“แพทริเซีย กู๊ด” มองเป็นบุญ ช่อง 3 ให้โอกาสเล่นบทเมียน้อยแซบจากละครรีเมก The World of the Married เวอร์ชันไทย ทั้งที่สามารถให้นักแสดงที่เก่งกว่า ดังกว่าตนได้ ลั่นครั้งหนึ่งในชีวิตได้เล่นกับ “แอน ทองประสม” ถึงขั้นต้องเรียนการแสดง จะทำให้เต็มที่ วอนคนดูเปิดใจและให้โอกาสตน ขออย่าเรียกตนนางเอก อยากให้เรียก “นักแสดง” ปลื้มปริ่มชีวิตในวงการ 10 ปี กว่าจะมีวันนี้
แค่มีชื่อโผล่ออกมาว่าเตรียมรับบทเมียน้อยแซบจากละครรีเมก The World of the Married หรือ A World of Married Couple ที่เวอร์ชั่นเกาหลีดังถล่มทลาย กลายเป็นละครในดวงใจใครหลายคน งานนี้ “แพทริเซีย กู๊ด” ยอมรับว่าตอนแรกที่รู้ข่าวนี้ก็ตกใจอยู่ไม่น้อย เพราะคิดไม่ถึงว่าช่องจะหยิบยื่นโอกาสให้ตน พร้อมเผยว่าจะทำให้เต็มที่ที่สุด วอนทุกคนเปิดใจ
“ช่วงนั้นโดนหนักไปเลยจ๊ะ โดนหนักไปเลย เหมือนบทเรื่องปมเสน่หา ปาริฉัตรเป็นด็อกเตอร์ที่ต้องเก่ง ต้องฟาด แต่กลายเป็นต้องแพ้ตลอด เพราะว่าเขาคือปริมที่อ่อนแอ แล้วพอมีกระแสออกมาว่าเราจะต้องไปเล่นประกบพี่แอน ทองประสม กับพี่อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม คือนักแสดงมากฝีมือและเราต้องไปสู้กับเขา ทุกคนก็กังวลว่าเราจะไปสู้กับเขาได้ไหม แล้วอย่างนี้แพทจะไม่แพ้เขาอีกเหรอ สู้พี่แพร์กับพี่โยยังไม่ได้เลย แล้วไปเจอรุ่นใหญ่อย่างนั้นจะไปไหวเหรอ
ซึ่งแพทเข้าใจมากๆ เลยนะ เพราะว่ามันเป็นธรรมชาติ สิ่งที่คนเห็นเขาต้องคิดเผื่ออยู่แล้วว่ามันได้แค่นี้เหรอ แต่สุดท้ายแพทอยากขอให้ทุกคนเปิดใจลองดูก่อน ให้โอกาสแพท เพราะแพทจะทำให้เต็มที่อยู่แล้ว และหวังว่าบทประพันธ์ที่แปลมาเป็นไทย หรือที่เราและผู้กำกับตีความและถ่ายทอดออกมามันจะถูกใจคนดูค่ะ “
ปล่อยผ่านคนแอนตี้ไร้เหตุผล ทำไมไม่คอยสนับสนุน ให้กำลังใจ
“ถ้าพูดถึงดารแสดงหรือฟีดแบ็กจริงๆ หนูไม่ได้เสียกำลังใจเลยนะ แสดงว่าเรายังมีสิ่งที่เราต้องปรับปรุงจริงๆ มันเห็นตรงนี้ แต่ถ้าพูดถึงกันแบบไร้เหตุผลมากๆ แค่เขาไม่ชอบ ทำไมต้องได้บทนี้ อันนี้แพทรู้สึกว่ามันยังมีคนที่แอนตี้เราอย่างไรเหตุผลด้วยเหรอ อันนี้หนูก็จะพยายามปล่อยผ่าน แต่ก็รู้สึกว่าทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย ทำไมคนเราไม่สนับสนุนกัน ไม่คอยให้กำลังใจกัน แทนที่จะมาด่ากันโดยไร้เหตุผลแต่ถ้าวิจารณ์กันด้วยงาน ควรปรับตรงนั้นนะ หรือเพิ่มอะไรแบบนี้ ถ้าเห็นว่ามันเป็นคำแนะนำที่แพทเอามาปรับใช้ได้จริง แพทจะขอบคุณมากๆ ค่ะ”
