xs
xsm
sm
md
lg

“ตู่ ปิยวดี” รับขายโฆษณายากขึ้นมาก ต้องเสิร์ฟคอนเทนต์ละครช่อง 3 สู่ตลาดอินเตอร์ ปีหน้าพัก 3 เดือน เตรียมมีลูก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ตู่ ปิยวดี” เผยตอนนี้ละครช่อง 3 มีการปรับระบบใหม่ เพื่อนำไปสู่ตลาดอินเตอร์ให้มากขึ้น ดึงทีมงานผู้เชี่ยวชาญมาตรฐานสากลเข้ามาร่วมงาน ตั้งกฎใหม่ให้ผู้จัดทุกคนทำละครต่อเรื่องแค่ 12 ตอนเท่านั้น เพราะตลาดต่างประเทศให้ได้แค่นั้น ยอมรับขายโฆษณายากขึ้น โต้แทน “ป้าแจ๋ว” ถึงละคร “คุณหมี” จะเรตติ้งได้ 0 แต่ถือว่าประสบความสำเร็จขายไปได้กว่า 25 ประเทศ  ปีหน้าขอเวลาพัก 3 เดือน เตรียมตัวมีลูก

เดินหน้าถ่ายทำละครเรื่องใหม่ ร้อยเล่ม เกมส์ออฟฟิศ เป็นที่เรียบร้อย สำหรับผู้จัดมากฝีมือ “ตู่ ปิยวดี มาลีนนท์” ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าการทำละครของช่อง 3 ตอนนี้มีการปรับเปลี่ยนระบบใหม่ เพื่อรองรับการนำคอนเทนต์ไปขายที่ต่างประเทศให้มากขึ้น โดยสาวตู่ก็ยอมรับว่าตอนนี้การขายโฆษณาเป็นเรื่องยากมากขึ้น จึงต้องหารายได้จากช่องทางต่างประเทศเข้ามาเสริม

“เวลาทำละครแต่ละเรื่อง ตู่จะเลือกจากทั้งนิยายและจากชีวิตจริงในสังคมค่ะ อย่าง ซ่านสเน่หา ก็เป็นนิยาย แต่เรื่องนี้คือทางทีมบีอีซี สตูดิโอเขาพร็อตขึ้นมา พอมาดูแล้วก็เลยรู้สึกว่าอยากทำเรื่องนี้ ตอนแรกตู่เป็นที่ปรึกษาให้ทางนี้เฉยๆ เนื่องจากทีมนี้ที่เข้ามาก็เพื่อยกระดับละครไทยแหละ เพราะปกติเวลาเราส่งไปเมืองนอกจะติดเรื่องเซ็นเซอร์ สุดท้ายก็ออกอากาศไม่ทันบ้าง หรือเรื่องเสียง เรื่องภาพ เรื่องเทคนิคการถ่ายที่ต้องเป้นเหมือนเมืองนอกแล้ว ที่เขาต้องถ่าย 3 กล้อง แต่เราก็ยังถ่าย 2 กล้อง ก็จะเปลี่ยนระบบทั้งหมดเพื่อรองรับตลาด เพราะเดี๋ยวนี้เราก็ต้องส่งออกคอนเทนต์ เป็นคอนเทนต์โพรไวเดอร์ (Content provider)

ถามว่าเน้นตลาดในประเทศหรือต่างประเทศมากกว่ากัน จริงๆ ก็ทั้งสองอย่าง เพราะตอนนี้รายได้ของช่องก็มาจากหลายทาง รายได้หลักก็คือการขายโฆษณา และถ้าเรื่องไหนขายไปต่างประเทศได้ก็จะเป็นรายได้อีกส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งที่เราจะได้ก็คือ 3plus ก็คือพวกดูย้อนหลังต่างๆ ค่ะ มันต้องผนวกกันหลายๆ ทาง เพราะตู่ว่าตอนนี้เงินโฆษณาในอุตสาหกรรมมันกระจายตัวออกเยอะเหมือนกัน”

