xs
xsm
sm
md
lg

“แอนนา” พูดไม่อาย เดินแบบระดับโลกได้เงินแค่หมื่นเดียว แต่จ้างเอเจนซี่หางานให้เป็นแสน (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“แอนนา” โต้ยัดเงินจนได้เดินแบบระดับโลก แต่ยอมรับว่าจ่ายเงินให้เอเจนซี่หางานให้ พูดตรงๆ แบบไม่อายได้ค่าตัวแค่หมื่นเดียว แต่ต้องเสียเงินจ้างเอเจนซี่ให้หางานให้เป็นแสน แต่ก็คุ้มเพราะเป็นกะเทยคนแรกที่เดินแบบให้ โอต์ กูตูร์ ส่วนเรื่อง เคลียร์เรื่องเอาเสื้อผ้าแตงโมออกมาขาย เผยเบิร์ดยังมูฟออนไม่ได้ อยากฆ่าตัวตาย




จู่ๆ ก็ไปโผล่เดินแบบในงาน โอต์ กูตูร์ ปารีสแฟชั่นวีค ทำเอาเป็นข่าวโด่งดังเลยทีเดียว สำหรับ “แอนนา” เล่นเอางงกันทั้งประเทศไปแอบเป็นนางแบบตอนไหน งานนี้เลยมีการจับโป๊ะว่า แอนนาจ่ายเงินเพื่อให้เดินแบบครั้งนี้ ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า เป็นการจ่ายให้เอเจนซี่ที่หางานให้

“ก็ยอมรับเลยนะคะว่าแอนนาไม่ได้จ่ายเงิน แต่ที่จะยอมรับในวันนี้คือแอนนามีเอเจนเซี่ คือปกติแล้วนางแบบเขาจะมีเอเจนซี่หรือต้นสังกัด แต่แอนนาจ้างเอเจนซี่ดูแล ไม่ได้เซ็นสัญญากับเอเจนซี่นะคะ แต่แอนนาจ้างเอเจนซี่เลย ซึ่งเรทที่จ้างคือน้อยมาก เวลาที่มีงานเขาจะส่งเมล์มาให้เรา ดังนั้นเราจะรู้ว่าแต่ละงานมีงานไหนบ้างที่เราตรงสเป็ก ซึ่งงานที่แอนนาแคสผ่านเขาจะมีสเป็กว่าสูงไม่ต่ำกว่า 180 หน้าอก เอว สะโพกต้องไม่เกินเท่าไหร่ แล้วเขาจะมีเรทที่เป็นกราฟเสื้อผ้า และถ้าแอนนาต้องจ่ายเงินเพื่อเดิน แอนนามาทำคอนเทนต์อยู่ในเมืองไทย แอนนาได้เอ็นเกจเม้นต์สูงกว่าค่ะ”

แอนนา : “ถ้าเราจ่ายเงิน เราจะเอาหน้าอกออกทำไม เสียดายหน้าอก เจ็บตัว เงินเท่าไหร่มันถึงจะพอกับความเจ็บ และถ้าแอนนาต้องจ่ายเงินแอนนาจะบินไปลงเยอรมันทำไม ถ้ามีเงินขนาดนั้นก็บินลงตรงปารีสเลยค่ะ นี่ลงเยอรมันค่ะ เพราะประหยัดค่าตั๋ว และจะเอาพี่หลินไปทำไมถ้าต้องจ่ายเงิน ฉันก็จ้างช่างกองไปเลยสิคะ เพราะไหนๆ จ่ายเงินไปแล้วช่างกองก็ต้องมาแต่งให้สวยๆ นี่ต้องเอาพี่หลินไปแต่งหน้า เพราะว่ากลัวแคสไม่ผ่าน และแคสครั้งแรกก็ไม่ผ่านด้วย เพราะเขาบอกว่าอ้วนเกิน เอวเราใหญ่เกินไป ใส่ชุดราตรีเขาไม่ได้เลย แฟนๆ เราก็บอกว่าทำไมเราได้ชุดไม่สวย ชุดแกง คือชุดไม่ได้แกงค่ะ แต่หุ่นเรามันใส่กับเขาไม่ได้”

