวเพิ่มมาคนหนึ่ง เราก็รู้สึกว่ามันดีจังเลย แต่ตอนนี้ยังไม่มีค่ะ แต่จะเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว อาจจะเริ่มมีแฟนตอนเข้ามหาลัยนี้แหละค่ะ”
