“พีพี” ลั่น! หนูเปย์เขาเยอะกว่า ซื้อของให้ “บิวกิ้น” แบบราคาไม่เกี่ยง ตั้งแต่รู้จักให้ไปแล้ว 30-40 ชิ้น อ้อนเดือนนี้ซื้อคืนให้หน่อย โอดคิดถึงงานแสดง แต่ยังไม่เจอบทที่ใช่ ไม่ยึดติดต้องเล่นคู่กันตลอด งานทุกอย่างอยู่ที่จังหวะและโอกาส เคลียร์คิวซ้อม Summer Sonic ดูเองทุกขั้นตอน เหนื่อยแต่ได้ประสบการณ์ อุบตอบโชว์อะไรบ้าง ไว้เซอร์ไพรส์บนเวที
ควงคู่รับทรัพย์กันแบบถี่ๆ สำหรับ “พีพี กฤษฏ์ อำนวยเดชกร” และ “บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล” ที่ออกงานคู่กันแทบทุกวัน จนแฟนคลับตามไม่ทันแล้วพี่บัวลอย อย่างล่าสุดเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.) ก็พากันมาร่วมงาน “LEGO® 90th Anniversary Come Celebrate and Play” ณ แฟชั่น ฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ก่อนจะออกมาให้สัมภาษณ์คู่ ถึงความสายเปย์ของกันและกัน พร้อมอัปเดตความคืบหน้า ก่อนไปโชว์บนเวที Summer Sonic 2020 ว่าเตรียมล็อกคิวซ้อมไว้เรียบร้อยแล้ว
พีพี : “เขาเปย์เราไหมเหรอ หนูเปย์เขาเยอะกว่า (หัวเราะ) คือเวลาเราเห็นอะไรที่เขาน่าจะชอบ ก็ซื้อเก็บไว้ก่อนบ้าง รอโอกาสแล้วค่อยให้ ตอนนี้ก็มี ที่เก็บไว้ที่ยังไม่ได้ให้ มีจริงๆ ถามพี่หวานเจี๊ยบ (ผู้จัดการ) สิ บางอย่างมันเป็นของหายาก พอเราเห็นปุ๊บ มันลิมิเต็ดมากๆ เราก็ซื้อเก็บไว้ก่อน แล้ววันเกิดวันอะไรค่อยให้ ราคาไม่เกี่ยง มันเป็นอะไรที่แบบมีคุณค่าทางจิตใจมากกว่า เรื่องราคามันเป็นอีกเรื่องหนึ่งเลย พีรู้สึกว่าให้แล้วเขาชอบมันดี”
บิวกิ้น : “ได้มาน่าจะเกิน 30-40 ชิ้นแล้ว คือตั้งแต่รู้จักกันนะ ไม่ใช่ 1 ปี”
พีพี : “ส่วนใหญ่หนูซื้อให้เขา มันก็เดาไม่ค่อยยาก เพราะเวลาเขาพูดอะไรมา เราจะฟังตลอด ว่าช่วงนี้อินอะไร แต่เขาไม่เคยรู้ใจอะไรหนูเลย”
บิวกิ้น : “ผมไม่ค่อยชอบพูดเท่าไหร่ ส่วนที่มองว่าไลฟ์สไตล์ต่างแต่เข้ากันได้ ผมว่าจริงๆ เราเคารพกัน อะไรที่เห็นไม่ตรงกัน เราก็ให้เขาทำในสิ่งที่เขาอยากทำ แล้วก็เป็นตัวของเขา ไม่ได้ไปก้าวก่าย หลักๆ พอเราเห็นต่างคนต่างมีความสุข กับสิ่งที่ตัวเองเป็น สิ่งที่ตัวเองทำ ก็พอแล้ว 30-40 ชิ้นที่ได้มารวมๆ ก็ประมาณ 8 พันกว่าล้านครับ”
พีพี : “ตายล่ะ ซื้อห้างนี้ดีกว่า 8 พันกว่าล้าน คือเท่าไหร่ไม่รู้ แต่เราซื้อด้วยความอยากให้มากกว่า ไม่ได้มองว่าเราซื้อไปแล้วกี่บาท เขาต้องซื้อคืนเรากี่บาท”
บิวกิ้น : “นี่ผมดูเป็นคนหน้าเงินมากเลย เวลาสัมภาษณ์ (หัวเราะ)”
พีพี : “ซื้อคืนหน่อย เดือนนี้ซื้อให้หน่อย”
บิวกี้ : “ก็ซื้อให้ตลอดนะ ปีนี้ผมว่า…ผมก็ค่อนข้างใช้ได้เหมือนกันนะ”
