xs
xsm
sm
md
lg

“ภัทร์” เผยไม่เคยเห็น “บอย” ในมุมอินเลิฟ ส่วน “หน่อง” ไม่ได้เฮิร์ตเหมือนข่าว เว้นระยะห่าง “วันใหม่” โตเป็นสาวแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ภัทร” เผยตอนนี้ “น้องวันใหม่” เริ่มโตเป็นสาว พวกพี่ๆ ก็เริ่มมีระยะห่าง คอยสอนน้องในเรื่องการดูแลตัวเอง บอกไม่ห่วงหรือหวง แต่จะคอยสอนในสิ่งที่ควรรู้มากกว่า เผยไม่เคยเห็น “บอย” ในมุมอินเลิฟแบบนี้มาก่อน ส่วน “หน่อง” โอเคขึ้นมากแล้ว ไม่ได้เฮิร์ตหนักอย่างที่เป็นข่าว

เป็นน้องคนเล็กของบ้านที่มีผลงานการแสดงออกมาอยู่เรื่อยๆ สำหรับหนุ่ม “ภัทร ฉัตรบริรักษ์” ซึ่งตอนนี้กำลังถ่ายละครเรื่อง มือปราบกระทะรั่ว โดยเจ้าตัวเผยว่าการรับละครแต่ละเรื่องมีบางครั้งที่ปรึกษากับพี่ๆ แต่ถ้าไม่ได้มีอะไรมากก็จะตัดสินใจกันเอง

“ตอนนี้ละครมี มือปราบกระทะรั่ว ครับ เพิ่งเริ่มถ่าย แต่จะมีออนแอร์อีกเรื่องนึงน่าจะประมาณนี้ครับ วิธีการเลือกรับงาน ก็คงดูจากบทว่าเราทำได้ไหม มันเหมาะกับแนวทางเราไหม ทำได้ไหม ถามว่ามีเรื่องอะไรที่เราต้องมานั่งคุยกันเป็นประจำไหม จริงๆ ไม่ค่อย เพราะเป็นอะไรที่มันสอนยากนะ คือมันได้บ้างแหละ แต่ในรายละเอียดก็แล้วแต่ว่าใครจะเดินไปเส้นไหนในการทำงาน แต่ปรึกษาเรื่องการรับบท ก็มีบ้างครับ ถ้าเป็นอะไรที่เรารู้สึกลังเลก็จะถาม แต่ถ้าอะไรที่ไม่ได้มีอะไรมากเราก็รับเอง

จริงๆ ด้วยพวกผมโตกันมาใกล้กัน ห่างกัน 2 ปี กับ 3 ปี ครับ และด้วยความที่โตอยู่ด้วยกันมาตลอด ไม่ได้แยกกันอยู่ ก็เห็นกันมาตั้งแต่เด็ก จนตอนนี้ 30 กว่ากันทุกคนแล้ว ก็ยังเกาะกลุ่มกันอยู่เหมือนเดิม อยู่บ้านด้วยกันเหมือนกัน ก็เหมือนยังเป็นเด็กๆ 3 คนที่ยังเหมือนเดิม (หัวเราะ)”

เผยต้องเริ่มมีระยะห่างกับ “น้องวันใหม่” มากขึ้น เพราะเริ่มโตเป็นสาวแล้ว
“ก็ยังไม่ได้กังวลว่าเขาจะโตเป็นสาว อาจจะห่วงแค่ด้วยความที่ในบ้านมีแต่พี่ผู้ชาย อาจจะทำให้เขาไม่รู้ว่าผู้หญิงต้องอะไรยังไง อย่างเรื่องดูแลตัวเอง โตแล้วต้องรักษาความสะอาดตัวเองอะไรแบบนี้ แต่เขายังติดเล่นเหมือนเด็กผู้ชาย เหงื่อออกก็ยังไม่ได้รู้สึกว่าต้องดูแลตัวเอง แต่ก็มีคุณแม่คอยกำกับแหละครับ แต่เหมือนเขาโตมากับการที่เขาไม่ต้องสนใจ เขาก็จะทำบ้าง ไม่ทำบ้าง (หัวเราะ)

