“ณิชา ณัฏฐณิชา” สะใจ ปิดกล้องละคร ย้อมผมเป็นสีทอง ไม่ใช่วิก ทำใจไว้แล้วยังไงก็พัง สถานะ “โตโน่” ไม่ต้องก็ได้ แต่ถ้าจะมองเป็นแฟนก็ไม่ติด เขินฝ่ายชายจูงมือสุดสวีต ห่วงว่ายน้ำข้ามโขง แต่เชื่อว่าจะปลอดภัย
แปลกตาไปไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับ “ณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์” ที่เปลี่ยนลุคลงทุนย้อมผมสีทอง โดยเจ้าตัวบอกละครจบ ก็อยากทำเพื่อความสะใจ
“ไม่ใช่วิกค่ะ แต่หลายคนคิดว่าวิก นานๆ ทีจะได้พักยาวๆ เลยเปลี่ยนสีผมนิดนึง อยากทำมานานมากๆ แต่ติดละครที่ต้องใช้ผมอยู่พอปิดเลยลองทำเปลี่ยนสีสัน เลือกทำสีนี้คือรู้สึกว่ามันสะใจดี ให้จากดำเป็นขาวไปเลย ก็ครั้งแรกเลยค่ะ เปลี่ยนแล้วค่อนข้างแสบหัวนิดนึง (หัวเราะ) ส่วนที่บางคนเสียดายผม ก็ทำใจไว้แล้ว ยังไงมันก็พังแต่เรารู้สึกว่าของเราก็โอเคอยู่
พี่โน่เห็นแล้วก็โห ขนาดนี้เลยเหรอ ก็บอกแค่วันนี้ไปทำสีผม ตอนส่งรูปให้ดูเขาก็ขนาดนี้เลยเหรอ เขาก็บอกเปลี่ยนไปเลย ดูเก๋ดี เขาชอบไหมไม่รู้ ต้องถามเขาค่ะ ส่วนจะอยู่กับสีนี้นานไหม ยังไม่รู้ ต้องดูเรื่องต่อไปถ้าจะเปิดกล้องต้องกลับไปสีไหน แต่ช่วงนี้ยังไม่ต้องถ่ายเร็วๆ นี้ อยากเปลี่ยนเป็นสีส้ม เหมือนพี่แจน ใบบุญ ที่เป็นนางแบบ สวย อยากทำ”
เขินทำตัวไม่ถูก “โตโน่” จูงมือเหมือนกลัวหาย
“ไม่กลัวหายค่ะ (หัวเราะ) กินข้าวปกติ จูงมือปกติค่ะ ก็เป็นปกติ เขิน (หัวเราะ) ก็ไปกินข้าวเฉยๆ แต่วันนั้นพี่โน่ให้พี่ต้องตา (น้องสาวโตโน่) ถ่ายรูปไว้แล้วเขาก็ลงเฉยๆ ถามว่าจับมือกันตลอดไหม มันก็ไม่ตลอดขนาดนั้น (หัวเราะ) คนแซวก็เขินนะคะ ตอนนี้ทำตัวไม่ถูก ก็อาจจะเป็นไปได้ที่กลัวณิชาจะหลงค่ะ (หัวเราะ) (หลงทางหรือหลงรัก?) เฮ้ย เป็นเอ๋อดีกว่า (หัวเราะ)”
สั่งอาหารจนทานไม่หมด ถูก “โตโน่” บ่น
“เพราะว่ามันหิวค่ะ มันน่าทานไปหมด ก็สั่งไปก่อน คิดว่าคงมาไม่ใหญ่มากแต่พอมาใหญ่ปุ๊บก็โดนบ่นหนัก เขาไม่งอน เขาก็ไม่ได้บ่นจริงจัง ดุเราขนาดนั้น เขาก็แค่กินให้หมดเดียวนี้นะ บางทีหนูกินไม่หมดเขาก็ช่วยกิน”
เผยโตโน่มีแพลนไปว่ายน้ำที่แม่น้ำโขง ขอให้อีกฝ่ายสู้ๆ
“เดี๋ยวรอดูก่อน แต่จริงๆ ก็อยากค่ะ อยากเป็นกำลังใจ อะไรที่เป็นกำลังใจให้เขาได้ก็อยากทำ เราห่วงเขาเหมือนเดิมเลย แต่ก็รู้สึกไว้ใจวางใจในทีมงานที่คอยช่วยดูแล แล้วก็รู้ว่าสิ่งที่เขาทำทำเพื่ออะไร เราก็รู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่เราอยากสนับสนุนเขาด้วย
ก็ให้กำลังใจ สู้ๆ นะ (หัวเราะ) เพราะว่าก็ไม่รู้ว่าจะซัปพอร์ตยังไงเพราะเขาต้องฝึกว่ายน้ำด้วยตัวของเขาเองด้วย ก็เป็นกำลังใจอย่างเดียวจริงๆ ตอนนี้เขาเริ่มฟิตร่างกาย เพื่อฟื้นฟูให้กลับมาแข็งแรงแต่ตอนนี้เขาก็ยังมีถ่ายละครอยู่ก็อาจจะไม่ได้กลับไปซ้อมได้เต็มที่ขนาดนั้น ต้องรอละครปิดอาจจะลุยซ้อม เราเป็นฝ่ายเสบียง ฝ่ายดูแล เอ็นเตอร์เทนอะไรที่ทำได้ก็พยายามได้”
