xs
xsm
sm
md
lg

“ไพรวัลย์ วรรณบุตร” ลั่นถึงแต่งหญิงแต่จิตใจยังมีธรรมะ ประโยค 9 ไม่ได้เจือจางไปพร้อมกับเวลาทาลิป

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ไพรวัลย์ วรรณบุตร” หรือ “แพรี่” โต้กระแสดรอปเลยลุกขึ้นมาแต่งหญิง ลั่นเป็นผัวดิฉันเหรอถึงรู้ดี ยันไม่ได้ใจแตกสึกปุ๊บมีผัว แต่รู้ตัวว่าสึกออกมาแล้วอยากจะใช้ชีวิตสนุก เรียนรู้ชีวิตอย่างที่เป็นอยู่แบบนี้ ยันสึกแล้วในใจยังคงธรรมะ บอกประโยค 9 มันไม่ได้เจือจางไปพร้อมกับเวลาที่ทาลิปซะเมื่อไหร่

กลับมามีกระแสเป็นที่พูดถึงกันอีกครั้งกับอดีตมหา “ไพรวัลย์ วรรณบุตร” ที่ตอนนี้ลุกขึ้นมาแต่งหญิง และเปลี่ยนชื่อตัวเองเป็นแพรี่ หลังกลับไปใช้ชีวิตอยู่บ้านเกิดที่จังหวัดจันทบุรี ล่าสุดไพรวัลย์ หรือ แพรี่ ก็มาออกรายการแฉ โดยเล่าว่าทุกวันนี้ตนมีอาชีพขายน้ำพริก ไม่ได้เป็นอินฟลูเอนเซอร์แบบที่คนอื่นเข้าใจกัน

“ตอนนี้มีอาชีพเป็นแม่ค้าขายน้ำพริกค่ะ ก็ขายน้ำพริกอย่างเดียวเลย ทำคอนเทนต์ ไลฟ์สดบ้างบางครั้ง ถ่ายภาพโปรโมต ลูกค้าจะแอดไลน์ไปสั่งของ ก็ต้องพรีออเดอร์กันเป็นอาทิตย์ หนูไม่ได้ทำเอง แต่มีคุณป้าที่มีฝีมือทางนี้ช่วยทำให้

คนแซวว่าลุคหวานๆ เหมือนแม่พลอย 4 แผ่นดิน ดิฉันขอเป็นแม่แพร 2 แผ่นดิน (หัวเราะ) ถามว่าจะกลับไปบวชอีกไหม ขนาดนี้คงไม่บวชอีกแล้วค่ะ บวชชีพราหมณ์ค่ะ จริงๆ เคยพูดแล้วว่ายังไงก็ไม่กลับไปบวชแน่ เดินมาข้างหน้าแล้วก็อยากไปให้สุดเลย ชีวิตตอนนี้มีความสุขมากๆ ยิ่งใส่ชุดนี้ก็มีความสุขมากๆ รู้สึกว่าตัวเองก็เป็นคนสวยคนหนึ่ง (หัวเราะ) แต่งแบบนี้แม่ไม่ติด พ่อก็ไม่ติด ป้าข้างบ้านติดนิดหน่อย ก็บอกป้าให้เอาเวลาไปจัดการชีวิตป้าดีกว่า

เคลียร์สึกปุ๊บมีผัวปั๊บจริงหรือไม่
“ไม่ได้มี สถานะหัวใจตอนนี้ไม่มีแฟนค่ะ อกหักไปแล้ว เพราะโดนทิ้ง (ยิ้ม) ใครจะมาชอบ ดูแต่งตัวแบบนี้ บ้าๆ บอๆ โสดค่ะ จีบได้ ที่มาด้วยวันนี้คือลูกศิษย์ เขามีชะนี แต่ถ้ามดดำ (คชาภา ตันเจริญ) ชอบเดี๋ยวยกให้เลย (หัวเราะ) แอบเคืองเหมือนกันที่พี่มดดำว่าดิฉันใจแตก ก็คิดในใจดิฉัน 30 แล้วนะใจแตกอะไรก่อน จะให้ดิฉันมีผัวตอน 40 หรือไงยังไม่มีถึงขั้นฟีลแฟน แค่จิ้นๆ เป็นพระมาตลอด ไม่เคยรู้สึกว่ากับผู้หญิงเป็นยังไง ก็เลยมากับผู้ชายแทนค่ะ จริงๆกะเทยก็บวชได้นะคะ อย่าพยายามไปตอกย้ำมายาคติว่า LGBT บวชไม่ได้ บวชได้ แต่เข้าไปแล้วต้องอยู่ในกรอบให้ได้ แต่ถ้าจะเป็นอย่างนี้ อยากใส่สไบ สึกมาเลยค่ะสวยแน่นอน

ดิฉันว่าสิ่งที่พระทุกวันนี้ควรมีและควรทำเลยก็คือความซื่อสัตย์ต่อตัวเอง พระจะต้องซื่อสัตย์และซื่อตรงต่อคำสอนของพระพุทธเจ้า ต้องมั่นใจว่าบวชแล้วเราทำหน้าที่ศาสนทายาทได้ เช่น การศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้า แต่ถ้าเห็นว่าการบวชเป็นแค่อาชีพสึกออกมาเถอะ ออกมาทำอาชีพได้เยอะกว่าอีก มีคนเคยบอกกับดิฉันว่าถ้าดิฉันสึกออกมาคงอดตาย ดิฉันไม่ได้อดตายเลยค่ะ เพราะดิฉันมีอาชีพขายน้ำพริก”

