xs
xsm
sm
md
lg

“โตโน่” เขิน เดินจับมือ “ณิชา” เพราะรู้สึกดี ห่วงกินน้อยเหลือแต่หัว เตรียมว่ายน้ำข้ามโขง เอาเงินช่วยรพ.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“โตโน่” เผยรูปจูงแม่และ “ณิชา” ไม่ได้โดนแอบถ่าย แต่ให้น้องสาวถ่ายให้ อยากเก็บโมเมนต์ นานๆ จะว่างมาเลี้ยงข้าวครอบครัว บอกฝ่ายหญิงกินน้อย แต่สั่งเยอะต้องคอยเตือน ทำงานหนักตัวเล็กเหลือแต่หัวแล้ว เตรียมว่ายน้ำข้ามฝั่งโขง 22 ต.ค.นี้ เพื่อนำเงินซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้โรงพยาบาล

ทำเอาแฟนๆ “#โน่ณิ” ได้ฟินไปตามๆ กัน เมื่อหนุ่ม “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” ลงรูปจูงมือคุณแม่สุดที่รัก พร้อมกับหวานใจสาว “ณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์” กลางห้าง ล่าสุดวันนี้ (29 ก.ค.) ได้เจอโตโน่ ในงานบวงสรวงละคร “วิวาห์ฟ้าแลบ” ณ บริษัท พอดีคำ เจ้าตัวก็ได้เผยที่มาของรูปดังกล่าวให้ฟัง ว่าไม่ใช่รูปแอบถ่าย แต่เป็นรูปที่ตั้งใจให้น้องสาวถ่ายให้เอง พร้อมเผยว่าตอนนี้ กำลังเตรียมว่ายน้ำเพื่อสิ่งแวดล้อมอีกครั้ง ในวันที่ 22 ตุลาคม

“รูปนั้นไม่ได้โดนแอบถ่าย ผมนี่แหละให้น้องต้องตาถ่าย ผมบอกว่าต้องตา นานๆ ทีได้พาแม่กับณิชาไปกินข้าว ถ่ายรูปให้หน่อย น้องเดินอยู่ข้างหลังพอดี ก็เลยให้น้องถ่าย ถามว่าเป็นโอกาสพิเศษอะไร ก็เป็นโอกาสเนื่องจากมีวันว่างครับ เพราะว่าทำงาน 7 วันเลย นานๆ ทีถึงจะได้มีให้ทั้งคุณแม่ แล้วก็ณิชา และน้องสาวด้วย ผมก็เลยอยากให้เจอทุกคน”

หลายคนโฟกัสไปที่จับมือ คนแซวกลัวน้องหลงเหรอ
“(ยิ้มเขิน) ไม่ได้กลัวน้องหลงครับ คนก็ไม่ได้เยอะอะไรคงไม่หลง แต่ว่า…ก็รู้สึกดีอ่ะครับ ก็เลยทำ ก็เลยจับมือ (จับมือกันเป็นปกติอยู่แล้ว?) ก็เวลาไปเดิน ไปกินข้าวอะไรแบบนี้ก็ธรรมดานะครับ ถามว่าเปิดเผยมากขึ้นไหม จริงๆ ก็ไม่เคยปิดนะครับ ผมก็ใช้ชีวิตแบบปกติกับณิชา แต่อย่างที่ผมบอกเบื้องต้นเลย ว่าให้เวลาเป็นตัวบอกดีกว่าเป็นเรื่องของคำพูด หรือสถานะอะไร ผมว่าความรู้สึก การกระทำสำคัญที่สุด”

เป็นเจ้ามือเลี้ยงแม่กับน้องและหวานใจ เพราะให้ “ณิชา” เลี้ยงก็คงอาย
“ครับ อันนี้เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว เพราะมีทั้งคุณแม่แล้วก็น้องสาว ถ้าจะให้ณิชาเลี้ยงผมก็อาย ผมก็คิดว่าผมควรจะเลี้ยงครับ (สายเปย์?) ผมว่าผมเป็นผู้ชายครับ เป็นเรื่องธรรมดาครับ เป็นเรื่องที่ผมเต็มใจที่จะดูแล”

