“ปุ้ย ปิยาภรณ์” เผยผู้เข้าประกวดปีนี้มีเข้าตาหลายคน ม้ามืดเยอะ ปัดสร้างกระแสดึง “ลีน่า จัง” ร่วมเป็นกรรมการ ที่เลือกเพราะเป็นคนพูดตรง ข้อมูลชัด ส่วนที่เจ้าของเวทีคู่แข่งออกมาวิจารณ์ว่านางงามตนไลฟ์สดขายของเลียนแบบนั้น เวทีตนทำมานานแล้ว แต่ละปีก็แตกต่างออกไป ที่โดนหาว่าเอาศิลปินสลิ่มมาขึ้นโชว์บนเวที ก็ไม่ถือเป็นประเด็น เพราะตนเคารพในทุกความคิดเห็น แต่ต้องอยู่บนบรรทัดฐานของเหตุและผล
เปิดตัวผู้เข้าประกวด 30 คนสุดท้าย Miss Universe Thailand 2022อย่างเป็นทางการ กับงาน Preview Day ไปเป็นที่เรียบร้อย ณ สุราลัย ฮอลล์ บริเวณด้านหน้า ทรู ไอคอน ฮอลล์ ชั้น 7 ศูนย์การค้าไอคอนสยาม ซึ่งทาง “ปุ้ย ปิยาภรณ์ แสนโกศิก” ผู้อำนวยการกองประกวด มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ Miss Universe Thailand ก็ได้ออกมาเผยว่าปีนี้มีสาวงามเข้าตาเยอะ และมีม้ามืดเยอะด้วยเช่นกัน
“ก็คิดว่าเราไม่ได้จัดมา ปีที่แล้วก็เงียบกริบเลย เพราะว่าโควิด ไม่มีห้างไหนเปิดให้เราจัดเลย ปีนี้สถานการณ์โควิดดีขึ้นแล้ว หรือาจจะยังไม่ดีก็ตาม แต่พวกเราก็ต้องระมัดระวังตัวเอง ก็มาคิดว่าเรามาทำอะไรกันดี หลังจากที่มันได้เป็นโรคประจำถิ่นไปแล้ว และผู้คนก็โหยหาความสุข อย่างที่น้องๆ นางงามได้บอกว่าเราต้องการซอฟต์ พาวเวอร์ เราก็มาที่ไอคอนสยาม ซึ่งเป็นสถานที่ที่เราจะจัดเวทีไฟนอล ทุกคนก็คงจะเห็นแล้วฉากเดินลงบันไดเลื่อนที่ถือเป็นซิกเนเจอร์ของมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ และมากำเนิดขึ้นใหม่อีกครั้งหลังจากที่เงียบเหงาไปนานเพราะสถานการณ์โควิดค่ะ ได้เปิดทัศนคติให้นางงามด้วย เพราะคิดว่านางงามในโลกปัจจุบันสิ่งที่สำคัญมากนอกเหนือจากความสวยงามก็คือเรื่องของทัศนคติ เราก็อยากจะรู้ว่าเขามีทัศนคติยังไง มีความคิดยังไงกับสิ่งที่เขาจะพรีเซนต์ออกมา
เพราะฉะนั้นการแสดงทัศนคติวันนี้ทางกองประกวดไม่ได้ยุ่งเลย เราบอกอย่างเดียวว่าน้องอยากแสดงตัวตนให้โลกรู้ในแง่ไหน มุมไหน ด้วยคำอะไรก็พรีเซนต์กันออกมา ก็เป็นอย่างที่เห็นค่ะ ที่เข้าตามีหลายคนนะ คนที่สามารถประคองสติได้ สามารถปรับปรุงเพอร์ฟอร์แมนซ์ หรือปรับปรุงทั้งกายหยาบ ทั้งคำพูด ทั้งความคิด ทำได้ดีในระยะเวลาอันรวดเร็ว อันนี้แม่ปุ้ยก็ชื่นชมจริงๆ ค่ะ เพราะบางคนก็เป็นหน้าใหม่ใสกิ๊กมาเลย เรามองตอนแรกว่าไม่รอดแน่ๆ แต่เขาพาตัวเองมาถึงวันนี้ก็เห็นพัฒนาการที่ดีขึ้นของพวกเขาค่ะ ม้ามืดก็คิดว่ามีและเยอะด้วย เชื่อทุกคนทั้งโลกที่มองอยู่ก็ต้องมองเห็นแหละ ม้ามืดในที่นี้เราให้คำจำกัดความสำหรับคนที่ไม่เคยมีกระแสมาเลย ไม่เคยประกวดมาเลย มาจากไหนก็ไม่รู้ วันนี้ก็ได้ทำให้เห็นแล้วว่าเขาเหล่านี้มาแบบไม่กลัว สู้ตาย”