“และประเด็นที่ได้บอกแบบไม่อายเลย หัวใจหลักคือเราเป็นอินฟลูเลนเซอร์ เราไม่ใช่นางแบบ ดังนั้นที่เขาเลือกเรา เพราะว่าเราเป็นอินฟลูเอนเซอร์ มีฐานผู้ติดตาม และเขาต้องการความเป็น diversity (ความหลากหลาย) เพราะตอนที่แอนนาแคสเสร็จ แอนนาโทรบอกเมญ่าเลยว่า เขาพูดว่าเขาไม่เอา และเขาบอกว่าให้ทุกโมเดลลิ่งส่งกระเทยหรือ LGBT มาให้หมด เขาต้องการดูคนอื่นบ้าง เวลาผ่านไปประมาณ 2 ทุ่มเราก็รู้แล้วว่าไม่ได้ ก็ทักเข้าไปหาอีกว่า ให้หนูลองไปเดินอีกรอบได้ไหม เมื่อเช้าหนูตื่นเต้น คือตื้อ ง้อมาก จะร้องแล้ว”

แอนนา : “ตอน 2 ทุ่มก็ลองไปเดินอีกรอบนึง เขาบอกว่าการเดินไม่สวยเลย ปรับได้ไหม เขาก็แก้ให้เลยชั่วโมงกว่า และเขาก็ถามเราว่าทำไมเดินไม่หยุดเลย เราก็บอกว่าเราจะเดินจนกว่าคุณจะเลือกเรา คุณจะเอาเราแน่นอนว่าเราเดินได้ เขาก็บอกว่าฉันเลือกคุณแล้ว ถ้าฉันไม่เลือกคุณ ฉันไม่เรียกคุณมาอีกรอบหรอก ก็ดีใจ ก็เลยลงประกาศ พอลงประกาศเสร็จทัวร์ลงค่ะ เอฟซีชาวไทยไปคอมเม้นต์ เขาบอกว่าเขาไม่เคยเห็นความสามัคคีแบบนี้จากประเทศไหนมาก่อน เพราะนางแบบดังๆ ที่มาเดิน นางแบบระดับโลกหลายคนก็ไม่มีใครมาคอมเม้นต์เป็นหลายร้อยข้อความ แต่ของเราคนมาคอมเม้นต์ 1,800 ข้อความ ซึ่งทางห้องเสื้อพยายามจะหาชุดเพิ่มให้ด้วย ให้ใส่เพิ่ม แต่จะบอกว่ามันได้แค่นั้น”

“และมันเป็นเรื่องที่ดังมากในปารีสแฟชั่นวีครอบนี้ เพราะว่ามันไม่มีแบรนด์ไหนที่จะมีข่าวลงเยอะขนาดนี้ คือมีอินฟลูเอนเซอร์จากทั่วโลกไปเดินนะ ปัจจุบันต้องทำความเข้าใจก่อนว่าไม่ใช่นางแบบอย่างเดียวที่จะได้เดินแบบ แต่เขาเอาอินฟลูเอนเซอร์กับนางแบบ และแอนนาก็อยู่ในหมวดของอินฟลูเอนเซอร์ที่ไปเดิน เขาต้องการกระจายฐานให้คนทั่วโลกได้รู้จัก แต่อินฟลูเอนเซอร์ก็ต้องเดินดีด้วย สูง 180 สัดส่วนได้ และอีกอย่างจะบอกว่าอินสตาแกรมแอนนาลบรูปไปเกือบพันรูปเลยนะ ตอนก่อนไปแคส เพราะพี่เอเจนซี่บอกว่าอินสตาแกรมไม่รอดนะ เพราะเขาเช็คอินสตาแกรม ก็ลบไปประมาณพันกว่ารูป รูปที่ไม่แพง รูปที่เรานั่งทำตลกขบขัน เขาบอกว่ามันเป็นภาพลักษณ์ของแฟชั่น”

แอบไปแต่งหน้าเองเพราะกลัวไม่สวย
แอนนา : “พอเราได้แล้วเขาก็บอกว่าคุณจะต้องแต่งหน้าแบบนี้ ทำผมแบบนี้นะ คุณจะต้องใช้ช่างกองนะ เราก็บอกโอเคไม่มีปัญหา พอวันที่ไปช่างกองก็ทำผมให้ ก็แกงหม้อใหญ่ (หัวเราะ) พอสักพักเริ่มแต่งหน้า เรารู้แล้วว่าไม่รอดแน่ เราก็เลยบอกขอตัวไปกินข้าวแป๊บนึง แล้วเอาเรฟเฟอร์เร้นซ์ไปด้วย พอกลับมาหน้าสวยตามนั้นเลย ไปแต่งเรียบร้อยเลย เขาก็ช็อคว่าทำไมหน้าสวย ตอนแรกก็นึกว่าจะโดนด่า แต่กลายเป็นว่าพี่หลินทำตามเรฟเป๊ะและทำออกมาได้ดี เขาเลยให้พี่หลินไปช่วยเซเลปคนอื่นด้วย”

