xs
xsm
sm
md
lg

“แอนนา” แถลงลาออกจากวงการบันเทิง ยุติบทบาทพิธีกรทุกรายการตั้งแต่พรุ่งนี้ (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“แอนนา” ตั้งโต๊ะแถลงขอออกจากวงการบันเทิง ยุติบทบาทพิธีกรจากทุกรายการตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ลั่นหมดเวลาหน้าจอทีวีแล้ว ทนกระแสวิจารณ์ถึงตัวเองแบบเสียๆ หายๆ ไม่ไหวแล้ว ยืนยันเป็นฝ่ายลาออกจากช่อง 8 เอง ไม่ได้ถูกปลด แต่ถ้าถูกเชิญไปออกรายการในฐานะแขกรับเชิญก็จะไป จะกลับมาไลฟ์สดขายของเหมือนเดิม เผยแม่แตงโมหลุดระบาย ไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้ พร้อมช่วยเหลือลูก “กระติก” ไม่ได้เกลียด

ถือโอกาสตั้งโต๊ะแถลงเคลียร์ทุกเรื่องหมดจด ทั้งคดีหวยทิพย์ โดนรวบตัวคาสนามบิน รวมไปถึงคดีที่ถูกดาราท่านหนึ่งฟ้องหมิ่นประมาท แต่งานนี้ “แอนนา วรินทร วัตรสังข์” ได้เผยข่าวช็อกใจแฟนคลับว่าหลังจากนี้จะขอออกจากวงการบันเทิง ยุติบทบาทพิธีกรทั้งหมดตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป โดยจะขอไปเดินสายนางแบบอินเตอร์ รวมทั้งกลับไปไลฟ์สดขายของเหมือนเดิม

“จริงๆ มีหลายเรื่องตั้งแต่กลับมา มีประเด็นรวบคาสนามบิน ยังไม่ได้พูดอะไรเลย นานมาก และมีประเด็นพาดพิงอีกหลายๆ เรื่อง จะพูดวันนี้ทีเดียว แล้วจะไม่พูดอีกแล้ว ประกาศด้วยว่าจะขอออกจากวงการบันเทิง ไม่อยากอยู่ตรงนี้อีกแล้ว อยากออกไปใช้ชีวิตส่วนตัว อยากทำธุรกิจอื่นๆ ที่ไม่ใช่ธุรกิจที่ต้องมาให้คนวิพากษ์วิจารณ์ ทบทวนดีแล้วว่าใจเรามันไม่ไหวกับการที่ต้องมารับกระแส คำวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ

ส่วนรายการก็ออกค่ะ ก่อนหน้านี้เคยคุยกับผู้ใหญ่ทางช่อง 8 ว่า เราอยากยุติบทบาทการเป็นพิธีกร ตอนแรกคุยกันว่าจะเป็นเดือนก.ย. พี่โปรดิวเซอร์บอกว่าพุดเดิ้ล ลองทำตัวเองให้เป็นกระแสสิ จะได้มาจัดแทน แต่ว่าด้วยประการทั้งปวง ผู้ใหญ่ก็เลยลงมติว่าพรุ่งนี้น่าจะเป็นวันสุดท้ายของการจัดรายการของเราทั้งหมด เราเองก็ขอบคุณช่อง 8 มาก ตั้งแต่มีข่าวคิดว่าจะโดนไล่ออกตั้งแต่วันแรกๆ ด้วยซ้ำ เพราะคดีอาญาเลยนะ แต่ผู้ใหญ่เข้าใจ เราแสดงหลักฐานความบริสุทธิ์ของตัวเอง ไม่ว่าจะทั้งตร. หรือทางผู้ใหญ่ ก็ไว้เนื้อเชื่อใจ มองว่าไม่เป็นไร

ส่วนตัวเราที่ออกจากวงการ บอกตรงๆ ว่าตั้งแต่เกิดเรื่องเพื่อน เรารู้สึกดาวน์ ตั้งแต่อ่านข่าว รู้สึกว่ากำลังใจมันไม่ได้ เคยมีคำพูดของโม (นิดา พัชรวีระพงษ์) คำนึงว่าแอนนาเธอจัดรายการไม่ดังหรอก เพราะเธอไม่กล้าขยี้ ไม่กล้าด่าคนอื่นแรงๆ จัดไปก็ไม่มีอนาคต เขาเคยพูดเรื่องนี้ เราก็คิดว่ามันก็จริงเหมือนอย่างที่เขาว่า เราก็ไปทำตามสิ่งที่เราถนัด หรือทำได้ดีกว่า