ปัดดึง “ลีน่า จัง” มาร่วมเป็นคณะกรรมการ เพราะต้องการสร้างกระแส
“แหม ถึงไม่ทำอะไรก็มีดรามา เพราะฉะนั้นที่เชิญพี่ลีน่า จังมา สิ่งหนึ่งก็คือชอบในความตรงไปตรงมาของแก และชอบในความเป็นกูรู เวลาแกจะทำเรื่องอะไร แกจะต้องสืบหาข้อมูล หาสิ่งที่จะมา และถ้าดูให้ดีจะเห็นว่าแกพยายามช่วยนางงามนะ ก่อนจะโชว์เมื่อกี้พี่ลีน่าแกก็เข้าไปปลุกกำลังใจนางงามสุดฤทธิ์ ถามว่าเราสร้างกระแสหรือเปล่า จริงๆ ก็พูดตรงๆ ว่าเราไม่เคยมีพี่ลีน่า จังมาก่อนเลย มันก็ติดเทรนด์ทวิตเตอร์มาตลอดตั้งแต่งานที่เราจัด ผู้คนก็ให้ความสนใจ ให้ความเมตตานะคะ เพราะฉะนั้นการที่จะมีพี่ลีน่ามาอีกสักคนนึงยังไงมันก็มีกระแสอยู่แล้วค่ะ แต่ปุ้ยมองสิ่งที่มันน่าจะมีอะไรเข้มข้นกว่ากระแสนั่นก็คือเรื่องคำถามของพี่ลีน่า เราปฎิเสธไม่ได้ว่านางถามตรง ถามจริง และข้อมูลชัด นี่แหละค่ะที่เชิญมา”
บอก “เฟิร์ส หวัง” (ภัทราพร หวัง) ติดเข้ามาถึงรอบนี้เพราะตัวเอง ไม่ใช่เพราะใคร
“สาเหตุง่ายๆ เลยค่ะ วันรอบคีย์เวิร์ด เฟิร์ส หวัง ก็ตกไปเพราะคีย์เวิร์ด วันนั้นมันเป็นการแสดงความคิด การพูดออกมา สิ่งที่อยู่ในหัวตัวเองรวบรวมเรียบเรียงได้แค่ไหน แน่นอนเฟิร์ส หวังเป็นตัวเต็งของคนเยอะเหมือนกัน และด้อมเฟิร์ส หวังใหญ่มาก แต่ก็ต้องให้ตก เพราะคะแนนเฟิร์ส หวังไม่สามารถที่จะเอาขึ้นมาได้ ณ วันนั้น ถ้ามองด้วยใจเป็นธรรมจะเห็นเลยว่าผู้เข้าประกวดในวันนั้นหลายๆ คนเห็นแล้ว เขาก็เป็นม้านอกสายตามากเลยในวันแรกของรอบคีย์เวิร์ส เขาไม่มีกระแส คนก็เข้ามาด่าเต็มเลย คนนั้นไม่สวย คนนี้ไม่สวย แต่เฟิร์ส หวังก็ตก และคิดดูนะคะถ้ามีเหตุการณ์ที่ครูจุ๊บแจงไม่ได้ออกไป วันนี้ในรอบพรีวิวก็จะไม่มีเฟิร์ส หวัง เพราะฉะนั้นเขาเข้ามาด้วยคะแนนของเขาจริงๆ อันนี้ก็ต้องให้เพราะพอหมดจากคีย์เวิร์สแล้วปุ้ยก็ไม่ได้เอาคะแนนตรงนั้นแล้ว ก็ไปเอาคะแนนตั้งแต่วันแรกจนถึง ณ วันที่เราจะเอาเขาเข้านั่นแหละ”
ไม่สนเจ้าของเวทีคู่แข่งออกมาวิจารณ์ว่าก๊อปปี้ให้นางงามไลฟ์สดขายของ
