xs
xsm
sm
md
lg

เปิดปมในใจ “ลิลลี่” โดนบลูลี่ว่า “ไม่สวย” ย้ำไม่เคยคิดอิจฉา “เจนนี่” เลือกได้ไม่อยากเป็นคนดัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ลิลลี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” เปิดปมในใจ “กลัวคนไม่รัก” ยอมรับต้องเผชิญดรามากว่าจะมีวันนี้ ถูกบลูลี่ไม่สวย เปรียบเทียบกับพี่สาว จนอยากจะศัลยกรรมให้มันจบๆ ไป ย้ำชัด! ไม่เคยคิดอิจฉา “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” และถ้าเลือกก็ไม่ได้อยากเป็นคนดัง

เป็นอีกหนึ่งก้าวในวงการบันเทิงของ “ลิลลี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” หรือ “นารีนาท เชื้อแหลม” กับภาพยนตร์เรื่องที่ 2 ในชีวิต “มนต์รักวัวชน” ที่กำกับโดย “เอกชัย ศรีวิชัย” และจะเข้าฉายในวันที่ 30 มิ.ย. นี้ พร้อมเอากีฬาวัวชน กีฬาสุดฮิตจากแดนใต้ที่มาผสมกับความน่ารักของเหล่านักแสดงในภาพยนตร์แนวโรแมนติก-คอมเมดี้ แม้ในเรื่องจะสดใสตามวัยสาวอายุ 16 แต่ในชีวิตจริงของผู้หญิงคนนี้ เธอต้องเผชิญสารพัดดรามาที่พูดเลยว่าถ้าไม่แกร่งพอ อาจจะไม่ได้มาจนถึงทุกวันนี้ก็เป็นได้

“ยังตื่นเต้นเหมือนเดิมกับเรื่องแรกเลย เราไม่ค่อยถนัดด้านนี้ พอได้มาทำก็ยังตื่นเต้นตลอด ตื่นเต้นกว่าร้องเพลง เรื่องนี้จะเพิ่มความแสบเยอะขึ้น เป็นตัวเอง เวลาเล่นรู้สึกไม่ค่อยแตกต่างจากชีวิตจริงเลย แต่เรื่องก่อนหน้านี้จะเล่นไปจีบผู้ชาย แต่เรื่องนี้จะโดนผู้ชายจีบ ก็จะเขินๆ เพราะปกติแล้วเราก็จะจีบผู้ชาย 

ก็รู้สึกว่าตัวเองสวย เป็นตัวของตัวเอง การที่เขามาจีบเราก็เหมือนชีวิตจริงอยู่ เหมือนเขามาจีบเราก็ทำเป็นไม่สนใจ แต่ลึกๆ จริงๆ แล้วคือสนใจอยู่ มันก็รู้สึกแปลกๆ เวลาที่มีผู้ชายมาเข้าหาเราก่อน และอยากบอกว่าเรื่องแรก เต็มสิบ เราให้สัก 5 คะแนน มันเป็นครั้งแรก เราไม่รู้ว่ามันดีหรือแย่แค่ไหน 

แต่มาเรื่องนี้เราให้ 6-7 คะแนนเพราะเราเริ่มรู้แนวแล้วว่ามันจะประมาณไหน อย่างเวลาเล่นให้รู้สึกเศร้า หรือว่าเรียกน้ำตา อันนี้คือยาก เวลาเข้าเราก็จะนึกถึงเรื่องที่เราไม่ชอบ หรือเรื่องอะไรก็ตามที่เรารู้สึกเศร้า เช่น เราเป็นคนที่กลัวคนอื่นจะไม่รัก หรือเราทำดี เต็มที่ ให้ใจไปแล้วเราไม่ได้รับความรักกลับมามันก็จะรู้สึกแย่จังเลย ร้องไห้ดีกว่า เราก็จะเอาอะไรพวกนี้มาผสมเวลาต้องเล่นฉากเศร้าๆ

ฟีดแบ็กจากแฟนๆ เขาก็บอกว่าโอเคนะ อยากดูอีก แสดงอีกนะ เขารอดู เขาชอบ เราก็ใจชื้นขึ้นมาเยอะเลยค่ะ ด้วยความที่รู้สึกไม่ค่อยมั่นใจกับการแสดง พอมีคนบอกชอบ จะรอดู เป็นกำลังใจให้ ทุกอย่างมันก็ไปด้านบวกหมด และถ้าเจอคอมเมนต์ลบ ก็จะนอยด์แป๊บนึง แต่ถ้ามีคนกรอกหู คอยพูด คอยเตือนตลอดว่าไม่ต้องสนใจนะ ถ้ามีคนคอยพูด คอยเตือน เราก็ไม่ได้สนใจจริงๆ เราเป็นเก็บทุกรายละเอียด ซึ่งครอบครัวจะคอยเตือนคอยบอก ถ้าคนชอบ 50 คน มีคนไม่ชอบคนเดียว เราจะไปให้ค่าคนเดียวทำไม”

