“ปาล์ม วง MEAN” วิวาห์ “เนย” แฟนสาวนอกวงการแล้ว เผยเส้นทางรัก ฝ่ายชายแรนดอมอินสตาแกรมจนได้เจอ เห็นรูปครั้งแรกก็รู้เลยว่าจะแต่งงานกับคนนี้ เป็นแฟนทิพย์ตามส่องอินสตาแกรมอยู่เป็นปีจนได้คุยกัน และขอแต่งงานจนมีวันนี้ ลั่นไม่มีคำมั่นสัญญาและคำว่ารักให้กันเพราะไม่อินกับคำพวกนี้ ที่แต่งงานแค่อยากให้อีกฝ่ายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต เป็นหนึ่งเดียวกัน
เตรียมงานแต่งงานมาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ด้วยโควิดทำให้เลื่อนออกไป และในที่สุดวันนี้ (18 มิ.ย.65) มือคีย์บอร์ด “ปาล์ม ปวีร์ ปรีซาวีรกุล”หรือ “ปาล์ม วง MEAN” ก็ได้จูงมือ “เนย ภัสสภร กาญจนโนภาส” แฟนสาวเข้าพิธีมงคลสมรสสมใจ โดยงานจัดขึ้นที่โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพฯ ซึ่งปาล์มได้ควงเนยแฟนสาวมาเปิดใจกับสื่อมวลชนเล่าถึงเส้นทางความรักของทั้งคู่จนมีงานวิวาห์ครั้งนี้
ปาล์ม : “เรามารู้จักกันได้จากการที่ผมส่องไอจี วันนั้นก็ไถไปเรื่อยๆ แล้วก็เห็นแล้ว ฟีลแรนดอมเจอ ตอนนั้นบอกกับเพื่อนเลยว่าคนนี้ใช่เลย เห็นปุ๊บก็รู้สึกว่าอยากแต่งงานกับคนนี้เลย เพื่อนก็แซวว่าไม่มีทางหรอก ผมก็ติดตามเขา แล้วก็บอกกับเพื่อนอยู่เรื่อยๆ จากวันที่เจอก็ติดตามส่องเขาทุกวันไปเรื่อยๆ เชื่อว่าการส่องมันจะดึงดูดเขาให้มาเป็นภรรยาเราได้
ชอบเขาในทุกรูปเลยครับ เขาจะมีรูปหลายแบบ วันนี้เป็นนักศึกษา วันนี้เดินห้าง วันนี้เที่ยวต่างประเทศ ผมก็เข้าไปส่องทุกอย่างของเขา ดูว่าไลฟ์สไตล์เขาเป็นยังไง ทั้งไฮไลต์ สตอรี่ รูป เห็นว่าเขาร้องเพลงได้ ภาษาได้ แล้วก็มโนเองว่าเขาน่าจะมีนิสัยที่เข้ากับเราได้ แล้วก็มโนไปเรื่อยๆ บอกตัวเองทุกวันว่าคนนี้แหละใช่แล้ว คนนี้แหละต้องแต่งงานด้วย ตอนนั้นผมก็เป็นศิลปินแล้วด้วย จากที่ส่อง ทั้งหมดที่เป็นเขาที่ผมดูจากในไอจี ทั้งที่ยังไม่ได้คุยกันเลย ผมก็รู้สึกว่าผมอยากจะแต่งงานกับคนนี้ คิดเอาไว้ แค่เห็นไอจีสตอรี่เขา ผมก็มีภาพชุดแต่งงานในหัวกับเขาแล้ว ก็เล่าให้เพื่อนฟังบอกกับเพื่อนตลอด แต่เพื่อนไม่เชื่อ”
เนย : “คือเวลาเขาส่องเขาจะส่องลึก จริงๆ ดูแล้วก็น่ากลัวอยู่นะ”
