หลังจากมีดรามาตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มออนแอร์ ล่าสุดวันนี้ (20 ก.ค.) ซีรีส์วายเรื่อง “เชือกป่าน #BetweenUsTheSeries” ของ ค่ายวาบิซาบิ ก็ได้ฤกษ์ดีบวงสรวงเรียบร้อยแล้ว โดยงานนี้ผู้จัดคนเก่ง “นิว ศิวัจน์ สวัสดิ์มณีกุล” และสองนักแสดงนำ อย่าง “บุ๋น นพณัฐ กันทะชัย” และ “เปรม วรุศ ชวลิตรุจิวงษ์” ก็ได้ออกมาเผยความรู้สึก ที่ในที่สุดโปรเจกต์นี้ ก็สำเร็จเป็นรูปเป็นร่าง พร้อมเคลียร์ดรามาร้อนจากแฟนคลับอินเตอร์ เรื่องการดูแลนักแสดงไม่ดี
นิว : “จริงๆ เราอยากเริ่มตั้งแต่โควิดแล้ว แต่ว่าตอนนั้นนักเขียนเขาป่วย เราไม่สามารถที่จะทำได้ ด้วยความมันไม่ได้เป็นนิยายที่จบแล้ว มันมีแค่ 20 เปอร์เซ็นต์ ตอนที่จบด้ายแดง เลยค้างอยู่แค่ตอนนั้น เราก็ไม่สามารถเดาทางออกได้ ว่าจะไปในทิศทางไหน เขาอยากเล่าอะไร เลยดีเลย์มา
คือเราต้องรอบทจากตัวนิยาย เลยต้องรอนิยายให้ได้ก่อน เราก็มีการคุยกับนักเขียนมาโดยตลอด แต่ไม่ได้กดดันหรือเร่ง เราเข้าใจว่าเขาป่วย เราก็เคยป่วยแบบนั้น เราก็ให้กำลังใจเขาอย่างเดียวว่าสู้ๆ เรารอได้ น้องๆ เองก็รอได้ ระหว่างที่รอ เราก็พยายามหาโปรเจกต์มาเสิร์ฟให้ ไม่ให้น้องๆ ว่างเหมือนกัน อย่างน้อยมีข้อดี ว่าน้องได้พัฒนาแอ็กติ้ง ได้ผ่านประสบการณ์มากขึ้น มีเวลาเตรียมตัวฟิตหุ่น เรียนว่ายน้ำ เพื่อให้ทุกอย่างสมบูรณ์พร้อมถ่ายจริงๆ ไม่มีความคิดที่จะล้มเลิกโปรเจกต์เลย”
บุ๋น : “มันไม่แป่วอยู่แล้ว คุยกับพี่นิวตลอด ยังไงก็ไม่ล้มเลิกแน่นอนโปรเจกต์นี้ ต่อให้เป็น 10 ปีก็ไม่ล้มเลิก แต่อาจจะสูงอายุขึ้นนิดหนึ่ง ให้มันเป็นตำนาน แต่ยังไงก็ได้ดูอยู่แล้ว บวงสรวงแล้ว บทเสร็จแล้ว กำหนดถ่ายวันที่ 30 นี้แล้วด้วย ช่องก็คุยแล้ว การทำซีรีส์เรื่องหนึ่งมันต้องใช้เวลานาน เพื่อจะให้มันออกมาดี”
เปรม : “ก็รู้อยู่แล้วแหละ ว่าโปรเจกต์เชือกป่าน ไม่มีทางที่จะแป่วไปได้ เพราะเราก็คุยกับพี่นิวตลอด เราทำงานกับพี่บุ๋นบ่อย แล้วก็ทำงานที่วาบิบ่อย เราก็รู้ว่ามันถึงขั้นตอนไหนแล้ว ตัวเราเองและนักแสดงทุกคนก็ตั้งใจรอได้”
รับประกันสมการรอคอยแน่นอน
นิว : “บทลงลึกมาก ตอนแรกคิดว่าซีรีส์ใสๆ ง่ายๆ น่ารักๆ แต่เชือกมัดคอเลย (หัวเราะ) ไม่เอา ไม่สปอย”
