“เปิ้ล นาคร” ถือฤกษ์ดีเปิดร้านใหม่ ควักทุน 10 ล้านงานตกแต่ง ตั้งเป้าธุรกิจทำเงิน 600 - 800 ล้านใน 2 ปี พร้อมมี 10 ร้านทั่วประเทศ เล่าหวยออกเลขทะเบียนรถที่โดนกระสุนตกใส่ ถูกกันทุกคนยกเว้นเจ้าของ ดีใจ “เสนาหอย” ยังคิดถึงกัน ว่างๆ ชวนมากินก๋วยเตี๋ยวพร้อม “วิลลี่” 10 ปีไม่ได้คุย ไม่ได้เจอ คงยากกลับไปร่วมงาน ทำแบบเดิมยุคนี้คงมีดราม่ายับ
หลังอดีตแก๊งสาระแน อย่าง “เสนาหอย เกียรติศักดิ์ อุดมนาค” ออกมาเปิดใจเรื่องในอดีต ปมทะเลาะธุรกิจปิดฉากเพื่อนรักกับ “เปิ้ล นาคร นาคร ศิลาชัย” ผ่านรายการ โต๊ะหนูแหม่มว่า ตอนนี้ก็ยังมีแอบส่องชีวิตความเป็นอยู่ ตอนประสบอุบัติเหตุเจ็ตสกีก็มีเป็นห่วง แต่โอกาสร่วมเฟรมหรือร่วมงานคงยาก เพราะมันไม่ใช่ไทม์มิ่งนี้แล้ว
ล่าสุดวันนี้ (3 /ก.ค./65) ฤกษ์งามยามดีเปิดร้านใหม่ sail to the moon by nakorn at asiatique เปิ้ล นาคร พร้อมภรรยา “จูน กษมา” ก็ควงกันมาตอบประเด็นนี้แบบมีรอยยิ้ม พร้อมเผยเป้าหมายใหญ่ ต้องได้เงิน 600 - 800 ล้านบาทภายใน 2 ปี กับธุรกิจร้านอาหาร 10 ร้าน
เปิ้ล : “วันนี้ถือเป็นวันแรกที่เราเปิดเป็นทางการที่นี่ ย้ายมาที่นี่เพราะที่เก่าหมดสัญแล้ว เราก็เลยแวะเข้ามาเอเชียทีค คิดถึงวันที่เราแต่งงานกัน ปรากฎว่ามาเจอที่นี่ ดวงสมพงศ์มากนะ อาหารแสนดี ดนตรีแสนสดครับ ลงทุนนับหนึ่งใหม่หมดเลย เริ่มใหม่ ก็ลงไปหลัก 10 ล้าน”
ตั้งเป้าหมายใหญ่ ต้องได้ 600-800 ล้าน ภายใน 2 ปี กับกิจการร้านอาหาร 10 ร้านทั่วประเทศ
เปิ้ล : “ตอนนี้ก็คือต้องบอกก่อนว่า ธุรกิจอาหาร สมัย 10 กว่าปีก่อน เราก็ทำเล่นๆ เราชอบทำอาหาร มีร้านของเราก็ดีนะ แต่พอเวลาผ่านไป ไอ้โควิดนี่แหละ ที่มันมาผลักดันให้เราอยากทำเป็นอาชีพจริงๆ แล้วมันกลายเป็นอีกธุรกิจหลักของครอบครัว พอเรามาทำแล้วรู้สึกว่ามันสามารถโตได้ เราก็เลยวางแผนไว้เลยว่า ในอนาคตธุรกิจอาหารของเราจะต้องเป็นยังไง เราวางไว้ 2 ปีเนี่ย ต้องได้ 600 - 800 ล้าน คือเราก็ตั้งเป้าไว้นะ ค่อยๆ เปิดไปเรื่อยๆ จนถึง 10 ร้านอาหาร ภายใน 2 ปีนี้ นี่คือเป้าของธุรกิจเรานะ ไม่ใช่ว่าโอ้โห…บ้าคลั่ง”
จูน : “คือถ้าเรามีเป้า เราจะได้รู้ตัวเอง ว่าเราจะต้องทำอะไร”