ครั้งนี้ “ณิชา” ทานข้าวหมด แต่ต้องคอยเตือนให้กินเยอะๆ เพราะตัวเล็กจนเหลือแต่หัวแล้ว
“หมดนะฮะ คือกินน้อยไม่ว่า แต่สั่งเยอะแล้วกินน้อยเนี่ย คือเป็นคนที่เวลาหิวจะสั่งจัดเต็ม ผมจะเป็นคนโดนแม่ดุ ตั้งแต่เด็กถ้ากินไม่หมด สงสารชาวนา สงสารวัวตัวนั้นที่มันตายไปเพื่อเรา เราก็ควรจะกินมันให้หมด สั่งได้แต่เราต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เราสั่งด้วยครับ ห่อกลับได้ผมไม่ว่า แต่ใจเราก็คือเข้าทำงานหนัก เวลานานๆ ทีเราได้ไปกินด้วยกันก็อยากให้เขากินเยอะๆ จะได้มีแรงทำงาน ทุกครั้งที่ไปกินข้าวด้วยกัน ก็จะมีเรื่องนี้ขึ้นมาครับ โดยเฉพาะถ้าไปร้านโปรดของเขา ก็จะสั่งเยอะแล้วก็จะเหลือ เราก็เลยคิดว่าไม่ได้ครับ

ก็ไม่ได้บังคับให้กินให้หมดหรอกครับ แต่ว่าถ้าเขากินไม่ไหวจริงๆ ผมก็กิน เราเป็นคนรับภาระแทน สั่งมาแล้ว แต่คือเขาก็อายุยังน้อย มีแต่หัวแล้วทุกวันนี้ ตัวเล็ก ถามว่าสปอยไหม ก็ไม่หรอกครับ ถ้าอะไรที่มันไม่ถูก หรือผมมองว่ามันดีผมก็บอก แต่อะไรที่เข้าใจได้ ก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ แรกๆ เขาก็เถียงนะ แต่พอเขาจนมุมด้วยหลักฐาน เราก็บอกดูสิ โควิดคนลำบากกัน แล้วเราสั่งมาเรายังกินเหลืออีก แบบนี้เราไม่เสียดายเหรอ”

เตรียมว่ายข้ามแม่น้ำโขง วันที่ 22 ตุลาคม เพื่อให้คนตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม และนำเงินมาซื้ออุปกรณ์การแพทย์ช่วยโรงพยาบาล
“ก็มีความตั้งใจ เพราะผมมีความรู้สึกว่า แม่น้ำโขงเป็นแม่น้ำที่สำคัญมากนะ ของหลายๆ ประเทศด้วย ไหลมาตั้งแต่จีน โดยเฉพาะพี่น้องไทย-ลาว ถ้าเราช่วยกันดูแลแม่น้ำสายนี้เเนี่ย แม่น้ำนี้หล่อเลี้ยงชีวิต ให้อาชีพ ให้หลายๆ อย่าง กับเรามา แม้กระทั่งเรื่องของความเชื่อด้วย เราทุกคนศรัทธา เราไปไหว้พระธาตุพนม เราไปขอพรองค์พญานาค แต่ว่าถ้าเรารัก เราศรัทธา เราลองมองอีกมุมว่า เราจะตอบแทนอะไรสิ่งที่เรารักได้บ้าง นอกจากการขอพร

ถ้าเรามาช่วยกันให้ มาช่วยกันดูแลแม่น้ำ มาช่วยกันดูแลคนที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำ ไม่ว่าจะเป็นฝั่งไทยหรือฝั่งลาว ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ดี ก็เลยมีความคิดว่าปลายปีนี้ ถ้าผมทำได้ ผมอยากจะว่ายข้ามแม่น้ำโขงครับ โดยที่นำเงินไปช่วยโรงพยาบาลนครพนม แล้วก็โรงพยาบาลฝั่งท่าข้ามของประเทศลาว อยากให้ไทยกับลาวช่วยกัน เพราะต่อให้ฝั่งใดฝั่งหนึ่ง จะรณรงค์เรื่องสิ่งแวดล้อมกันยังไงก็ตาม แต่ถ้าอีกฝั่งไม่ช่วย แม่น้ำนั้นก็ไม่ดีขึ้น

