“สายเลือดสองหัวใจ” ละครที่อัดแน่นไปด้วยเซอร์ไพรส์ บรรจุเนื้อหาที่คาดเดายาก ชวนลุ้น ฉายภาพการทำงานของศูนย์พิสูจน์หลักฐานได้อย่างแจ่มชัด ถ่ายทำ ตัดต่อ “ฉากฝาแฝด” ของ “มิกค์ ทองระย้า” ได้แนบเนียน ไร้ที่ติ “บทละคร” แข็งแรงน่าชื่นชม
นับเป็นละครที่นำเสนอ เพื่อนักดู ที่ชื่นชอบ แนวสืบสวน สอบสวน ที่มีเนื้อหาสลับซับซ้อน มีเงื่อนปม ให้ตามสืบ ตามค้น อย่างแท้จริง สำหรับ สายเลือดสองหัวใจ ผลงานการผลิตจากค่าย ทรัพย์ เอ็นเทอร์เทนเม้นท์
สายเลือดสองหัวใจ จากบทประพันธ์ของ สถาพร สุชาติ บทโทรทัศน์โดยตุณย์ กำกับการแสดงโดย ชัชวาล ศาสวัตกลูน ภายใต้การดูแลการผลิตของ เศรษฐา ศิระฉายา และ พุทธธิดา ศิระฉายา กับการพลิกบทบาทครั้งสำคัญของพระเอกสุดฮอตของช่อง 7HD มิกค์ ทองระย้า ที่จะต้องรับบทฝาแฝด ประกบนางเอกสาว ฐิสา-วริฏฐิสา ลิ้มธรรมมหิศร และนางเอกของใหม่ เจนนี่-ชยิสรา วัฒนะนาวิน
เนื้อเรื่องว่าด้วยเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่าง “พี่” และ “น้อง” ที่ไม่ลงรอยกัน รวมไปถึงความรัก “เพื่อน” ที่ไม่ลงตัว แม้ช่วงต้นเรื่องจะให้ความสำคัญไปที่ความขัดแย้งระหว่างพี่น้อง หรือเรื่องราว “รักสามเส้า” ทว่าไม่มากไปกว่าการเทน้ำหนักให้กับการสืบสวน สืบค้นหาฆาตกรในคดี ซึ่งนับเป็นจุดแข็งของละครเรื่องนี้
การดำเนินเรื่อง ต้องบอกเลยว่า สามารถทำออกมาได้ดี ทำให้ได้เห็นการทำงานของศูนย์พิสูจน์หลักฐาน การสืบคดีของตำรวจ แบบมีขั้นมีตอน การวิเคราะห์เจาะลึก หามูลเหตุ หรือแรงจูงใจในการฆาตกรรมของฆาตกร รวมไปถึงวิธีการหรือรูปแบบการฆ่า อาวุธที่ใช้ เรียกว่ามีความใส่ใจ จริงใจกับการหารายละเอียดต่างๆในการนำเสนอ ซึ่งทั้งหลายเหล่านี้ ที่ผ่านมา เราไม่ค่อยจะได้เห็นในละครไทยมากนัก
สายเลือดสองหัวใจ จึงเป็นการเปิดโลกในการดูละครไทย ด้วยสายตาและความรู้สึกที่ผิดแผกแตกต่างไปจากเดิมมากเลยทีเดียว
หันมามองการแสดง “บทฝาแฝด” ครั้งแรกของ มิกค์ ทองระย้า “ศศิน” หรือ “โจ” ชายหนุ่มหัวร้อน ที่ทำทุกวิถี ทาง ไม่ว่าจะด้วยรูปแบบไหน เพื่อตามล่าหาฆาตกร ขณะที่บท “ตะวันฉาย” หรือ “เจ” ผู้แสนดี และอบอุ่น
มิกค์ พระเอกเบอร์ต้นๆของช่อง 7HD สามารถถ่ายทอดออกมาได้ดีทีเดียว บทดราม่า อารมณ์ สายตาเอาอยู่ แม้น้ำเสียงของทั้งสองคาแรกเตอร์จะฟังแล้วคล้ายๆกัน แต่ท่วงท่า การแสดงออกทางอารมณ์ ของทั้งสองตัวละคร นั่งยันนอนยันได้เลยว่า แสดงเห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน ส่วนฉากการลงพื้นที่กับงานพิสูจน์หลักฐาน นับว่าทำการบ้านมาอย่างดี
การถ่ายทำ ตัดต่อฉากแฝดที่อยู่ในเฟรมเดียวกัน ถือว่าทำได้แนบเนียน สมจริง ไม่มีสะดุด เท่าที่เห็นข้อด้อยของละครเรื่องนี้ น่าจะเป็นการตัดเชื่อมระหว่างฉาก ตัดรวดเร็วจนเกินไป บางครั้งอารมณ์ยังค้างคาอยู่กับฉากก่อนหน้า
ส่วนนักแสดงหลัก ฐิสา ในบท นุ่น ฉากดราม่า เรียกว่าพึ่งพาได้ เพราะไม่เคยทำให้ผิดหวัง ส่วน เจนนี่ กับบท ลูกหว้า ถือว่าแจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัวเลยทีเดียว
“บทละคร” ซึ่งเป็นหัวใจของละคร ต้องกดไลก์ให้รัวๆ เพราะแข็งแรง หลอกคนดูไปมา มีพลิกแล้วพลิกอีก อนุมานได้ว่ากว่าจะจบ คงมีเซอร์ไพรส์อีกหลายตลบ
สายเลือดสองหัวใจ เดินทางมาถึงโค้งสุดท้ายแล้ว แต่เรื่องราวไม่มีแผ่ว ยังคงมีการสืบ การตรวจ การพิสูจน์ เพื่อไขคดี ค้นหาฆาตกรตัวจริง ส่วนจะเป็นใครนั้น ลุ้นและรอเฉลยไปพร้อมๆกัน ทุกคืนวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.30 น. แว่วว่าศุกร์ที่ 5 สิงหาคมนี้ เสนอเป็นตอนจบแล้ว ยังมีเวลากดรีโมตพิสูจน์ความสนุกกัน ทางช่อง 7HD
