“แอน สิเรียม” เปิดใจเล่นละครคู่ “นนนี่ นนลนีย์” ลูกสาวครั้งแรก ลั่นไม่สอนการแสดง เพราะสอนไม่เป็น ลูกซึ้งแล้วต้องเข้ากองละคร บอกรีเช็กลูกเข้ากองสายไหม นนนี่ติดใจการแสดงถึงขั้นไปเรียนแอ็กติ้งเพิ่ม ทำใจแล้วถูกเปรียบเทียบกับแม่ แอนลั่นเพิ่งเข้าใจศาสตร์การแสดงก็ตอนเล่นเป็นแม่
หลังจากที่ “นนนี่ นนลนีย์ ภักดีดำรงฤทธิ์” เอ่ยปากอยากเล่นละคร ล่าสุดก็สมหวัง เพราะได้มีโอกาสเล่นละครเรื่องเดียวกับแม่เรื่องชายแพศยา ทางช่อง 3 โดยงานนี้ แอน สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์ เผยว่าไม่ต้องสอน เพราะสอนไม่เป็น
แอน : “ครั้งแรก เป็นเรื่องแรกเลยค่ะ แต่เข้าฉากด้วยกันไม่เยอะ ในเรื่องเราไม่มีความผูกพันอะไรกันเลย(หัวเราะ)”
นนนี่ : “ถามว่าทำไมตัดสินใจเล่นเรื่องนี้ เราเห็นคุณแม่เล่นละครมาตั้งแต่เด็กแล้ว ก็เลยอยากจะลองเล่นบ้างว่ามันเป็นยังไง เป็นประสบการณ์ใหม่ๆ เรื่องนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เล่นละครเลย ก็มีถามเทคนิคจากคุณแม่ว่าอันนี้เล่นยังไงทำยังไง เพราะว่าเราค่อนข้างใหม่ แต่ก็ได้ไปเรียนการแสดงเพิ่มเติมด้วยผสมกันไปค่ะ”
แอน : “บทของเขาสำหรับเรื่องแรกก็ถือว่ายากอยู่นะคะ เพราะว่ามันเป็นบทที่ท้าทาย คือแอนไม่ได้ให้คำแนะนำอะไรมาก ให้เขาเรียนกับครูสอนการแสดงไปเลยดีกว่า ตอนยุคแอนมันก็จะเป็นนักแสดงอีกรุ่นหนึ่ง การแสดงเดี๋ยวนี้มันมีเทคนิค มีพัฒนาการ แล้วมีการอธิบายที่แบบซับซ้อนกว่าตอนในยุคของเรา แอนเป็นคนที่สอนคนไม่เป็นด้วย เราก็ยอมรับตรงนี้ เราเข้าใจแต่บางทีการเรียบเรียงและการถ่ายทอดออกไปมันยาก มันก็ต้องให้เป็นครูทางด้านการแสดงดีกว่า แล้วเขามีผู้กำกับฯ คอยดูให้อยู่แล้ว เพราะแอนก็ต้องรับผิดชอบบทของตัวเองด้วยเหมือนกัน(หัวเราะ) เพราะว่าพี่ป๋อ (ณัฐวุฒิ) เขาก็เซียนไง เขาไม่มีการปล่อยใดๆ ทั้งสิ้น เราต้องสู้นิดนึง การต่อบทส่วนตัวที่บ้านไม่มีค่ะ เพราะจริงๆ จะเข้าฉากด้วยกันไม่กี่ฉาก ของน้องจะไปเล่นกับพี่อั๋น (โอลิเวิอร์ พูพาร์ต)”
นนนี่ : “แล้วก็จะอยู่กับทางพระเอกนางเอกมากกว่า”
แอน : “นางเอกคือลูกแอนในเรื่อง น้องพรีม รณิดา”
นนนี่ติดใจ มีโอกาสอยากเล่นอีก
นนนี่ : “ติดใจนะคะ ชอบค่ะ ถ้ามีโอกาสก็อยากเล่นอีก”
แอน : “ถามว่าพร้อมดันเขาไหม อุ้ย โตแล้วค่ะ ไม่ต้องดันแล้ว เขาเดินเองได้ (หัวเราะ) มาเล่นละครก็ซึ้งค่ะ ซึ้งเลย เพราะว่ากองนัด 6 โมงเช้า เวลาคุณผู้ชมดูทางจอมันจะไว”
นนนี่ : “ขั้นตอนมันจะค่อนข้างเยอะกว่าที่เราเห็น”
ถามกองลูกไปสายไหม ลั่นตอนสาวๆ อิทธิฤทธิ์เยอะ บาปกรรมก็ตามสนอง