มองเป็นบุญ ช่อง 3 ให้เล่นบทดายอง เมียน้อยแซบ ทั้งที่สามารถให้นักแสดงที่เก่งกว่า ดังกว่าตนได้
“งงค่ะ งงมากๆ เพราะหนูไม่เคยดูเวอร์ชั่นเกาหลี และมารู้ว่าออริจินัลเป็นของอังกฤษและชื่อเรื่องไม่เหมือนกันอีก ก็ยิ่งงงเข้าไปอีก อันที่ดังกว่าคือของเกาหลี แต่อันที่เราได้บทประพันธ์มาคือของอังกฤษ ก็ต้องไปไล่ดู ไล่ศึกษา รู้เลยว่าเป็นที่จับจ้องแน่ เรารับรู้ได้แล้วถึงความดังของมัน คนต้องคาดหวังแน่ๆ ก็กดดันนิดนึง ตามมาด้วยตกใจ และดีใจมากๆ ที่ช่องให้โอกาสดีๆ กับเรา ช่องสามารถให้บทนี้กับนักแสดงที่เก่งกว่าเรา ดังกว่าเราได้ แต่การที่ช่องมองเห็นแพทถือว่าเป็นบุญของแพทค่ะ
พอรู้ว่าได้เล่นเรื่องนี้ก็เวิร์กช็อปเลยค่ะ และนี่หนูก็ไปเรียนการแสดงเพิ่มเติมของหนูด้วย พยายามทุกวิถีทางเพราะหนูอยากไปถึงเซ็ตแล้วไม่อยากให้มีอุปสรรคเยอะ ยังไงไปถ่ายทำ 2-3 วันแรก มันต้องปรับกันอยู่แล้วแหละ ไม่ใช่จะเป๊ะและเก่งมากตั้งแต่แรก มันต้องค่อยๆ ปรับด้วย และดูว่าตัวละครคนอื่นเขาตีความออกมาเป็นยังไง นี่คือทีมเวิร์กอีกอย่างที่น่าตื่นเต้น ตอนนี้แพทก็ทำได้แค่เตรียมในส่วนของตัวเองพอถึงวันจริงเราก็ต้องปรับให้เข้ากับทุกคนหน้าเซ็ต
ก็ยังไม่ได้เจอพี่แอนกับพี่อนันดา วันที่ไปฟิตติ้งก็ได้ถ่ายแค่ของตัวเอง ได้เจอพี่ชาย (ชาตโยดม หิรัญยัษฐิติ) พี่จอย (รินลณี ศรีเพ็ญ) ตื่นเต้นนะ ตื่นเต้นมากเลย ก็อยากปะทะฝีมือมาก เพราะนี่คือครั้งหนึ่งในชีวิต ที่หนูจะได้เล่นละครกับพี่แอน โอกาสที่ร้อยวันพันปี ที่ไม่คิดว่าจะได้เล่นก็ได้เล่น หนูก็จะเต็มที่จริงๆ ค่ะ”
ขอโอกาสและอยากให้เปิดใจ
“ขอโอกาสละกันค่ะ อยากให้ทุกคนเปิดใจดูกันก่อน หวังว่าจะถูกใจแฟนๆ ค่ะ”
ไม่ใช่ลูกรักคนใหม่ช่อง 3
“ไม่เกี่ยวเลย โควิดหนูไม่ได้ถ่ายละครมานานมากเลยนะ เพราะช่วงหลังโควิดก็อัดๆ ละครเพราะว่างด้วยและไม่ได้ไปเรียนด้วย พอถ่ายเสร็จก็เสร็จพร้อมกันหมด และช่องก็ไม่อยากดองค่ะ ไม่งั้นจะกลายเป็นละครเก่าไปแล้ว เลยได้เห็นว่าละครออนพร้อมกันหมด (หัวเราะ) ตอนนี้มีถ่ายอยู่อีก 1 เรื่องค่ะ ที่สุดของหัวใจ ที่ถ่ายเสร็จก็จะออนแอร์เลย ก็จะเหลือแค่เรื่องเดียวที่ต้องเล่นกับพี่แอนและพี่อนันดา ตอนนี้ยังไม่ทำงาน 7 วัน แต่พออีกเรื่องเปิด น่าจะ 7 วันค่ะ ก็จะคาบเกี่ยวกันนิดหน่อย ถามว่าจะเห็นแพทยาวๆ เลยไหม จริงๆ เว้นบ้างก็ได้ (หัวเราะ) กลัวคนดูเบื่อ แต่น่าจะยาวๆ ค่ะปีนี้”
ได้โอกาสจากช่องเยอะมาก ได้บทปังๆ ทุกเรื่องเลย รู้สึกโชคดีมากๆ รู้สึกว่าช่องคงเห็นว่าเราตั้งใจจริงๆ และการที่เราได้รับมอบหมาย หรือได้รับบทที่หลากหลาย หรือบทที่คนรอติดตามมันก็แฮปปี้และปลื้มปริ่มมากๆ แล้วค่ะ
