“ต่อ ธนภพ” จบดรามา โดนแฟนคลับ “ซี-นุนิว” โบกมือไล่ บอกพยายามเข้าใจ ไม่โกรธ เชื่อทุกคนมีสิทธิ์รักศิลปินของตัวเอง มีต่อสายตรงเคลียร์กันแล้ว ขอบคุณแฟนๆ ออกมาปกป้อง ผุดแฮชแท็ก #ไล่ศิลปินคนอื่นทำไม ดีใจเป็น “ต่อ ห่างแตก” หลังร่วมอีเวนต์ที่นครศรีธรรมราช รับหายเหนื่อยมาก เวลาได้ยินคนเรียกชื่อในละคร
กลายเป็นดรามาร้อนติดเทรนด์ทวิตเตอร์เลยทีเดียว สำหรับกรณีที่แฟนคลับของคู่จิ้น “ซี-นุนิว” (ซี พฤกษ์ พานิช - นุนิว ชวรินทร์ เพริศพิริยะวงศ์) โบกมือไล่ “ต่อ ธนภพ ลีรัตนขจร” และ “บลู พงศ์ทิวัตถ์ ตั้งวันเจริญ” ให้ออกจากเฟรมถ่ายรูป ระหว่างมาร่วมงานเปิดตัวคอลเลกชั่น MCM AUTUMN/WINTER 2022 “REBUILD-REMAKE-REFORM” เหตุเพราะอยากเก็บแฟนเซอร์วิสของคู่ตัวเอง จนเกิดเป็นแฮชแท็ก#ไล่ศิลปินคนอื่นทำไม
ซึ่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาทาง “ซี-นุนิว” ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ ว่ารู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก และได้โทร.ไปเคลียร์ใจกับทั้งสองคนเรียบร้อยแล้ว ล่าสุดได้เจอหนุ่มต่อ ในงาน Exclusive ONE Day MEET WITH “ใต้หล้า” เจ้าตัวก็ได้เปิดใจถึงเรื่องนี้ ว่าไม่ได้โกรธ และพยายามเข้าใจ เพราะไม่ชอบทะเลาะกับใคร ไม่อยากเป็นคนใจแคบ ก่อนจะเผยโมเมนต์ ต่อ ห้างแตก หลังไปร่วมอีเวนต์เปิดครั้งแรกที่จังหวัดนครศรีธรรมราช แล้วแฟนคลับแห่มาเชียร์แน่นเต็มทุกชั้น
“ครับ (ยิ้ม) เมื่อวานถ้านับน่าจะเป็นอีเวนต์แรกที่เปิดจริงๆ เพราะที่ผ่านมาที่ผมเริ่มออกงาน มันเริ่มจากงานปิดก่อน แล้วผมก็รู้สึกว่าไม่ใช่แค่ตัวผม ศิลปินทุกคนก็น่าเป็นแนวเดียวกัน เพราะเราก็ไม่ได้เจอแฟนๆ นาน ยิ่งต่างจังหวัดยิ่งไม่ต้องพูดถึง แทบไม่ได้ไปเลยครับ”
ดีใจได้เข้าถึงแฟนคลับต่างจังหวัด ขอบคุณมากที่มาเจอกัน อยากอยู่ด้วยกันให้นานกว่านี้
“ก็ดีใจครับ รู้สึกขอบคุณพวกเขามาก ที่เขามา เห็นเขาประกาศที่งานว่าบางคนมาตั้งแต่ตี 5 เพราะมันเป็นงานที่จัดมาตั้งแต่เช้า ผมไปตอนบ่าย จริงๆ ก็รู้สึกอยากอยู่ให้นานกว่านี้ เพราะผมอยู่ยังไม่ถึงชั่วโมงเลย ภาพที่เราเห็นตอนที่เราขึ้นบันไดเลื่อนมา คือรู้สึกเลยว่าอยากอยู่ให้นานกว่านี้ เพราะว่าเราก็อยากให้เขาคุ้มเหมือนกัน”
เวลาไปไหนมาไหนยังมีคนมีกรี๊ดเรียก “พี่ต่อ” อยู่บ้าง แต่ลดลงเยอะแล้ว ส่วนใหญ่ตอนนี้จะเรียก “ใต้หล้า”
“มีบ้างครับ แต่ว่ามันลดลงเยอะ เพราะว่า (หัวเราะ) พวกเราต้องเข้าใจกันและกัน (ส่วนมากตะโกนเรียกว่าอะไร พี่ต่อ หรือ ใต้หล้า?) ปนๆ กันครับ แต่ว่าใต้กล้านี่จะแบบดังมากๆ เรียกใต้หล้าแบบเต็มปากอะ”
บรรยากาศ “ต่อ ห้างแตก” ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะตัวเองอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง
“ผมก็ไม่แน่ใจครับ (หัวเราะ) ผมว่ามันไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวเราอย่างเดียว มันทั้งวันที่ เวลา แล้วก็แนวของงานที่จัดด้วย มันบวกๆ กันครับ (แต่ครั้งนี้เรียกว่าต่อห้างแตกได้แล้วใช่ไหม?) พี่พูดนะครับ (หัวเราะ) ถ้าพี่อยากส่งมาผมก็รับ”
เวลาคนเรียกชื่อในละคร มันรู้สึกดีและหายเหนื่อย
“มันรู้สึกดีจริงๆ ครับ มันเหมือนกับ มันมากกว่าคำว่าหายเหนื่อย คือวันนี้ที่ทำ ใครเล่นกับผมจะรู้ ว่าผมเป็นคนที่ใส่เต็ม เราก็จะเหนื่อยมาก แต่วันที่มันประสบความสำเร็จ มันก็จะยิ่งรู้สึกหายเหนื่อย และมันจะยิ่งหายเหนื่อยที่สุดเลยคือ ทุกเรื่องที่ผมเล่นมา ผมจะใส่สารไว้เสมอ ยิ่งใต้หล้าชัดมาก จุดประสงค์ที่เราพยายามส่งไปถึงคนดู มันค่อนข้างไปถึงเยอะมากจริงๆ”
พอทำงานหนัก ใส่เต็มตลอด ทำให้มีผลกับสุขภาพ อย่างวันนี้ก็เป็นต่อมไขมันอักเสบในตา แต่ไม่ได้รุนแรง
“วันนี้ครับ ต่อมไขมันอักเสบในตา ผมคิดว่าน่าจะพักผ่อนน้อย เพราะช่วงนี้ผมเดินสายเยอะ ถามว่ารักษายังไง ก็ซื้อยามาทา ยาหยอด กินยาอะไรแบบนี้ครับ เพราะมันไม่ได้รุนแรงขนาดต้องไปหาหมอครับ ผมว่าทุกคนเคยนะ เวลานอนน้อยๆ แต่ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวผมไปหาหมอครับ”
กับดรามาที่โดนแฟนคลับ “ซี-นุนิว” บอกให้ขยับออก อย่าไปร่วมเฟรม ส่วนตัวไม่ได้โกรธ และพยายามเข้าใจเพราะ เชื่อทุกคนมีสิทธิ์รักศิลปินของตัวเอง
“จริงๆ ผมไม่เห็นทั้งหมดเลยครับ ผมรู้เท่าที่คนดูแล คนรอบๆ ตัวผมส่งมา ตอนนั้นคือผมรู้สึกว่า ผมพยายามทำความเข้าใจพี่ๆ เขาอยู่ เอาตรงๆ เลย คือเราไม่ได้โกรธเลยนะ คือเราไม่ชอบทะเลาะกับใคร แล้ววันนั้น ผมกำลังเล่นกับแฟนคลับอยู่…ทุกคนเลย แล้ววันนั้นมันเป็นงานรวม ผมหาไม่เจอหรอก ว่าใครอยู่ตรงไหนบ้าง ผมก็จะพยายามเล่นรวมๆ แล้วเหมือนกับว่า
ผมแค่รู้สึกว่าผมได้ยินเสียงดังมาก มันมีเสียงแบบแง่วๆ เข้ามา ก็เลยแบบห๊ะ อะไรนะ แต่ว่าภาพตอนที่เราโดนเขาพูดว่าให้เขยิบอะไรแบบนี้ คือเราก็ไม่ได้ได้ยินชัดขนาดนั้น ว่าเขาพูดมาว่าอะไร คือเหมือนกับผมก็อยู่กับบลู แล้วบลูก็คอยกระซิบว่า…พี่ผมได้ยิน คือผมมัวแต่ให้ความสนใจกับแฟนๆ ที่อยู่ข้างหลังก่อน เพราะเขาไม่เห็นเรา นั่นแหละผมก็เลยเขยิบ
แล้วผมก็พยายามเข้าใจกับเขา เพราะเราไม่อยากโกรธกัน ผมเชื่อว่าทุกคนมีสิทธิ์รักศิลปินของตัวเอง ขนาดเราเรายังอยากถูกรักเลย ก็เลยพยายามเข้าใจเขามั้งครับ เพราะตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดว่ามันจะดรามา”
แค่แฟนคลับเป็นห่วง ก็รู้สึกขอบคุณแล้ว พยายามคิดหลายๆ มุม ไม่อยากใจแคบ
“จริงๆ แค่เป็นห่วงผม ผมก็ขอบคุณแล้ว ผมก็พยายามคิดหลายๆ มุม ผมไม่อยากคิดด้านเดียว ไม่อยากรู้สึกแบบ เขาเรียกว่าอะไรใจแคบเหรอ พูดตรงๆ ผมไม่ได้อยากใจแคบ บอกแล้วว่าเราไม่ได้ชอบปะทะ ไม่ได้ชอบมานั่งมีปัญหากับใคร”
ที่ได้ยินวันนั้นก็เป็นคำที่มีฟีลลิ่ง แต่ไม่ได้รู้สึกเนกาทีฟขนาดนั้น