เปรม : “เท่าที่ผมอ่านบทดู ก็เข้มข้นมาก คือมันไม่ใช่ฟีลเชือกป่าน ซีรีส์ใสๆ ที่พี่นิวเคยบอกผม อ่านไปแล้วก็เครียดกว่าเดิมอีก (หัวเราะ)”
นิว : “คือมันเป็นปมมาตั้งแต่แรก อย่างที่บอกตอนแรกนิยายมันมาแค่นั้น ซึ่งแค่นั้นมันใสมาก มันสดใสน่ารักมาก แต่บอกเขียนไปเขียนมา มันเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ก็พยายามใส่ปมของแต่ละตัวเข้าไปครับ (จะมีเขวี้ยงวอร์ในกองอีกไหม?) ไม่มีๆ เพราะนักแสดงน่าจะโตกันขึ้นแล้ว ตอนนั้นเขวี้ยงเพราะมันไม่ฟัง (หัวเราะ) คือตะโกนจนคอแห้ง เออ จนช่างแม่-แล้วกูไปแล้ว แต่ไม่ได้เขวี้ยงแค่วางๆ”
บุ๋น : “โทษนะ ตอนนั้นฟังยังไงอยู่ใต้น้ำ ว่ายน้ำตู้มๆ อยู่เลย คัตๆ อยู่ใต้น้ำไม่ได้ยินหรอก รู้ตัวอีกทีคือผู้กำกับไปแล้ว”
เร่งปั้นหุ่นให้พร้อมถ่าย แต่อย่าคาดหวังเยอะ
บุ๋น : “ถ้าใครเห็นบุ๋นตั้งแต่ด้ายแดง ตอนนั้นตัวเล็กมาก ผอม ตอนนี้ก็ขึ้นมาพอสมควร แต่อยากให้มันขึ้นได้อีก ช่วงนี้ก็เล่นฟิตเนสอยู่ มีลงเรียนว่ายน้ำแล้วด้วย ก็น่าจะเห็นตัวใหญ่ขึ้นกว่าเดิม แต่ก็อย่าคาดหวังเยอะเนาะ เราไม่ใช่นักกล้าม ที่ต้องมี 6 แพ็ก 8 แพ็ก นักว่ายน้ำก็กินของอ้วนๆ ได้ กินของทอดได้ แต่จริงๆ บุ๋นไม่กินพวกของทอดอยู่แล้ว ก็พยายามทำให้มันออกมาดีที่สุดครับ ตั้งใจแน่นอน ส่วนใหญ่เล่นหน้าอกกับท้อง”
เปรม : “ก่อนหน้านี้ก็เพิ่งกลับมาฟิต แต่ว่าเทรนเนอร์ติดโควิด ผมก็ติดโควิด แล้วก็ไปเที่ยวเกาหลีอีก ก็กลายเป็นว่าประมาณเดือนกว่าไม่ได้ไปเล่น ตอนนี้ถ้าถามว่าตอบโจทย์เรื่องหุ่นให้พี่นิวได้ขนาดไหน ผมก็ยังตอบไม่ได้ ภาพที่ผมมองตัวเอง ก็มองไว้สูงเหมือนกัน ก็ยังมีเวลาให้เล่นระหว่างที่เราถ่ายไปด้วย ก็พัฒนาไปเรื่อยๆ แต่อ้อนขอแล้วพวกซีนถอดเสื้อของหลังๆ ท้ายๆ จะได้มีเวลานิดหนึ่ง”
แจงดรามาแฟนอินเตอร์ บอกทรีตนักแสดงไม่ดี และเอาเงินแฟนคลับไปสร้างซีรีส์
นิว : “คือที่เราออกมาอธิบาย เราไม่ได้โมโหเลยนะ เราแค่อธิบายให้เข้าใจ ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไร เพราะอะไรถึงเป็นแบบนี้ เหมือนเขาตีความกันผิด แล้วก็ส่งต่อกันผิดๆ เขาคิดไปเองทั้งหมด ว่ามันอย่างนั้นเพราะแบบนี้ เลยจะได้เคลียร์ทีเดียวแล้วจบ นี่เขาก็บอกว่าให้ออกมาช่วยพูดไหม ก็บอกไม่ต้องๆ อยู่นิ่งๆ ไม่ต้องพูด ไม่ต้องอะไร”