เราเป็นแม่ค้าขายของมานานมากแล้ว จะปีนึงแล้ว เรารู้สึกมีความสุข เวลาเรารีวิวสินค้า หรือทำคลิป ทำไมต้องรีวิวสินค้า ทำไมต้องไทร์อิน ซึ่งเราก็เลิกรีแคปนางงามไปเลย ทำให้เรารู้สึกว่าเรากลัว เรากลับมาครั้งนี้เราสตรองกว่าเดิม เราอยากพูดอะไรเราก็พูด เราอยากทำอะไรเราก็ทำ แล้วใช้ชีวิตแบบใหม่ ที่ตัวเองไม่เคยเป็นมาก่อน คือการออกมานอกกรอบ บอกกับสามีว่าเราเลิกกันแล้วนะ 2 ปีแล้ว เราไม่ควรมีอะไรกัน ไม่ควรทำชีวิตเหมือนเป็นสามีภรรยากัน ก็แยกกันจริงๆ เพราะเขาก็เป็นพาร์ตเนอร์ชีวิต

เขาพูดอยู่คำนึงว่ามาเลิกในวันที่เขาอายุ 30 แล้วไม่ได้เรียนหนังสือ เขาจบม.6 แล้วเขาจะทำอาชีพอะไร เราเลยตกลงว่าไหนๆ ก็เลิกกันแล้ว เดี๋ยวเราส่งเรียน ไปเรียนอเมริกาตามเราก็ได้ หรือไปเรียนให้จบแล้วหางานทำให้ได้”

ลั่นโดนฝ่ายชายนอกใจ 5 ครั้ง จนไม่เหลือใจให้แล้ว
แอนนาเลิกกับแม็กซ์มา 2 ปีแล้ว จับได้ว่ามีเรื่องมือที่สาม ถ้าเราโดนนอกใจบ่อยๆ ครั้งสองครั้งเราให้อภัยเขาได้นะ แต่เราโดนมา 5 ครั้ง บอกเขาเลยว่าไม่มีใจเหลือให้เขาอีกแล้ว ก็เลยจบ แต่ไม่ได้แยกกันอยู่ เพราะเรามีลูกด้วยกัน ไม่ใช่ว่าวันนึงเรามีลูก รับเด็กมาเลี้ยง พอเลิกกันก็เท มันไม่ใช่เลี้ยงหมาเลี้ยงแมว ต้องเข้าใจหัวใจเด็กคนนึงด้วย เราก็ใช้หัวใจความเป็นพ่อแม่ เราก็อยู่ด้วยกัน แต่เราให้ลูกไปอยู่ลำปาง ให้คุ้นชินกับการไม่ได้อยู่กับพ่อแม่แค่สองคน เพราะถ้าวันนึงเราแต่งงานใหม่ หรือแม็กซ์แต่งงานใหม่ ลูกจะได้รับได้และทำความเข้าใจได้ว่าพ่อแม่มีใหม่แล้ว”

ขอไปใช้ชีวิตในแบบที่อยากเป็น
“ตอนออกจากทีวีพูล เราปฏิญาณตนว่าจะไม่เป็นนักข่าวช่องไหนอีก เราก็ทำนะ ตอนนั้นเรามีโอกาส มีคนบอกว่ามาเป็นนักข่าวไหมจะให้วิ่งข่าว เราก็บอกว่าเราไม่ทำแล้ว แต่ในบทบาทพิธีกร เราได้โอกาสจากช่อง 8 และอยากบอกว่าเราจะทำที่ช่อง 8 และไม่ไปทำที่ไหนอีกในการเป็นพิธีกรในรายการทีวี อันนี้รอดูได้เลย คือชีวิตก็ไม่ได้เหลืออีกยาวนานแล้ว อีก 20-30 ปี ก็แก่มากแล้ว เรารู้สึกว่าเราควรไปใช้ชีวิตในแบบที่เราอยากเป็น”