เรื่องการเลือกเสื้อผ้า จริงๆ แล้วเราก็ดูตามวัยแหละครับ คือด้วยความที่ตัวเขาโตกว่าเด็กทั่วไป คนอื่นอาจจะดูเป็นสาวแล้ว แต่เราก็ยังดูว่าเขาเป็นเด็กอยู่ เราก็เข้าใจในฟีลของเด็กที่อยากจะแต่งตัว ก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติ แค่ดูว่ามันเหมาะสมแหละ อันไหนที่เขาอยากใส่แล้วไม่ได้น่าเกลียดเกินก็ให้ใส่ เวลาไปทะเลก็ให้ใส่ชุดว่ายน้ำได้นะครับ น้องใส่ครับ ไม่ได้ห้าม เราก็ไม่ได้เห็นว่าโป๊อะไรมากมาย ก็ใส่ตามโอกาส ใส่ตามสถานที่ที่เราไป ก็ไม่แปลกครับ

จริงๆ ก็พวกพี่ๆ ก็เริ่มมีห่างครับ พวกผมก็รู้กันอยู่แล้วว่าต้องเว้นระยะนิดนึง เพราะน้องโตแล้ว เราก็ต้องสอนน้องด้วยไม่ใช่แค่เราคุยกันเอง เราก็ต้องบอกน้องด้วยว่าตอนนี้เราโตกันแล้ว มันเป็นเหมือนเดิมไม่ได้ที่จะมากอด มาหอมอะไรเหมือนเดิม น้องก็อาจจะอายแค่เรื่องที่เราแซวเขา อย่างเรื่องร้องเพลงหรืออะไรที่เราแกล้งแซว เขาก็จะอาย แต่เรื่องอื่นๆ ไม่ค่อยอายหรอก (หัวเราะ)”

บอกยังไม่รู้จะมีแววเข้าวงการไหม แต่ก็ไม่เคยห้าม
“จริงๆ ก็ไม่ได้มองเลย ก็ดูว่าถ้ามันไม่กระทบการเรียนก็ไม่ได้ปิดกั้นอะไรอยู่แล้ว ถ้าเขาอยากทำก็ให้เขาทำ มันเป็นโอกาสในชีวิตของเขา ถ้าเกิดเขาทำเขาก็ได้เรียนรู้อะไรของเขา มันก็เป็นประสบการณ์ชีวิตเขา ถามว่าเขาน่าจะไปในแนวไหน เขาก็ยังโตแบบเด็กทั่วๆ ไปอยู่นะ ก็ไปอ่านหนังสือไปอะไร แต่ด้วยสมัยนี้แค่เรียนอย่างเดียวมันไม่พอแล้ว ต้องมีความสามารถอย่างอื่นด้วย เราก็ดูว่าเขาชอบอะไร ตอนนี้ก็เรียนร้องเพลงเขาก็ชอบ แต่ถ้าวันนึงเขาจะไปต่อยอดอะไรของเขามันก็เป็นประสบการณ์ชีวิตเขาแล้ว