เปิ้ล : “แต่ไม่ใช่แฟรนไชส์ เป็นร้านใหม่ คาแรคเตอร์ของแต่ละร้านก็จะไม่เหมือนกัน เพราะเราชอบอาหารมากๆ ก็จะเป็นหลากหลายสไตล์ให้เลือกไม่เบื่อ ทำเลก็จะห่างๆ กัน ราชพฤกษ์ดูไว้แล้ว บางนาก็ต้องมี แล้วก็วางแผนไว้ทั่วประเทศด้วย อาจจะเป็นภูเก็ตหรือว่าเมืองใหญ่ๆ ทางภาคเหนือ ภาคอีสาน หรือไปลาว กัมพูชา เราก็วางแผนไว้ในอนาคตแล้ว จะจัดการยังไงก็เป็นเรื่องการบริหารแล้ว ตัวเราเองทำไม่เป็นหรอก ไม่ได้เก่งไปทุกเรื่อง เพราะฉะนั้นเราก็ต้องได้ทีมงานที่เก่ง ถึงจะขยายไปขนาดนั้นได้ ลำพังเราสองคนก็คงทำได้แค่ร้านเดียว”
หวยออกตรงกับทะเบียนรถ ที่มีรอยแตกเป็นรู เหมือนโดนกระสุน
เปิ้ล : “เสียดายมากไม่ได้ซื้อ”
จูน : “ซื้อทีไรก็ไม่เคยถูก ออกตรงๆ เลย”
เปิ้ล : “เรื่องของเรื่องคือวันหนึ่งตอนกลางคืน ได้ยินเสียงปืนปังๆ เพราะแถวบ้านเขามีตลอดอยู่แล้ว ได้ยินบ่อยๆ แต่เช้ามามีรูที่ คือถ้ามันเป็นปืน มันอาจจะทะลุ แต่มันคงยิงขึ้นข้างบนแล้วหล่นลงมาไง มันก็เลยเป็นรอย เราก็เลยถ่ายรูปลงไป ติดเลขทะเบียนรถ ปรากฎว่าถูกกันถ้วนหน้า ยกเว้นเรา ไม่เคยถูก”
จูน : “เหตุการณ์มันเกิดกลางคืน แล้วเช้ามาก็หวยออก คืนนั้นเราได้ยินเสียงแต่ไม่ได้ใส่ใจ แต่เช้ามาลูกจะไปโรงเรียน คนรถบอกว่าคุณจูนๆ รถเหมือนโดนกระสุนเลย เราก็ไปดู แต่เราอะไม่สนใจ แต่ไม่เจอหัวกระสุนนะ จริงๆ อาจจะเป็นหินก็ได้ หรือกิ่งไม้หนักๆ ก็ได้”
เปิ้ล : “แต่หินมันก็ต้องแรงมากนะ ที่ทำให้เป็นรอยขนาดนั้น แต่อันนี้เป็นรูกลมๆ เลย น่าจะเป็นกระสุน”
ไม่คิดไปถึงเรื่องความปลอดภัยของลูกๆ แต่ตราบใดที่ที่บางคนยังมีปืนก็ต้องระวัง
เปิ้ล : ก็ไม่ได้คิดนะ เรื่องแบบนี้มันตราบใดที่เรายังมีปืนกันบ้างในบางคน เราก็ต้องระวัง”
จูน : “มันก็ไม่ได้บ่อยอะไรขนาดนั้น”
เปิ้ล : “ปีสักทีสองที วันเกิดใครอะไรแบบนี้ ซึ่งแถวนั้นพี่เสก โลโซ อยู่หรือเปล่าวะ (หัวเราะ) หยอกๆ พี่ชายๆ ไม่ได้ระแวงอะไร ถ้ามันจะโดนเราก็โดนอ่ะ ใช่ป่ะ แล้วแต่ดวง”
กล้องวงจรปิดหน้าบ้านมองไม่เห็นอะไรเลย
จูน : “ไม่เห็นอะไรเลย”
เปิ้ล : “ไม่เห็นๆ กลางคืนด้วยก็ไม่น่าจะจับอะไรได้”
ไม่ได้ไปลงบันทึกประจำวันหรือแจ้งความอะไร
เปิ้ล : “ไม่ครับ ไม่รู้จะไปแจ้งใคร เราก็ปล่อยๆ ไป ก็ไม่ได้ตามไม่ได้อะไรเลย แค่ตกเย็นมีคนบอกว่าถูกหวยเราก็ดีใจแล้ว”
