“วันเดอร์เฟรม” ชีวิตที่ถูกวิจารณ์เรื่องรูปร่าง จนไม่กล้าออกจากบ้าน แต่วันนี้มั่นใจถึงอ้วน ขาใหญ่ แต่ “หนูสวยเสมอ”

“วันเดอร์เฟรม” เผยทุกวันนี้ยังมีคนส่งข้อความมาวิจารณ์เรื่องรูปร่างตลอด แต่ไม่ใช่ปัญหาของตน เพราะคนที่วิจารณ์ตนคงมีปัญหามากกว่า มั่นใจถึงอ้วน ขาใหญ่แต่ “สวยเสมอ” มีความสุขในแบบที่ตัวเองเป็นแต่ยอมรับเคยนอยด์ ถูกทักว่าอ้วน ไม่ออกจากบ้านเป็นอาทิตย์ เซ็งยังมีคนตัดต่อรูปโป๊ แต่ขอจบกับคนแรกที่ฟ้อง ต้องให้บทเรียน

เปิดตัวซิงเกิลแรกในเพลง So Big กับอีพีอัลบั้มแรกในชีวิตกับอัลบั้มที่ชื่อ Yours (ยั่วส์) เป็นที่เรียบร้อย สำหรับแรปเปอร์สาวอารมณ์ดี “วันเดอร์เฟรม” หรือ “เฟรม ศุภัคชญา สุขใบเย็น” ตอนนี้ยอดไลก์ทะลุหลัก 2 แสนไปเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งสิ่งที่ตามมานอกจากความแรงของเพลงแล้ว เรื่องของการวิจารณ์ในเรื่องรูปร่างก็ยังมีเหมือนเดิม โดยเจ้าตัวก็ยอมรับว่ายังมีคนไดเร็กข้อความมาแซะบ่อยๆ เรื่องรูปร่างของเธอ แต่ตนก็ไม่ได้สนใจเพราะถือว่าไม่ใช่ปัญหาของตน

“น้ำหนักมันก็ลดลงมาแล้วค่ะ แต่ก็ยังไม่พอใจ 100% มันก็ลดลงมาเท่าเดิมก่อนที่จะขึ้น หนูว่ามันควรจะแข็งแรงและเฟิร์มกว่านี้ คือไม่ได้อยากผอมนะคะ แต่อยากให้แข็งแรงและดูดีที่สุด เพราะหนูก็รู้สึกว่าตอนที่หนูอ้วนกว่านี้หนูก็รู้สึกว่าตัวเองก็สวย (หัวเราะ) หนูไม่เคยรู้สึกไม่แฮปปี้กับมัน แต่พอเราแข็งแรงขึ้น เราออกกำลังกาย เราได้ความแข็งแรงมากขึ้น ผลที่แถมมาด้วยก็คือมีรูปร่างที่เล็กลงแค่นั้นเองค่ะ ไม่ได้ซีเรียสกับรูปร่างเลยค่ะ หนูสวยเสมอ แต่หนูก็งงมากตอนที่น้ำหนักขึ้น คนรอบตัวไม่มีใครบอกเลยนะว่ามันขึ้น (หัวเราะ) หนูถามว่าน้ำหนักขึ้นเปล่าวะ คนรอบตัวบอกไม่ สวย หนูก็เลยโอเค สวย (หัวเราะ)

แต่จุดที่ต้องกลับมาฟิตคือไปเต้นแล้วเหนื่อยค่ะ แค่วอร์ม 10 นาทีแรกก็คือจะตายแล้ว แล้วลู่วิ่งที่บ้านก็เอาไว้แขวนเสื้อผ้า พอลองเอามาเดินๆ วิ่งๆ แค่ 15 นาทีก็แย่แล้ว แต่ก่อนหน้านั้นเราเคยอยู่ได้ชั่วโมงครึ่งเลยนะ หนูก็เลยคิดว่าไม่ได้แล้วล่ะ ถ้าเรากลับไปร้องเพลง หนูตายคาเวทีแน่ๆ ต้องเดือดร้อนคนอื่นเป็นภาระคนอื่นแน่ๆ เพราะฉะนั้นเราดูแลตัวเองดีกว่า