ปาล์ม : “ดูน่ากลัวอยู่นะ ผมไล่ไปจนรู้ว่าบ้านเกิดเขาอยู่ที่ไหน นิสัยดูเป็นยังไง เขาเรียนที่ไหน เพื่อนเขาเป็นยังไง คุณแม่เขาเป็นยังไง พี่ชายเขาเป็นยังไง เราเข้าไปดูหมดเข้าไปไล่อ่านสเตตัสของเขาว่าเขาพูด เขาแชร์ เขาสนใจเรื่องอะไรบ้าง พอเริ่มรู้ว่าเขาสนใจอะไร เราก็เริ่มโพสต์สิ่งที่เขาสนใจบ้าง เขาไม่ได้ติดตามผมหรอกครับ แต่ผมก็โพสต์”
เนย : “เนยเห็นว่าพี่ปาล์มมาตามเนย เนยก็เลยตามกลับ เพราะว่าเขาดังอยู่ แค่นั้นเลย ไม่ได้คิดอะไรเลย”
ปาล์ม : “ผมมารู้ว่าจริงๆ แล้วเขาไม่ค่อยชอบผมเท่าไหร่ มีช่วงนึงเจอในฟีดบ่อย เขารู้สึกรำคาญ แต่ก็ฟอล์กลับ”
พอได้โอกาสคุยกัน ความสัมพันธ์ก็เป็นไปอย่างรวดเร็วมากๆ
ปาล์ม : “เริ่มจากที่ผมส่องเขาตลอด ทำให้ผมได้เห็นกิจวัตรของเขาตลอด จากที่ผมติดตามเขามาเป็นเดือน บังเอิญมากที่เขาแชร์เพลงวงมีนผมก็เลยได้ที รู้สึกมีหวัง แต่ก็ไม่ได้ทักไปนะ เดี๋ยวเสียฟอร์ม ยังไม่ทักไปก่อน”
เนย : “เนยทักเขาไปก่อน เนยไดเร็กไปเพราะว่าเพื่อนเนยชอบพี่ปาล์มมาก แล้วตอนนั้นเป็นวันเกิดเพื่อนเนย ก็เลยขอให้พี่เขาช่วยไปอวยพรวันเกิดเพื่อนเนยในโพสต์ให้หน่อย”
ปาล์ม : “ก็รู้สึกมีหวัง เราชอบเขา ตอนนั้นก็เชื่อว่าน่าจะได้แต่งงานกับเขา คิดว่าต้องทำให้ได้”
เนย : “เริ่มมาคุยกันจริงๆ ตอนช่วงวันเกิดพี่ปาล์ม เนยทักไปเบิร์ธเดย์พี่เขา หลังจากนั้นก็คุยกันมาเรื่อยๆ”
ปาล์ม : “คุยกันแล้วผมก็ชวนเขาไปกินข้าวกัน”
เนย : “แม่พยายามบอกตลอดว่าพี่ปาล์ม ไลก์เร็ว และไลก์ทุกรูปเลยดูมีอะไร เนยก็บอกไม่น่าจะแม่ เขาดังจะตาย แต่แม่บอกว่าแต่แม่มีเซ้นส์แต่เราก็ยังไม่ได้คิดอะไร เป็นปีเลยที่เราฟอล์กัน เราก็ไม่ได้ดู ไม่ได้ส่องอะไรเขาเลย เพราะเราไม่ได้รู้สึกชอบเขาในตอนนั้น แต่พอได้คุยกันจริงๆ เราก็คลิกกันเลย แล้วก็คบกันเลย ไม่มีช่วงค่อยๆ คุย ค่อยๆ เลื่อนสถานะ”
ปาล์ม : “เป็นเพราะที่ผ่านมาผมทำการบ้านมานานด้วย พอได้จังหวะคุยกันแล้วผมสามารถไปได้ทุกทางที่เขาจะไป ผมได้หมดเลย ด้วยเรามีอะไรที่คล้ายกันเยอะด้วย พื้นเพทางบ้าน สิ่งที่ชอบ การพูดการจา”
เนย : “ความสัมพันธ์มันไปเร็วมากๆ แม่รู้ก็อึ้งๆ อยู่เหมือนกัน แต่เขาก็พอจะรู้อยู่แล้ว”
พอคบกันเป็นแฟนมีไม่โอเคกันในช่วงแรกๆ เพราะ “ปาล์ม” ไม่เคยโพสต์รูปตนเลย แต่อยู่ไปก็เริ่มชิน โพสต์รูปแรกก็ลงแคปชั่นขอแต่งงานเลย
เนย : “ตอนนั้นก็นิดนึง เราไม่เคยคุยไม่เคยคบคนมีชื่อเสียง พอได้มาคุยกับพี่ปาล์ม เขาก็จะไม่ลงรูปเราเลย จนกว่าจะแน่ใจแล้วว่าคนนี้ใช่จริงๆ ตอนแรกเนยก็ไม่ค่อยโอเค แต่พอไปเรื่อยๆ ก็เริ่มรู้สึกชิน ปรับตัวได้ ไม่ได้ยากมากเราก็ใช้ชีวิตกันปกติเลยเพียงแต่ในโซเชียลเราไม่ได้โพสต์รูปเปิดกันขนาดนั้น”