ซื้อเคเอฟซีให้แตงโม นิดา ทำเหมือนเพื่อนยังมีชีวิตอยู่
“โดนบูลลี่หนักมากช่วงกระแสข่าวของโม ตอนหนูทำเยอะ คนก็บอกว่าหนูเกาะกระแส พอหนูหยุดคนก็บอกว่านี่ไง สุดท้ายก็ทิ้งเพื่อน หนูไม่รู้ตรงไหนคือตรงกลาง วันนี้หนูรู้แค่ว่าหนูดูแลแมวดีที่สุด พุดเดิ้ลดูแลบ๊วย (แมวแตงโม) ห้าคนจะประกบสองๆ ว่าวันนี้แมวเธออาการเป็นยังไง เราให้ความรักกับทุกอย่าง อยากบอกว่าเราให้ความสำคัญกับโมตลอดเวลา เมื่อวานต้องบอกว่าเป็นวันที่ประตูทุกประตูจะเปิด นรกสวรรค์อะไรแบบนี้ เราก็ไม่รู้หรอกว่ามันผิดหรือเปล่า แต่เราก็เอาเคเอฟซีมาตั้งไว้ แล้วบอกว่าโมอย่าลืมกินนะ เราอยากให้โมได้กิน เรายังทำเหมือนโมยังมีชีวิตอยู่

ลั่นแม่แตงโมเครียด ไม่รู้จักบังแจ็ค พูดไม่ได้ว่าดีหรือไม่ดี แต่ได้คุยกันครั้งเดียวตอนอยู่อเมริกา
“กับแม่ คนจะว่าแม่อะไรก็ไม่รู้ แต่สุดท้ายถ้าแม่รู้สึกว่าแม่เครียด แม่โทร.หาแอนนาได้เสมอ เราจะเป็นคนรับสายโทรศัพท์แม่ตลอด แม่ก็ยังมีส่งข้อความมาหาตลอด ไม่เคยโกรธแม่ แม้คนจะว่าอะไรแม่ก็ตาม อย่างน้อยเราก็ทำหน้าที่ลูกแทนเพื่อนค่ะ

เรื่องของบังแจ็ค อยากบอกว่าตอนแอนนาบินไปอเมริกา บังแจ็คโทร.มา แล้วคาบเกี่ยวกับเรื่องโทรศัพท์มือถือ แอนนาคุยกับแม่ แล้วแม่บอกว่าแม่ไว้ใจบังแจ็ค เพราะบังแจ็คเป็นคนดี เราก็ไม่กล้าค้านเยอะ พูดตรงๆ เพราะเราไม่รู้จักบังแจ็คดีพอ ไม่กล้าพูดว่าเขาดีหรือไม่ดี ก็ทำได้แค่รับฟัง ถ้าบังแจ็คบอกว่าแอนนารู้เรื่องโทรศัพท์ แอนนาไม่รู้นะ แต่แอนนาเดาได้ไม่ยาก เพราะแม่พูดว่าคนที่แม่ไว้ใจที่สุดคือบังแจ็ค ตอนอยู่อเมริกาก็ได้รับสายบังแจ็ค ตอนนั้นคนก็เข้าใจว่าแอนนาเป็นคนปล่อยรูปหรือเปล่า แต่แอนนาบินไปเม็กซิโกต่อ คนถึงรู้ว่าไม่ใช่แอนนา เพราะว่าเขาเช็กแล้วไม่ใช่เม็กซิโก เป็นอเมริกา เขาชวนกินข้าว แต่ตัวแอนนาไม่อยากให้มีประเด็นอะไรเพิ่มมาอีกแล้ว แอนนาประกาศขอหยุดทุกอย่าง”

พร้อมช่วยเหลือลูก “กระติก อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์” เด็กที่แตงโมรักมาก ยันไม่ได้เกลียดกระติก สิ่งที่สงสัยถามไปหมดแล้ว
“อย่างที่บอก ทำมากหิวแสง ไม่ทำก็บอกว่าเลิกเกาะเพื่อน ทิ้งเพื่อน ดังนั้นบริบทที่เราทำได้อย่างการช่วยเรื่องแม่ เราก็โอเค ถ้าแม่มีอะไรที่หนูช่วยได้หนูก็ทำ หรือคุยให้หายเครียดเราก็ทำ หรือทั้งตัวกระติกเอง ซึ่งแอนนาไม่เคยพูดมาก่อนเลยนะ แอนนาให้พี่เฮเลนทักหากระติก แล้วบอกว่าถ้าลูกกระติกต้องการความช่วยเหลืออะไร ทักมาหาเราได้นะ เราไม่ได้เกลียดกระติก เราไม่ได้มีประเด็นอะไรกับกระติก ประเด็นที่เราสงสัยเราพูดไปหมดแล้ว และเราไม่มีอะไรจะถามต่อ แต่ลูกของกระติก เด็กคนนึงที่โมรักมาก ถ้าอะไรก็ตามที่เราจะช่วยเหลือเด็กคนนี้ได้เราก็จะทำ นี่คือสิ่งที่โมเขาเป็นห่วง”