พีพี : “ถามว่าประทับใจชิ้นไหน ก็ประทับใจทุกชิ้นนะครับ คือไม่รู้สึกว่า พอชิ้นแพงแล้วประทับใจ หรือไม่แพงไม่ประทับใจ แค่รู้สึกว่า ทุกๆ ชิ้นที่เขาให้ มันมีคุณค่า (มีตู้แยกไหมหรือไว้หัวเตียง?) ไว้ในตู้แล้วกัน ตู้ชั้นบน (ยิ้ม)”
บิวกิ้น : “ผมก็ไม่ได้มีตู้ แต่ว่าก็จะมีเก๊ะที่เก็บ เพราะของมันหลากหลายมาก บางอย่างมันเอาไว้ใส่ บางอย่างมันเอาไว้ใช้ ไม่ได้เป็นของโชว์หมด ก็เลยเหมือนกับว่าเก็บรวมไว้”
พีพี : “แต่ให้เขาแล้ว เขาไม่ค่อยใช้”
งานแสดงก็ยังรับอยู่ ไม่ได้เน้นแค่งานเพลง แต่ยังไม่เจอบทที่ใช่และทำอินไปกับมันได้
บิวกิ้น : “จริงๆ ไม่ขนาดนั้น เรามองตัวเองเป็นศิลปิน แล้วเราก็โชคดีที่เราดันอินทั้งฝั่งเพลงและฝั่งการแสดงด้วย ตัวตนเรามันบอกว่าเรามีความสุข ที่เราจะได้ทำทั้งสองอย่าง อย่างช่วงนี้เราทำงานเพลง เราก็มีความสุข แฮปปี้กับมัน ในอีกความรู้สึกหนึ่ง เราก็คิดถึงงานแสดง ก็รองานแสดงที่มันใช่สำหรับเรา ที่เราจะมีโอได้ทำแล้วเราอินไปกับมัน”
พีพี : “ที่จริงมีติดต่อมาครับ แต่ด้วยไทม์ไลน์ที่เราวางไว้ ด้วยตัวบทเองหรืออะไรหลายๆ อย่าง คือเราสองคนอยากจะเลือกรับงานที่เหมาะสมกับพวกเราจริงๆ ด้วย แล้วก็รู้สึกว่าทำไปแล้วอยากจะอินกับมันจริงๆ ตั้งใจทำมันจริงๆ ก็เลยเลือกอะไรที่มันเข้ากับตัวเรา ดูเป็นตัวเราด้วย”
ไม่ได้ยึดติด ว่าต้องเล่นคู่กันเท่านั้น
บิวกิ้น : “จริงๆ ก็ไม่ขนาดนั้นนะ อย่างช่วงที่ผ่านมา พีพีเขาก็มีไปเล่นกับคนอื่น ผมก็มีไปเล่นกับคนอื่นมาบ้างเล็กๆ น้อย แต่พอเป็นงานใหญ่ๆ มันยังไม่มีโอกาสเหมาะเจาะ ที่เราต่างคนจะมีโอกาสไปทำงานอื่นๆ จริงๆ เราไม่ได้ยึดติดกันขนาดนั้น ว่าเราต้องทำงานคู่กันไปตลอด อย่างที่บอกว่ามันเป็นเรื่องของจังหวะและโอกาสมากกว่า”
จะมีโปรเจกต์ทำซีรีส์ด้วยกันไหม ก็อยู่ที่จังหวะและโอกาส
พีพี : “ก็รอดูโอกาส”
บิวกิ้น : “ก็อยู่ที่โอกาสครับ ทุกๆ งานเลย ของผม ผมก็คิดถึงงานแสดงมาก มันเป็นสิ่งที่เรามีความสุขกับมันมากๆ เราไม่ได้ทำมันมาสักพักเราเริ่มคิดถึง เริ่มอยากจะเห็นตัวเองมีพัฒนาการในฝั่งนี้เหมือนกัน อยากจะลงไปสนุกกับการทำการแสดงเหมือนกัน แต่งานแสดงมันมีองค์ประกอบหลายๆ อย่างมากๆ ทั้งทีมที่ทำ ผู้กำกับ บท หรือแม้กระทั่งตัวเราเอง ที่เราอินกับเนื้อเรื่องนั้นไหม หรือว่าวิธีการทำงานแบบนั้นๆ ไหม มันตัดสินใจยาก”
พีพี : “แต่ถ้ามีโอกาสที่ดีและเหมาะสมกับพวกเรา ที่พวกเราคิดว่ามันใช่ ก็อยากจะทำ รับอีเวนต์คู่ไปก่อน (หัวเราะ)”
บิวกิ้น : “อยู่ที่จังหวะและโอกาส”
เคลียร์คิวซ้อมโชว์ Summer Sonic 2022 เดือนหน้า ลงไปดูเองทุกขั้นตอน เหนื่อยหน่อยแต่ได้ประสบการณ์