ผมไม่ได้หวงน้องเลย (หัวเราะ) ผมรู้สึกว่าถ้าเขาอยากทำอะไรก็ให้เขาทำ ให้เขาได้ทำในขอบเขตที่มันโอเค และเขาได้เป็นตัวของเขาเอง เพราะผมว่าเด็กยุคใหม่นี้เป็นอะไรที่เขาสามารถหาข้อมูลได้ด้วยตัวของเขาเองอยู่แล้ว เราไม่รู้จะปิดกั้นไปทำไม ก็สอนเขาไปเลยดีกว่า เขาอยากจะทำอะไรก็ให้เขาทำ แต่ก็บอกให้เขารู่ว่าเขาทำอันนี้อยู่นะ เราก็แค่ดูแลเขาไป เรื่องแฟน เรื่องความสัมพันธ์ชายหญิงก็มีสอนบ้าง ผมว่าเด็กสมัยนี้รู้มาเองบ้างแล้ว มันไม่ค่อยสงสัยเหมือนพวกเราตอนเด็กๆ แต่เด็กสมัยนี้มันมีสื่อให้ดู และที่โรงเรียนเขาก็มีการพูดถึงบ้าง ให้มันเป็นเรื่องที่แตะได้ มันไม่ใช่เรื่องต้องห้ามอะไรขนาดนั้น”

เป็นคนเดียวในพี่น้องที่ไม่เคยเปิดตัวแฟน เพราะยังไม่มีคนคุยจริงจัง
“ด้วยความที่ตอนนี้เราไม่ได้โฟกัสเรื่องความรักเท่าไหร่ เพราะรู้สึกว่าโตแล้วมันต้องรับผิดชอบหลายอย่างมากเลย ทั้งเรื่องที่บ้านด้วย เรื่องทำสตูดิโอด้วย เรื่องอะไรหลายๆ อย่าง พอวิถีชีวิตเราไม่ได้ไปเจอเพื่อน คือเจอน้อยมาก ผมไม่เคยเปิดตัวใครเลย แต่ที่พี่ชายสองคนเขาเปิดตัวกัน ผมว่าก็ดีนะ มันก็ดูเป็นการให้เกียรติดี ทำอะไรก็ดูชัดเจนดี แต่ผมว่าก็แล้วแต่ความสะดวกของคนมากกว่า คือตอนนี้ผมก็ไม่ได้มีแบบจริงจัง ก็เหมือนคุยๆ กันไป

ถามว่าแม่อยากให้มีเป็นตัวเป็นตนไหม ผมว่าอาจจะเลยยุคนั้นไปแล้ว (หัวเราะ) คือบางครั้งก็เหมือนเราใช้ชีวิตเหมือนเด็กเหมือนกัน เขาก็อาจจะรู้สึกว่าอยากให้มีความรับผิดชอบอะไรมากกว่านี้ก่อน (หัวเราะ) เขาก็เลยไม่ได้คาดหวังเรื่องแฟนอะไรขนาดนั้น แต่แม่อาจจะเริ่มเข้าใจในแง่ของ คืออย่างเฮียบอย (ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์) เองก็ยังไม่ได้แต่งงาน เขาก็อาจจะรู้สึกว่าไม่ต้องรีบแล้ว ก็คงเรื่อยๆ เหมือนอย่างตอนที่เลี้ยงน้อง เขาก็รู้สึกว่าอยากมีหลาน ก็เหมือนมีวันใหม่มาเป็นตรงจุดนั้นแล้ว”

เผยไม่เคยเห็น “บอย ปกรณ์” ในมุมอินเลิฟแบบนี้เลย
“แฮปปี้ดีครับ ก็เพิ่งเคยเห็นเขาในมุมนี้เหมือนกัน คือปกติบ้านผมไม่ค่อยคุยกัน ไม่ค่อยได้เล่าอะไรให้กันฟัง พอเขามีแฟนเป็นตัวเป็นตน เราก็เพิ่งเห็นว่าเขาเป็นแบบนี้ มุมที่เราแปลกตาไปก็มี คือเขาจะเป็นคนที่เริ่มหันมากินขนมหวานที่เด็กยุคใหม่กินกัน แต่ปกติเขาไม่ใช่แค่ไม่กินนะ แต่ใช้คำว่าไม่รู้จักแล้วกัน(หัวเราะ) เพราะเรารู้ว่าเขาไม่ใช่คนกินขนมหวานประเภทนี้ ตอนนี้ก็จะเริ่มรู้จัก กินเป็น คงเพราะตั้งแต่เริ่มคบเฟย์ (พรปวีณ์ นีระสิงห์) 
คงไปกินขนมอะไรกันมา ก็เลยรู้จัก (หัวเราะ) เพราะอารมณ์ผู้หญิงก็คงมีอารมณ์อยากกินขนมในร้านคาเฟ่อะไรที่เขานิยมๆ กัน มุมกุ๊กกิ๊กๆ ก็มีนะ แต่เขาไม่ค่อยทำให้เห็น (หัวเราะ) เขาคงเขิน”