ทุกวันนี้ยังมีคน DM มาว่าสวยดีนะคะ แต่ทำไมขาใหญ่จังเลย ทำไมโชว์สัดส่วนเยอะขนาดนี้ หรือทำไมตูดใหญ่อะไรแบบนี้ แต่หนูก็รู้สึกว่าเรื่องที่หนูโชว์สัดส่วน หนูเหนื่อยนะ หนูคิดว่าฉันตั้งใจออกกำลังกายมาก็อยากโชว์ ถ้าออกกำลังกายมาแล้วปิดไว้เราก็ไม่แฮปปี้ เราอยากโชว์ ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นปัญหา หรือหนูอ้วนไป หนูขาใหญ่ไป คือมันไม่ใช่ปัญหาของหนูแล้ว มันเป็นปัญหาของเขาแล้วล่ะ(หัวเราะ)”

แต่เราก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรเขาหรอก เพราะหนูว่าคนที่เขามีปัญหากับเรา โดยที่เรายังไม่ได้ไปทำอะไรเขา แสดงว่าเขามีปัญหา เราไม่ได้มีปัญหา ไม่นอยด์ค่ะ แต่ตอนเด็กๆ นอยด์มาก ใครทักว่าอ้วนขึ้นคือไม่ออกจากบ้านเป็นอาทิตย์เลยนะ แต่ตอนนี้ก็คิดอย่างเดียวว่าฉันสวย (หัวเราะ)”

บอกไม่เคยเจอโรคจิตจังๆ แต่คนที่เอารูปตนไปทำรูปโป๊ก็ยังมีอยู่
“จริงๆ ตอนนี้เฉยๆ แล้วกับคำพูดอะไรแบบนั้น แต่ตอนแรกรู้สึกแย่มากช่วงเดือนแรกๆ ที่เจอค่ะ แต่หนูก็งงว่าเขาเป็นอะไรของเขา บางคนเอารูปโปรไฟล์ที่มีภาพลูกสาวกับภรรยาตัวเองด้วยนะ แต่มาคอมเมนต์หื่นมาก หนูก็แค่รู้สึกว่าสงสาร เพราะเขาเองก็มีลูกสาวนะ เขาก็มีครอบครัวที่ดูแล้วน่ารัก แต่ทำไมเขาถึงต้องมาอะไรแบบนี้ หนูคิดว่าบางคนมีความคิดที่รู้สึกว่าเราเป็นดาราแล้วเขาจะว่าหรือทำอะไรก็ได้ เหมือนเราเป็นคนสาธารณะที่เขาจะทำอะไรก็ได้ ซึ่งจริงๆ แล้วหนูเชื่อว่าทุกคนที่เป็นคนสาธารณะก็มีชีวิตของตัวเอง เรามีเกียรติและมีศักดิ์ศรีไม่ต่างจากใครเลย เท่ากันหมดเลย หนูก็เลยงงว่าทำไมเขาถึงมีความคิดแบบนี้นะ ก็อย่างที่บอกว่ามันไม่ใช่ปัญหาของหนู มันเป็นปัญหาของความคิดเขา

ไม่เคยเจอโรคจิตนะคะ แต่จะเป็นแนว Sexual Harassment ที่มาในคอมเมนต์มากกว่า หรือที่เคยโดนมากสุดก็ที่เคยเป็นข่าวที่เขาเอารูปเฟรมไปตัดต่อเป็นรูปโป๊ ซึ่งเขาก็ยังทำอยู่นะ ล่าสุดก็ยังมีคนส่งมาให้ดู ไม่แน่ใจว่าคนเดิมไหม แต่ก็ยังมีอยู่เรื่อยๆ ซึ่งมันไม่ใช่แค่เฟรมไง เพราะบางคนมาแซะว่าก็เพราะลงรูปแบบนี้ไง แต่งตัวแบบนี้ไง ถึงโดนแบบนี้ ซึ่งหนูคิดว่าฉันจะแต่งอะไรมันก็รูปร่างของฉัน เฟรมลงในพื้นที่สาธารณะก็จริงนะ แต่เขาก็ไม่มีสิทธิที่จะมาละเมิดแบบนั้นกับเฟรมถูกไหมคะ เฟรมก็เลยไม่ได้รู้สึกว่าเราทำอะไรผิดที่แต่งตัวแบบนั้น”

