เป็นสองนักแสดงวัยรุ่นชื่อดังที่ถูกเลือกให้มาถ่ายทอดประสบการณ์หลอนเกี่ยวกับเรื่องเล่าอาถรรพ์ในโรงเรียน สำหรับหนุ่ม “เซ้นต์ ศุภพงษ์ อุดมแก้วกาญจนา” และ “ชิม่อน วชิรวิชญ์ เรืองวิวรรธน์” กับผลงานซีรีย์เรื่อง School Tales The Series โรงเรียนผีมีอยู่ว่า… ที่มีด้วยกัน 8 ตอน และตอนของสองหนุ่มเซ้นต์และชิม่อน คือตอนสุดท้ายที่มีชื่อว่า เดินล่าท้าผี โดยสองหนุ่มก็ได้มาเล่าถึงประสบการณ์ที่ได้มาร่วมงานกับทาง Netflix ครั้งแรก รวมถึงประสบการณ์สยองส่วนตัวเกี่ยวกับโรงเรียนของตัวเองด้วย
เซ้นต์ : “พวกเรานักแสดงจาก School Tales The Series โรงเรียนผีมีอยู่ว่า… กับตอนที่ชื่อว่า ล่าท้าผี ครับ ผม เซ้นต์ ศุภพงษ์ อุดมแก้วกาญจนา รับบทเป็น บอย ครับ (ยิ้ม)”
ได้ร่วมงานกับ Netflix รู้สึกยังไงบ้าง
เซ้นต์ : “พวกเราพอเห็นว่าคำ Netflix พวกเรารับเลยครับ เพราะแค่คำว่า Netflix คือดีแน่นอนครับ แต่ก็ตื่นเต้นเนอะ พอได้อ่านคร่าวๆ รู้สึกถึงความน่ากลัวมั้ย”
ชิม่อน : “รู้สึกสิพี่ มันเป็นสิ่งแปลกใหม่ด้วย พี่เคยเป็นฟีลต่อยผี แต่ในเรื่องพี่ต้องหนีผี (หัวเราะ) หนีทั้งเรื่อง แต่ก็อยากให้ติดตามนะว่าความน่ากลัวจะเป็นยังไง”
ชิม่อน : “น่ากลัวมาก หลอนมากครับ”
เลเวลความหลอนจะขนาดไหน
เซ้นต์ : “ถ้าพูดถึงความหลอน มันหลอนจนตัวสั่นได้เลย เพราะมันเป็นฟีลความเชื่อที่อยากจะลบล้างความเชื่อว่าผีไม่มีอยู่จริง แต่สุดท้ายแล้วมันมีอยู่จริง เลยทำให้เราจิตตกไปเลย”
ชิม่อน : “ซึ่งตอนที่ถ่ายทำมันจะมีหลายซีนเลยที่เราจะต้องเจอผี และพอเวลาเรากลับบ้าน ภาพผียังอยู่ในหัวเราอยู่เลย ซึ่งมันหลอนมาก”
เซ้นต์ : “มันน่ากลัวมาก”
ชิม่อน : “ถ้าคนดูได้ดูก็น่าจะหลอนตามไปด้วยแหละครับ”
เซ้นต์ : “รู้สึกว่าตอนที่เราถ่ายยังไม่มี CG ด้วยนะครับ และถ้า CG ลงไป มันคงยิ่งกว่านี้”
ยากง่ายยังไงบ้างกับการถ่ายทำ
เซ้นต์ : “มีตอนนึงที่ผมรู้สึกถึงความยาก เพราะถ่ายจากสถานที่จริง บางพร็อพก็พร็อพจริง และเราก็กลัวว่าเราจะทำถูกทำผิด เพราะเราต้องแสดงไปด้วย ซึ่งขณะเดียวกันมันก็คือความไปท้าทาย ก็เลยแอบกลัวผิดพลาดในบางการกระทำ เราขอขมากันตลอดครับ ผมสองคนจะอยู่ด้วยกันตลอด ถ่ายเสร็จก็ยกมือไหว้ ผมขอโทษนะครับ (ยิ้ม)”
ชิม่อน : “เล่นเสร็จก็ต้องบอกว่า ขอขมานะครับ”