รู้ตัวดีว่าสึกออกมาแล้วจะเป็นแบบนี้เพราะอยากสนุกและเรียนรู้กับชีวิต
“ไม่ได้คิดอะไรไว้เลย เพราะรู้ตัวเองว่าสึกออกมาแล้วจะเป็นอย่างนี้ สึกออกมาแล้วก็อยากจะสนุก อยากจะเรียนรู้ ไม่ได้คิดอะไรไว้ล่วงหน้าเผื่อชีวิตไว้เลย แต่พร้อมที่จะให้ชีวิตมันลื่นไหลไปตามอยบของมัน ในกรอบที่ไม่ทำให้ตัวเอง ให้คนอื่นเดือดร้อน”

ตอกกลับขาเม้าท์กระแสดรอปเลยแต่งหญิงสร้างคอนเทนต์ รู้ดี เป็นผัวดิฉันเหรอคะ
รู้ดีจังนะคะ เป็นผัวดิฉันเหรอ(หัวเราะ) ดิฉันอยากรู้ เป็นผัวดิฉันหรือไง รู้ดีขนาดนั้น ก็แค่อยากทำตามใจตัวเอง ที่มีความสุขกับการแต่งตัวแบบนี้แต่ไม่ได้แต่งตลอด 24 ชั่วโมงนะ พี่เขื่อน (ภัทรดนัย เสตสุวรรณ)เป็นไอดอลของดิฉันเลยนะคะ พี่เขื่อนเป็นแรงบันดาลใจ เป็นกำลังใจลึกๆให้เรากล้าลุกขึ้นมาแต่งตัวในแบบที่เราอยากจะแต่ง อยากจะเป็น เป็นความสุขของเรา ได้เป็นตัวเรา

ล่าสุดจะเอาน้ำพริกไปถวายหลวงพี่เรียกสีกาแล้ว หลวงพ่อยื่นผ้ารับประเคน ดิฉันก็บอกหลวงพ่อดิฉันเป็นมหาเก่านะคะ ดิฉันเป็นผู้ชาย หลวงพ่อก็ตอบกลับมาว่าแต่ชุดโยมไม่ได้ ถ้าใส่ชุดแบบนี้ต้องมีผ้ารับประเคนแล้ว

ในใจยังคงธรรมะ ลั่นประโยค 9 มันไม่ได้เจือจางไปพร้อมกับเวลาที่ทาลิปซะเมื่อไหร่
“มีคนบอกว่าดิฉันยอมทำทุกอย่างเพื่อเงิน แม้กระทั้งทำลายศรัทธาคน ซึ่งเรารู้สึกว่ามันไม่แฟร์กับเราเลย ตกลงคุณศรัทธาเราที่ตรงไหน ที่สติปัญญาของเรา ความคิดความอ่าน การทำมาหากินโดยสุจริต หรือศรัทธาที่เสื้อผ้าหน้าผม ถ้าศรัทธาที่เสื้อผ้าหน้าผมมึงก็เลิกศรัทธากูเหอะ (ยังคอยสอดแทรกธรรมะตลอด?) ประโยค 9 มันไม่ได้เจือจางไปพร้อมกับเวลาที่ดิฉันทาลิปซะเมื่อไหร่ละคะ ดิฉันติดต่างหูแล้วธรรมะจะหลุดไปรึเปล่า มันเสื่อมคลายไปเลยไหม ก็ไม่ใช่นะ

แม้ดิฉันจะเป็นฆราวาสแล้วดิฉันก็ยังรู้สึกว่าตัวเองมีเกราะอยู่ตลอดเวลา เกราะของดิฉันคือสติปัญญา และความเข้มแข็งในตัวเอง ถึงจะออกมาแต่งตัวอย่างนี้ มึงอยากด่ากูมึงก็ด่าไปเถอะ ตราบใดที่สไบดิฉันไม่ได้ไปพาดหน้าใคร ดิฉันก็ใส่ ธรรมะนี่แหละคือเกราะป้องกันของดิฉันแม้จะไม่มีผ้าเหลืองอยู่แล้ว จนสึกมาดิฉันไม่เคยทำอะไรผิดหลักคำสอนศาสนาเลย ไม่ได้เอาตัวไปเกี่ยวข้องกับอบายมุขในฐานะของคนที่เคยบวช ดิฉันแต่งตัวอย่างนี้คนก็พร้อมตัดสินดิฉันว่าเสื่อม ตุ๊ด บัณเฑาะก์ แบบนี้เลิกเป็นคนพุทธเถอะค่ะ ไปเปลี่ยนศาสนาเถอะ เพราะมันไม่ได้ซึมซับเลย เป็นพวกทัพพีไม่รู้รสแกง อย่าทำตัวเป็นทัพพีไม่รู้รสแกงค่ะ













กำลังโหลดความคิดเห็น