เตรียมย้ายแมวแตงโมไปอยู่ต่างประเทศด้วยกัน
“เรื่องแมวคนถามว่าย้ายไปอเมริกาจะเอาแมวไปด้วยไหม เอาไปด้วยค่ะ กำลังศึกษาอยู่ว่าถ้าเอาไปต้องเดินทางยังไงถึงจะปลอดภัยที่สุด ต้องไปฝึกอบรมที่ไหนที่แมวจะไม่ร้องเวลาขึ้นเครื่อง ต้องมีใบอนุญาตไหม เราศึกษาทุกอย่าง ในความเป็นเพื่อนเราทำให้เต็มที่หมดเลยนะ แม้แต่รถตู้ ถ้าแอนนาทำเอากระแส คันเดียวก็ต้องพอแล้วถูกไหม แต่นี่แอนนาเก็บมาสองเดือนแล้ว ขาดอีกแสนกว่าบาทก็จะครบแล้ว แอนนาไม่เคยเรี่ยไรจากใครเลย แฟนคลับขอร่วมทำบุญแอนนาก็ไม่ให้ขอ ใช้วิธีเก็บเงินจากการขายของ รถคันที่สองที่เป็นรถพยาบาลกำลังจะทำออกมา น่าจะเดินหน้ารถก็คงได้ออกมา ส่วนเรื่องคดีเราขอเป็นผู้เฝ้ามองดีกว่าว่ามันจะออกมาในรูปแบบไหน ถ้ามันไม่ยุติธรรมก็จะขอเรียกร้องความยุติธรรม แต่ถ้าออกมาสมเหตุสมผลเราก็โอเค เข้าใจได้และรับรู้ ต้องยอมรับว่าคดีของโมมีหลายประเด็นแตกยอดไปเยอะมาก จนบางครั้งเราก็งงเองเหมือนกัน”

แตงโมอัดคลิปเสียง ถ่ายรูปทุกช็อตเป็นเรื่องปกติ ใฝ่ฝันอยากเป็นช่างภาพ
เรื่องคลิปเสียง โมเวลาไปไหนก็ตาม เขาจะเก็บภาพเก็บเสียง เป็นเรื่องปกตินะ เขาเป็นคนชอบถ่ายรูปมากที่สุด เพราะเขาใฝ่ฝันอยากเป็นช่างภาพ วันไปขึ้นเรือกับโม เขาถ่ายให้แอนนาเกือบ 20 รูป เขาถ่ายให้พุดเดิ้ล ถ่ายให้ทุกคน เพราะเขาบอกว่าเขามีพรสวรรค์ด้านนี้ ตอนเขาไปลงเรือ แอนนาคาดเดาว่าเขาคงเก็บภาพบรรยากาศทุกช่วงทุกช็อตไปหมด

ส่วนตัวถ้ามือถือโมมีหลักฐานอะไรที่บ่งชี้ให้ประโยชน์ต่อรูปคดีก็ควรเอาออกมานะ แอนนาว่าจะดี แต่ถ้าเอาออกมาแล้วส่งผลต่อรูปคดีก็ส่งให้ศาลหรืออัยการเป็นคนตัดสินก็ดีเหมือนกัน แอนนาไม่เคยติดต่อกับบังแจ็คเลยหลังคุยกันที่อเมริกา พี่อัจ (อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์) ก็ไม่ได้คุยเลย ต้องขอบคุณมากที่เข้ามาช่วยตรงนี้ เราไม่เคยคิดไม่ดีกับพี่อัจเลย เราชื่นชมว่าเขาเก่งมีความสู้จนเราที่เป็นเพื่อนยังรู้สึกว่าเขาสู้จริงๆ นะ”

