“หนุ่ม กรรชัย” กลัวเป็นภาวะซึมเศร้า หลังเจอภาวะเหมือนมีคนคุยกันในหูขณะนอนหลับ หมอบอกเป็นโรคเครียด ปล่อยทิ้งไว้จะเข้าสู่ภาวะของคนเป็นวิตกจริต รับอยากเบรกงานไปพักผ่อนบ้าง แต่ความจริงคือทำไม่ได้ ตอนนี้ทำได้เพียงพยายามหาเวลาว่างไปบำบัดตัวเอง
แม้ประชาชนจะอวยยศยกให้เป็นผู้ทรงอิทธิพลของประเทศในเรื่องของการสัมภาษณ์ ซักถามประเด็นร้อนในสังคม แต่ชีวิตจริงตอนนี้ของ “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” เริ่มประสบปัญหาสุขภาพจากการทำงานพิธีกร โดยหนุ่ม กรรชัย ได้เปิดใจที่งาน "GRAND OPENING LYO HAIR COLOR SHAMPOO" ว่าตนมีภาวะเหมือนมีคนคุยกันในหูขณะนอนหลับ
“ตอนนี้ผมจะมีปัญหาเรื่องของการนอน ผมมีภาวะที่มาจากที่เราทำรายการเยอะๆ เรารับเรื่องคนอื่นมาเยอะๆ แล้วเหมือนมีคนคุยกันในหู พอนอนหลับไป ตี 3-4 ตื่นมา เอาแล้ว เหมือนเรื่องนั้นเรื่องนี้วิ่งๆ อยู่ในหัว วนเวียนอยู่ในหัว ก็เป็นมาสักพักแล้วครับสุดท้ายก็ต้องไปปรึกษาจิตแพทย์
หมอบอกว่ามันเกิดจากตัวเราเองอยู่ในภาวะที่เราเครียดมาก เหมือนกับเราไปรับฟังปัญหาของคนนั้นคนนี้ ตัวเราเองสัมภาษณ์คนทุกวัน คนนี้ก็ถูกฆ่า โดนเผา คนนี้โดนข่มขืน เด็กคนนี้ถูกพ่อแม่ตี คือเรารับปัญหาเขาหมด หมอเลยบอกว่าเราคิดว่าเราแกะได้แต่จริงๆ ปัญหาพวกนี้เวลาสัมภาษณ์มันจะไปอยู่จิตใต้สำนึกเราแล้ววันนึงถ้าเราเครียดหรือเราจิตตกเราอาจจะหยิบเรื่องพวกนี้ออกมาก็ได้หรือนอนไม่หลับ เครียด ก็จะเป็นประมาณนี้
คือมันก็นอนหลับแหละ สมมติผมกินเมลาโทนินก็จะหลับไปถึงเช้า แต่ไม่ สมมติผมกินห้าทุ่มเที่ยงคืน ตีสามผมตื่นแล้ว ตื่นมามันก็จะวิ่งอยู่ในหัวแบบนี้ นอนอีกทีคือตีสี่ครึ่ง หมอบอกก็คงเป็นโรคเครียด แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้ก็จะเข้าสู่ภาวะของคนเป็นวิตกจริตอะไรแบบนี้”
ตั้งแต่ทำงานเป็นพิธีกรมาหยุดแค่วันเดียว คือไปตั้งศาลที่บ้าน รับกลัวเป็นภาวะซึมเศร้า พยายามหาเวลาว่างไปบำบัดตัวเอง