“อันนั้นก็คงคิดว่าเราไม่ต้องก๊อปปี้ใครนะคะ เพราะจริงๆ แล้วถ้าจะมาเทรนด์กันว่าคนนั้นก๊อปปี้คนนี้ คนนี้ก๊อปปี้คนนั้น เวที MUT น่าจะออกมาเทรนด์ได้มากที่สุด เพราะเราก็ทำอะไรใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เรื่องของการถ่ายทอดก็ต้องย้อนกลับไป ต้องบอกว่าเราไปก๊อปปี้แม่ลีน่ามามั้งคะ เขาก็ขายมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ และทุกปีเราก็ขายอยู่แล้ว รูปแบบของแต่ละปีแตกต่างกันไป ก็ไม่ได้อะไรกับประเด็นนี้ค่ะ ไม่เครียดหรอกค่ะ จะเครียดอย่างเดียวว่าเราต้องทำของเราให้ดีที่สุด เราดีพอหรือยัง แสงสีไฟพอไหม การดูแลสปอนเซอร์เป็นยังไง และเราต้องทำความเข้าใจกับสปอนเซอร์ทุกท่าน ซึ่งสปอนเซอร์ของเวที MUT น่ารักมาก ไม่เคยเข้ามาแทรกแซงหรือมาชี้นิ้วเลยว่าให้เราเลือกใคร ล็อคใคร อันนี้เราไม่รับค่ะ”
ปัดตกดรามาเลือกศฺิลปินที่เห็นต่างขึ้นโชว์ในรอบชุดว่ายน้ำ
“อันนั้นก็ไม่น่าจะเป็นดรามานะคะ เพราะปุ้ยไม่ได้มองว่าใครสลิ่มไม่สลิ่มนะคะ ปุ้ยมองอย่างเดียวว่าเขามาสร้างความสนุก และมันก็เป็นปาร์ตี้ปิด เป็นการเชิญโดยสปอนเซอร์เป็นผู้จัด สำหรับเหล่าสปอนเซอร์และแฟนๆ ที่ได้ซื้อบัตรไปชมในรอบชุดว่ายน้ำเพื่อเป็นการตอบแทน ก็ได้เชิญเข้าไปปาร์ตี้เท่านั้นเอง ปุ้ยมองว่าไม่ได้เป็นดรามา เพราะเวลาที่เชิญน้องมิลลิ (ดนุภา คณาธีรกุลมา) เชิญหลายๆ คนมาก็มีคนสารพัดอินบ็อกซ์มาด่าว่าเชิญมาได้ยังไง คืออยากจะบอกว่าความคิดต่างคิดได้นะคะ เราไม่ได้ไปว่าเขา เราก็เคารพในความคิดของเขา แต่มันจะต้องอยู่ในบรรทัดฐานของเหตุและผล ฝ่ายนึงจะไปตีอีกฝ่ายนึงแล้วบอกว่าเขาผิด เขาไม่ดี มันก็ไม่ใช่ อันนี้ไม่เห็นด้วยค่ะ ดังนั้นดรามาเรื่องศิลปินก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรค่ะ เพราะสปอนเซอร์เขาก็เป็นคนเชิญและเป็นงานปิดด้วย
สุดท้ายก็ฝากไปยังผู้ประกวด และพี่เลี้ยงผู้ประกวด รวมถึงคุณผู้ชม สำหรับนางงามก็ให้ทุกคนสู้ต่อไป ปุ้ยก็เบื้องหลังตลอดเวลา สำหรับพี่เลี้ยงผู้เข้าประกวดก็อย่ากดดันนางงามจนเขาหมดความเป็นตัวตนของเขา และในที่สุดเขาก็ตุ๊บ บางทีไม่ได้ตุ๊บเพราะใคร ตุ๊บเพราะพี่เลี้ยง ใส่จนหมดจิตวิญญาณของตัวเองไปเลย อันนั้นไม่รอดนะคะ สำหรับแฟนนางงามก็ขอให้ดูนางงามอย่างสนุกนะคะ ใครชอบแบบไหน มีรสนิยมแบบไหนก็ดูแบบนั้นนะคะ และมันจะมีความสุข สมมติเราไม่ชอบเพลงแจ๊สแล้วไปนั่งฟังมันก็ง่วง แต่ถ้าเราไม่ชอบเอะอะมะเทิ่งถ้าไปนั่งดูก็บอกหนวกหู ฉะนั้นแต่ละอย่างมันมีความแตกต่าง มีความกลมกล่อม มีความสนุกในบริบทของตัวเอง เลือกชมและชมด้วยความสุขค่ะ เป็นห่วงว่าถ้าชมแล้วไม่มีความสุข เดี๋ยวความดันขึ้น ไม่ดีต่อสุขภาพค่ะ (ยิ้ม)”