เฟดตัวจากวงการ กลับไปอยู่ในโลกโซเชียล
หลังจากออกจากวงการ ในสื่อโทรทัศน์จะเฟดตัวเองลง กลับไปอยู่ในโลกโซเชียล ไปไลฟ์สดอย่างมีความสุข อยากกินข้าว อยากหัวเราะ อยากรีแคปนางงามเราก็ทำ แบบนั้นแอนนาโอเคกว่า พอเราเป็นบุคคลสาธารณะ เราไม่ได้มีสื่อในมือทั้งหมด บางเรื่องที่ไม่จริง แอนนาไม่สามารถออกมาพูดหรือแก้ข่าวกับสื่อนั้นได้ แอนนารู้สึกว่าบางครั้งต้องขอบคุณที่สื่อส่วนใหญ่ดีหมดเลย แต่ก็มีส่วนน้อยเขียนทำร้ายใจเรา แล้วลูกเรากำลังโต แอนนาคิดว่าถ้าเราอยู่ในโลกโซเชียล มีประเด็นเราแก้ในโลกโซเชียลได้ แต่ถ้าเป็นบุคคลสาธารณะแบบนี้ เวลามีอะไรขึ้นมาเราแก้ไม่ได้ ข่าวออกไปเราออกไปเราก็โดน”

เล็งเปิดบริษัทนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศมาขายที่เมืองไทย
“จะไปใช้ชีวิตต่างประเทศ ถามว่าถาวรไหม ก็กำลังวีซ่าที่เกี่ยวกับวีซ่าลงทุน วางงานอยู่ การขายของขายเหมือนเดิม แต่จะขายของโดยการเปิดบริษัทอีกบริษัท นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศมาขายที่ประเทศไทย ซึ่งแอนนาจะไลฟ์สดที่ต่างประเทศ การจัดส่งในประเทศไทยก็เหมือนเดิม พุดเดิ้ลก็จะเป็นคนดูแลเรื่องการจัดส่ง ขายของที่ประเทศไทย

จะไปอยู่ถาวรไหม ก่อนหน้านี้คิดว่าจะไปๆ มาๆ ก่อน เพราะพ่อแม่ก็คงทำใจลำบาก ถ้าลูกไปอยู่เลยคงสูญเสียลูกไป คงไปๆ มาๆ ในช่วงแรก พอโอเคปุ๊บก็ไปเลย ตั้งใจเอาลูกไปเรียนที่โน่นด้วย ส่วนแม็กซ์อดีตสามีก็ตั้งใจพาเขาไปเรียนให้จบ ถ้าเขาเรียนจบเขาจะมีเมียใหม่หรืออะไรก็เรื่องของเขาแล้ว เขาจะไปใช้ชีวิตของเขาก็ได้

เรื่องสินค้านำเข้า แอนนาได้โอกาสดีๆ ตอนไปอยู่ที่อเมริกา แอนนาได้เจอเอเจนซี่ แล้วเอเจนซี่แนะนำว่าทำไมไม่ลองเป็นนางแบบดูล่ะ ความสูงเธอได้ แต่สัดส่วนเธอไม่ได้นะ ล่าสุดแอนนาได้ลงนิตยสาร Lofficielindia และเวียดนาม ตัวเองกล้าหน้าด้าน ส่งไปเลยร้อยหัว ร้อยนิตยสาร ส่งไปแนะนำตัวเองบอกว่าเราอยากขึ้นนิตยสารของคุณ เรามีโปรไฟล์แบบนี้ๆ ส่งไปเกือบร้อยได้มาสองเล่มถือว่าน้อย แต่เราทำไง ซึ่งหลายคนในประเทศไทยคงไม่รู้ว่าเราสามารถส่งแบบนี้ไปได้ เราเสนอเองได้ สุดท้ายเขาตอบรับมา เราแค่ถ่ายรูปให้เขาดูอีก ถ้าเขาชอบเขาก็ลงให้เรา ถ้าไม่ชอบก็ไม่ลง”

เปลี่ยนบทบาทจากพิธีกร หรือเซเลบในวงการบันเทิงสู่การเป็นนางแบบ
“ใช่ค่ะ อยากเป็นนางแบบด้วย ล่าสุดได้โอกาสจากแบรนด์โอต์กูตูร์ เป็นแบรนด์ชุดราตรี ยังไม่ขอพูดชื่อแล้วกันเพราะยังไม่ได้ เราแคสจากรูปผ่านแล้ว แต่เราต้องไปแคสที่ปารีส เราต้องเดินทางวันพรุ่งนี้ ไป 7 วัน เดี๋ยวคนก็ถามอีกหนีคดีหรือเปล่า ไม่ได้หนีนะคะ ให้คุณอาทนายซึ่งดูแลดีมาก เขาบอกว่าแจ้งเจ้าพนักงานเรียบร้อย เดี๋ยวกลับมาวันที่ 8 รายงานตัว เคลียร์เรื่องคดีจบ