บอกเรื่องคดีตอนนี้เตรียมรอขึ้นศาลอาญาต่อไป จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
“ดำเนินคดีไปแล้วค่ะ จับได้แล้ว และเขาก็ประกันตัวออกไป เดี๋ยวจะมีฟ้องอาญา แล้วจะมีขึ้นศาลต่อค่ะ เพราะหนูไม่ยอม หนูก็จะเอาให้ถึงที่สุด เพราะหนูรู้สึกว่าเขายังไม่รู้สึกว่าสิ่งที่เขาทำมันผิด คือถ้าเขาแค่มาขอโทษและบอกว่าจะไม่ทำอีก หนูไม่เอาเรื่องเลยนะคะ แต่รู้สึกว่าคนที่น่ากลัวคือคนที่ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำมันไม่ถูกต้อง แต่หนูยังไม่เคยเจอเขาซึ่งๆ หน้าเลยค่ะ อยากเจออยู่ หนูดำเนินคดีแค่รายเดียวค่ะ แต่มันมีอีกหลายคนที่หนูแคปเก็บไว้หมดค่ะ

ถามว่าเตรียมดำเนินคดีหมดเลยไหม ตอนนี้ยัง หนูอยากเคลียร์กับรายนี้ให้จบก่อน คือวิธีการของเราคือทำตามขั้นตอนกฎหมายทุกอย่างเลย แล้วมันจะได้ผลจริงๆ ไหม หนูอยากรู้จริงๆ คือมันเป็นวิธีที่ช้านะ แต่ว่ามันได้ผลจริงๆ มั้ยวะ ก็ต้องรอดูและติดตามกันต่อไปค่ะ

เหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ หนูว่า 2 ปีแล้วนะ ตั้งแต่ก่อนโควิดนิดนึง สำหรับหนูรู้สึกว่ามันช้าไป แต่ต้องไปดูผลว่าคุ้มค่ากับที่รอไหม หนูเข้าใจแหละว่ามันมีกระบวนการของมัน แต่ก็ต้องรอดูว่ามันได้ผลและมันเวิร์กไหม คือจริงๆ ไม่ได้อยากได้เงิน สำหรับหนูเรื่องเงินไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่หนูอยากให้เขารู้ว่าสิ่งที่เขาทำมันผิด และอยากให้รู้ว่าคนที่กำลังทำแบบเขาอยู่ มองและเข้าใจว่าสิ่งที่เขาทำมันผิด และถ้าทำแล้วมันจะได้ผลแบบนี้นะ เขาจะได้เรียนรู้ไปว่ามันผิด มันไม่ถูกต้อง”

เผยมีกฎหมาย PDPA ออกมาก็ดี ตนคงต้องไปศึกษาให้มากขึ้น
“มันมีคนส่งมาให้เรื่อยๆ เลยค่ะ คือหนูมีทวิตเตอร์นะ แต่หนูเอาไว้ส่อง เป็นแอ็กหลุม แต่หนูไม่ได้เอาไว้ว่าใครนะ หนูเอาไว้ส่องเฉยๆ หนูก็จะเข้าไปดูว่าสรุปแล้วเขาก็ไม่ได้ทำกับแค่เฟรมคนเดียวนะ เขาทำกับอีกหลายๆ คนมากๆ ดาราหลายๆ ท่านโดน แม้แต่น้องๆ แดนเซอร์บางคนก็ยังโดน เหมือนเขาทำเป็นอาชีพรับตัดต่ออยากได้หน้าใครกับบอดี้ไหนล่ะ หรืออยากได้โป๊แค่ไหนล่ะ อยากได้เปิดแค่ไหนล่ะ ราคาก็จะต่างกันไป ซึ่งเข้าใจว่าอยากได้เงินแหละ แต่การหาเงินวิธีนี้มันก็เดือดร้อนคนอื่นนะ

ถามว่ากังวลไหมเวลาไปเที่ยวหรือไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ไหน ก็พยายามดูให้ได้มากที่สุดเท่าที่เราทำได้แหละ แต่สุดท้ายแล้วเขาก็เอาหน้าเฟรมไปตัดต่อได้อยู่ดี ก็ไม่รู้จะระวังตรงไหนเลยค่ะ คงต้องปิดหน้าแล้วล่ะ (หัวเราะ) ส่วนเรื่องกฎหมายใหม่ PDPA ที่มีออกมา อันนี้ดีค่ะ เฟรมคงต้องไปศึกษาเพิ่ม”