xs
xsm
sm
md
lg

“ฟาง-ว่าน” รักแบบเงียบๆ ไม่เน้นโชว์! แม้จะเป็น “คนสาธารณะ” แต่ทุกเรื่องก็ไม่จำเป็นต้องเป็น “เรื่องสาธารณะ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ฟาง ธนันต์ธรญ์” เล่าเรื่องรักกับ “ว่าน” ผ่านฉลุย! เหตุที่ไม่ชอบโชว์มาก เพราะแม้จะเป็นคนสาธารณะ แต่ทุกเรื่องก็ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องสาธารณะ รับมีภูมิต้านทานกับคอมเมนต์ในเชิงลบบ้าง ขอบคุณคนทุกคนที่เชียร์ แม้ตอนแรกอาจถูกมองว่าไม่น่าจะเข้ากันได้ เผยถูก “กอล์ฟ พิชญะ” หลอกมาร่วมงาน Leio ไลโอโคตรยักษ์

นานๆ ทีจะได้เห็นอีกมุมของ “ฟาง ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์” หรือ “ฟาง เฟย์ฟางแก้ว” สาวน้อยโลกสดใสที่มาพร้อมรอยยิ้มเสมอ เจ้าตัวได้ตัดสินใจมารับงานภาพยนตร์อีกครั้งในโปรเจกต์หนังซีจี “Leio ไลโอโคตรยักษ์” ซึ่งผลิตโดยทีมงานไทยอย่าง “เนรมิตหนัง ฟิล์ม” กับ “Fatcat VFX” บริษัทสตูดิโอสเปเชียลเอฟเฟกต์ โดยหนึ่งในการสัมภาษณ์ได้เล่าถึงการถูกพระเอกของเรื่องอย่าง “กอล์ฟ พิชญะ นิธิไพศาลกุล” ที่ไดเร็กส่งบทมาให้อ่าน จนบางทีก็งงว่ากอล์ฟเองเป็นหนึ่งในผู้ร่วมผลิตหรือเปล่า รวมไปถึงเรื่องราวความรักกับ “ว่าน ธนกฤต พานิชวิทย์” ที่แม้จะไม่ค่อยหวือหวาแต่ทุกอย่างก็อยู่บนความน่ารัก จนหลายคนออกปากว่าคู่นี้ไม่น่าเชื่อจะเข้ากันได้ แต่ท้ายที่สุดทุกอย่างก็ลงตัวอย่างที่เห็น

โดนหลอก! มาเล่นหนัง เพราะถูกพระเอกของเรื่อง “ฉีดยา”

“ตอนแรกเหมือนโดนหลอกมาให้เล่นเรื่องนี้ เพราะเราไม่ใช่คนแอ็กทีฟอะไร เน้นกิจกรรมในลมเป็นหลัก หมายถึงว่าใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไป เพราะคนปกติทั่วไปเขาคงไม่วิ่งหนีแย้หรอก  ตอนแรกมันก็ไม่ได้วิ่งเยอะขนาดนี้ แต่พอเขามาถ่ายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็วิ่งมากขึ้น ตอนนี้ก็รู้สึกว่าเป็นหนังแอ็กชั่นแหละ เพราะในชีวิตจริงเราเป็นคนไม่ชอบขยับ (หัวเราะ) เพราะเราวิ่งด้วยส้นสูงทั้งเรื่อง

คือไม่อยากรับเพราะลังเลมาก ด้วยตัวบทเอง และทำงานแบบฟูซีจีอีก แต่พอเราได้คุยกับบริษัทว่าสิ่งที่เขาเคยทำมา และที่สำคัญคือแพชชั่น เพราะเขาก็บอกว่าพี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะประสบความสำเร็จมากไหม แต่เขาก็จะใส่หมดหน้าตักเท่าที่มี อาจจะไม่ได้เป็นซีจีที่คนจะพูดต่อไปก็ได้ แต่หนังเรื่องนี้อาจจะเป็นก้าวแรก ให้คนที่จะกล้าออกมาจากกรอบ เพราะถ้าไม่มีใครกล้าจะก้าวออกมา มันก็จะไม่มีหนังแนวใหม่ๆ ออกมา ที่ทำมาจากฝีมือคนไทยให้คนดู ทำให้เรารู้สึกว่าเขามีความตั้งใจ เรารู้สึกว่าถ้าคนๆ นึงเขารักในสิ่งที่เข่าทำ มันน่าจะทำออกมาได้ดี บวกกับฝีมือที่เขามีด้วย คือตั้งใจทำไม่ได้ทำให้มันเสร็จๆ ไป