“ก็มีฟีลลิ่งล่ะครับ คือความรู้สึกที่เราได้รับมันไม่ได้เนกาทีฟขนาดนั้น มันไม่ใช่ว่าแบบเขาว่าเราอยู่ มันไม่ใช่แบบนั้น เอาจริงๆ เวลาผมอยู่ต่อหน้าแฟนคลับผมโดนคนน่ารักใส่ ผมจะไม่ค่อยคิดหรอก เพราะว่ามวลรวมตอนนั้นมันน่ารักอยู่”
ตั้งแต่มีประเด็นยังไม่ได้คุยกับ “บลู” แต่ “ซี-นุนิว” ได้โทร.มาคุยแล้ว บอกว่าไม่สบายใจ
“จริงๆ ยังไม่ได้คุยกับบลูเลยครับ แต่ว่ามีโอกาสได้โทรศัพท์คุยกับพี่ซีและนุนิว ก็ดีครับ จริงๆ วันนั้นผมพูดกับพี่กับน้องเขาว่า จริงๆ แค่นึกถึงผมก็ดีใจแล้ว ผมพยายามไม่ได้ไปคิดเล็กคิดน้อย เราก็เหมือนเพื่อนร่วมอาชีพกัน แล้วอย่างผมกับพี่ซีผมไม่ได้รู้สึกว่าเราเป็นคนไม่รู้จักกัน คือผมก็เคยรู้จักจากพี่ๆ ที่เขาเคยแต่งหน้าให้เรามาก่อน(ตอนที่โทร.คุยกัน เขาพูดยังไงบ้าง ขอโทษเราเลยไหม?) พี่เขาไม่สบายใจเท่าที่ผมเข้าใจนะ เพราะว่าวันนั้นเขาโทร.มา แล้วผมอยู่ใต้ดินพอดี แต่ผมก็พยายามฟัง เท่าที่โอเคก็รับความรู้สึกเขาจริงๆ คือวันนั้นตอนที่เราเจอกัน เขาก็น่ารักกับผม”
ไม่ได้โกรธ แต่งงมากกว่า เพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้
“มันงงมากกว่า ผมไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ก็เป็นประสบการณ์แล้วกัน มันก็สอนให้เรารู้ว่าไม่ใช่แค่เข้าใจ เราจะได้ทำตัวถูก”
ขอบคุณแฟนคลับปกป้อง ผุดแฮชแท็ก #ไล่ศิลปินคนอื่นทำไม จนติดเทรนด์ทวิตเตอร์
“คือผมไม่ได้อ่าน แต่ว่าผมได้ยิน เพราะพูดกันตรงๆ มันก็ไม่ใช่น้อย มันก็มีปริมาณหนึ่งเลย คือผมไม่รู้จะพูดยังไงดี ใครที่รู้สึกดีกับผม ผมขอบคุณหมดเลยเพราะผมไม่ได้มานั่งคิดไม่ดีกับคนอื่น เพราะฉะนั้นผมก็เลยเลือกมากกว่าว่า ผมเลือกเก็บแต่พวกความรู้สึกที่ดี พลังงานที่ดี เพราะผมก็ยังต้องมีวันพรุ่งนี้ต่อๆ ไป”
ส่วนใหญ่เหตุการณ์ที่ทำให้รู้สึกแย่ระหว่างไปงาน จะมาจากความผิดพลาดของตัวเองมากกว่า
“ส่วนใหญ่มาจากตัวเองครับ ไม่ได้มาจากคนอื่น หมายถึงว่าออกงานแล้วลืมพูดอันนี้ (นอยด์เลย) โห พี่ 3 วันอย่างต่ำ ยิ่งถ้าเกิดเป็นพี่ผู้จัดการเราเริ่มพูดว่าวันนี้พลาดอันนี้ไปนะ เอาแล้วในใจห่อเหี่ยวแล้ว ทำไมวะต่อแค่นี้”
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เก็บมาคิดมาก เพราะทุกคนทำผิดได้
“จริงๆ แล้วเรื่องนี้ผมยิ่งไม่คิดมากเลย ดูอย่างเรื่องใต้หล้า ไทร์อินเลยแล้วกัน คือทุกคนผิดได้ มันไม่มีใครถูกตลอดเวลาหรอก แม้แต่ตัวผมเองผมก็ผิด ผมก็ผิดอยู่ทุกวัน”
ไม่รู้เรื่องการเซอร์วิสแฟนคลับ เพราะทรีตเป็นครอบครัวมาตลอด
“ผมไม่เคย ก็เลยไม่รู้ สำหรับผมแฟนคลับเขาเป็นครอบครัวเรา ผมทรีตเขาเป็นอย่างนั้นเลยมากกว่า ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมทำมันเรียกว่าเซอร์วิสหรือยัง แต่เราก็แค่พยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราทำได้ พยายามไม่ให้เขารู้สึกว่า เขามาทำไม”