“หมอโอ๊ค - โอปอล์” เมาท์ลูก “อลัน” ทางการขั้นสุด ส่วน “อลิน” ไม่มีตรรกะหลักการ แต่พออยู่ด้วยกันก็สนิทกันมาก ลั่นยิ่งโตยิ่งเลี้ยงยาก เพราะเป็นพ่อแม่ที่ไม่ได้เป็นเจ้าของชีวิตลูก แค่ซัปพอร์ตในสิ่งที่ลูกอยากทำ ต้องทำให้ลูกแข็งแรงทั้งกาย-ใจ เพราะโตขึ้นชีวิตไม่ปราณี ยังไม่คิดข้ามช็อตวันที่ลูกออกจากอกไป ลั่นสุดสะเทือนใจสวยแซบแต่ลูกไม่เชื่อ แก่แล้วไม่มีใครจ้างถ่ายเซ็กซี่ ยังต้องจ้างตัวเอง
เป็นอีกงานที่มากันทั้งครอบครัว สำหรับ “หมอโอ๊ค สมิทธิ์ อารยะสกุล” และ “โอปอล์ ปาณิสรา อารยะสกุล” และลูกๆ “อลิน-อลัน” โดยในงานเปิดตัวแคมเปญ “Made For Every Family ดูแลความสุขให้ทุกคนความต่าง” หมอโอ๊ค-โอปอล์เผยว่า 3 ปี่แล้วที่ไม่ได้ออกอีเวนต์ พร้อมเผยพัฒนาการลูกตอนนี้ที่โตขึ้นตามวัย และรู้สึกว่าเลี้ยงยากขึ้น
โอปอล์ : “โอ้โห…ถ้ามีลูกด้วยก็ประมาณ 3 ปี นานมาก คือตั้งแต่ช่วงโควิด เราก็ไม่ค่อยได้พาลูกไปไหน วันนี้เขามาห้างเขาก็ตื่นตามาก เราไม่สามารถกดความปีติยินดีของลูกได้เลย เขาจอยมากค่ะ บอกเขาว่าวันนี้พ่อกับแม่มางานนะ เดี๋ยวพาอลิน-อลันมาด้วย บอกเท่านี้เลย เพราะไม่รู้จะอธิบายลูกยังไง”
จบแล้วงานนี้! ลูกเอาป้ายฟาดหน้าผู้บริหาร
โอปอล์ : “จังหวะที่เอาป้ายป้าบหน้าผู้บริหาร แบบชีวิตการทำงาน 10 ปีของฉัน คือฟาดแม่ก็ได้ แต่ฟาดผู้บริหารทำไม (หัวเราะ) คือลูกเอาป้ายตีกันแล้วไปโดนผู้บริหาร”
หมอโอ๊ค : “ใจเราเนี่ยตกไปอยู่ที่เท้าเลย ถือว่าจบแล้ววันนี้ (หัวเราะ) แต่เราก็ต้องแข็งแกร่ง คีฟหน้านิ่งต่อไป”
โอปอล์ : “ถามว่าเขาเลี้ยงง่ายขึ้นไหม ก็ตามวัย”
หมอโอ๊ค : “ตอนนี้เขาแข็งแรงขึ้น เก่งขึ้น ทำอะไรได้เยอะขึ้น เดี๋ยวนี้อลันออกไปวิ่งกับผมได้แล้ว อลินก็ไปกับคุณแม่ได้แล้ว แต่เขาก็จะเริ่มมีสังคม มีเรื่องเพื่อน”
ยิ่งโตยิ่งเลี้ยงยาก เพราะเป็นพ่อแม่ที่ไม่ได้เป็นเจ้าของชีวิตเขา แค่ซัปพอร์ตในสิ่งที่ลูกอยากทำ
โอปอล์ : “ปอว่ายิ่งโตยิ่งยาก ตอนเป็นเด็กเล็กนึกว่ายากแล้ว แต่พอโตขึ้นมา เขามีความคิดเป็นของตัวเองร้อยเปอร์เซ็นต์ แล้วเราคุยกันมาตลอด ว่าเราจะให้ลูกเป็นตัวของตัวเองร้อยเปอร์เซ็นต์ เราเป็นพ่อแม่ไม่ได้เป็นเจ้าของเขา เรามีหน้าที่แค่ซัปพอร์ตในทุกทางที่เขาอยากจะทำ เราแค่สอนว่าอะไรคือผิดชอบชั่วดี ดังนั้นช่วงนี้มันยากสำหรับเรา ในการที่จะต้องให้คำตอบ เวลาเขาถามว่าอันนี้คืออะไร อันนี้ทำได้ไหม หรือเวลาเขาไปเจอสังคม เราต้องตอบ เราจะทำยังไงให้คำตอบเราไม่ไปฝังหัวลูก ให้เขาไปตัดสินในทุกเคสแบบนี้ แต่เราสองคนก็ให้เวลาลูกเต็มๆ เราช่วยกันดูลูก เราเป็นทีมมาตลอด ถ้าลูกถามคำถามที่เราตกใจมา ก็จะพี่โอ๊คทำยังไงดี เวลาที่มีค่าคือเวลาขับรถรับส่งเช้าเย็น มันจะได้รู้ว่าลูกเขาคุยอะไร”