ปาล์ม : “ตอนนั้นที่ผมไม่ได้ลงรูปเขาเพราะผมก็ยังไม่รู้ว่าคนอื่นเขาคิดยังไงกับเรา ถ้าเราเปิดตัวไปแล้วมันมีฟีดแบ็กที่ไม่ดีกับเขา ก็กลัวเขาจะไม่โอเค ก็เลยใช้วิธีค่อยๆ บอกแฟนคลับ เวลาไปงานผมก็จะพาเนยไปด้วยในบางครั้ง ให้แฟนคลับค่อยๆ เห็นเขาไปเรื่อยๆ พอเรามั่นใจว่ามันไปในทิศทางบวกก็เปิดตัว แต่พอได้รู้ว่าเป็นสิ่งที่เขาติดอยู่ในใจเรื่องที่เราไม่ค่อยลงรูปเขา ผมก็เลยขอเขาแต่งงานผ่านการลงรูปเลย เพราะผมรู้สึกว่าเป้าหมายของการขอแต่งงานเพื่อให้ทุกคนรับรู้ว่าผมมีเขาคนเดียว ในโซเชียลก็ได้เห็นกันทุกคนเลยจะได้รู้กันว่าผมคบกันคนนี้อยู่”
เนย : “คบกันปีนึงแล้วก็ขอแต่งงาน จริงๆ คุยกันมาตั้งแต่เดือนแรกๆ ที่คุยกันเลย”
ปาล์ม : “ผมก็เร่งสปีดครับ จริงๆ ถ้าแต่งตั้งแต่วันแรกได้ก็แต่งแล้ว ตอนนั้นผมไม่รู้จะเริ่มยังไง ผมพยายามจะหาข้อมูลว่าการแต่งงานมันเริ่มยังไง เสิร์ชในกูเกิ้ลมันก็ไม่มี ก็รู้สึกเอ๊ะ มันคือยังไง จนพอถึงจุดนึง ผมก็รู้สึกว่ามันคงจะไม่มีวิธีอะไรตายตัวก่อนหลัง แค่ขอเขา”
เนย : “ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร ด้วยช่วงโควิดมันทำให้เราได้ใช้เวลาด้วยกันเยอะ พออยู่ด้วยกันทุกวันเราก็จะได้เห็นทุกๆ อย่าง ซึ่งเราเข้ากันได้ทุกอย่างอยู่แล้ว เลยไม่มีอะไรให้ต้องคิดมากอะไรเลย ก็บอกเขาว่าถ้าพี่ปาล์มจะแต่งก็ขอแม่นะ”
ปาล์ม : “แม่เนยก็ไม่ได้ว่าอะไรเลยครับ ผมสร้างภาพมายาดีๆ ไว้ให้แม่เห็นด้วย(หัวเราะ)”
หลังจากแต่งงานแล้ววางอนาคตชีวิตคู่ แต่ “ปาล์ม” ตั้งใจว่าจะทำให้ “เนย” ยิ้ม หัวเราะได้ทุกวัน
ปาล์ม : “ยังไม่ได้มีแผนอะไรครับ มันมีแต่แผนของผมที่ว่าตื่นมาทุกวันต้องทำให้เนยยิ้ม ให้เนยหัวเราะให้ได้ แค่นั้นเอง มันเป็นสิ่งที่ผมชอบมากที่สุดเวลาที่ผมได้เห็นเขายิ้มหรือหัวเราะ อยากทำให้เขามีความสุข หลังๆเขาจะเริ่มรีเควส ก่อนนอนทำให้เขาอารมณ์ดีหน่อย ผมก็จะต้องแต่งอะไรบ้าๆบอๆให้เขาดู”
เนย : “ดีใจที่มีเขาอยู่ตรงนี้ มันไม่มีใครที่จะอยู่ข้างๆ เนยตลอด ใจเย็น ใจดีกับเนยเสมอ ทำให้เนยยิ้มได้จริงๆ แม้จะโกรธหรืองอนเรื่องอะไรก็ตาม คือไม่เกิน 5 นาที พี่ปาล์มก็จะทำให้เนยอารมณ์ดีได้ตลอดเลย เขาไม่ได้ตามใจเนยนะคะ แต่เขาทำให้เนยใจเย็นลงได้ ทำให้เรื่องยากๆเป็นเรื่องง่ายได้ เขาเป็นทุกอย่างให้กับเนย”