เรียนรู้ไม่สิ้นสุด 10 ปีในวงการ กว่าจะมีวันนี้
“นานมาก (ลากเสียง) อยู่วงการมาจะ 10 ปีแล้ว เล่นละครปีละเรื่องมาตลอดเพราะว่าติดเรียน แต่ตอนนี้เหมือนว่าเราอัดงานจริงๆ ลุยเต็มที่กับอาชีพนี้ ซึ่งมันไม่ได้ง่ายเลยนะ หลายคนบอกว่าการอยู่ในวงการมันได้เงินเร็ว เป็นดารามันดีอย่างนั้นอย่างนี้ จริงๆ ทุกอาชีพมีอุปสรรคและการเป็นนักแสดงหรือดารามันก็ต้องแลกด้วยอะไรหลายๆ อย่างเหมือนกัน ยังรู้สึกดีที่ได้โอกาส อย่างตัวหนู หนูรักในการแสดง ชอบทำงานในกองถ่าย แต่เราต้องปรับตัวที่จะอยู่ในวงการบันเทิง เรียนรู้มันต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ ค่ะ ทุกวันนี้การแข่งขันมาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เราเองก็ห้ามหยุดพัฒนา เพราะโลกมันไปเร็วมาก
ถามว่ามีไอดอลไหม เมื่อก่อนหนูมีนะคะไอดอลชอบคนนั้นคนนี้ แต่ทุกวันนี้ทุกคนมีเส้นทางของตัวเอง ทุกคนมีจังหวะชีวิตไม่เหมือนกัน สามารถมองคนนั้นคนนี้เป็นกำลังใจให้เรา แต่สุดท้ายเราเอามาเทียบไม่ได้ ทุกๆ อย่างมันขึ้นอยู่กับตัวเรา ว่าเราจะวางตัวแบบไหน อยากทำอะไร ก็ต้องทำให้มันเกิดขึ้นให้ได้”
อยากเล่นบทท้าทาย
“บทที่ท้าทาย จริงๆ หนูว่าบทคล้ายๆ ที่พี่โม (มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ) เล่นในคู่เวรน่าจะหนัก หนูน่าจะเป็นซึมเศร้า เพราะบทแบบนี้มันน่าเล่น เขามีเรื่องราวในอดีตที่ตอนนี้ยังไม่เฉลย มันจะค่อยๆ เล่า พอเรารู้เราจะรู้สึกว่า ยังมีชีวิตอยู่ต่อได้อย่างไรกับอดีตที่เลวร้ายขนาดนี้ หรือโชคดีที่เราไม่ได้เติบโตมาหรือมีประสบการณ์ชีวิตที่หนักเท่าตัวละคร ถ้าเล่นตัวละครที่โดนกระทำอย่างนี้มีแต่หนักๆ มันจะถ่ายทอดออกมายังไง มันยาก แต่ก็อยากเล่น เพราะการที่เราได้เป็นนักแสดงเราได้ทำทุกอย่างที่เราไม่ได้เจอในชีวิตจริง ไม่ว่าจะเป็นอาชีพหรทอว่าเหตุการณ์บางอย่างที่มันไม่ได้เกิดขึ้นกับตัวเอง แต่เราได้ทำในละคร”
ชอบให้เรียกตนว่านักแสดง มากกว่านางเอก ไม่อยากถูกตีกรอบด้วยคำว่านางเอก
“จริงๆ หนูไม่เคยมองตัวเองเป็นนางเอกเลยนะ หนูไม่รู้ว่านางเอกมันเป็นเฉพาะกลุ่ม ทำไมคนต้องถูกจำกัดว่าเป็นแต่นางเอก ทำไมไม่มองว่าเป็นนักแสดงไปเลย มันอาจจะเป็นยุคที่สมัยก่อนเพื่อให้คนจำได้ง่าย แต่ในยุคนี้ด้วยยุคที่มันเปลี่ยนไป คนก็จะเปลี่ยนว่ามันนักแสดง แพทชอบให้คนเรียกแพทว่านักแสดงมากกว่านางเอก นางเอกมันดูถูกตีกรอบเหมือนนางเอก รู้สึกว่ามันต้องเป็นคนดี ต้องเรียบร้อยไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่นางเอกมีหลายรูปแบบนะคะ นางเอกแต่ละคนน้ายได้ ต่อปากต่อคำได้ ฟาดเหวี่ยงตบตีได้เหมือนกัน นางเอกก็คือนักแสดงที่เป็นมนุษย์จริงๆ ค่ะ”