บวกกับพี่กอล์ฟเป็นแรงเชียร์อีกหนึ่ง คือฉีดยาเก่งมาก บอกว่าดีมาก พี่เคยทำงานกับเขามาแล้ว ดีมากๆ และเราเองก็ไม่ได้รู้จักพี่กอล์ฟมาเป็นการส่วนตัวมาก่อน พี่กอล์ฟดีเอ็มมาหาฟาง ว่าพี่มีโปรเจกต์นี้ และส่งข้อมูลมาให้ประหนึ่งมีส่วนได้ส่วนเสียในหนังเรื่องนี้ ประหนึ่งตัวเองเป็นผู้สร้าง ส่งมาทุกอย่างของเนรมิตหนังฟิล์ม 

เรายังคิดว่านี่พี่กอล์ฟตัวจริงไหม เลยกดเข้าไปดูในโปรไฟล์ เขาแนะตัวว่านี่พี่กอล์ฟ กอล์ฟไมค์ นะครับ และด้วยหนังซีจีไทยคนจะมีความตั้งแง่อะไรไหม เริ่มไม่แน่ใจ ลังเลแล้ว และด้วยความที่พีกอล์ฟส่งมาเอง เราก็ต้องอ่านแล้ว เพราะถ้าไม่อ่านมันจะเสียมารยาท ฟางจำได้ว่าเราดูคอนเสิร์ตพาร์กินสัน ก็อ่านมันกลางคอนเสิร์ต ดูพาร์กินสันไป มีแย้ในหัวไป (หัวเราะ) เพราะเราไม่คิดว่านักแสดงจะมาติดต่อเราให้ไปแสดงร่วมกันเขาเอง

คือเป็นฟางเป็นคนที่รับงานอะไรและเราจะโฟกัสและอินกับมันมาก บางทีเรียกว่าเป็นทั้งข้อดีและข้อเสียที่ฟางไม่สามารถ multitask (ทำอะไรหลายๆ อย่าง) ฟางเป็นคนชอบอ่านหนังสือ คนรอบข้างพูดอะไรมา คือเราไม่ได้ยินเลยนะ หูฟางดับไปเลย เวลาเรารับงานแสดงมันเหนื่อยมาก เราต้องอยู่กับมันตลอดเวลา และจะเล่าอะไรให้ฟังปกติแม่จะไปกับเราตลอด 

แต่พอมาเล่นเรื่องนี้ แม่บอกว่าไป แม่ขอไม่ไปด้วยนะ เพราะว่าลานแย้มันแล้งจริงๆ ไม่มีร่มเงาอะไรเลย มีอยู่ซีนนึงคือลานมันแล้งไม่พอ เหมือนฝนเพิ่งตกไป 2-3 วัน ยังแห้งไม่พอ ยังมีไอเย็น เลยขอเลื่อนวันถ่าย แต่เราไม่ได้อิดออดเรื่องอากาศอะไรเลย เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าสถานที่ถ่ายทำส่วนมากเป็นยังไง”

บาลานซ์ชีวิตและความรักอย่างไร ในยุคที่ใครๆ ก็มีโซเซียลในมือ

“แม้เรามีข่าว แต่ด้วยความที่เราอยู่วงการบันเทิงมานาน เรามีภูมิต้านทานอยู่บ้าง แต่ไม่ได้มีสูงขนาดนั้น เพราะในยุคที่เราเติบโตมา ไม่ใช่ว่าใครนึกจะเขียนหรือจะเมนต์อะไรก็ได้ แต่ตอนนี้มันเป็นคำพูดจากคนอื่นที่เขาอาจจะไม่ตัวตนก็ได้เขาอาจจะมีหลายแอ็กเคานต์ก็ได้ เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเขาเป็นใคร แม่ก็บอกว่าไม่ต้องไปคิดมาก เราจะให้ทุกคนมาชอบเราไม่ได้ เราแค่รู้ตัวเองก็พอว่าสิ่งนี้เราควรจะโดนว่าไหม หรือว่าเราทำโอเคแล้วหรือยัง ส่วนใหญ่ถ้าเป็นคำวิจารณ์ที่หมายถึงเป็นคำวิจารณ์จริงๆ ติเพื่อก่อ มันมีเหตุมีผล ฟางเข้าใจได้ แต่ถ้าเป็นการเดินเข้ามาพูดในเชิงลบ เราจะรับมือกับสิ่งนั้นได้แค่ไหน หรือเราจะโฮลความรู้สึกนั้นยังไงมากกว่า