ออกกฎใหม่ให้ผู้จัดทุกคนทำละครแค่ 12 ตอนต่อเรื่องเท่านั้น
การขายโฆษณาตอนนี้ยอมรับว่ายากขึ้นมากๆ เลยค่ะ เราถึงบอกว่าเราต้องพยายามเสิร์ฟคอนเทนต์ที่จะไปต่างประเทศด้วย เพื่อจะมาซัปพอร์ตรายได้ตรงส่วนนี้ด้วย อย่าง 3 เรื่องนี้ก็จะทำออกอากาศแค่ 12 ตอน เพราะสมมติเวลาไปขายต่างประเทศ สมมติเราทำสัญญากับเขาไว้ 12 ตอน แต่เราถ่ายไป 13 แต่สัญญามันจบที่ 12 เขาก็จ่ายแค่ 12 นะ เขาไม่มีการมาเพิ่มมาลดอะไร ยิ่งถ้าไปจีนปัญหาจะเยอะมากเลย เพราะจีนต้องผ่านระบบเซ็นเซอร์ และเซ็นเซอร์เป็นของรัฐบาล เราไม่สามารถไปกำหนดอะไรเขาได้ ถ้าเกิดอยู่ดีๆ จะขอส่งเพิ่ม 1 เทปก็รอคิวไปจ๊ะ สรุปแทนที่จะได้ออนตอนนี้ก็ไม่ได้ออน เพราะติดเซ็นเซอร์ แทนที่จะได้แคชออกพร้อมกันก็ต้องกลายเป็นขาย finish (การแบ่งขาย) รายได้ก็จะไม่เหมือนกันด้วย

ถามว่าเน้นตลาดจีนเป็นหลักไหม เราเน้นหมดเลยค่ะ แต่ตอนนี้เรียกว่าเน้นเอเชียดีกว่า เพราะทางคนที่เขาขายเรื่องของเราไปจีนเขาก็มาดูด้วย เขาก็มองอยู่ว่า 3 เรื่องนี้จะไปได้ไหม และตอนนี้ที่ฟิลิปปินส์ เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย เขานิยมละครไทยแล้ว ตลาดเราก็กว้างขึ้นในตอนนี้ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของช่องในตอนนี้แน่ๆ เลยคือมีนโนบายออกมาแล้วว่าให้ผู้จัดทุกคนทำละครออกมาแค่ 12 ตอนเท่านั้น เพราะเวลาเราวางสล็อตมันจะลุ้นไทม์มิ่งเป๊ะๆ เลย

สมมติบอกว่า 15 แล้วไปออน 16 ทุกเรื่องก็จะขยับทั้งปีไปทุกเรื่องเลย ซึ่งอย่างจีนเขาค่อนข้างฟิกซ์มาก อาจจะเห็นของเราที่บางเรื่องอาจจะต้องฉายให้จบในช่วงนั้นเลย เพราะว่าคอมมิทกับจีนไว้ ดังนั้นก็ต้องจบ เพื่อที่จะให้เรื่องที่เราจะฉายมันออนได้ ตอนนี้สิ่งที่พยายามทำก็คือผู้จัดทุกคน 12 ตอนออกอากาศนะจ๊ะ และเราก็จะได้มีแพทเทิร์นมากขึ้น แต่ช่วงแรกๆ ที่ปรับเปลี่ยนมันก็จะค่อนข้างยาก เพราะการที่เล่า 12 หรือ 15 ตอนออกอากาศมันก็จะมีวิธีคิดที่แตกต่างกัน แต่ตู่เชื่อว่าพอเข้าระบบไปสักพักทุกคนก็น่าจะปรับตัวได้ ใน 1 ปีเราก็จะได้กำหนดได้ด้วยว่าจะได้ละครกี่เรื่อง และการทำงานก็จะค่อนข้างชัดเจน ตู่ว่าดีนะ”

โต้แทน “ป้าแจ๋ว ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์” ถึงเรื่อง “คุณหมีปาฎิหารย์” จะได้เรตติ้ง 0 แต่ขายต่างประเทศได้ปังมาก
“สำหรับแนวละครสายวาย ตู่ว่ามันก็น่าจะยังมี มันก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทย และตอนนี้มันก็เป็นเสียงที่ดังขึ้นมาก อย่างตู่ก็มีเพื่อนที่เป็นสายอย่างนี้เยอะ เพราะตู่เรียนวารสารฯ บางครั้งเรายังรู้สึกดีใจแทนเขาเลยที่เสียงเขาดังขึ้นแล้ว ตู่ว่าการที่เรายอมรับความเท่าเทียมเป็นเรื่องที่ดีมาก ซึ่งมันก็น่าจะสอดแทรกอยู่ในละคร เพราะมันก็อยู่ในสังคมอยู่แล้ว

ตอนเรื่อง คุณหมีฯ เรตติ้งมันไม่ดีเท่าที่ควรใช่ไหม ตอนแรกเราอาจจะมองกลุ่มเป้าหมายของเราผิดพลาด อันนี้เราต้องยอมรับ แต่อย่างน้อยเราว่าเราเลือกแคสไม่ผิด เพราะอย่างอิน (สาริน รณเกียรติ) กับจ๊อบ (ธัชพล กู้วงศ์บัณฑิต) คือดังมาก ผลตอบรับดีมากๆ และน้องก็มีแฟนคลับเยอะ อย่างจ๊อบแฟนคลับเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ตู่ว่าเวลาทำละครเรื่องนึง หนึ่งเลยเรื่องแอ็กติ้ง สองคือดูที่เราปั้นนักแสดงให้ช่องใหม่ได้ไหม และสามคือเรื่องของกระแส ตู่ว่าเรื่องคุณหมีได้เรื่องกระแสและเรื่องการปั้นนักแสดง แต่เรื่องเรตติ้งมันอาจจะผิดที่ไปนิดนึง