หมอโอ๊ค : “ผมอยากรู้จักเขาให้มากที่สุด เพราะเขาเริ่มมีความเป็นตัวตนของเขาแล้ว”
คาแรกเตอร์ 2 คน ยิ่งโตยิ่งชัด น้องอลันเก่งเลข
โอปอล์ : “ชัดมาก (ทำเสียงร้องไห้) งงมาก คืออย่างอลันเขาก็จะเก่งเลขไปเลย”
หมอโอ๊ค : “ชอบเรื่องวิทยาศาสตร์ ชอบเรื่องสิ่งมีชีวิต”
โอปอล์ : “เมื่อวานปอไปถ่ายรายการที่สมุยกับปุ๊กกี้ (ปวีณ์นุช แพ่งนคร) โทร.หาลูก เป็นเสียงอลันพูดว่า คุณแม่กลับกี่โมงครับ ปุ๊กกี้ก็ตกใจ ปอก็บอกว่าฉันก็ตกใจ ไม่คิดว่าลูกฉันจะเป็นทางการขนาดนี้ (หัวเราะ) คุณแม่อยู่กับใครครับ แบบนี้”
หมอโอ๊ค : “แล้วมาถามพ่อด้วยว่า คุณแม่ลงสนามบินที่ดอนเมืองหรือสุวรรณภูมิครับ (หัวเราะ)”
โอปอล์ : “เขาชัดเจน ในขณะที่อลินก็คือเป็นขีดสุดของความสดใส คืออลินไม่เคยหยุดพูด ไม่เคยหยุดถาม แค่เมื่อกี้ที่คุณพิธีกรถามว่าชอบวิชาอะไรแล้วลูกเราเงียบ เราเข้าใจ (หัวเราะ) แต่ถ้าถามว่าชอบเต้น ชอบกินอะไร เขาก็จะตอบว่าเต้นค่ะ พอถามว่าชอบวิชาอะไรก็อุ้ย เราเข้าใจลูก”
หมอโอ๊ค : “แต่เขาเป็นหัวหน้า เขาลงสมัครตลอดนะ เขาเป็นตัวแทนเลือกตั้ง”
ขำๆ “อลัน” ทางการขั้นสุด ส่วน “อลิน” ไม่มีตรรกะหลักการ แต่พออยู่ด้วยกันถึงสนิทกันมาก
โอปอล์ : “เขาบอกว่าตอนอยู่โรงเรียน เขาเหนื่อยมาก เพราะเพื่อนทุกคนอยากเล่นกับเขา แต่ไม่เป็นไร เขาจะเล่นกับทุกคน บางทีเราก็เอ๊ะ…ใช่เหรอวะ (หัวเราะ) แต่เขาเป็นคนร่าเริงมาก อลันก็จะเป็นทางการขั้นสุด อลินก็ไม่มีตรรกะหลักการเลย พอเข้าอยู่ด้วยกันถึงสนิทกันมาก”
หมอโอ๊ค : “ส่วนที่มองว่าไม่ค่อยเห็นเขาทะเลาะกัน การทะเลาะกันเป็นเรื่องปกติ ต้องยอมรับให้ได้ ว่าการไม่ทะเลาะกันเลยไม่มีจริง คือไม่ปกติ คนเราต้องมีความเห็นส่วนตัว แล้วเด็กขนาดนี้มีอยู่แล้ว บางทีก็เบียดกัน แย่งกัน จะดูการ์ตูน แต่เราก็จะใช้วิธีให้เขาเคลียร์กันเอง เราไม่ยุ่ง”
โอปอล์ : “บางที พอลูกตีกันแล้วพ่อแม่บอกหยุดเดี๋ยวนี้นะ เขาจะยิ่งทำ เราก็จะให้ลูกคุยกันเอง แต่กฎคือห้ามตีตัวเอง ห้ามตีน้อง ห้ามตีพี่ แล้วก็ห้ามทำลายของ ปอล์ดุลูกค่ะ พี่โอ๊คก็ดุ”
หมอโอ๊ค : “เรามีกฎของเราครับ ถ้าตีกัน หรือตีตัวเอง หรือเอาของทุบ อันนี้คือผิดกฎ ต้องไปนั่งบันได ซึ่งการนั่งบันไดนี่คือสิ่งที่เจ็บปวดมากสำหรับเขา (หัวเราะ) เขาจะรู้ว่าอันนี้แปลว่าคุณพ่อคุณแม่โกรธแล้วนะ”
