“บิวกิ้น” แจงดรามาถูกเหยียดเพศและความสามารถทางดนตรี บอกความเป็นศิลปินในความคิดของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ยอมรับว่าเสียใจ เพราะบางถ้อยคำก็รุนแรง แต่ไม่คิดเอาเรื่อง ได้กำลังใจดีจากคนรอบข้างและแฟนๆ ยอมรับห่วง “พีพี” ที่ถึงขั้นเสียน้ำตา เผยกดดันกับผลงานชิ้นใหม่ในนามบริษัทตัวเอง แต่ก็จะทำให้เต็มที่ที่สุด
หลังจากที่จบกระแสดรามาที่ “เติร์ก นิติกฤษณ์” สมาชิกในวง Gym and Swim ออกมาวิพากษ์วิจารณ์คนในวงการหลายคน รวมถึงมีการเหยียดเพศและวิจารณ์ความสามารถทางดนตรีของสองคู่จิ้นสุดฮอต “บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล” และ “พีพี กฤษฏ์ อำนวยเดชกร” ล่าสุดหนุ่มบิวกิ้นก็ได้ออกมาเผยถึงเรื่องนี้ในงาน StartDee Verse ณ Lido Connect เจ้าตัวก็ยอมรับว่าเสียใจ แต่ก็เข้าใจว่าคนเราความคิดไม่เหมือนกัน และไม่คิดจะเอาเรื่อง
“ก็ได้ทราบอยู่ครับ คนบอกมาเยอะเหมือนกัน แต่ปกติไม่ค่อยได้เล่นทวิตเตอร์ครับ ถามว่าเฟลไหม ตอนนั้นเหมือนยังงงๆ มากกว่า เพราะเรายังไม่รู้ว่าเนื้อหาของเรื่องที่เกิดขึ้นว่ามันเป็นยังไง ก็เพิ่งจะไปตามอ่าน แต่ถามว่าเฟลไหม ก็นิดหน่อย แต่พอเราได้คุยกับหลายๆ คน ได้กำลังใจจากหลายๆ ฝ่ายเราก็ฟื้นฟูตัวเองได้ในเวลาแป๊บเดียว ไม่ได้ข้ามวันติดใจขนาดนั้น ถามว่ารู้สึกยังไง คือเราไม่ได้เห็นนิยามของคำว่าศิลปินแบบนั้น สำหรับผมคำว่าศิลปินเราสื่อสารงานศิลปะ มันไม่ได้ถูกจำกัดด้วยอะไร การพูด การทำอะไรหรือทุกๆ อย่าง แม้กระทั่งการที่ผมทำธุรกิจ ผมก็มองว่ามันเป็นงานศิลปะอย่างนึง ที่เอาตัวตนของเราไปใส่ในนั้น
แต่ถามว่าแรงไปไหม ก็แรงบางอันครับ คำที่เขาว่าเราไม่ใช่ศิลปิน ผมถึงบอกว่าเราอาจจะมองไม่เหมือนกันในนิยามของคำว่าศิลปิน พีพีเขาก็เป็นห่วงผม ผมก็เป็นห่วงเขาเหมือนกัน แต่ผมเชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะคุยกัน เพราะเรามีหลายๆ คนในทีม ก็เห็นที่เขาสัมภาษณ์แล้วร้องไห้ คือเรารู้จักเขาอยู่แล้ว พีพีเขาเป็นคนที่แคร์คนรอบๆ ตัวเขามาก ทุกคนในทีม ผู้จัดการหรือแม้กระทั่งตัวผมเอง เราจะสัมผัสได้ว่าตัวเขาเป็นคนที่แคร์คนรอบข้างมาก ผมคิดว่าเขาอาจจะรู้สึกเป็นห่วงคนรอบตัวของเขาด้วยที่เป็นประเด็นใหญ่ของเขา”
บอกไม่คิดฟ้องร้องเอาเรื่อง เพราะเป็นสิทธิของแต่ละคนในการแสดงความคิดเห็น