ส่วนเรื่องหน้าอก เราส่งไซส์ไป หน้าอกเราใหญ่กว่าสะโพก หน้าอกไม่ได้มาตรฐานเราก็เอาออกเลย เราจัดให้สุดค่ะ อายุ 37 ปี คนถามเยอะมากว่าแก่ไปหรือเปล่ากับการเป็นนางแบบ เราว่าไม่แก่หรอก เราไม่มีอะไรสายเกินไปกว่าที่จะทำ ถ้าแก่เกินไปคงไม่ได้ลงปกสองเล่ม และหลังออกไปสองเล่ม ก็มีคนติดต่อเข้ามาว่าสนใจนะ อยากได้เธอมาลงนะ สนใจประวัติ เพราะประวัติชีวิตเรามันเยอะมาก ตั้งแต่เป็นนักข่าว ไปทำงานอย่างว่า แล้วกลับมาเจอคดีเพื่อน เจอหวยทิพย์ เจอเยอะไปหมด ชีวิตเราเยอะมาก

เราได้รับกระแสตอบรับค่อนข้างแรง แต่ส่วนใหญ่เขาบอกว่าประเทศไทยเป็นสวรรค์ LGBT นะ แต่เราบอกว่าไม่ใช่สวรรค์ ถ้าเป็นสวรรค์เราต้องได้แต่งงานนานแล้ว แต่อันนี้ไม่ใช่สวรรค์ไง กฎหมายเรายังไม่รองรับ พูดตรงๆ นะ เวลาเดินทางไปต่างประเทศ เวลาเขาตรวจร่างกาย เรามักโดนผู้ชายเดินเข้ามา ดูว่ามิสเตอร์แล้วจับๆ มันเป็นสิทธิ์บนเรือนร่างเรา เราแปลงเพศแล้ว เราทำหน้าอกแล้ว มันไม่ควรมาโดนแบบนี้ไหม มันก็ต้องใช้เวลา แอนนาว่าเร็วๆ นี้น่าจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี เพราะเขารับร่างแล้ว”

ด้าน “พุดเดิ้ล” เผยร่ำไห้เครียดเรื่องคดีหวยทิพย์แทนแอนนา
แอนนา : “ดูว่าเราผอม แต่เราไม่ได้เครียดเรื่องคดี”

พุดเดิ้ล : “ร้องไห้แทน เพราะนักข่าวทุกคนติดต่อพุดเดิ้ล ที่ใกล้ชิดแอนนาที่สุด แอนนาบอกว่าไม่ต้องเครียด ไม่อยากให้เราเครียด”

แอนนา : “ถามพุดเดิ้ลว่าจะเครียดทำไม เงินมันเข้าเราก็เห็น เราเป็นแค่พรีเซ็นเตอร์ แชตเราก็มี สัญญาเราก็มี ในเมื่อเราไม่ผิดเราจะเครียดทำไม ก็บอกพุดเดิ้ลว่าไม่ต้องเครียด อะไรก็ตามในโลกนี้ไม่มีคำว่าผิดเสมอไป ถ้าผิดเราแก้ไข ถ้าถูกเรายืนกรานว่าเราถูก แค่นั้นเอง”

พุดเดิ้ล : “ถามว่าเราจะดูแลตัวเองยังไง จริงๆ ก็มีรายการติดต่อมาสองรายการ ติดต่อไปเป็นพิธีกร ก็ต้องขอบคุณแอนนา เพราะที่ผ่านมาแอนนาปลุกปั้นมาตลอด ให้คำปรึกษาตลอดว่าเราต้องทำยังไงให้คนรู้จักเรามากขึ้น”

แอนนา : “ก็ดันมันตลอด ตอนไปลงนิตยสาร ก็บอกว่าพุดเดิ้ลคือโปรดิวเซอร์ เขาก็งงว่าดูโปรไฟล์แล้วเป็นโปรดิวเซอร์ได้ด้วยเหรอ จริงๆ พุดเดิ้ลคือผู้จัดการชีวิตแอนนาตั้งแต่เช้าจรดค่ำ แอนนาต้องรู้ข่าวนี้นะ พุดเดิ้ลเป็นคนกรอกข้อมูลให้แอนนาทุกวัน ซึ่งแอนนาไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย ซึ่งก็ทำมาได้สองปีแล้ว เก่งมากเลยนะ หรือพอมีข่าวในประเทศไทย ข่าวนี้เขาว่าแอนนานะ คดีหวยเป็นแบบนี้นะ เขาจะเครียด ร้องไห้ กังวลแทน”