ยังไม่พร้อมมีลูกเลย
เนย : “น่าจะยัง เรายังอยากจะไปเที่ยวกันก่อน รอให้พร้อมกว่านี้อีกนิด”
ปาล์ม : “ตอนนี้ผมก็ยังก่อนครับ ด้วยงานของผมยังต้องเดินทาง อาจจะต้องนิ่งกว่านี้นิดนึง ถ้าเกิดจะมีน้องก็อยากจะมีเวลาให้แม่และลูกมากพอ ไม่ค่อยอยากจะฝากไว้ให้เขาคนเดียวตอนนี้ก็ขอเต็มที่กับงานก่อน ด้วยผมต้องทำสองบทบาททั้งนักดนตรีด้วย ค่ายเพลงด้วย ช่วงนี้ก็งานหนักอยู่เหมือนกัน”
ส่วนของสินสอดให้ตามประเพณี ให้ความสำคัญกับเรื่องของความจริงใจ ที่ประเมินค่าไม่ได้มากกว่า
ปาล์ม : คงตอบเหมือนกับหลายๆ คู่ว่าเรื่องสินสอดมันไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุด เราก็ว่ากันไปตามพิธี จริงๆ สินสอดที่สำคัญสำหรับผมที่ยกให้คุณแม่เขาเชื่อใจก็คือ ผมยกทั้งใจให้เนยไปหมดแล้วเป็นเรื่องของความจริงใจมากกว่า ผมว่ามันประเมินค่าไม่ได้ ตรงนั้นมากกว่าที่มีค่าสำหรับเรา
กว่าจะได้คบกัน ผมคบทิพย์เขามาแล้วปีนึง คือตามส่องเขาในทุกๆ วัน ผมคบของผมอยู่คนเดียวมาปีนึงเต็มๆ แล้วค่อยมาคบกับเขาอีกปีนึงเต็มๆ แล้วก็ขอแต่งงานจากนั้นก็มาเจอโควิด มันยิ่งทำให้ชัดเลยว่าหลังจากขอแต่งงานมาปีนึงเต็มๆที่เราอยู่ด้วยกันทั้งๆที่ขอแต่งงานแล้วก็ยิ่งรู้สึกว่าเรารักคนที่ใช่กับเราจริงๆ มันเลยไม่มีอะไรยากเลย”
ยกให้ “ปาล์ม” เป็นพ่อบ้าน แม้จะหวานกันขนาดนี้แต่ตลอดมาทั้งคู่ไม่มีคำสัญญา และคำบอกรักให้กัน
เนย : “พี่ปาล์มเลยค่ะ”
ปาล์ม : “ผมก็กรอกน้ำ ล้างจาน ทิ้งขยะ เก็บเตียงตอนเช้า แต่ไม่เป็นไรเลยครับ ถ้ามันทำให้เขายิ้มได้ผมก็ทำได้ครับ (คำมั่นสัญญาที่มีให้กัน?)ไม่เคยมีเลยครับ ไม่เคยสัญญาอะไรกันเลย ผมไม่ค่อยพูดคำรักอะไรพวกนี้เท่าไหร่”
เนย : “พี่ปาล์มไม่เคยบอกรักเนยเลย ช่วงแรกๆ เนยบอกรักพี่ปาล์มบ่อยมาก จนเนยเขินไป เพราะเขาไม่เคยบอกรักเนยบ้างเลย วันนี้ก็บอกอีกก็ได้ เนยรักพี่ปาล์มมาก หลังๆ เนยก็ไม่ค่อยได้บอกเขา”
ปาล์ม : “คือผมเป็นคนที่ไม่ค่อยอินกับคำว่ารัก ด้วยเหตุผลที่ผมแต่งงานมันไม่ใช่เพราะคำว่ารัก ผมแค่อยากมีคนๆนี้เป็นส่วนนึงของชีวิตแค่นั้นเอง ผมรู้สึกว่าการแต่งงานจะเป็นวิธีที่เราได้เป็นหนึ่งเดียวกัน สำหรับบางคนอาจจะเรียกสิ่งนี้ว่าความรักก็ได้ ก็รักเนยเหมือนกัน”