ดีใจ “เสนาหอย” เอ่ยถึงว่ายังเป็นห่วง ไม่ได้เจอกันหลายปีแล้ว
เปิ้ล : “ดีๆ ดีใจ ไม่ได้เจอกันนานหลายปีมาก 10 กว่าปีแล้วนะ เขาพูดถึง ก็เหมือนต่างคนต่างติดตามผลงานกันและกันมากกว่า เขาก็อาจจะเห็นเราบ้างทางออนไลน์ เราก็เห็นเขาบ้างในทีวี อย่างลูกๆ 4 ออ ก็เห็น พี่หอยตลกนะ เราก็บอกนี่เพื่อนป๊านะ เราก็เล่าให้ฟัง”
ไม่ได้ฟังคำสัมภาษณ์ของเขาทั้งหมด แต่ก็ดีใจที่น้องยังคิดถึง เพราะก็ยังคิดถึงเหมือนกัน
เปิ้ล : “ไม่ได้ฟังหมดแต่เห็นในติ๊กต่อกหรือทีเซอร์สั้นๆ ซึ่งเราก็ดีใจแหละ น้องก็ยังคิดถึงเราอยู่ เราก็ยังคิดถึงเขาอยู่เหมือนกัน”
โอกาสกลับไปร่วมงานกันคงยาก เพราะชีวิตเปลี่ยนไปเยอะ ทำในสิ่งที่เป็นแบบเดิมไม่ได้
เปิ้ล : “น่าจะยาก เพราะว่าตอนนี้ชีวิตเรามันค่อนข้างจะเปลี่ยนไปเยอะ บอกแล้วว่าฉันไม่เหมือนเดิม ชีวิตเรามันทำธุรกิจเยอะ เพราะฉะนั้นถ้าเรากลับไปร่วมกันอีกทีภาพจำมันต้องตลกอ่ะ เปิ้ล วิลลี่ หอย มันต้องตลก แล้วเดี๋ยวนี้เราต้องประชุมทุกวัน เมียใช้ คือเรามีความสุขกับการทำธุรกิจด้วย การทำทีวีของเราก็ยังรักมันอยู่ เราก็จะทำในสิ่งที่มันเป็นแบบเดิมไม่ได้ ที่ต้องตลก ต้องแต่งตัว เอาแป้งปะหน้ากัน เราทำให้ลูกดูได้นะ แต่ไปทำอย่างนั้นมันเป็นเรื่องในอดีตแล้ว ทุกวันนี้เราอยู่กับปัจจุบันอย่างเดียวแล้ว
ณ วันนี้ไม่มีอะไรคาใจหรือติดใจกันแล้ว ว่างๆ มากินก๋วยเตี๋ยวเรือที่ร้านได้ ทั้ง “วิลลี่” และ “หอย”
เปิ้ล : “ไม่มีๆ เราเชื่อว่าทุกคนยังคิดถึงกัน ก็ยังคิดว่าวันไหนว่างๆ เชิญเขามากินก๋วยเตี๋ยวเรือที่ร้าน มาได้เลยวิลลี่ หอย”
รับรู้แฟนๆ ก็คิดถึงอยากเห็น แต่ยุคนี้กลับไปทำแบบนั้น คงโดนดรามjายับแน่ๆ
เปิ้ล : “ใช่ คิดถึงๆ อยากเห็นอ่ะได้ ถ้ามีเวลาก็คงได้เห็นแหละ แต่ให้ไปทำแบบเดิม ไปทำรายการไปแกล้งคนแบบสาระแนยุคนี้ทำไม่ได้แน่นอน ทั้งบูลลี่ ทั้งดราม่า ยับแน่ๆ ก็เลยไม่เอาดีกว่า”
ที่ผ่านมาไม่ได้ติดต่อหรือพูดคุยกันเลย ครั้งสุดท้ายน่าจะ 10 ปีที่แล้ว เจอกันโดยบังเอิญก็ไม่มี
เปิ้ล : “ไม่ได้ติดต่อ เพราะถ้าติดต่อเราก็ต้องติดต่อทั้งน้องแหม่ม พี่โค้ก เสนาทุกคน มันแยกย้าย 10 กว่าปีแล้ว เหมือนออกมาจากโรงเรียนแล้วอะ ถามว่ามีเหตุบังเอิญเจอกันบ้างไหม ก็ไม่เลย ไม่เคยเจอเลย ครั้งสุดท้ายน่าจะเกือบ 10 ปีอ่ะ”