คดีหวยทิพย์แค่คดีเล็กน้อย มองแง่บวก ทำให้คนจดจำได้มากขึ้น
“โดนรวบเรื่องหวย คดีพูดตรงๆ นะ ตัวเรามันดัง แต่คดีเล็กมากเลย แอนนาเป็นพรีเซ็นเตอร์ มีหลักฐานทุกอย่าง ในชั้นสืบสวน เราก็ต้องขอบคุณตร.ที่ให้โอกาสเราเอาหลักฐานที่มีมาทั้งหมดให้ตร.ดู เราก็ขอบคุณตรงนี้มากๆ ถ้าเราให้หลักฐานทั้งหมดแล้ว แล้วตร.ดูแล้ว มั่นใจได้เลยว่าเราเป็นแค่พรีเซ็นเตอร์

ต้องขอโทษพี่ตม.ด้วยนะ ที่วันนั้นแอนนาพูดเรื่อง pdpa วันนั้นคนตระหนกตกใจมากว่าแอนนากำลังจะโดนจับถ้าลงไป แล้วพอถึงเวลา ทุกคนกลัวว่าถ้าติดเข้าไปในกล้องแล้วจะเสียหาย แอนนาก็เลยบอกว่าพี่จับหนูได้เลย หนูไม่ติด แต่ถ้าพี่ถ่ายแล้วเอาไปลงโซเชียล ถ้าติดคนอื่นหนูเกรงใจคนอื่น ถ้ามีแค่หนูหนูไม่เสียใจอยู่แล้ว กลับกลายเป็นว่าหนูได้ภาพลักษณ์ ทุกคนจดจำหนูได้มากกว่าด้วยซ้ำ ทุกอย่างมีดีมีเสีย วันนั้นตร.รอ และพี่ตม.ถือกล้องถ่าย เขาไม่ได้ยื่นหมายให้น่าเกลียด เขาขอเชิญเรา เขาปฏิบัติกับเราดั่งบุคคลทั่วไป ไม่ได้ดีหรือแย่

กลับมาแล้วเจอตร.รออยู่ ก็ช็อกเหมือนกัน (หัวเราะ) ตร.มาเยอะมาก เจ้าหน้าที่มาประมาณ 7-8 คน แล้วก็ห้อมล้อมไปหมด เราก็ตกใจ แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าใจเย็นๆ นะ ไม่ต้องกลัวนะ ให้คำปรึกษาเราดี ไม่โกรธเจ้าหน้าที่คนไหนเลย”

เชื่อคดีไม่ถึงศาล บอกคดีที่ดาราฟ้องแรงกว่า อีกฝ่ายไม่ขอเคลียร์ ขอเจอในชั้นศาล
“ขั้นตอนคือยื่นชี้แจงความบริสุทธิ์ทั้งหมด คิดว่าคงไม่ถึงศาล เพราะเอกสารเบื้องต้นเราเยอะมาก กับพี่ต๊ะ บอยสเก๊าท์ (วินรวีร์ ใหญ่เสมอ) ไม่ได้ติดต่อกันเลย ทราบว่าพี่ต๊ะโอเคขึ้น พอไปรับทราบข้อกล่าวหา ด้วยหลักฐาน และสิ่งที่เกิดขึ้นจริง มันไม่น่าเกี่ยวกับแอนนาและพี่ต๊ะ ดังนั้นไม่น่ามีปัญหาอะไรค่ะ แอนนาโดนสองคดีนะคะ คดีแรกคือคดีลอตเตอรี่ไม่น่ามีปัญหาอะไร ส่วนอีกคดีแอนนาเคยพูดข่าวดาราท่านนึงเกี่ยวกับความรัก เขาก็ยื่นฟ้องมา ล่าสุดให้ทนายไปเคลียร์ เขาบอกว่าไม่เคลียร์ ขอไปในชั้นศาล คดีหมิ่นประมาทรุนแรงกว่า