จาก “คนธรรมดา” กลายมาเป็น “ครอบครัวสาธารณะ” จนบางทีก็ถูกชี้หน้าด่าหน้าเวที
“เมื่อก่อนก็ยาก แต่ตอนนี้เริ่มปรับตัวได้แล้ว เราเป็นคนที่ใช้ชีวิตติดดินเหมือนคนปกติเลย เรากวนๆ เราติ๊งต๊อง เราไม่ได้สนใจคนอื่นเลย เราเอาแค่ตัวเราสนุก พอมาอยู่จุดนี้ เราต้องคอยบอกกับตัวเองว่ามีคนอื่นมองเราอยู่นะ เราก็เลยจะซอฟต์ลงในหลายๆ อย่าง เราเป็นคนไม่ค่อยคะไม่ค่อยขา เราเป็นคนห้าวๆ ติ๊งต๊องตลอดเวลา ไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างว่าตอนนั้นเกิดอะไรอยู่บ้าง จนพี่กับแม่มาสอน บวกกับตอนนี้เจอปัญหาอะไรหลายๆ อย่างด้วย อย่างที่ผ่านมาจะเจอดรามาเราไม่มีมารยาทบ้าง ซึ่งตอนนั้นรับไม่ค่อยได้ มีพี่เจนกับแม่คอยสอน คอยเตือน คอยบอกเราอยู่ข้างๆ ให้เราปรับตรงนี้ เพิ่มตรงนั้น แต่เราเป็นคนเก็บทุกอย่าง เราใส่ใจทุกรายละเอียด มันก็จะมีที่นอยด์ ที่รู้สึกดาวน์อยู่

ซึ่งดรามาที่เข้ามา สำหรับเราก็คิดว่ามันไวไป เราเพิ่งจะ 16 ปี เพิ่งจะหาเงินซื้อบ้าน เลี้ยงครอบครัว แต่ต้องมาเจอคนด่า ด่าเราคนเดียวไม่พอ มาด่าพี่แล้วก็ยังไม่พอ ไปด่าแม่อีก ตอนนั้นก็ใช้ชีวิตลำบาก จะทำอะไรก็มีแต่คนมาคอยจับตามอง คอยจับผิด เราก็กลัวจะทำอะไรผิดไปหมดเลย ถ้าเราอยู่คนเดียว เราจะเครียด นอยด์ ชอบคิดลบ อยู่หลายคนจะอารมณ์ดี อยากให้ทุกคนมีความสุข เพราะการอยู่คนเดียวคือมันมีเวลาให้คิดอะไรเยอะด้วยแหละ

บางทีเราก็มีความรู้สึกว่าทำไมนะ จะมีตังค์ทั้งทีก็ต้องมามีอะไรแบบนี้เหรอ แลกกับความสุขสบาย เราต้องมาเจออะไรแบบนี้ บางทีเราก็ไม่อยากเจอ เมื่อก่อนจะคิดแบบนี้ มันก็วนๆ คิดแบบนี่อยู่นานเลยคะ หรืออย่างเมื่อก่อนบางทีมีคนมายืนด่าหน้าเวที มาทำตาเหลือบๆ แล้วใช้สายตาด่า มาทำปากใส่ก็มี แต่เราก็ไม่ได้สนใจ พี่เจนบอกไม่ต้องไปให้ค่าคนแบบนี้ พี่เจนบอกว่าดูสิเขาไม่ชอบเรา แต่เขายังยอมเสียเงินมาดู ซึ่งแม่ก็เคยบอกว่าบางอย่าง ถ้าได้มาแล้ว มันก็ต้องเสียบางอย่างไป เรายอมเสียความเป็นส่วนตัวแลกกับการที่เราได้มีตังค์มาซื้อบ้านซื้อรถ บางอย่างมันก็ต้องยอมนะลูก

ซึ่งบางทีเราก็คิดนะว่าจะด่าอะไรกันหนักหนา แต่มันเป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบ ทำไมต้องมาด่าเรา ทำไมถึงมาด่าครอบครัวเราทั้งๆ ที่เราก็ไม่ได้ไปทำอะไรให้ ไม่รู้จักกันด้วยซ้ำ เราเป็นคนสาธารณะ คุณก็เป็นคนสาธารณะ แต่เราก็ไม่เคยไปด่าคนเลย”