และด้วยคำว่าคนสาธารณะก็ไม่ได้อยากเอาทุกเรื่องมาเป็นเรื่องสาธารณะ เพราะเรารู้ว่าเราไม่สามารถห้ามคนอื่นคิดวิจารณ์หรือคอมเมนต์ ถ้าเราไม่พร้อมรับเรื่องนั้นๆ เราแค่ไม่ต้องโชว์ให้เขาเห็น เรื่องชีวิตส่วนตัว ชีวิตคู่ ฟางใช้ชีวิตปกติมาก ไม่ได้แชร์ทุกโมเมนต์ ชีวิตส่วนตัวก็ไม่ได้เปิดอะไรมากขนาดนั้นแต่เราไม่ได้เป็นคนที่ติดโซเชียล 

ฟางกับพี่ว่านจะคล้ายๆ กันคือเราก็มีชีวิตของเรา บางทีเราก็คิดว่าเราไม่ได้อยากแชร์เพื่ออยากโชว์คนอื่น แต่ไม่ได้หมายความว่าคนที่เอาความรักมาแชร์คือคนโชว์นะคะ เนเจอร์เขาอาจจะเป็นคน loving อย่างนั้นอยู่แล้ว เอาแบบที่ตัวเองสบายใจ แต่เนเจอร์เราไม่ได้เป็นคนที่เจอกันต้องถ่ายรูปคู่ลงสตอรี่ เรารู้สึกว่าเราถ้าเราต้องทำอย่างนั้นเพื่อบางสิ่งบางอย่าง มันอาจจะกระทบความสัมพันธ์เรา กระทบกับตัวเราจริงๆ เลยรู้สึกว่าพอดีๆ ดีกว่า

ถ้าเป็นโอกาสสำคัญเราก็บอกว่าเรารู้สึกดีๆ นะแต่ไม่ใช่ตลอดเวลา เราอาจจะทำงานมาตั้งแต่ยุคเก่าเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เมื่อก่อนคนไม่เปิดรับเรื่องคู่ มันเลยติดนิสัยมา เลยชอบอยู่เงียบๆ มากกว่า จริงๆ แล้วเป็นคน introvert อยู่เงียบๆ นั่งเงียบๆ ได้ชอบความสงบนิ่งๆ”

ความรักกับผู้ชายชื่อ “ว่าน” ตอนแรกเหมือนไม่น่าจะเข้ากันได้ แต่สุดท้ายก็มีจุดที่เข้ากันได้ วอนอย่าคาดหวังเกินไป ไม่อยากให้ผิดหวัง
“ต้องขอบคุณที่คนเอาใจช่วยและชื่นชอบคู่เรา เราไม่รู้หรอกว่ามันจะยาวหรือสั้น เราก็แค่ทำมันให้ดีที่สุด ตอนแรกคนคิดว่าไม่น่าเข้ากันได้ แต่มันก็มีจุดที่เข้ากันได้ เช่น ความชอบด้านดนตรี การทำงาน ความติดครอบครัว ติดบ้านทั้งคู่ ถ้ามันได้มันก็ได้ต่อไปเรื่อยๆ แต่เราก็ไม่อยากให้เป็นความคาดหวังของใครหรือเป็นความผิดหวังของใคร ถ้ามันจะเวิร์กหรือไม่เวิร์ก เป็นเรื่องที่เราไม่ได้อยากเอาชีวิตส่วนตัวเข้าไปมากนัก เพราะเราไม่รู้ว่ามันจะไม่สร้างความคาดหวังกับใคร ถ้าเขาอินแล้วมันไม่เป็นอย่างที่เขาคิด เลยรู้สึกว่าถ้าตรงไหนมีสเปซได้ ก็อยากมีสเปซเล็กน้อย

ก็แซวบ้าง เขาก็เป็นคนอย่างนั้น แต่ว่าพออยู่กับเราเขาก็ปรับตัว บางทีเราก็บอกว่าอย่าไปแซวๆ บางทีถ้าไม่เบรกเลยก็ไม่ได้ แต่ถ้าไม่มีเลยก็ไม่เป็นตัวเขา (เขาบอกว่าเขาโรแมนติกตลอด?) เห็นความโรแมนติกไหมคะ เขาอาจจะคิดว่าโรแมนติกแล้ว อาจจะเป็นในเวย์เขา เขาก็เป็นผู้ช้ายผู้ชาย ซึ่งหนูเป็นคนเรียบง่ายอยู่แล้ว แต่ด้วยงานที่เรารับ หรือความเคยชินที่มีมาตั้งแต่สมัยที่คนไม่เห็นไลฟ์สไตล์คนเสพเฉพาะผลงาน เราก็ไม่ได้ติดนะ ที่เราจะเปิดเผยว่าเสร็จจากงานแล้ว ชีวิตเรากลับบ้านทำงานเหนื่อยๆ ก็คือนั่งมองเพดานอยู่บนโซฟานิ่งๆ”

















กำลังโหลดความคิดเห็น