เซ้นต์ : “ผมตั้งใจมาเล่นเรื่องนี้ แต่ผมไม่ขออะไรมาก งาน Netflix เขาคุณภาพจริงๆ ขอให้ดังๆ นะครับ (หัวเราะ) ก็จะเป็นอย่างนี้กันอยู่สองคนตลอด เพราะสถานที่นั้นมันมีเรื่องเล่า และมีสิ่งลี้ลับอยู่จริง ที่เขาก็เล่ากันมา แต่เราก็ไม่รู้ว่ามันจะตรงกับเรื่องที่เราเล่นกันหรือเปล่า แต่เขาบอกว่ามันมีจริงๆ นะ พอเล่นเสร็จก็ต้องขอขมา ทางทีมงานก็จะคอยบอกเราตลอดครับ”
ชิม่อน : “ผมเองก็มีบางช่วงที่รู้สึกกลัวเหมือนกัน เพราะพร็อตบางอย่างหรือเซ็ตบางเซ็ตมันคือของจริง ก็ทำให้เรารู้สึกกลัวมากๆ”
เซ้นต์ : “ก็มีบางซีนตกใจจริงนะครับ (หัวเราะ) มันจะมีบางช่วงที่มีผีตนนึงที่เขาคลานๆ ออกมา ตอนนั้นแหละ (ยิ้ม) คือบางทีพี่ผู้กำกับก็มีเตี้ยมให้แฮ่ใส่พวกเรา พอเขาแฮ่ เราก็แฮ่ด้วย (หัวเราะ) ก็ตกใจจริงๆ ครับ”
ซีรีย์เรื่องนี้จะแตกต่างจากเรื่องผีอื่นๆ ยังไง
เซ้นต์ : “ผมรู้สึกว่าเรื่องเล่าแต่ละเรื่องเราอาจจะเคยได้ฟังได้ยินใกล้เคียงกับเรื่องเล่าในโรงเรียนแต่ละโรงเรียนมาก่อน แต่ความน่ากลัวและความแตกต่างก็คือ ถ้าเราเอาสิ่งนั้นที่มันเป็นแค่เรื่องเล่ามาเป็นเรื่องจริง มันก็จะกลายเป็นประสบการณ์ที่หลายๆ คนอาจจะได้เจอกันอยู่ พอมาดูเรื่องนี้ก็อาจจะนึกย้อนได้ว่ามันเหมือนเรื่องในโรงเรียนเราเลย มันก็จะมีความกลัว ความหลอนตรงนั้นอยู่”
ฉากไหนที่ตราตรึงใจที่สุด
ชิม่อน : “ผมมีซีนนึงที่รู้สึกว่ากลับไปแล้วภาพติดตา จะเป็นซีนที่มีผีหลายๆ ตน ซีนนั้นเป็นซีนที่ติดตาที่สุดแล้วครับ เพราะด้วยจังหวะ ด้วยเพลง ด้วยอารมณ์ ณ ตอนนั้นที่มืดๆ กลางคืนแล้ว เป็นอะไรที่ตื่นเต้นมาก และกลัวจริง”
เซ้นต์ : “มีฉากนึงที่ตราตรึงผมมาก มันคือบทสรุปของเรื่อง ผมรู้สึกว่ามันเป็นการเล่าที่เราตราตรึงกับมันมากในสิ่งที่ผู้กำกับเล่ามันออกมา เราได้เห็นและมันไม่ได้มีเพียงคำว่าผี อยากให้ได้ติดตามกันครับ”
ความหลอนของแต่ละตอนจะเป็นยังไง
เซ้นต์ : “ทุกเรื่องมันเกิดจากคำว่าเรื่องเล่า เคยได้ยินมั้ยที่ว่า เขาเคยเล่าว่าอย่างนี้ เขาเคยบอกว่าอย่างนี้ เรื่องผีเรื่องนี้มีอยู่ว่าอย่างนี้ เรื่องผีเรื่องนี้เป็นอย่างนั้น เราก็จะเล่าให้ทุกคนฟังว่าอะไรที่มันกำลังจะเกิดขึ้น และเตรียมรับความหลอนจากตอนเราเต็มๆ ซึ่งเรื่องอื่นๆ มันจะมีเรื่องราวความหลอน เพราะแต่ละที่จะมีเรื่องเล่าไม่เหมือนกัน ที่มันจะต่อเนื่องกันจนถึงเรื่องสุดท้าย ทุกต้องดูทั้ง 8 ตอนนะครับ มันจะมีจุดเชื่อมบางอย่างที่เมื่อคุณดูทุกตอนแล้วคุณจะสนุกมากกว่าที่คุณดูแค่ตอนเดียว (ยิ้ม) ลุ้นทุกตอนแน่นอนครับ เพราะทุกตอนจะมีกิมมิคบางอย่างที่มันสอดแทรกอยู่ บางอันมันก็อาจจะไม่ได้เกิดขึ้นแค่เรื่องเล่าของนักเรียน แต่ของเราคือนักเรียนเล่าปากต่อปาก บางเรื่องอาจจะมาจากครูก็ได้ หรืออาจจะเป็นเรื่องราวของคนที่อยู่ในโรงเรียนก็ได้”