จ้างเอเจนซี่เดือนละแสนต้นๆ
แอนนา : “หลักแสนต้นๆ ต่อเดือนค่ะ ก็คือถ้ามีงานไหนที่เหมาะกับเรา ก็ให้เขาส่งมาให้เราเลยว่าเราจะไปตรงไหนได้บ้าง ถามว่าเราได้เงินบ้างไหม พูดแบบไม่อายเลยนะ ที่เดินแบบไปยังไม่พอค่าตั๋วเลยค่ะ แต่อย่ามองว่าเป็นเรื่องเงิน มองว่าความเป็น LGBT กับโอกูตูร์ มันยังไม่เคยมีใครทำได้นะคะ งานโอกูตูร์เป็นงานแฟชั่นที่เป็นชุดราตรี เป็นชุดชั้นสูงของปารีสแฟชั่นวีค และฐานลูกค้าหลักของเขาคืออาหรับ ดังนั้น LGBT ก็เลยยังไม่มีโอกาสได้ไปเดิน การที่เขาเลือกเราเพราะเรามีฐานแฟนคลับเยอะ และเขาชอบเรื่องใบหน้า เขาบอกหน้ามีความเป็นเอเชียมาก มันบ่งบอกว่านี่คือคนเอเชีย เขาชอบ แต่ที่เขาไม่ชอบเราคือเรื่องน้ำหนักที่เรายังดูอวบไปนิดนึง และเรื่องการเดินที่เรายังดูเดินเป็นนางงาม เราไม่ได้เดินเป็นนางแบบ”

ยันไม่ได้ยัดเงิน แถมยังต้องเจ็บตัวตัดนม
“แอนนาเรียนเดินแบบกับทางมิวส์และทางซูเปอร์สตาร์แบงคอก อคาเดมี่ มีสองครู ซึ่งครูแต่ละคนก็จะแก้ให้เราหมดเลยว่าแอนนามีปัญหาเรื่องการยืนนะ ชอบยืนหลังค่อม ต้องยืนให้สวย และตูดไม่ต้องกระดก เขาสอนหมดค่ะ เรียนเช้ากลางวันเย็นนะคะ เรียนรวบเลย หน้าอกก็เจ็บ แผลก็เจ็บ และถ้าต้องยัดเงินคงไม่ต้องทนทรมานขนาดนั้นนะคะ และถ้าต้องยัดเงินจริงๆ ดิฉันเชื่อว่ามีคนรวยกว่าดิฉันอีกหลายคนที่พร้อมจ่ายและได้เดิน”

“นี่ก็จ่ายเอเจนซี่ไป 2 เดือนแล้วค่ะ คือเขาต้องหางานให้เราทุกเดือน ถ้าเดือนไหนไม่มีงานก็ไม่จ่ายนะคะ แสนนึงก็ต้องมีงานให้เราด้วย เขาก็จะแนะนำว่าเดือนนี้เป็นเดือน Pride month นะ (เดือนแห่งความเท่าเทียมทางเพศ) หนังสือทั่วโลกเขาต้องการ LGBT ที่อิมแพ็ค คือที่เราได้พูดตรงๆ นะเราไม่ได้สวย ไม่ได้เก๋ ไม่ได้เดินเก่ง ไม่ได้เป็นนางแบบเริ่ด แต่โปรไฟล์เรามันน่าสนใจ เขาเลยเลือก”

“บอกตรงๆ ว่าบินไปรอบนี้หมดไปหลายแสน แต่ได้กลับมาหลักหมื่น ไม่คุ้มหรอก แต่ถ้าถามว่าถ้าทุกคนมีโอกาสจะไม่ทำเหรอ เราก็ต้องทำ อย่างรอบนี้นิวยอร์คแฟชั่นวีค ค่าตั๋วไปกลับกับค่าตัว ค่าตัวพูดตรงๆ บางทีหมื่นเดียว แต่ค่าตั๋วไปกลับและค่ากินบางที 3-4 แสนแล้ว แต่เราทำเพื่อความภาคภูมิใจในชีวิตเรา และถ้าวันนึงเราดังมีชื่อเสียงมากพอ เงินมันจะกลับมาเองค่ะ ถามว่าต้องใช้เวลากี่ปี เอเจนซี่คือน่ารักมาก เขาจะบอกตลอดว่าอันนี้ให้ลบนะ ลงไม่ได้”