แต่อย่างน้อยคุณหมีก็ขายไปได้ 25 ประเทศ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จนั่นแหละ จริงๆ ตู่ก็อยากพูดแทนป้าแจ๋วเหมือนกันที่โดนวิจารณ์ว่าละครเรื่องนี้ไม่ประสบความสำเร็จ แต่จริงๆ แล้วประสบความสำเร็จมาก ปั้นนักแสดงอย่างอิน-จ๊อบขึ้นมาได้ขนาดนี้ ตู่ต้องตบมือให้เลยว่าสุด ตู่ยังไม่รู้เลยว่าเราจะปั้นแบบนี้ได้อีกเยอะแค่ไหน เพราะตอนนี้แฟนคลับเขาก็จัดมีตแอนด์กรี๊ดจัดอะไรให้กัน คือตู่ว่าประสบความสำเร็จแล้ว และขายได้ 25 ประเทศไม่น้อยนะคะ เยอะมาก

ถามว่าช่องซีเรียสกับเรื่องเรตติ้งขนาดไหน จริงๆ เรื่องเรตติ้งเราก็ต้องคำนึงไว้นิดนึงแหละ เพราะมันเป็นตัวเลขมาตรฐานของการซื้อโฆษณา เป็นมาตรฐานที่เราจับต้องได้เห็นชัดที่สุด แต่เราก็มองในฐานะผู้จัดด้วย ผู้บริหารด้วยนะ ตู่ก็มองหลายมุม ตู่มองว่าถ้าเรื่องนี้ปั้นนักแสดงได้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จในมุมนึง หรือสามารถที่จะมีกระแสอะไรสักอย่างขึ้นมาได้ แพลนละครวายตู่ว่าน่าจะมีอีก แต่อาจจะต้องดูสล็อตเวลาออกอากาศ อาจจะต้องวางแผนกันมากขึ้นค่ะ”

เผยเรื่องสุขภาพตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว
“ตอนนี้ดีขึ้นเยอะมากแล้วค่ะ คือที่ผ่านมาเกิดจากอาการแพ้ยา แต่ตู่แจ็คพ็อตที่แพ้ยาจนเป็นลมแล้วหัวฟาด มันก็เลยเกิดอาการต่อเนื่องคือเป็นบ้านหมุนไปด้วย แต่ตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้วค่ะ อาการบ้านหมุนก็เหลืออยู่ประมาณ 5-10% คุณหมอบอกว่าอาจจะใช้เวลาหลายปีกว่าจะหาย ก็มีโอกาสหายขาด และมีโอกาสที่จะกลับมา อย่างบางคนหายไปเลย 3 ปีแล้วก็กลับมาเป็นก็มี

ก็ต้องระมัดระวังตัวมากขึ้นค่ะ แต่ตู่เป็นลมหลายรอบแล้ว ตู่ก็จะเริ่มรู้ว่าถ้าอาการอย่างนี้มามันใช่แล้วล่ะ จะต้องรีบบอกคนที่อยู่ใกล้ๆ ตอนนั้นที่พลาดคือตู่ยืนอยู่ใกล้เก้าอี้มากแล้วนะ รู้สึกว่าเดินแค่ 10 ก้าวก็ถึง แต่จริงๆ แล้วใครที่รู้สึกจะเป็นลมอย่าเดินค่ะ ต้องนั่งเลย เพราะวันนั้นถ้าตู่นั่งก็จะไม่หัวฟาด และจะไม่เป็นบ้านหมุน มันก็จะแค่เป็นลมแล้วก็ฟื้นขึ้นมาก็คือจบ

แต่เพราะตอนนั้นแพ้ยาตัวนึงด้วยค่ะ เพราะตู่เป็นความดันต่ำเป็นมาตรฐานอยู่แล้ว ไม่เคยความดันปกติเลย แล้วพอไปกินยาตัวนี้ ซึ่งเป็นยาบำรุงไข่ เพราะตอนนั้นอยากจะมีน้อง และยาตัวนี้มันไปทำให้เลือดไปเลี้ยงรังไข่มากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันมันทำให้เลือดเราจางไปด้วย ซึ่งปกติเราความดันต่ำอยู่แล้ว พอเลือดจางความดันก็ยิ่งต่ำไปอีก ก็เลยเป็นลมหัวฟาดบ้านหมุนไปอีก วิธีแก้ก็ต้องบำรุงไป กินเกลือแร่ กินโฟลิค กินวิตามินซี”