โอปอล์ : “บทบาทในบ้านปอจะเป็นแม่ที่อยู่กับลูกตลอดเวลา และลูกจะรู้สึกว่าปอเป็นเพื่อน เป็นคุณแม่ติ๊งต๊องสำหรับลูก แต่พี่โอ๊คเขาจะมีกฎที่น่าเคารพ ลูกจะเกรงใจ”
หมอโอ๊ค : “ถามว่าห่วงอะไรลูกๆ ไหม ผมว่าตามปกตินะ ตามประสาที่เราเป็นพ่อแม่ ทั้งเรื่องสุขภาพ สังคม ความคิด ไม่ได้มีอะไรที่ให้ผลลบกับความรู้สึก”
โตขึ้นชีวิตไม่ปราณี ต้องทำให้ลูกแข็งแรงทั้งกายและใจ ไม่กล้าคิดข้ามช็อตวันที่ลูกออกจากอก แต่ยันถึงวันนั้นจะไม่ไปขวาง
โอปอล์ : “เราจะไม่ให้ความเป็นห่วงของเราเป็นปัญหาสำหรับเขา เราเคารพในตัวตนของเขา ยิ่งโตมาเรารู้แล้วว่าเขามีความคิดความต้องการ ดังนั้นความห่วงเราจะไม่ขวางเขาทั้งสิ้น เมื่อกี้นั่งคุยกับคุณแม่น้องเขื่อน ภัทรดนัย ว่าตอนน้องไปเรียนเมืองนอกคุณแม่เหงา ปอก็คิดในใจว่าไม่กล้าคิดช็อตลูกไปจากอกเลย แต่ถ้าวันนั้นมาถึงเราจะไม่ขวางเลย เพราะชีวิตเขา หน้าที่ของเราตอนนี้คือทำให้เขาเข้มแข็งทั้งกายและใจให้มากที่สุด เพราะโตขึ้นชีวิตมันไม่ปราณีเรา เราไม่รู้เลยว่าชีวิตจะพาเราไปเจออะไร เราหวังว่าเขาจะมีภูมิ ปัญหาทุกคนมี เผชิญหน้า พ่อแม่อยู่ข้างหลัง เราช่วยลูกทุกอย่างไม่ได้”
หมอโอ๊คชมเมียสวยแซบ
โอปอล์ : “เขาไม่ว่าเลยที่เราเซ็กซี่ พี่โอ๊คไม่เคยยุ่ง คนชอบเข้าใจว่าพี่โอ๊คจะต้องบังคับปอเรื่องกิน เรื่องแต่งตัว แต่ไม่มีเลยค่ะ ที่วับๆ แวบๆ น่าจะเป็นชุดที่ไว้ขายโปรดักส์ตัวเอง ขายสบู่ก็ต้องโชว์ผิว แค่นั้นเอง”
หมอโอ๊ค : “ก็สวยดีครับ เห็นตั้งแต่เขาไปถ่ายแล้ว เขาเอามาอวด”
โอปอล์ : “โปรดักส์ตัวเอง เลือกชุดเอง ทำเองทุกอย่างเลยค่ะ ถามว่าจะมีอีกไหม ไม่กล้าการันตีเลย เพราะแก่ลงทุกวัน อาจจะเกิดอะไรขึ้นก็ได้ (หัวเราะ) เผื่อวันหนึ่งใครมาชวนทำอะไรที่น่าสนใจ แต่แม่ก็แก่แล้วนะพ่อ”
หมอโอ๊ค : “เดี๋ยวพ่อจะเป็นคนถ่ายเอง (หัวเราะ)”
โอปอล์ : “ไม่ได้ พ่อถ่ายรูปไม่ได้เลย”
คิดว่าคงไม่มีใครจ้างแล้ว ขนาดเซ็กซี่ล่าสุดยังจ้างตัวเอง
โอปอล์ : “คิดว่าไม่มีหรอก ขนาดอันนี้ยังจ้างตัวเองเลย (หัวเราะ) อันนี้คือจ้างตัวเองถ่ายชุดว่ายน้ำ ไม่เห็นมีใครจ้าง คิดว่าอนาคตก็ไม่มี ต่อให้จ้างเราก็ต้องทบทวน แต่เราอาจจะจ้างตัวเองอีกรอบก็ได้ (หัวเราะ) ถามว่าน้องๆ เห็นแม่เวอร์ชั่นนี้ไหม แม่โชว์ตลอด แล้วอลินถามว่า It’s that you Mom ? (หัวเราะ) ลูกไม่เชื่อ แรงมากค่ะ”