“คือไม่ได้เบรกเลย ไม่เคยเบรกเลย มีแค่วันเดียวที่หยุดไปคือไปขึ้นศาล (หัวเราะ) คือส่วนใหญ่จะไม่หยุดงานถ้าไม่จำเป็นจริงๆ คือหมอก็บอกว่ามีอะไรก็ให้โทร.หาคุณหมอได้เลย แล้วก็คุย และก็จะมีนักบำบัดอีกส่วน คือคุณอ้อม (สุนิสา สุขบุญสังข์) ก็แนะนำให้ แกก็บอกว่าถ้ามีปัญหาปุ๊บให้โทร.หาเลย เพราะภาวะแบบผมมันอาจจะจำเป็นต้องมีคนมาชาร์จ ช่วยเราได้ให้สิ่งที่เป็นอยู่เบาลง (คิดไหมถ้าเราเป็นมากๆ มันอาจจะนำไปสู่การเป็นซึมเศร้า?) กลัว แต่พยายามจะไม่ไปถึงตรงนั้น ว่างๆ ก็คงต้องค่อยบำบัดคอยดูแล รักษาอะไรไป”
ทำรายการวาไรตี้ทำให้คลายเครียดแต่มันคนละส่วนกัน ใจจริงอยากเบรกงานแต่ความจริงคือทำไม่ได้
“มันยาก คิดดูสิ 1 เดือนสัมภาษณ์ 22 เคส แล้วปีนึงจะกี่เคส แล้วปัญหาแต่ละคนไม่ได้มาคนเดียวมาแบบโอ้โห บางทีมาสองมุมอะไรแบบนี้ ทำรายการ 3 แซ่บมันก็โอเคนะเพียงแต่ว่ามันอาจจะคนละส่วน
มันก็มีนะที่คิดจะเบรกงาน แต่ด้วยความเป็นจริงมันทำไม่ได้ไง เราก็ต้องทำงานแล้วหลายๆ สิ่งหลายๆ อย่างก็เหมือนกับว่าทุกสิ่งมันเดินไปข้างหน้ามันก็ยังเบรกไม่ได้ ต้องรออีกสักพัก มันก็โอเคไม่ได้อะไรมากมาย”
กังวลลูกสาว “มายู” เริ่มเป็นสาวแล้ว เริ่มเล่นโซเชียล
“ก็มีกังวลบ้าง ก็ไม่รู้ว่าเขาไปดูอะไรบ้างไง เพราะปัจจุบันเขาก็เริ่มโตแล้วพอขอดูก็เริ่มไม่ให้ดูแล้ว เราก็ไม่รู้ว่าเขาไปคุยกับใครหรือดูอะไรเราก็กลัวคือไม่อยากให้ลูกไปดูในสิ่งที่ไม่ควรจะรู้ก่อนวัยอันควร เด็กที่เล่นโซเชียลบางครั้งเขายังแยกไม่เป็น บางทีอาจจะมีการ์ตูนโป๊ที่มีท่าทางทะลึ่งๆ เราก็เป็นห่วงอยู่เหมือนกัน
แม้กระทั่งตัวเราเองเวลาจะพูดอะไรก็ต้อง เคยขับรถแล้วเขานั่งไปด้วยเผลออุทาน สารเลว เขาบอกป่ะป๊าพูดอะไรผีทะเลเหรอ เราก็ตายแล้ว เขาก็ไม่เข้าใจ บางทีเราหลุด แต่สุดท้ายก็เข้าใจวันนึงเขาก็ต้องเรียนรู้เอง ก็ไม่อยากให้เขาเรียนรู้ในช่วงนี้เพราะเวลาไปโรงเรียนไปเจอเพื่อน ก็กลัวจะไปหลุดคำนี้ กลายเป็นว่าครูหรือเพื่อนๆ มองว่าเราสอนลูกแบบนี้เหรอ”
ไม่ได้เสพอะไรรุนแรง แต่ติดเกมไล่ยิง
“ไม่ได้เสพอะไรรุนแรงมากแต่เล่นเกมไล่ยิงแล้ว ก็มีเสียเงินแล้ว เขาก็จะมาป๊าซื้ออันนี้ให้หน่อย คือ อาวุธ บอกเขาว่ามายูอันนี้อันตรายนะ ป๊ายังไม่อยากให้เล่นแบบนี้ ก็ไม่ฟังหรอก ก็จะเสียทีละ 300 แต่นานๆ ทีนะ ไม่ให้เยอะ (ต้องใจแข็งไม่ซื้อให้ไหม?) ยาก คือทุกวันนี้ก็จะทำลิมิต ก็จะไม่ได้เล่นช่วงเวลาหนึ่งต้องเรียนหนังสือ มีเป็นช่วงเวลาเท่านั้น ตัวผมเองไม่ได้เข้มอะไรกับมายูมาก แต่คนจะชอบคิดไปเองว่าเขาเข้ม”