บอกปีหน้าหมอสั่งพัก 3 เดือนห้ามทำงาน เพื่อเตรียมมีลูก
“เรื่องมีน้องก็น่าจะปีหน้า รอให้ละครเรื่องนี้เปิดกล้องไปสักพักให้อยู่ตัวก่อน เพราะคุยกับคุณหมอ เริ่มปรึกษาคุณหมอแล้ว คุณหมอก็บอกว่าช่วงที่จะทำจริงๆ คุณหมออยากให้ไม่ทำงานเลย 3 เดือน เหมือนที่จุ๋ย (วรัทยา นิลคูหา) ให้สัมภาษณ์เลยว่าจุ๋ยก็ห้ามทำอะไรเลย 3 เดือน เราก็คิดหนักอยู่ว่าเราจะหาเวลา 3 เดือนนั้นยังไง แล้วเขาก็จะต้องห้ามเครียดด้วย ก็พยายามให้บีอีซี สตูดิโอเขาอยู่ตัว ตอนนี้เขาก็เริ่มทยอยเปิดกล้องไปแล้ว 2 เรื่องคือ มือปราบกระทะรั่ว และ เกมโกงเกมส์

ตู่เป็นที่ปรึกษาให้ที่นี่ด้วย คือทีมที่เขาเข้ามาเป็นยูนิตใหม่ของช่องด้วย คือเขาจะได้ในเรื่องของการถ่าย 2 กล้อง Cinematic ทั้งหลาย การตัดต่อที่ได้มาตรฐานเมืองนอก และตู่ก็อยากให้เขาเรียนรู้เรื่องของการทำงานกับองค์กรอย่างช่อง 3 ด้วย ที่มันอาจจะไม่เหมือนระบบเมืองนอกขนาดนั้น การทำงานร่วมกับผู้จัด อย่างของตู่จะเป็นตัวไพรอตในการที่ผู้จัดมาทำงานร่วมกับบีอีซี สตูดิโอ เราจะช่วยซัปพอร์ตยังไงได้บ้าง

อย่างตอนนี้มือปราบกระทะรั่วถ่ายจันทร์-อังคาร-พุธ พอวันพฤหัสบดี-ศุกร์ เราตัดเลย ตัดดูว่าได้ไหม เพราะถ้าปกติเราจะใช้เอาต์ซอร์สข้างนอก เขาไม่ตัดให้เราหรอก เพราะเขาแค่ตัดละครที่จะออนปัจจุบันก็ไม่ทันแล้ว แต่พอเรามีของเราเอง เราสามารถลองตัดเอามาดูได้เลย และแชร์กันในทีมได้เลยว่ามันโอเคไหม ก็ไวดี และได้มาตรฐานที่เมืองนอกต้องการด้วย และช่องก็วางแผนได้ด้วย”

บอกรายการ อปป้าพาฟิน ทางช่องยูทิวบ์ MAWIN FINFERRR ของสามี “มาวิน ทวีผล” ก็ยังทำอยู่ เพราะเป็นรายการไม่เครียด แต่ก็เตรียมฝึกคนขับรถและเลขาให้ถ่ายทำเป็นแล้ว
“ใช่ค่ะ ก็ยังมีทำรายการอาหารด้วย จริงๆ หมอบอกว่าทำงานได้ถ้าทำแล้วไม่เครียดเท่านั้นเอง แต่คอนเทนต์รายการนี้ก็ยังสนุกอยู่ ถ้ายังทำไหวก็ทำค่ะ แต่ตอนนี้เราเทรนคนขับรถไว้แล้วค่ะ วันไหนที่ตู่ติดประชุมก็ให้ไปกับคนขับรถเลย ให้คนขับรถถ่ายให้เลย และตอนนี้เลขาก็เริ่มถ่ายได้แล้วเหมือนกัน (หัวเราะ)”

เผยฤกษ์ปั้มลูกควรเป็นปีหน้าถึงจะดี แต่คุยกันแล้วถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร
“ก็ดูค่ะ ดูปีชงของเราสองคน ก็คือมีปีนี้และปีหน้าได้ ก็คาดว่าน่าจะปีหน้าค่ะ ถามว่ากดดันไหม ตู่อยากมีมากประมาณนึงเลยแหละ (หัวเราะ) ก็ต้องลองพยายาม แต่ก็คุยกับวินเหมือนกันว่าถ้าสุดท้ายไม่มี ก็ไม่มีเนอะ เอาแฝดเลยไหม อันนั้นต้องลองถามคุณหมอก่อนว่าเราไหวไหม ก็รอลุ้นกันค่ะ”















กำลังโหลดความคิดเห็น