“เก๋ ชลลดา” เผยให้แม่บุญธรรม “ซันนี่ ยูโฟร์” เซ็นเอกสารยินยอมรับสุนัขไปดูแลก่อนเบื้องต้น ลั่นสัตว์เลี้ยงก็ถือเป็นทรัพย์สินของผู้ตายด้วยเช่นกัน เล่านาทีไปรับน้องทั้งสองตัวให้ทีมงานจุดธูปบอก ซันนี่ ยูโฟร์ ไม่ต้องเป็นห่วงสุนัขทั้งสองตนจะดูแลให้อย่างดี
หลังจากทราบข่าวการเสียชีวิตของ “ซันนี่ ยูโฟร์” หรือ “ญาณวรุตม์ สุทธวาส” ที่ใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพังกับสุนัข 2 ตัว ทาง “เก๋ ชลลดา เมฆราตรี”ในฐานะประธานมูลนิธิเดอะวอยซ์ จึงส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปรับสุนัขทั้งสองมาดูแลก่อนเบื้องต้น
ซึ่งเก๋เผยว่า แม้จะเป็นเพียงแค่สุนัข หากเจ้าของเสียชีวิตไปแล้ว ก็ต้องมีการเซ็นเอกสารยินยอมในการดูแลอย่างถูกต้อง เพราะสัตว์เลี้ยงก็ถือเป็นมรดก เป็นทรัพย์สินของผู้ตายด้วยเช่นกัน
“วันนี้ก็มาร่วมส่งพี่ซันนี่ค่ะ เมื่อเช้าก็มีการพูดคุยกับคุณแม่ หลาน ทางคุณแม่บุญธรรมของพี่ซันนี่ด้วย เก๋อยากทำให้มันถูกต้อง ไม่อยากทำให้พี่ซันนี่เขาห่วง ที่สำคัญการทำงานของมูลนิธิต้องมีเอกสารในการเซ็นยกมอบ เพราะสุดท้ายเราคุยกันแล้วว่าคุณแม่ไม่สามารถที่จะดูแลสุนัขทั้ง 2 ตัวได้ เก๋ก็ต้องเอาเอกสารมาให้คุณแม่เซ็นค่ะ
คุณแม่ก็จะบอกว่าขอบคุณมากนะที่ยื่นมือเข้ามาช่วย ถามว่าเก๋โกรธไหมที่คุณแม่เขาเลี้ยงไม่เป็น สุนัขตัวใหญ่ ต้องบอกว่าจริงๆ แล้วแกก็แอบกลัวด้วย และก็ไว้ใจ อยากให้เก๋ช่วยหาบ้านที่เหมาะสมให้ คือตัวเก๋เข้าใจได้นะคะ สัตว์เลี้ยงที่มีเจ้าของต้องมีการเซ็นมอบอำนาจ เพราะถือว่าเป็นทรัพย์สินอย่างหนึ่ง ก็ต้องให้ทางครอบครัวอนุญาตก่อนค่ะ ซึ่งถ้าทางครอบครัวแสดงความจำนงมาว่าไม่สามารถดูแลหรือไม่มีความพร้อมที่จะเลี้ยงดูเขาได้ มูลนิธิเดอะวอยซ์ก็จะทำหน้าที่ตรงนี้ให้”
ให้ทีมงานจุดธูปบอก “ซันนี่ ยูโฟร์” ไม่ต้องเป็นห่วงสุนัขทั้งสองตนจะดูแลให้อย่างดี
“ก็บอกว่าพี่ซันนี่ไม่ต้องห่วงแล้วนะคะ ก็พูดตั้งแต่วันแรกที่ให้ทีมงานไปถึงที่เกิดเหตุนะคะ ก็ให้จุดธูปบอกพี่เขาด้วย ว่าเราจะทำให้ดีที่สุด ไม่ต้องห่วงนะคะพี่ เก๋จะดูแลเขา เปรียบเสมือนกับหนึ่งในสมาชิกเดอะวอยซ์เสียงจากเราอยู่แล้วคือสัตว์อะไรก็ตามที่เราช่วยมา ไม่ใช่แค่เคสพี่ซันนี่นะคะ เคสอื่นๆ ก็เช่นเดียวกัน พอมาอยู่กับเราแล้วก็เป็นสุนัขมีเจ้าของ มีคนดูแล เหมือนมีผู้ปกครองค่ะ ไม่ได้ถูกทอดทิ้งแน่นอน
เก๋รู้สึกว่ามันเป็นสิ่งเดียวที่ตอนนี้เก๋จะทำให้พี่เขาได้นะคะ และก็เหมือนเป็นอีกหนึ่งหน้าที่ที่มูลนิธิเดอะวอยซ์ทำให้กับคนไทยมาเสมอ ถ้าใครมีปัญหาเรื่องสัตว์ และเรามีความสามารถในการหยิบยื่นมือเข้ามาได้ เก๋ก็เต็มใจช่วยค่ะ เขาจะมีทั้งหมด 2 ตัว ริชชี่ คือพันธุ์ไซบีเรียน และอีกตัวคือ มันนี่ ตัวนี้เขาจะมีความหวาดระแวงอยู่ ยังอยู่ในกรง คือเรามีห้องให้เขาอยู่ แต่เขาจะอยู่แต่ในกรง ไปนอนที่นั่น ออกมาขับถ่ายอย่างเดียว
