xs
xsm
sm
md
lg

“อัจฉริยะ” ฟาดยับ “ส.ส.เต้” คุณแม๊ลั่นไม่ได้แพแตก แต่ไม่อยากฟ้องฆาตกรรมแล้ว ไม่อยากจองเวร!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 15 มิ.ย. ที่อาคารมาลีนนท์ “นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เปิดเผยถึงกรณีที่ “ส.ส.เต้ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ไลฟ์สดชี้แจงเรื่อง “แม่แตงโม” หรือ “นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน” ที่ลงชื่อในหนังสือยกเลิกการมอบอำนาจให้นายอัจฉริยะดูแลเรื่องกฎหมายทางคดี โดยอ้างว่าแม่แตงโมไม่เห็นชอบ เนื่องจากนายอัจฉริยะไปฟ้องศาลดำเนินคดีกลุ่มคนบนเรือ ในข้อหาตามป.อาญามาตรา 288-289 ฐานกระทำโดยเจตนาให้ผู้อื่นถูกฆ่าถึงแก่ความตาย

โดยนายอัจฉริยะกล่าวว่า จะเปิดเผยหลักฐานสำคัญเรื่องที่มาที่ไปของการยกเลิกหนังสือมอบอำนาจกับตน ซึ่งเรื่องนี้เป็นเกมส์การหักหลัง และมีบางประเด็นที่ฝ่ายนี้ต้องการให้ทำ แต่ตนไม่สามารถทำได้ ทั้งเรื่องหลักฐานจากโทรศัพท์แตงโมที่ไม่มีประโยชน์กับคดี และยังจะให้เชื่อบังแจ็ค ซึ่งเป็นบุคคลที่ศาลออกหมายจับ รวมถึงสิ่งที่ส.ส.เต้ แถลงไปนั้นก็ไม่ใช่เรื่องจริง เพราะตนแจ้งส.ส.เต้กับทีมงานของพรรคว่า ตนไปฟ้องที่ศาลนนทบุรีแล้ว และไม่ได้รับแจ้งว่ามีหนังสือยกเลิกมาจากแม่มาก่อน โดยส.ส.เต้อ้างว่า หนังสือดังกล่าวลงวันที่ 14 มิ.ย. แต่พอส่งไปที่ศาล กลับไม่มีชื่อแม่ มีเพียงตราสัญลักษณ์พรรคที่เพิ่งเริ่มทำกันตอนเย็น และเป็นเวลานอกราชการแล้ว จึงถือเป็นการส่งเอกสารไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามจริงต้องแจ้งให้ตนทราบ ไม่ใช่ส่งไปศาล

นายอัจฉริยะกล่าวด้วยว่า ยังมีการเสนอเงินให้ตน โดยระบุว่าแม่จะมอบเงินให้ชมรม แต่ตนไม่รับ แม้เราใช้เงินไปแล้ว 5 แสนกว่าบาท ทั้งค่านักประดาน้ำและอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการทำคดี แต่ที่อยากทำคดีนี้ เพราะเป็นกระบวนการยุติธรรมที่อัปยศที่สุด หากมีใครโดนกระทำเช่นนี้อีกสังคมจะอยู่กันอย่างไร ยืนยันว่าตนฟ้องศาลไปทั้งหมด 8 มาตรา และไม่ผิดข้อตกลง แต่ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลจะพิจารณา ซึ่งตนมีผู้เชี่ยวชาญหลายปากมาร่วมสืบพยานด้วย

ซึ่งฝ่ายนั้นมีความพยายามจะเปลี่ยนตน เพราะควบคุมไม่ได้ ก่อนหน้านี้ทราบอยู่แล้วว่าเขาจะทำอะไรกับตน เพราะเขาเห็นไพ่เราแล้วบางส่วน แต่ก็เห็นแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ เขามองว่าถ้าเรายังอยู่จะไม่ได้อะไรตามที่ต้องการ ตนไม่ทราบว่ามีเรื่องการเจรจาเงินทองกันตามที่มีสื่อนำเสนอไปหรือไม่

