“มาริโอ้ เมาเร่อ” ยอมรับช่วงงานเยอะๆ ก็มีงอแงบ้าง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะช่วงโควิดที่ผ่านมามีทั้งงานที่ต้องรอ และที่ต้องกลับมาถ่ายใหม่ ทำให้บางทีก็ท้อ บอกไม่ห้ามถ้า “จันจิ” ไปพูดเรื่องความสัมพันธ์กับตนตามรายการต่างๆ รับฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายจีบ แต่ตนเองก็มีใจเหมือนกัน
เป็นพระเอกคนนึงที่งานฮอตตลอดเวลา สำหรับหนุ่ม “มาริโอ้ เมาเร่อ” ที่ตอนนี้งานอีเวนต์เริ่มกลับมาจัดกันได้ ก็จะได้เห็นหน้าหนุ่มคนนี้บ่อยขึ้น ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับว่าดีใจที่งานกลับมารับงานได้เหมือนเดิม แต่ก็บอกว่าบางทีก็มีงอแง เพราะเหนื่อย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ยังไงก็ต้องทำงานอยู่ดี
“แฮปปี้นะครับ ดีใจที่ได้ออกอีเวนต์ครับ ไม่ได้ออกอีเวนต์นานมาก ลืมไปแล้วว่าอีเวนต์เป็นยังไง แฟนคลับยังมาอยู่ครับ ดีใจมาก ถ้ามีงานเข้ามาก็รับหมดแหละครับ เขาติดต่อมาก็รับหมด ก็มีช่วงที่ปล่อยให้ตัวเองว่างบ้างนะครับ บางทีก็มีพักผ่อน เพราะก่อนหน้านี้ก็ถ่ายทั้งหนังและละครตลอดติดกันมายาวเลย ช่วงนี้ก็มีพักบ้าง แต่ก็ยังมีอีเวนต์ ยังมีโปรโมตละครอยู่ครับ แล้วก็มีพรีเซ็นเตอร์อะไรต่างๆ
ผมว่าเราเน้นที่ผลงานเราด้วย อาชีพของเราคือการแสดง ก็จะเป็นเรื่องของการเลือกงานด้วยครับ เพราะพี่โชผู้จัดการของผมก็จะช่วยดูเรื่องการรับงานหรือว่าบทที่มันจะเข้ากับเรา ที่เราสามารถถ่ายทอดออกมาได้ ถามว่าเคยรู้สึกเหนื่อยกับการทำงานบ้างไหม ก็มีนะครับ บางทีก็มีรู้สึกเหนื่อย รู้สึกท้อ แต่ก็คิดว่าเราได้โอกาสที่ดี เราได้ทำงานกับคนที่ดี คนน่ารักทั้งนั้นเลย ก็เลยรู้สึกว่าเราเหนื่อยก็มีคนเหนื่อยไปกับเรา
ก็งอแงประจำครับ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่งอแง คืออย่างช่วงโควิดที่ผ่านมางานมันค่อนข้างหนักเหมือนกัน เพราะว่าเรารอด้วย และต้องกลับมาถ่ายด้วย บางทีมันก็ค่อนข้างยาก แต่ยังไงก็ต้องทำ”
ยอมรับ “จันจิ จันจิรา จันทร์พิทักษ์ชัย” เป็นฝ่ายจีบก่อน แต่ตนก็ตอบข้อความ เพราะมีใจเหมือนกัน
“จันจิไปพูดในรายการว่าเขาเคยกรี๊ดผมในฐานะแฟนคลับ อันนี้ไม่รู้เลยครับ เพราะเวลาเจอเขาก็ไม่ค่อยบอก จะไปบอกตามรายการ ก็เปิดเรื่องความรักมากขึ้นครับ เพราะโอ้ว่ามันก็นานแล้วเหมือนกัน รู้จักกันมาก็ไม่ได้ปิดบังอะไร เขาต้องมาถามก่อนออกไปรายการไหม ก็ไม่นะครับ เป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ได้คิดว่าจะต้องตอบยังไง ก็มีตามดูครับ แต่อันล่าสุดยังไม่ได้ดู แต่เห็นตัวอย่างแล้ว ที่เขาบอกว่าเขาส่งข้อความมาจีบก่อน แต่มันก็อยู่ที่ผมด้วยว่าผมจะตอบหรือเปล่า ซึ่งก็ตอบไป เราก็มีใจ (ยิ้ม)”
เผยละคร คือเธอ เป็นความสุดทุกอย่างตั้งแต่เคยทำมา
“ตอนนี้เรื่องหมอหลวงปิดกล้องแล้วครับ ไวมากครับ ตอนนี้ก็ฝากคือเธอไปก่อนครับ ตอนถ่ายก็หนักมากครับ เพราะก้าวกล้าถือว่าเป็นคาแรกเตอร์ที่โหดมากๆ สำหรับโอ้ และช่วงระยะเวลาของชีวิตของก้าวกล้ามันยาวนานครับ กว่าจะเล่าออกมามันยากมากๆ และเป็นชีวิตที่หนัก ตอนถ่ายก็โหดมากครับ
ผมก็ไม่เข้าใจพี่แอน ทองประสมเหมือนกันว่าทำไมบางฉากต้องเล่นเอง ไม่ใช้สแตนอิน แต่ผมเข้าใจว่าลึกๆ พี่แอนอยากให้ผลงานมันออกมาสมบูรณ์แบบ ซึ่งตอนเราทำเราก็ท้อแหละครับ แต่พอเราไปดูละครจริงๆ ก็หายเหนื่อย ที่ทำไปมันก็คุ้มค่ากับที่สู้กันมา เพราะบางอย่างมันไม่ได้ ถ้าสแตนอินอย่างเดียวอารมณ์มันไม่ได้
ฉากเสี่ยงๆ ที่ต้องเล่นเองเยอะครับ ผมตกทั้งทะเล ตกเขา ตอนที่ทิ้งตัวลงจากเรือลงทะเลก็น่ากลัวมากครับ แต่พอว่ายอยู่ในทะเลคือตกใจ เพราะพอลงตกปุ๊บเรือก็แยกจากเราไปเลย แล้วเราก็ไม่ใช่คนว่ายน้ำแข็ง เพราะตก 2 รอบได้ครับ แต่หลังจากนี้มีฉากที่ต้องทุ่มสุดตัวอีกเยอะเลยครับ ทั้งฉากปะทะคารมกับนางเอก กับพ่อนางเอกด้วย เรื่องนี้สุดในทุกทางครับ ผมยาวสุด โหดสุด คาแรกเตอร์เยอะสุด เลิฟซีนเยอะมากที่สุด”