“ช่วงนั้นไม่ได้คุยกันโดยตรงครับ แต่จะคุยกันในทีม ก็จะมีคนคอยอัปเดตให้ฟังว่าสถานการณ์เป็นยังไงบ้าง มีความคิดเห็นจากคนอื่นๆ ยังไง หรือเหตุการณ์มันไปถึงไหนแล้ว และที่แฟนคลับแฮชแท็กว่าภูมิใจในความเป็นศิลปินของเรา ก็ดีใจครับ อย่างที่บอกว่าตัวตนของเรามันก็คือความเป็นศิลปินของเรา ในการที่เราทำทุกๆ อย่าง เราดีใจที่งานศิลปะหรือตัวตนของเรามีคนที่ให้คุณค่าอยู่
ที่เขาออกมาขอโทษ เราก็ไม่ได้ติดใจอะไรอยู่แล้วครับตั้งแต่ก่อนนั้น เราอาจจะมีรู้สึกนิดนึง แต่พอเราได้คุยกับหลายๆ คน เราก็โอเคขึ้น และพอเราได้เห็นเขาออกมาพูดก็รู้สึกเริ่มเห็นใจเขาเหมือนกัน ผมว่ามันมีสองมุมนะ มุมนึงเราได้เห็นความคิดเห็นแบบน้ัน แต่อีกมุมก็จากรอบๆ ตัวของเราหรือคนอื่นๆ เราก็ได้อีกกำลังใจที่ซัปพอร์ตที่ทำให้เราอยากจะทำงานนี้ให้ดีที่สุด
จริงๆ ก็กดดันเหมือนกันครับ ทุกครั้งที่ได้มีโอกาสใหม่ๆ และพอเป็นโอกาสที่ใหญ่ก็รู้สึกกดดันมาก แต่ก็จะทำให้เต็มที่และพี่ๆ ทุกคนก็คอยซัปพอร์ตและให้กำลังใจตลอดรวมทั้งพีพีด้วย ถามว่าเราจะฟ้องไหม คงไม่ได้ฟ้องครับ ผมรู้สึกว่าเขาก็แชร์ในจุดของเขา มีวิธีการคิดของเขา ใครจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็เป็นสิทธิของแต่ละคน อย่างผมก็อาจจะไม่ได้คิดเหมือนเขา แต่เขาก็ไม่ได้พาดพิงทำให้เราเสียหายในเชิงปฏิบัติ”
เผยเตรียมความพร้อมงาน Summer Sonic 2022 ที่จะจัดขึ้นที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 20 สิงหาคม 2565 นี้แล้ว ยอมรับกดดันเพราะเป็นงานใหญ่และงานแรกของบริษัท
“ตอนนี้ก็เตรียมความพร้อมอยู่เหมือนกันครับ จริงๆ วางโชว์เสร็จแล้ว กำลังเซ็ตอัปอะไรทุกอย่าง พอวันนี้เราออกมาเปิดบริษัททำเอง รายละเอียดมันเยอะมาก วงแบ็กอัป ไดเรกชั่น การทำดนตรี หรือเพลงที่เราจะเลือกไปร้องที่โน่น กราฟฟิก บล็อกกิ้งอะไรทุกอย่างมันเป็นรายละเอียดไปหมดว่าเราจะสื่อสารอะไรกับโชว์ๆ นี้ เป็นงานใหญ่ของค่ายเราเองก็ค่อนข้างยากครับ เพราะเราก็ไม่ได้มีประสบการณ์มากในการทำโชว์ ก็ค่อยๆ เรียนรู้และค่อยๆ ไปชวนคนนั้นคนนี้มาช่วยเราทำในแต่ละมุมที่เราอาจจะไม่ได้มีความรู้ ส่วนเซอร์ไพรส์ ก็อาจจะเป็นเพลงไทยครับ เพราะพอเราเป็นศิลปินไทยและได้มีโอกาสไปอยู่ตรงนั้น เราก็อยากจะถ่ายทอดความเป็นตัวเรา สังคมเรา วัฒนธรรมเรามากกว่า
ช่วงนี้ก็เรื่อยๆ ตั้งแต่ต้นปีออกเรื่อยๆ มา ปีนี้เราก็มีแพลนอีกหลายๆ อย่างที่ใกล้จะออกมาแล้ว อีกหลายๆ ตัวเลยที่ผมคิดว่าช่วงครึ่งปีหลังนี้อาจจะเห็นอะไรหลายๆ อย่าง รวมถึงการไปคอลแลปส์กับออการ์ไนซ์เซชั่นอื่นๆ”