บุ๋น : “คืออย่างบุ๋น เรารู้อยู่แล้วว่าความเป็นมามันเป็นยังไง แต่ด้วยความที่อาจจะสื่อสารคลาดเคลื่อน แล้วยิ่งพอเอาลงทวิตเตอร์ แปล translate ออกมามั่วอีก คราวนี้เละเลย น่าจะสื่อสารไม่ตรงกันมากกว่า ไม่มีเจตนาที่จะทะเลาะกันหรอกครับ”
เปรม : “ผมรู้ข่าวตอนกลับมาจากเกาหลี เลื่อนทวิตดู อ้าว…โอเค ก็มาถามพวกพี่ๆ”
นิว : “ถามว่ามีความน้อยใจไหม เอาจริงๆ มันมีอยู่แล้วแหละ ก็พยายามฮึบ เป็นฟีลแบบมันไม่ได้ง่ายนะ กว่าจะเกิดโปรเจกต์หนึ่งได้ มันเป็นโปรเจกต์ที่เราคาดหวังทั้งหมด เราอยากให้ออกมาดีอยู่แล้ว ทำไมมองเจตนาเป็นแบบนั้นไป (อยากอธิบายยังไง ที่เขาบอกว่าเอาเงินแฟนคลับมาสร้างซีรีส์?) กว่าจะได้แต่ละบาท กว่าจะหาสปอนเซอร์ หานายทุน หาอะไรมันยากมากๆ ทำไมถึงคิดว่าแฟนคลับเป็นคนเอาเงินให้เราทำซีรีส์นะ เพราะถ้าเป็นเวย์นั้นเราจะเข้าใจได้ ว่าโอเค…เขาให้เงินเรามาทำ แล้วมันไม่เกิดสักที เขาเลยด่าเรา
เราเข้าใจได้ เพราะเขาเป็นเจ้าของเงิน แต่กลายเป็นว่าเดี๋ยวนะ ฉันเป็นคนหาเงิน ฉันเป็นคนเริ่ม เป็นคนทำ ทำไมวะ ก็เป็นคำถามเฉยๆ พอผ่านไปเรื่อยๆ มันก็เปลี่ยนจากเครียดๆ เป็นตลก ก็ปล่อยผ่าน ไม่ได้คิดถึงตรงนั้นแล้วครับ จริงๆ ก็ดีใจที่เขาติดตามผลงาน แต่มันก็น้อยใจมากกว่าแค่นั้นเอง มันเป็นฟีลแบบได้…รอดูนะ”
บุ๋น : “คือบอกตลอดว่าไม่ต้องโมโห ให้ผลงานที่เราทำ เป็นคำตอบให้เขาดีกว่า บุ๋นรู้จักพี่นิวมานาน รู้ว่าเขาต้องพูดตรง ต้องพูดเคลียร์ อะไรที่ไม่เคลียร์เขาจะต้องทำให้เคลียร์ ก็อย่างที่บอกแหละ มันเป็นการสื่อสารที่ผิดพลาด ก็ทำเต็มที่ที่สุด ให้สมกับที่เขารอเรา เราก็อย่าหวังเยอะ แต่ก็จะพยายาม บอกทุกรอบว่าเราจะพยายามทำให้มันออกมาดีที่สุดในแบบฉบับของเรานั่นเอง”
เปรม : “ถามว่ามันจะกลายเป็นแรงกดดันไหม มันน่ามีมาบ้างอยู่แล้วครับ เรื่องแรงกดดัน เพราะด้วยหลายสิ่งหลายอย่าง มีองค์ประกอบหลายอย่าง ที่ทำให้รู้สึกกดดันมากๆ ก็พยายามเป็นตัวของตัวเองที่สุด พยายามทำเต็มที่ ทำหน้าที่นักแสดงให้ดีที่สุดครับ เทคไหนมันไม่ผ่าน ก็เต็มที่เลย จะด่าก็ด่าได้เลย ผมเทใจให้เต็มที่ พลีกายให้ทุกความสามารถแล้ว”
นิว : “เขาบอกว่าพี่นิวโมโหได้ โกรธได้เลย ด่าได้เลยในกอง แต่ไม่ด่าแล้วๆ ซอฟต์ลง”