เรื่องเล่าในโรงเรียนของเราเอง
เซ้นต์ : “เอาจริงๆ คือเราสองคนเรียนโรงเรียนเดียวกันครับ (ยิ้ม) ก็คือเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกัน ประสบการณ์ในโรงเรียนของผมคือไม่ได้เจอกับตัวตรงๆ แต่เราจะมีเพื่อนเป็นชมรมเชียร์และแปลอักษรเยอะ และจมีบราเธอร์ หรือที่เราเรียกกันว่าคุณพ่อ ที่เป็นผอ.โรงเรียน ปกติบราเธอร์โรงเรียนผมเขาจะใส่ชุดสีขาว มีอยู่วันนึงเพื่อนๆ ผมไม่ยอมกลับบ้าน ซึ่งพรุ่งนี้จะมีงานแข่งใหญ่ แต่เพื่อนก็อารมณ์ตื่นเต้น ก็ซ้อมกันอยู่ที่โรงเรียน แล้วก็มีบราเธอร์เดินมา แต่ใส่ชุดสีดำ ซึ่งชุดสีดำเราเลิกใช้กันไปเป็น 100 ปีแล้ว แล้วก็พูดเป็นภาษาอังกฤษบอกว่าให้ไปนอนได้แล้ว ไปพักผ่อนได้แล้ว และให้กำลังใจ ซึ่งเช้ามาก็ไม่มีใครเอะใจนะครับ สุดท้ายแล้วก็ไปเล่าให้มิสฟัง ก็คือคุณครู มิสก็บอกว่าไม่น่าใช่บราเธอร์นะ เพราะเมื่อวานบราเธอร์ไปสัมมนา (หัวเราะ) และชุดบราเธอร์สีดำเขาเลิกใช้มา 100 กว่าปีแล้วนะลูก (หัวเราะ)”
ชิม่อน : “ของผมก็มี เขาเล่าต่อๆ กันมาปากต่อปาก ถ้ากลางคืนไปแล้วสัก 3-4 ทุ่ม มันจะมีตึกเก่าตึกนึง ถ้าเราขึ้นไปช่วงนั้นเราจะเจอบราเธอร์ที่มาเดินตรวจตึก ซึ่งจริงๆ แล้วไม่น่าจะมีบราเธอร์มาเดินตรวจตึกเวลานั้น และวันนั้นเพื่อนผมทำงานดึกและลืมของไว้ที่ห้องเรียน และต้องขึ้นไปที่ตึกเก่านั้นเพราะห้องเรียนอยู่ตึกนั้น พอกำลังเดินไปที่ห้องจะเปิดประตู แต่ประตูล็อค ก็เลยเดินออกมา สักพักได้ยินเสียงโต๊ะเหมือนกำลังโดนลากอยู่ สักพักเพื่อนก็เดินไปดู เพื่อนบอกว่าเห็นเงาคนร่างใหญ่ๆ ผมยาวๆ มีเครา แล้วเพื่อนก็หันมาแต่ไม่พูดอะไรแล้วก็วิ่งครับ ลงลิฟท์กัน แต่ลิฟท์มาเปิดที่ชั้น2 ซึ่งไม่มีใครกด แล้วมันขึ้นไปที่ชั้น3 อีก โดยที่ยังไม่มีคนกดลิฟท์ด้วย เราก็กดลงมาชั้น1 อีกรอบ มันก็ลงมา แต่ลิฟท์ไม่เปิด แล้วไฟในลิฟท์ก็กระพริบเหมือนในหนังผีเลย ประมาณสัก 3 วินาทีลิฟท์ก็เปิด เราก็วิ่งกันออกมาเลย ก็ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า ไม่รู้เพื่อนคนนั้นแกล้งเราหรือเปล่า แต่บรรยากาศคือเหมือนจริงมาก”
ประสบการณ์ที่โดนเองจังๆ
