มีรายงาน Warner Bros. Discovery เลือกที่จะไม่ฉายหนัง Batgirl ที่ใช้ทุนสร้างเกือบ 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หลังผลตอบรับในรอบฉายทดลองออกมาไม่น่าพอใจอย่างรุนแรง
The Wrap รายงานว่า Warner Bros. Discovery ตัดสินใจที่จะ "ทิ้ง" หนัง Batgirl โดยจะไม่นำออกฉายในโรงภาพยนตร์ และไม่ผลแพร่ทาง HBO Max เพราะผลตอบรับในรอบทดลองฉายออกมาย่ำแย่มากข่าวออกมาว่าหนังที่ยังสร้างไม่เสร็จ "น่าผิดหวังอย่างรุนแรง และดูราคาถูกมาก เมื่อเทียบกับหนังเรื่องอื่น ๆ"
โดยตามข่าว Warner Bros. ตัดสินใจที่จะไม่นำหนังออกเผยแพร่แทน เพื่อหลีกเลี่ยง "ความล้มเหลวอย่างรุนแรง" ที่อาจจะเกิดขึ้นได้
คาดว่า Batgirl ใช้ทุนสร้างไปประมาณ 90 ล้านเหรียญฯ หรือประมาณ 3,257 ล้านบาท
Batgirl ที่จะเล่าเรื่องของ Batgirl ที่ได้ เลสลี เกรซ มาแสดงนำ จะมี เจ.เค. ซิมมอนส์ กลับมารับบทเป็นผู้อำนวยการตำรวจ กอร์ดอน นอกจากนั้นก็ยังจะมี ไมเคิล คีตัน อดีต Batman ในหนังของ ทิม เบอร์ตัน ในยุค 90s กลับมาเป็น Batman หรือ บรูซ เวย์น อีกครั้งด้วย
Batgirl เป็นโปรเจ็คหนังซูเปอร์ฮีโร่ของ DC ที่ตามแผนการจะเป็นหนังที่ฟอร์มขนาดย่อม และใช้ทุนสร้างปานกลาง นอกจากนั้นยังจะมีเนื้อหาเชื่อมโยงกับหนังจากการ์ตูน DC เรื่องอื่น ๆ ซึ่งหากคุณภาพของหนังออกมาย่ำแย่เกินจะรับได้ ก็อาจจะกระทบไปถึงหนังที่อยู่ในจักรวาลภาพยนตร์เดียวกันด้วย และอาจจะเป็นเหตุที่ทำให้ Warner Bros. ตัดสินใจที่จะไม่ฉาย Batgirl ที่ไม่ใช่หนังฟอร์มใหญ่มาก แทนที่จะปล่อยให้ความล้มเหลวของหนังหนังทำให้ภาพกว้างของ DC ต้องเสียหาย
โดยมีข่าวลือว่าโปรเจ็คซีรีส์ Green Lantern ที่วางตัว ฟินน์ วิทท์ร็อก เอาไว้ในบทนำ ก็กำลังสุ่มเสี่ยงจะโดนยกเลิกโปรเจ็คด้วยเช่นเดียวกัน
สถานการณ์ของหนังจากหนังสือการ์ตูน DC ยังคงน่าเป็นห่วง นอกจากปัญหาของ Batgirl แล้ว โปรเจ็ค The Flash ก็กำลังทำให้ผู้บริหารของ Warner Bros. ปวดหัวอย่างหนัก จากพฤติกรรมส่วนตัวของของ เอสรา มิลเลอร์ ที่เป็นนักแสดงนำที่ก่อปัญหาสร้างข่าวฉาวไม่เว้นระยะ
สำหรับหนังจากการ์ตูน DC อีก 2 เรื่องที่มีโปรแกรมเข้าฉาย และดูมีอนาคตไม่มีปัญหาใด ๆ ก็คงจะเป็น Black Adam ที่ เดอะ ร็อก แสดงนำที่จะเข้าฉายในวันที่ 21 ต.ค. นี้ และ Shazam! Fury of the Gods ที่มีกำหนดเข้าฉาย 21 ธ.ค. ส่วน Aquaman and the Lost Kingdomจะเข้าฉายในเดือน มี.ค.ปีหน้า