ถ้าการว่ายน้ำเพื่อสิ่งเแวดล้อมในครั้งนี้ แล้วสามารถเอาไปช่วยเรื่องความเป็นอยู่ของพี่น้องชาวนครพนมหรือพี่น้องชาวลาว ดีขึ้นได้ด้วยในเรื่องการแพทย์ เราก็อยากจะลองว่ายดู ความอันตรายเราก็ศึกษาแล้ว เป็นเรื่องที่เราต้องระวัง แต่เรารู้ว่าเราทำเพื่ออะไร ดังนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมยินดีที่จะเจอครับ แต่ผมขอแค่ให้คนไทย หรือพ่อแม่พี่น้องชาวลาวที่ฟังสัมภาษณ์นี้อยู่ ช่วยกันตื่นรู้เรื่องของสิ่งแวดล้อมสักนิดหนึ่งผมก็พอใจแล้ว การว่ายครั้งนี้ไม่ได้เรื่องหวังเงินบริจาคเลยครับ แต่อยากให้ทุกคนช่วยกันดูแลแม่น้ำ ไม่ว่าจะเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำโขง แม่น้ำปิง วัง ยม น่าน หรือแม่น้ำใดก็ตามแต่ เพราะสุดท้ายแม่น้ำเหล่านี้ไหลลงสู่ทะเลหมด แล้วทะเลก็กำลังแย่

กลับกันเรากินกุ้ง หอย ปู ปลา สุดท้ายถ้าไมโครพลาสติกพวกนี้กลับมาอยู่ในท้องเรา เราป่วยครับ เราเข้าโรงพยาบาล เครื่องมือแพทย์ก็ไม่พอ เชื่อผมเถอะครับ ว่าเครื่องมือแพทย์มันไม่มีวันพอ ไม่ว่าจะของคนหรือสัตว์ แต่ถ้าเกิดว่าเราช่วยกันสร้างแม่น้ำ ทะเลที่สวยงามได้ ดูแลป่าเขาให้อุดมสมบูรณ์ได้ ทำให้อากาศมันบริสุทธิ์ ถ้าทุกคนช่วยกันมันจะดีขึ้นได้ ถ้าเราให้เงินทองลูกหลานไม่ได้ เราก็ให้อากาศที่ดี ให้เขาไว้หายใจ ไม่ทำตามความฝัน ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่คนรุ่นเราควรจะช่วยกันทำครับ

ถ้าถึงวันว่ายแล้ว ก็อยากจะให้พี่ๆ สื่อมวลชนไปเชียร์ด้วยนะครับ วันนั้นก็ตั้งใจว่าจะมีเพื่อนๆ นักแสดง นักร้องหลายๆ คนครับ นักแสดงผู้หญิงก็จะไปช่วยกันรำครับ เพราะเราทราบมาว่าองค์พ่อพญานาคชอบ ส่วนเรื่องว่ายน้ำเดี๋ยวเป็นหน้าที่ของผมเอง แล้วก็ขอบคุณ มาริโอ้ เมาเร่อด้วย ได้ยินว่าจะไปพายเรือช่วยผม ก็หวังว่าโอ้จะทำตามคำพูดครับผม (หัวเราะ)

ตอนนี้ก็ต้องเร่งถ่ายละครกับทัวร์คอนเสิร์ตครับ น่าจะได้ซ้อมจริงๆ คือช่วงเดือนกันยายน เพื่อว่ายปลายตุลาคม ตั้งใจไว้นะครับ ว่าจะเป็นวันที่ 22 ตุลาคม เป็นการว่ายวันเดียวจบ ว่ายจากฝั่งไทยข้ามไปฝั่งลาว แล้วก็ว่ายจากฝั่งลาว กลับมาฝั่งไทย แต่กำลังดูอยู่ ว่าจุดไหนที่เราจะขึ้นได้ กำลังคุยกับทางฝั่งลาวด้วย เพราะครั้งนี้ก็ไม่เคยมีใครทำ แล้วผมคิดว่ามันน่ารัก กับการร่วมมือกันระหว่างไทยกันลาว”











กำลังโหลดความคิดเห็น