เซ้นต์ : “คือผมเป็นเด็กค่ายอาสา แล้วมีรุ่นพี่คนนึงเขาก็สั่งงานเราอยู่ดีๆ เขาก็ลงไปนั่ง สักพักก็พูดเป็นภาษาที่เราฟังไม่รู้เรื่อง คือคนที่คุมงานคนก็ไม่น่ามาแกล้งคน มาทำร้ายคน แต่พี่เขาเร่ิมทำร้ายตัวเอง ทุกคนก็ช่วยกันล็อค คนไหนมีพระอะไรคือเอามาแขวนกันหมด แล้วพี่เขาก็สลบไป เช้ามาชาวบ้านก็เอาน้ำมนต์มาให้ทาน คือพวกผมจะไปสร้างห้องสมุดกันที่นั่น ชาวบ้านเขาก็ถามว่าก่อนจะสร้างไปไหว้ตรงนี้ๆ หรือยัง แต่ด้วยความที่พวกเราไม่รู้ พวกเราก็เลยไปไหว้ขอท่านว่าวันนี้เราตั้งใจมาทำความดี ตั้งใจมาสร้างลานอเนกประสงค์ ทำห้องสมุดให้กับโรงเรียนแห่งนี้ ก็พอขออนุญาตท่านเสร็จงานก็ราบรื่นไปได้ด้วยดี ไม่มีเหตุการณ์อะไรอีก”
ชิม่อน : “ส่วนของผมเหตุการณ์ที่กลัวที่สุดก็น่าจะเป็นตอนที่นั่งรถไฟครับ ตอนนั้นจะไปค่ายอาสาเหมือนกัน ผมก็ต้องนั่งรถไฟจากกรุงเทพฯ ขึ้นเหนือ ในระหว่างทางที่กำลังผ่านภูเขา ตอนนั้นด้วยวัยคะนองเราก็ท้าออกมา บอกว่าแถวนี้มีจริงมั้ย มีจริงก็เข้ามาเลย อยากรู้ว่ามันเป็นยังไง ก็ท้าจริงจังมากครับ แต่ด้วยความที่มันดึกมากแล้ว ตี2-ตี3 เพื่อนมาเล่าให้ฟังทีหลัง เพราะตอนนั้นผมไม่มีสติแล้ว ผมหลับไปเลย เพื่อนก็มาเล่าว่าอยู่ดีๆ ผมก็นั่งซึม แล้วก็ท้าคนนั้นคนนี้ตีไปทั่วเลย ไปทำร้ายคนอื่นด้วย เหมือนคุมตัวเองไม่อยู่ จนพี่คนนึงเขาต้องเอาพระมาใส่ให้ แล้วก็ท่องอะไรก็ไม่รู้ จนหลุดออกมาจากตรงนั้นได้ ทรมานมาก รู้สึกหายใจไม่ค่อยออก”
เซ้นต์ : “ผมจะมีความเชื่อนึงว่าเวลาผีมาให้เห็น เพราะเขาต้องการความช่วยเหลือ ก็เลยรู้สึกว่าเมื่อเราได้เห็นได้เจอ วันรุ่งขึ้นเราก็ไปทำบุญ แต่ผมไม่เคยเจอแบบตรงๆ ขนาดนั้น ส่วนใหญ่จะมาเป็นเสียงบ้างอะไรบ้าง”
เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันในโรงเรียน แล้วได้มาร่วมงานด้วยกันในเรื่องนี้เป็นยังไงบ้าง
เซ้นต์ : “คือรุ่นพี่รุ่นน้องโรงเรียนนี้จะแยกชั้นเรียนกัน แยกตึกกันชัดเจน ก็เลยอาจจะไม่เคยได้คุยกันขนาดนี้ แต่พอมาร่วมงานกันน้องก็น่ารักมากครับ ถ้านับจริงๆ เขาเป็นรุ่นพี่ผมในวงการนะ (ยิ้ม) แต่ไม่เคยร่วมงานกันมาก่อนหน้านี้เลยครับ อาจจะมีเห็นผ่านๆ ตามงานอีเว้นท์บ้าง”
ชิม่อน : “ตอนที่รู้ว่าต้องเล่นกับพี่เซ้นต์ผมก็ตื่นเต้นมากครับ พี่เขาเล่นเก่งขนาดนี้ ทำยังไงดีวะ ต้องเล่นยังไงให้เข้ากับพี่เซ้นต์”
เซ้นต์ : “แต่เรื่องนี้ชิม่อนเล่นดีมากครับ”
ชิม่อน : “เวลามีปัญหาในกองก็จะปรึกษาพี่เซ้นต์ว่าแบบนี้ๆ ดีมั้ย”