กังวลเรื่องความปลอดภัย
“ก็กังวลอยู่ค่ะแต่ว่าทางทีมเขาก็ปรึกษากันแล้วว่าต้องทำยังไง มีคนที่เชี่ยวชาญตรงนี้มา เราก็วางใจเพราะเขาก็ค่อนข้างเชี่ยวชาญระดับหนึ่ง เรื่องรำเดี๋ยวรอดูก่อนว่ารูปแบบงานเป็นยังไงบ้าง ปต่ ไปแน่นอน”
พาไปมู อยากเจอแฟนคลับ
“ก่อนหน้าโควิดเราจะทำบุญกับแฟนคลับทุกปี พากันไปทำบุญแล้วไม่ได้จัดกันนานมาก ตั้งแต่โควิด พอมีโอกาสก็มาเจอกัน ถามว่าทำไมถึงเป็น #ณิชาพาไปมู ไม่รู้ค่ะ แม่คิด (หัวเราะ) ลูกพาไปทำบุญเพราะรู้สึกอยากเสริมสิ่งดีๆ เป็นกำลังใจให้หลายคน ปกติเรามูน้อยมาก แต่จะไปไหว้ ขอพร ด้านงานแสดงก็มีครูบาอาจารย์อยู่แล้ว ก็ต้องเคารพ”
เรียกแฟนหรือไม่ก็แล้วแต่เลย
“ไม่รู้ มันไม่ได้เป็นการพูดถึง แล้วมันก็เป็นมาเรื่อยๆ สำหรับเราแล้วจะเรียกยังไงก็ได้ แล้วแต่เลย เรียกแฟนได้ไหมก็แล้วแต่เลยค่ะ เวลาแนะนำกับคนก็นี่พี่โน่ค่ะ”
สถานะไม่ต้องก็ได้ แต่ถ้าจะมองเป็นแฟนก็ไม่ติด
“ไม่ต้องสถานะก็ได้มั้ง คือเราไม่ซีเรียสเรื่องนี้จริงๆ คือคนอาจจะคิดว่ากั๊กไหม อันนั้นก็สำหรับเขา แต่คือเราไม่ได้มาฟิกซ์ว่าจะต้องเป็นแบบนี้ต้องเป็นอันนี้ต้องเป็นแบบนี้อะไรอย่างนี้ เรารู้สึกว่าเป็นธรรมชาติ ใครเป็นยังไงก็เป็นแบบนั้น ส่วนถ้าคนมองว่าเราสองคนเป็นแฟนกันก็ไม่ติดค่ะ แล้วแต่เลย เราก็เป็นแบบนี้มาเรื่อยๆ ดูแลกัน ช่วยเหลือกัน ให้กำลังใจกันมันก็เป็นเรื่องดีๆในชีวิตของเรา กี่ปีไม่ได้นับเหมือนกัน”
หวานยังไงก็ยังงั้น
“เป็นตั้งแต่ต้นตอนนี้ก็เป็นแบบนั้นไม่รู้ว่าหวานขึ้นไหม (เสมอต้นเสมอปลาย?) ใช่ค่ะ หวานยังไงก็อย่างนั้น น่ารักค่ะ ถามว่าใครคลั่งรักกว่ากันก็ไม่รู้เพราะเราก็ซัปพอร์ตเท่าๆ กัน ให้กำลังใจเท่าๆ กันดูแลกันไป ไม่ได้มานั่งคิดหรือวัดเรื่องนี้เลย (หัวเราะ) เรียกว่าเราดูแลใส่ใจกันก็พอค่ะ”
เตรียมพักชาร์จแบตที่ต่างประเทศหนึ่งเดือน
“ ไปอังกฤษ ไปหนึ่งเดือน ไปพักผ่อนใช้ชีวิต ไปคนเดียวเลยค่ะ เดินทางคนเดียวบ่อยแต่เป็นครั้งแรกที่ไปอยู่คนเดียว ก็ไปเรียนแล้วหลังจากนั้นก็ไปไหนก็แล้วแต่ ไปเรียนภาษาอะไรแบบนี้
จริงๆอยากไปอยู่แล้วคือรู้สึกว่าชอบเรียนภาษาแล้วก็อยากเที่ยวด้วย พักผ่อนอยากใช้ชีวิตแบบสบายๆ เพราะว่าถ้าอยู่เมืองไทยมีงานมาเราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าอยากรับ แต่พอไปอยู่โน่นได้พักได้ชาร์จแบตให้ตัวเอง ก็พักบ้าง ทำงานมา 9 ปีจะ 10 ปี พักเดือนหนึ่งก็โอเค เราก็คิดไว้สักพัก พอมันมีจังหวะก็ลุย เขาก็โอเคค่ะเราก็คุยกันอยู่แล้วว่าใช้ชีวิตกันให้เต็มที่นะ อยากทำอะไรอยากเป็นอะไรก็ซัปพอร์ตกัน เขาก็เป็นห่วงบอกลูกให้ดูแลตัวเองดีๆ อย่าเบอะบะนะ (หัวเราะ) ก็เลยบอกว่าโอเคเราไปได้นะ เราไม่ได้ห้ามเขาตามไปค่ะแต่เขามีต้องถ่ายละครอยู่แล้ว เราก็จะใช้ชีวิตเต็มที่เลยหนึ่งเดือน ในวันพรุ่งนี้ค่ะ”