บิวกิ้น : “จริงๆ ยังไม่ได้เริ่มซ้อมเลย ช่วงนี้เพิ่งจะสรุปเรื่องของรูปแบบโชว์ ว่าเราอยากจะไปสื่อสารอะไร ในฐานะศิลปินไทย วางรูปแบบโชว์ยังไงจะบาลานซ์ความเป็นตัวตนของศิลปิน จะเล่าแมสเสจออกไปยังไง พอเราเปิดบริษัท จ็อบนี้เหมือนเรารับมาทำเอง เราก็ต้องรับรู้ทุกอย่าง เราลงไปดูเองเก่อนทุกอย่าง แต่จริงๆ ก็จะมีทีมช่วยแหละครับ แต่เราในฐานะของคนที่ทำบริษัท เราก็ต้องลงไปรับรู้ ร่วมออกความเห็น ร่วมตัดสินใจด้วย”
พีพี : “ต้องมาทำเองไม่มีค่ายแล้ว ถามว่าเหนื่อยไหม ก็อาจจะมีหน้าที่มากขึ้น ก็ต้องเหนื่อยขึ้นอยู่แล้ว แต่รู้สึกว่าเป็นอีกประสบการณ์หนึ่งที่เราได้ฝึกตัวเองด้วย จากการที่เราอาจจะไม่ได้รับรู้ ว่าคนเบื้องหลังจริงๆ เขาเหนื่อยขนาดไหน กว่าจะคุยงานมา คราวนี้เรารู้แล้ว เราเข้าใจแล้ว เป็นประสบการณ์ที่ดีด้วย ตัวเราเองจะได้ไปทำงานข้างหน้าอย่างเข้าใจเนื้องานมากขึ้นด้วย”
บิวกิ้น : “เพลงที่เตรียมไว้ ส่วนหนึ่งก็เป็นของตัวเรา มันก็จะมีแมสเสจที่เราอยากจะไปเล่า แล้วก็จะมีธีมอยู่ เล่าเดี๋ยวไม่เซอร์ไพรส์ ไปรอดูในงานดีกว่า เรื่องออกงานบ่อย ก็มีพี่ๆ คอยช่วยบาลานซ์ให้ด้วย ว่าอันไหนเร่งรีบกว่า ต้องทำก่อนหลัง เขาจะคอยทำให้ชีวิตเราง่ายที่สุด สะดวกสบายในการทำงานที่สุด เขาก็ยังดูความเป็นไปได้ ว่ามันยังไหว ไม่ทำให้เราเหนื่อยมากเกินไป”
พีพี : “เวลาที่ล็อกไว้สำหรับซ้อม ก็คือเดือนหน้าเกือบทั้งเดือนเลย แล้วก็อาทิตย์หนึ่งประมาณ 5 วัน วันที่ซ้อมพยายามจะไม่รับงานอื่นเลย เราจะได้โฟกัสกับงานจริงๆ”
บิวกิ้น : “จริงๆ เราหนีเที่ยวมา เราก็ต้องกลับมาพักผ่อน มาชดเชยตอนที่เราไม่อยู่ แต่ก็สนุกดีครับ จริงๆ คิวช่วงนี้มันวางไว้ตั้งแต่ก่อนจะไปเที่ยวแล้ว แต่ก็ยังไหวอยู่ อันไหนมันมากไป พี่ๆ เขาก็จะคอยดูแลให้ (อาการป่วยเป็นยังไงบ้าง?) ก็ได้อยู่ครับ ยังไหวอยู่ สบายมากๆ มีป่วยบ้าง แต่โดยรวมเราก็ยังสนุก ยังพร้อมทำงานอยู่”
พีพี : “ตอนเขาป่วยอะไรเราช่วยได้เราก็ช่วย อย่างในงานอย่างนี้ ถ้าเรารู้ว่าเขาป่วย เราก็พูดแทนให้ได้บ้าง เราก็จะพยายามช่วยเขาในสิ่งที่เราทำได้ ยังไงก็อยากขอบคุณแฟนๆ ทุกคนเลย ที่มาซัปพอร์ตพวกเรา ไม่ว่าจะเป็นงานนี้ งานเมื่อวาน หรือว่าทุกๆ งาน พวกเรารู้สึกดีใจมากๆ เป็นกำลังใจให้พวกเราจริงๆ ในการทำงานหลายๆ งานให้มันผ่านไปได้ ถ้าไม่มีพวกเขา เราสองคนก็ไม่มายืนตรงนี้ อะไรหลายๆ อย่างที่เราได้มา เรารู้สึกว่าเราอยากจะตั้งใจทำงานที่จะเกิดขึ้นข้างหน้าให้มันดี เพื่อตอบแทนพวกเขา”
บิวกิ้น : “ดีใจและมีความสุขมากๆ การที่เราออกมาทำงานทุกวัน ออกมาเจอทุกคน เพราะส่วนหนึ่งเรารู้ว่ามีคนรอดูเราอยู่ มีคนที่ให้คุณค่ากับตัวเรา ที่เราจะมาอยู่ในที่ต่างๆ เราก็ต้องไม่ทำให้เขาเสียเวลา ต้องทำให้ดีที่สุด ให้คุ้มกับเวลาที่เขาเสียมา คุ้มกับความรู้สึก ความคาดหวังที่เขามีให้กับเรา เราก็เต็มที่ แล้วก็ไม่มีเหตุผลที่อยากจะพัก เพราะเรามีความสุขกับทุกครั้งที่เราได้ออกมาเจอทุกคนครับ”