เข้าใจฟีดแบ็กละคร “ปมเสน่หา” ถูกวิจารณ์ยังเล่นไม่สุด
“โห บอกเลยว่าเรื่องนั้นคนคาดหวังเยอะมาก มากที่สุดแล้ว ทีเซอร์ตัดออกมา 3 อัน จึ้งมากเลยนะ ฟาดมาก และแซบมาก ดูเป็นผู้หญิงเก่งที่สุดในโลก แต่ก็เข้าใจค่ะ ด้วยความที่คนคาดหวังสูง เราต้องแซบ พอเวลาจริงสิ่งที่เราถ่ายทอดออกไปมันก็คือ เราไม่ได้เป็นปาริฉัตรแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ข้างในเราเป็นปริม แต่สิ่งที่เราถ่ายทอดออกมาสุดท้ายเราก็คือคนๆ เดิมนะ ถึงแม่เราจะไปศัลยกรรมมา เรียนเก่งมากแค่ไหนแต่ตัวตนของเรามันก็ยังอยู่ คนก็เลยอาจจะไม่ได้สะใจมากขนาดนั้น ก็เลยรู้สึกว่าแพทเล่นไม่ดีหรือเปล่า แพทเล่นไม่สุดหรือเปล่า แต่หนูเชื่อว่า พี่เมย์ (เมย์ เฟื่องอารมย์) และผู้กำกับเราทำตามที่เราตีความออกมาและเราก็พึงพอใจ แฮปปี้กับสิ่งที่ออกมาแล้ว
ถามว่านอยด์ไหม ไม่นอยด์ค่ะ เพราะหนูรู้ว่าบทมันเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกแล้ว และหนูรู้ว่ามันไม่มีอะไรต้องนอยด์ เพราะคนดูจะได้เห็นความแตกต่างของการแสดงของเราด้วย เรื่องนี้เราเล่นเป็นแบบนี้เพราะบทเป็นแบบนี้ ส่วนเรื่องนี้เราเล่นเป็นแบบนี้เพราะบทเป็นแบบนี้ หนูมองว่ามันเป็นข้อดีด้วยซ้ำ คนดูจะได้เห็นเราเล่นบทที่หลากหลาย และจะได้เห็นว่าจริงๆ เราทำได้หลายรูปแบบ
กับฟีดแบ็กก็ไม่ได้เครียดแต่คาดเดาไว้ได้แหละว่าคนโดนบิวต์มาซะดี แต่ไม่สมความคาดหมายของคน เข้าใจมากกว่า แสดงว่าจริงๆ แล้วคนดูอาจจะต้องการแบบนี้หรือเปล่า ไม่ใช่นางเอกแบบอ่อนแอแล้วนะ เป็นฟีดแบ็กที่เราสามารถนำไปใช้ในอนาคต เวลาที่เราแสดงอะไรคนอาจจะไม่ชอบอะไรแบบนี้หรือเปล่า
พี่เมย์ก็ให้กำลังใจกันสุดยอดเลยค่ะ เพราะหนูก็รู้และได้เห็นถึงความตั้งใจมากๆ ของพี่เมย์ เป็นละครเรื่องแรกกับช่อง 3 และพี่เมย์ดูแลทุกขั้นตอนจริงๆ ก็หวังว่าพี่เมย์จะไม่นอยด์นะคะเพราะว่ามันดีแล้ว มันดีในแบบที่บทมันเป็น และมันก็เป็นละครที่หลายๆ คนชอบนะ หลายๆ คนอินมากกับปาริฉัตรและพายุ ที่เป็นความรักที่เจออุปสรรคมาตลอด คนก็จะลุ้น อยากให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้พี่เมย์ เชื่อว่าละครเรื่องต่อไปของพี่เมย์แฟนๆ ก็ยังรอติดตามชมและรอเชียร์อยู่”