เรามีความเชื่อเพราะเราก็ช่วยเหลือสัตว์มาเยอะ การปรับพฤติกรรมของเขา ทำให้เขาคลายเครียดด้วยการพามาเดินเล่น แต่พอวันนี้พาออกมาเดินเล่น บวกกับอากาศร้อนด้วย ริชชี่เดินได้ดีหอบนิดหน่อย แต่มันนี่ที่เป็นสุนัขไทยหอบแรงมากๆ เดินได้แค่ 10 นาที เขาเดินไม่ไหว แต่เก๋คิดว่าเขาไม่ได้มีอะไรร้ายแรง อาจจะเป็นเพราะน้ำหนักตัวมากกว่า ดูค่อนข้างจะเจ้าเนื้อ ทั้งนี้ทั้งนั้นเก๋ต้องได้รับอนุญาตจากครอบครัวซะก่อน ซึ่งวันนี้ก็ได้มีการเซ็นเอกสารเรียบร้อยแล้ว เก๋ก็จะนำน้องทั้ง 2 ตัว ไปตรวจสุขภาพว่ามีผลเลือดเป็นยังไงบ้าง เพราะอายุ 5 ขวบแล้ว”
บอกสุนัขทั้งสองตัวมีอาการหงอยที่ “ซันนี่ ยูโฟร์” หายไป แต่ตอนนี้เริ่มร่าเริงขึ้นแล้ว
“จริงๆ อยากจะชื่นชมนิติบุคคลของคอนโดพี่ซันนี่มากๆ เมื่อกี้ทีมงานเก๋โทร.คุย รู้เรื่องละเอียดมาก ให้ความรู้ทุกอย่าง ให้ความกระจ่างว่าน้องเป็นยังไงบ้าง ตั้งแต่พี่ซันนี่ไม่สบาย น้อง 2 ตัว ก็ไม่ได้ลงมาเดินเล่นเลยค่ะมันอาจจะมีส่วนด้วย เพราะสุนัขไซส์ใหญ่ขนาดนี้มันต้องมีการออกกำลังกาย เลยทำให้ดูเหมือนไม่ค่อยมีแรง แต่อันนี้มันฟื้นฟูกันได้ ไม่ได้เป็นโรคร้ายแรง และสุนัขระแวงก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วถ้าเลี้ยงแต่ในห้องที่จำกัดพื้นที่ และอยู่แต่กับเจ้าของอย่างเดียว เวลาเขาเจอใครก็จะกลายเป็นคนแปลกหน้าไปหมด ซึ่งเป็นพฤติกรรมปกตินะคะ
ถามว่าหงอยไหม มันต้องมีอยู่แล้ว เขาต้องรักพี่ซันนี่มากๆ เขาต้องแบบ เอ๊ะ! แม่เขาหายไปไหน ตอนนี้ก็เลยให้น้องๆ ทีมงานเก๋แวะเวียนไปเล่นกับเขา เหมือนเป็นยาใจ เรียกชื่อ ให้เขากินข้าว วันนี้เราเพิ่งลงคลิปล่าสุดเพราะทีมงานไปเยี่ยมมาแล้วนะคะ เก๋ก็เดินทางมาที่นี่ก่อน กลัวรถติดมากๆ เขาถ่ายวิดีโอมา น้องดูร่าเริงขึ้นกว่าเมื่อคืน คือสุนัขดูง่ายเพราะหางเขาจะตั้งขึ้น เมื่อวานหางจะลู่ตลอด ใครคุยอะไรก็ลู่ ไม่ยอม แต่วันนี้เขาขานรับชื่อเขา เรียกริชชี่ก็เดินมาหา ทานอาหารได้ดีค่ะ ท้องเสียเล็กน้อย”
ยินดีหากมีคนอยากรับสุนัขทั้งสองตัวไปเลี้ยง
“ยินดีมากๆ เลยนะคะ คือเก๋จะบอกว่าวันนี้เก๋ก็ประกาศไปในโซเชียลเบื้องต้นแล้วว่าหลังจากที่ขออนุญาตคุณแม่ ได้การเซ็นเอกสารเรียบร้อยแล้ว เก๋จะขออนุญาตหาบ้านที่เหมาะสมที่สุดให้เขา เบื้องต้นเก๋แสดงความจำนงไปว่า ถ้าเป็นไปได้ ใครที่สามารถรับได้ 2 ชีวิต ทั้ง 2 ตัวเลย เพราะเขาสนิทกัน ถ้ารับได้จะดีที่สุด
ตอนนี้เก๋กำลังจะเช็กสุขภาพ น้องในทีมเก๋กำลังติดต่อโรงพยาบาลสัตว์ที่พี่ซันนี่เคยพาไป น้องสุนัขทั้ง 2 เป็นเพศเมียค่ะ ก็เลยดูยากนิดนึงว่าทำหมันหรือยัง ถ้ายังไม่ทำก็จะขออนุญาตทำหมันก่อน และอย่างที่บอกจะตรวจสุขภาพ ทำวัคซีนให้ ก่อนส่งให้บ้านใหม่ จะให้เขาไปอย่างสมบูรณ์ที่สุด ทั้งสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตใจค่ะ”