เจอด่าเอาเสื้อผ้า แตงโม ภัทรธิดา ไปขาย
“งานเมืองไทยแอนนาบอกแล้วว่างานพิธีกรที่เป็นงานหลัก แอนนาไม่รับแล้ว แอนนาขอหยุดหน้าที่พิธีกรในเมืองไทยทั้งหมด พูดตรงๆ จากใจเลยคือไม่อยากอ่านข่าวโม เพราะทุกครั้งที่อ่านมันจี๊ดอยู่ในใจ มันเหมือนจี้ปม และเราไม่สามารถไปบอกทางโปรดิวเซอร์ได้ว่าวันนี้หนูไม่อ่านข่าวโมได้มั้ย หนูไม่อยากเจอทัวร์แล้ว หนูไม่อยากโดนมองว่าหิวแสง เราไม่อยากทำอะไรแบบนั้นแล้ว ล่าสุดไปเอาเสื้อผ้าโมมาขายก็ทัวร์ลงอีก คนก็บอกว่าทำไมเอาเสื้อผ้าโมมาขาย ทำไมไปยุ่งกับเสื้อผ้าคนตาย”

“เล่าว่าตอนนี้บ้านโมมีสองหลัง โอนกรรมสิทธิ์เป็นชื่อคุณแม่เรียบร้อยแล้ว และคุณแม่เขาจะคลีนบ้าน และเขาเองก็ไม่มีที่เก็บเสื้อผ้า เขาก็ถามแอนนาว่าจะทำยังไงดี เอาไปทำอะไรได้บ้าง แอนนาก็เลยบอกว่าปกติเวลาโมอยู่ โมชอบเอาเสื้อผ้าไปขาย แล้วเอาเงินไปทำบุญ แอนนาก็เลยบอกว่างั้นเอาเงินไปทำบุญไหมแม่ แม่ก็บอกว่าโอเค เราเป็นคนเสนอเองว่าครึ่งนึงก็ให้แม่เนอะ อีกครึ่งนึงขออนุญาตเอาไปทำบุญ ไปช่วยน้องหมา น้องแมว เอาไปให้โบสถ์ ก็ตัดปัญหาที่ว่าเงินจะให้แม่แอนนาก็ควักออกเอง เพราะจะได้ไม่มีดราม่า และเงินในส่วนทำบุญก็คือใครซื้อมาเท่าไหร่ก็ทำบุญ 100% จบ แล้วเบิร์ดก็มาช่วยคัดเสื้อผ้าด้วย วันนั้นมีแอนนา เบิร์ด แก๊งชั้นสอง ฮิปโปก็อยู่ แต่เสื้อผ้าบางตัวที่มันมีสตอรี่เราก็ไม่ได้ขาย”

“เบิร์ด” แฟนแตงโม ยังมูฟออนไม่ได้ ยังคิดฆ่าตัวตาย
แอนนา : “ทุกวันนี้จะบอกว่าเบิร์ดเองยังไม่มูฟออนนะคะ อาทิตย์ก่อนหน้าที่แอนนาจะบินไปเดินแบบ เบิร์ดยังบอกเลยว่าทำใจไม่ได้ บางทีมีอากาศบอกอยากจะคิดสั้น ไม่อยากอยู่บนโลก แอนนาก็บอกว่าเบิร์ดต้องมูฟออน และใช้วิธีแบบเราคืออะไรที่มันจี้จุดจี้ใจ คือเราก็เป็นนะ เวลาเราอ่านข่าวเราก็จิตตก เราก็บอกว่าแต่เบิร์ดต้องมูฟออน และแบ่งเวลามาทำประโยชน์ให้โมบ้างในบางครั้ง”

แอนนา : “ต้องบอกว่าเราต้องขอบคุณทุกคนนะคะ ไม่ว่าจะเป็นลุงอัจ (อัจฉริยะ) หรือคุณเต้ () ที่เข้ามาช่วย เราขอบคุณทุกคน เพราะทุกคนเสียสละ และทุกคนต้องเจอกับดราม่า ไม่ว่าจะหิวแสงบ้าง หาผลประโยชน์บ้าง ทุกคนโดนแบบที่เราโดน อยากบอกประชาชนทางบ้านทุกคนเลยว่าการที่ใครก็ตามมาช่วยคดีโม เราเปิดใจก่อน อย่าเพิ่งไปวีน ไปด่าเขา มันจะทำให้เขาท้อและหายไปหมด”













กำลังโหลดความคิดเห็น