เซ้นต์ : “ผมรู้สึกว่าเวลาที่เราได้เริ่มงานอะไรใหม่ๆ กับคนใหม่ๆ ก็เหมือนเราได้รีเซ็ตตัวเอง มาเรียนรู้กันใหม่ มาลองอะไรใหม่ๆ แม้กระทั่งการแสดงเอง เพราะผู้กำกับแต่ละคน ทีมงานแต่ละทีมเขาจะมีลายเส้นของเขาแตกต่างกัน หรือแม้แต่แอ็คติ้งที่เราจะต้องเล่นแบบนี้ เขาก็จะมีรูปแบบที่แตกต่างกันไป เราก็ต้องเรียนรู้ว่าตัวละครนี้มันเล่าแบบไหน อย่างบทตั้มที่ชิม่อนเล่นก็จะมีความกล้า แต่ในใจก็ไม่ได้กล้าขนาดนั้น หรือตัวบอยที่ผมเล่นก็คือท้าไปทั่วเลย ปากเก่ง แต่จริงๆ ก็อาจจะไม่ได้เก่งแจ๋วขนาดนั้น มันต้องเรียนรู้ในตัวละครครับ”
การได้ร่วมงานกับ Netflix กดดันหรือตื่นเต้นขนาดไหน
เซ้นต์ : “ตื่นเต้นมากครับ เพราะเราไม่ได้ฉายแค่ในประเทศไทยนะครับ แต่เราฉายกันถึง 190 ประเทศ และตอนที่ติดต่อมาเรารู้เลยว่าจะมีนักแสดงดาวรุ่งมารวมกัน 14 ชีวิต ซึ่งไม่อยากให้ติดตามแค่ตอนเดียว ต้องติดตามทั้ง 8 ตอนเลยนะ และเมื่อเราได้ร่วมงานกับ Netflix เราก็อยากดูฟีตแบ็คเพื่อให้เราได้พัฒนาการแสดงของเราด้วย หลายๆ คนอาจจะมีคอมเม้นต์ติชมอะไรเข้ามา พวกเราก็จะเก็บมาเพื่อพัฒนาตัวเองต่อไปสำหรับงานในวงการบันเทิง และอาจจะมีอนาคตกับทาง Netflix เอง หรืออนาคตในงานต่างๆ ในเส้นทางบันเทิงของพวกเราเองด้วยครับ”
ฝากถึงซีรีย์เรื่องนี้
ชิม่อน : “บอกได้แค่ว่าผีเรื่องนี้มีบอสนะครับ (ยิ้ม)”
เซ้นต์ : “คร่าวๆ ก็คือ เป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มสองคนที่อยากพิสูจน์คำว่าเรื่องเล่าต่างๆ ในโรงเรียนมันไม่มีอยู่จริง และเขาก็พิสูจน์ แต่การพิสูจน์ของเขาไม่ได้อยากให้เห็นกันแค่สองคน เขาอยากทำให้โลกได้เห็นว่าเรื่องนี้มันไม่ได้มีอยู่จริงจริงๆ เขาก็เลยไลฟ์ไปด้วย พาไปชมทีละเรื่องเล่า พิสูจน์แต่ละเรื่องเล่า แต่ทุกครั้งที่เขาเดินไปเรื่อยๆ เขาก็เดินไปสู่ประตูนรกขึ้นเรื่อยๆ ก็อยากให้ติดตามทุกๆ ห้อง ทุกเรื่องเล่าว่ามันจะมีความน่ากลัว มีความพิศวง ความหลอน หรือตัวละครสองตัวนี้เขาจะผ่านแต่ละด่านของทุกห้องนี้ยังไงครับ ซึ่งเรื่องของเราจะเป็นตอนสุดท้ายของเรื่อง เป็นตอนที่ 8 เลย ก็ฝากทุกคนติดตามด้วยครับ”
ชิม่อน : “กับเรื่องที่ชื่อว่า School Tales the Series โรงเรียนผีมีอยู่ว่า… ครับ”
เซ้นต์ : “ชื่อตอน เดินล่าท้าผี ครับ ก็ฝากติดตามตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนสุดท้ายเลยนะครับ กับตอนที่ 8 ของพวกเรา รับรองว่าบทสรุปในตอนที่ 8 จะพาทุกคนไปหลอนให้ถึงที่สุดแน่นอนครับ (ยิ้ม)”
เตรียมท้าพิสูจน์ความหลอนของซีรีย์ School Tales The Series โรงเรียนผีมีอยู่ว่า…ทั้ง 8 ตอน พร้อมกันทั่วโลกวันที่ 10 สิงหาคมนี้ทาง Netflix