ดรามาแรก! ที่ต้องปะทะ #ไร้มารยาท #พ่อแม่ไม่สั่งสอน

“เรื่องพี่จินตหรา พูนลาภ ที่เขาพูดถึงพี่จินแล้วเราทำเป็นอายๆ ตอนนั้นโดนหนักเลย ว่าเราไม่มีมารยาทบ้าง พ่อแม่ไม่สั่งสอน คือโดนหนักเลย ร้องไห้เยอะมาก ด้วยนิสัยส่วนตัวเป็นคนที่ขี้น้อยใจ เป็นคนคิดเยอะอยู่แล้ว แต่พี่เจนจะคอยบอกเสมอว่าคนเรามีข้อดีข้อเสียเป็นของตัวเอง ดีต่างกันและก็เสียต่างกัน ไม่ต้องน้อยใจ เรามีดีเป็นของตัวเอง 

แต่เราก็มีคิดนะ เวลาถูกเปรียบเทียบ แต่เราไม่เคยมีความคิดอิจฉาพี่เจนเลย ถ้าคนมาว่าแบบนั้น เราก็ไม่ค่อยอะไรเท่าไหร่ แต่ถามว่ามีคิดไหม มันก็มีว่าทำไมต้องเปรียบเทียบ เดี๋ยวเถอะ รอให้เราโตกว่านี้ สวยกว่านี้บ้างนะ จะชอบโดนเปรียบเทียบเรื่องหน้าตาตลอด เราก็ดาวน์นะ เราจะงอแงกับแม่กับพี่เจน เขาก็บอกว่าไม่ต้องไปสนใจนะลูก น้องก็น่ารักในแบบของน้อง ซึ่งเราก็จะพัฒนาดูแลตัวเอง เรื่องศัลยกรรมมันก็มาบ้าง อยากทำบ้างเหมือนกัน อยากทำจมูก พี่เจนก็ไม่ได้ห้ามนะ แต่เขาก็จะบอกว่าคนจำเราในแบบนี้นะ ถ้าเราเปลี่ยนไปเยอะ คนจะจำไม่ได้ ก็บอกพี่ว่าหนูก็อยากจะดูดีขึ้นบ้าง แต่ไม่ถึงกับเป็นปมในใจ เป็นแบบนี้มันก็ดี แต่จะดีกว่าถ้าเราดูดีกว่านี้

แต่ทุกวันนี้ก็ดีขึ้นแล้ว เพราะยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่เราต้องระมัดระวัง เช่น การทำตัว การหลงระเริง อย่าระรื่นไปเยอะ เกินก็ไม่ดีเราผ่านเรื่องพวกนี้มาหมดแล้ว เราก็แค่ไม่กลับไปทำอีก และการหลงระเริงของเราที่หมายถึง คือการที่เราไม่ค่อยสนใจ ไม่แคร์คำคนอื่น ไม่เก็บรายละเอียดมาปรับปรุงตัวเอง เราอ่านทุกคอมเมนต์นะ แล้วไงล่ะ แต่ตอนนี้เราปรับตัวกันได้แล้วหลังจากที่มีคนด่าเราเยอะ แต่บางทีก็เคยเครียดจนอยากจะลาออกจากความเป็นลิลลี่ มันเหนื่อยมากกว่า เราตั้งใจทำงานเก็บเงินซื้อบ้านซื้อรถ แต่ต้องมาโดนด่าแบบนี้”

รักที่ไม่กล้ารัก เพราะกลัวรักที่หลอกลวง

“ตอนนี้ไม่มีใครค่ะ อยู่คนเดียว ไม่ใช่ว่ามีแฟน แต่ก็มีเพื่อนๆ คุยบ้าง คุยกันสนุกๆ ปรึกษากัน แต่เรื่องความรักไม่ค่อยมี ที่ผ่านมาก็มีคนเข้ามาบ้าง แต่เขาก็มีจุดประสงค์หลายๆ อย่าง เพราะระยะเวลามันทำให้เรารู้ การพูดคุยต่างๆ ตอนนี้ก็พอจะรู้บ้าง ดูได้ไม่ยากแล้ว ทุกอย่างมันต้องใช้เวลา ต้องมาลองคุย แต่เราไม่ค่อยได้สนใจเรื่องนี้อยู่แล้ว มีคิดบ้าง แต่ไม่ได้คิดมาก 

คือจะมีที่เข้ามาทักแชตจีบ อยากโทร.หาอยากได้ยินเสียง เราก็บอกว่าเราทำงาน กลัวทุกคนจะไม่จริงใจกับเรา ไม่รักเราอยู่แล้ว ระยะเวลาและการดูแลจะเป็นเครื่องพิสูจน์ ตอนนี้ยังไม่อยากให้ใครมาเป็นแฟนเรา อยากให้เป็นเพื่อนคุยกันไปก่อน เรายังเรียนไม่จบ ม.6 ด้วย แม่ก็ยังไม่อยากให้ใช้คำว่าแฟน”

















กำลังโหลดความคิดเห็น