ส่วนกับโชคดีลอตเตอรี่ ตอนนี้ไม่ได้ติดต่อทางนั้นเลย หลังเราได้รับเอกสารสัญญาจ้างหรือสัญญาการจ่ายเงิน เราก็ไม่ได้ติดต่อเขาอีกเลย เราก็จบ พอมีคดีเราก็แยกย้ายกันเลย พูดตรงๆ เราก็รู้สึกเสียใจเล็กๆ ว่า ไม่น่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาเลย แต่เขาก็แสดงความบริสุทธิ์ใจ ต่างคนต่างมีมุมมองของตัวเอง คดีหวยไม่เกี่ยวกับเราตั้งแต่ก.พ. เพราะเราเสนอตัวออกตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ชื่อเอาออกตอนมีประเด็นค่ะ ตอนที่มีประเด็นข่าว ก่อนมีการจับกุม ได้มีการพูดคุยว่ามันเกิดอะไรขึ้น เอาชื่อเราออกได้ไหม เพราะเราไม่โอเค เขาบอกว่าเอาออกเลยไม่ได้ ต้องรอ 15 วันค่ะ”

เผยแม่แตงโมหลุดระบาย ไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้ ต้องร้องเพลงให้หายเครียด
“เราได้ติดต่อบังแจ็คครั้งเดียว เขาพูดดีด้วยนะ กับคุณแม่พูดหลายครั้งอยู่ คุณแม่ก็ชมบังแจ็ค แต่เรื่องโทรศัพท์แม่ไม่ได้เล่า แต่บางครั้งเขาเครียด เขาระบายว่าไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้เลย เราก็บอกว่าคุณแม่ดูสตรองมากหน้าสื่อ แต่แกบอกว่าแกคิดมาก ต้องร้องเพลงให้หายเครียด เรื่องคดี เรารู้เท่าที่พี่รู้ เราหยุดเข้าไปแทรกแซงไปหา เราให้พี่อัจทำงานให้เต็มที่ ถ้าเขาต้องการอะไรเป็นข้อมูลเราก็เข้าไปซัปพอร์ต เราไม่อยากให้คนมองว่าหิวแสงไม่เลิก เกาะกระแสเพื่อน

เรื่องแม่เป็นแม่แตงโมไหม เราเกิดกับแตงโมคนละเดือน เราไม่รู้หรอกว่าอะไรยังไง แต่เราเคยถามแตงโม เขาบอกว่าเป็นแม่จริงๆ นะ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแอนนาแล้ว ให้คุณแม่ชี้แจงดีกว่า เรื่องเงินทองไม่น่าจะมี เพราะคุยมานานไม่เคยคุยเรื่องเงินเลย อย่างเสื้อผ้า แม่ให้เราไปขายแต่เรื่องเงินแม่บอกว่าให้เราเอาไปทำบุญหรือจะเอาไปทำอะไรก็เรื่องของลูก แต่แม่เสียดายเสื้อผ้าโม แฟนคลับโมก็เยอะ ถ้าเขาจะเก็บเสื้อผ้าโมไปเป็นคุณค่าทางใจ แม่พูดกับหนูดีมากเลยนะ แต่เวลาเขาออกสื่อ อาจกดดันหรือเก็บอาการหลายๆ อย่างไม่ได้”

ห่วง “เบิร์ด” แฟนแตงโม เป็นคนที่ดาวน์ที่สุด เกิดมาเพิ่งเจอผู้ชายที่ดี
เอาตรงๆ เบิร์ดดาวน์สุดแล้ว เกิดมาเพิ่งเห็นผู้ชายที่ดีคือเบิร์ด ล่าสุดเขาไปสักรูปบ๊วย เบิร์ดรักบ๊วยมาก แต่เสียสละให้ไปอยู่กับแอนนา ถ้าแยกไปตัวเดียวบ๊วยเขาจะเหงา”

ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม หมดเวลายืนหน้าจอทีวีแล้ว ขอจบบทบาทพิธีกรที่ช่อง 8
“ก็ขอบคุณทุกคนที่ติดตามแอนนามาตลอด แต่คิดว่าคงหมดเวลาแล้วล่ะที่จะยืนอยู่หน้าจอทีวี แอนนาขอไปเป็นอินฟลูเอนเซอร์เมือนเดิม ขอทำงานตามความฝัน ไม่ว่าจะเดินแบบ ถ่ายแบบ หรืออะไรก็ตามที่ต่างประเทศ อย่างน้อยเป็นจ๊อบที่ทำแล้วจบ ไม่ใช่จ๊อบที่ทำแล้วถูกวิจารณ์ต่อเนื่องยาวๆ ถ้าเชิญไปเป็นแขกรับเชิญไป แต่พิธีกรคงไม่เป็นแล้ว ให้จบบทบาทนี้ที่ช่อง 8







กำลังโหลดความคิดเห็น