แอน : "ก็ถามนะว่าลูกไปสายไหม เราเคยเป็นอดีตผู้จัดไงคะ ก็จะเข้าใจว่าการเป็นนักแสดงมันไม่ใช่ว่าเราจะรับผิดชอบหน้าที่การแสดงอย่างเดียว เราต้องมีวินัยด้วย เราต้องมาให้ทันเวลา มันมีความรับผิดชอบหลายสิ่งอย่างที่มันเป็นองค์ประกอบโดยรวมซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ ตอนเราสาวๆ เราก็อิทธิฤทธิ์เยอะเนาะ บาปกรรมก็ตามสนองเราอยู่"
นนนี่ : “คุณแม่รีเช็กก็ไม่กดดันค่ะ เพราะว่าเรามาตรงเวลา แต่จะมีกดดันเรื่องการแสดงนิดหน่อยค่ะ เพราะว่าเป็นเรื่องแรกก็จะตื่นเต้นเป็นธรรมดา เราจะกดดันเรื่องว่าเราทำออกมาได้ดีหรือเปล่า เราจะถ่วงคนอื่นเขาไหม”
กดดันกับชื่อเสียงของคุณแม่
นนนี่ : “กดดันนิดนึงค่ะ แต่ก็ทำเต็มที่ที่สุดแล้วค่ะ”
แอน : “ไม่เกี่ยวเลย เราไม่เปรียบเทียบกันเพราะว่าแต่ละคนจะไม่เหมือนกันด้วยยุคสมัยกาลเวลามันไม่เหมือนกัน”
นนนี่ : “เรื่องเปรียบเทียบมันน่าจะเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ ก็จะเอาคำติชมต่างๆ มาพัฒนาตัวเองต่อไปดีกว่า”
แอนเผย เพิ่งเข้าใจศาสตร์การแสดงลึกๆ ตอนเล่นเป็นแม่
แอน : “เรื่องนี้ยังไม่ได้บอกเลยค่ะ ขอบคุณที่เตือน เรื่องแรกย้อนกลับไป สมัยของแอน ก็ยังไม่ได้เก่งมากเหมือนกัน จริงๆ แอนมาเข้าใจศาสตร์การแสดงลึกๆ ตอนแอนกลับมานี่เอง ที่แอนได้เล่นบทตัวร้ายซึ่งมันหลากหลาย สมัยก่อนแอนเล่นเป็นนางเอกมาตลอด บทแอนก็จะน่ารักคิขุอาโนเนะมาเรื่อยๆ แต่ตัวแอนเองเพิ่งเข้าใจศาสตร์การแสดงแบบลึกซึ้งเข้าถึงจริงๆ ตอนยุคที่แอนกลับมาเล่นบทเป็นแม่นี่เองนะคะ สมัยก่อนเราจะเข้าใจแค่ด้านเดียว แต่เดี๋ยวนี้ละครไทยภาพยนตร์ไทยมันมีการพัฒนาเยอะขึ้น โลกมันแคบลง เราดูหนังฝรั่งหนังหลากหลายชาติ นักแสดงเองก็ต้องพัฒนาตัวเองขึ้นมาด้วย ทุกอย่างต้องเรียนรู้เองค่ะ อาหารเราป้อนเราเคี้ยวแทนไม่ได้”
ไม่กลัวคนมองฝากฝังลูกเข้าวงการ
แอน : “ไม่หรอกค่ะ ในวงการบันเทิงทุกคนก็ต้องฝากฝังกันทั้งนั้นค่ะ(หัวเราะ) เพราะการแสดงมันเป็นประสบการณ์ชีวิตถ้าได้มีโอกาสเข้ามา มันทำให้เราได้เรียนรู้ชีวิตไปอีกแบบหนึ่งด้วย เพราะว่าในยุคนี้สังคมก็ไม่เหมือนยุคเรา สมัยก่อนมันจะใกล้ชิดกัน เดี๋ยวนี้ทุกคนก็เล่นมือถือกันหมดติดต่อกันทางสื่อโซเชียล
เรื่องแรกพี่ปิ่น(ณัฏฐนันท์)ให้โอกาสน้องได้ทดลองดูว่าเป็นไปได้ไหม ได้ทำงานแบบนี้มันถือเป็นโอกาสที่ดี อนาคตต่อไปก็ต้องแล้วแต่เขาว่าจะชอบมากน้อยขนาดไหน”
เป็นนักแสดงอิสระ
นนนี่ : “อิสระค่ะ จะมีสังกัดไหม คงต้องปรึกษาคุณแม่ก่อน อันนี้ยังไม่รู้จริงๆ”
แอน : “เราก็ไม่ได้แนะนำไปถึงขนาดนั้นว่าต้องมีสังกัดไหม ยังไม่ได้มีทาบทามมาค่ะ”