บอก “หน่อง ธนา ฉัตรบริรักษ์” โอเคขึ้นมากแล้ว
“หน่องก็โอเคครับ ไม่ได้เป็นอะไรอย่างที่ทุกคนห่วง ด้วยความที่พวกผมก็โตแล้ว เรื่องความรักเวลาผิดหวังทุกคนก็เศร้าหมดแหละ แต่พอโตแล้วก็เข้าใจอะไรในชีวิตได้เร็วขึ้น ได้ง่ายขึ้น มันเศร้าตรงนั้นแล้วก็ไปต่อ ตอนที่มีข่าวใหม่ๆ พวกเราก็มีถามบ้าง แต่ไม่ได้ถามรายละเอียด ถ้าเขาอยากเล่าเดี๋ยวเขาก็เล่าเอง เขาไปจัดการของเขาเอง ที่อีกฝ่ายไปออกรายการ จริงๆ ก็ตามที่เขาสัมภาษณ์เลยครับ มันก็เป็นเรื่องของเขา ให้เขาจัดการกันดีกว่า”

เผยตอนนี้ธุรกิจสตูดิโอที่บ้านขยายใหญ่ขึ้นแล้ว
ตอนนี้มีสตูดิโอบ้านคุณแม่ที่มันรันอยู่ตัวแล้ว และเดี๋ยวจะมีอีก 2 ที่ครับ แล้วก็จะมีร้าน เจ๊แดงสามย่าน เป็นธุรกิจของที่บ้านที่หุ้นกับพี่ที่รู้จักกัน แม่ก็มีกว้านซื้อที่บริเวณบ้านไว้ประมาณนึงครับ คือด้วยตอนนี้เราทำสตูฯ ที่มันใกล้บ้าน และเราก็รู้สึกวเรามาจับทางนี้จนรู้ทางแล้ว มันก็เป็นอะไรที่โอเคนะ ก็เลยรู้สึกว่างั้นเดินทางนี้ไปเลยแล้วกัน คนที่จะขายที่เขาก็จะรู้กัน ถ้าใครอยากขายที่ก็มาหาแม่ แต่ตอนนี้ซื้อไม่ไหวแล้วนะครับ (หัวเราะ)

คือตอนนี้มันมีสตูฯ ที่จะทำเป็นถ่ายภาพนิ่งกำลังสร้างอยู่ ก็อยู่ใกล้ๆ กัน แล้วก็จะมีสตูฯ ที่เป็นบ้านอีกนี่แหละครับ ก็ดำเนินการโดยผมเอง ตอนนี้มันก็เลยยุ่งในแง่ของมันมีหลายที่ หลายอย่าง ส่วนใหญ่เรื่องสตูฯ จะเป็นผมทำซะส่วนใหญ่ครับ เพราะเฮียบอยเขาก็ยุ่ง หน่องก็ไปทำยูทิวบ์อะไรของเขา และด้วยงานมันทำหลายคนไม่ได้ เพราะมันมีเรื่องคิวอะไรต่างๆ ซึ่งมันก็ต้องถือคิวไว้คนเดียวดีกว่า เวลาใครจะใช้ ใครจะติดต่ออะไรมาก็คือโยนมาให้ผม ไม่งั้นเดี๋ยวมันทับซ้อนกัน”













กำลังโหลดความคิดเห็น