ทั้งนี้แม่ยังไม่ทราบเรื่องถอนตนออกด้วยซ้ำ เพราะแม่พูดตามส.ส.เต้ และหลังประชุมทีมงานฝ่ายกฎหมายกันวานนี้ แม่ยังพูดกับทีมงานตนว่า ตนตั้งใจ ทำงานเร็ว และเป็นคนดี มองว่าเรื่องนี้เขาทำให้ตนเป็นเหยื่อ เขาคิดว่าตัวเองถือแต้มต่อ แต่ในวันที่ 20 ก.ค.นี้ จะมีการไต่สวนเรื่องการเพิกถอนทนายความ จึงจะไม่มีใครเข้ามาทำคดีนี้ต่อได้ง่ายๆ เพราะหลักฐานทั้งหมดอยู่ที่ตน และจะไม่ให้ใครด้วย

นายอัจฉริยะยืนยันว่า จะไม่คืนเอกสารต่างๆ เกี่ยวกับคดีตามที่แม่แตงโมลงชื่อในหนังสือถอดถอนตน เพราะหากจะดำเนินคดีเดี๋ยวก็รู้ว่าใครจะถูกดำเนินคดี วันนี้ตนเป็นต่อ ไม่ได้เป็นรอง หากจะนำใครมาเป็นทนายความอีก ตนก็ฟ้องร้องเอาผิดมารยาททนายความได้ เพราะได้ลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว

ส่วนกรณีทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ อดีตทนายความของแม่แตงโม ถูกส่งจดหมายเรียกคืนเอกสารนั้น ที่พลาดไปเพราะเขาประกาศไม่เป็นทนายความให้แม่แตงโมแล้ว แต่ทุกวันนี้เขายังไม่ได้คืนเอกสาร ก็ยังไม่เห็นว่าถูกดำเนินคดี เรื่องนี้จึงเป็นเพียงคำขู่เท่านั้น มองว่าฝ่ายนั้นเดินเกมส์โง่ไม่ได้เดินผิด

ส่วนประเด็น ส.ส.เต้ กล่าวหาว่า ตนยักยอกเงินค่าธรรมเนียมศาลนั้น ยืนยันว่าเมื่อเช้าตนคืนเงิน 255,000 บาท ไปหมดแล้ว แต่เหตุที่ยังไม่ยื่นประกอบการฟ้องแพ่งเรียกร้องค่าเสียหายคนบนเรือทั้งหมดได้นั้น เพราะมีปัญหาเรื่องสเตทเมนต์ที่แม่ยังไม่เอามาให้

อย่างไรก็ตามตนไม่ทราบว่าจะได้ทำคดีนี้ต่ออีกหรือไม่ ยืนยันว่าทำทุกอย่างเพื่อแตงโม ไม่ได้ทำเพื่อนางภนิดา ว่ากันตามหลักกระบวนการยุติธรรมไม่ว่าจะรวยจะจน เชื่อว่าคนบนเรือไม่กล้าฟ้องตนกลับ แม้นางภนิดาจะถอนตนออก เพราะเชื่อว่าคนบนเรืออยากให้เรื่องจบ ไปพักผ่อนกันแล้ว

จากนั้นเวลา 12.00 น.ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี “แม่แตงโม” หรือ “นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน” พร้อมด้วย “นางสาวภคอร จันทรคณา” รองหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ และ “นายบุญถาวร ปัญญามณีโชติ” ทนายความของทีม ได้เดินทางเพื่อมายืนยันการยกเลิกหนังสือมอบอำนาจในการฟ้องคดีแตงโมของนายอัจฉริยะ พร้อมกับต้องการแก้ไขข้อหาที่ได้ยื่นต่อศาลด้วย

นายบุญถาวรกล่าวว่า ที่ผ่านมาคุณแม่ไว้ใจนายอัจฉริยะ ส.ส.เต้ และทีมงาน ให้ตรวจสอบข้อเท็จในการเสียชีวิตของคุณแตงโม นิดา และประสงค์ที่จะยื่นต่อศาลในหลายข้อหาก่อนหน้านี้ ทางตำรวจและอัยการสรุปว่าเป็นการประมาท จนทำให้เกิดอุบัติเหตุ แต่ทางคุณแม่มองว่ามีการทำร้ายร่างกายเกิดขึ้น ซึ่งเรามีหลักฐานที่บางส่วนได้นำเสนอต่อพนักงานสอบสวนไปแล้ว และเมื่อวานนายอัจฉริยะได้ยื่นฟ้องต่อศาลตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 เจตนาฆ่า และมาตรา 289 ฆ่าคนตายโดยลักษณะฉกรรจ์ไตร่ตรองไว้ก่อน โดยไม่ได้ปรึกษาคุณแม่ก่อน

คุณแม่เห็นว่านายอัจฉริยะเข้าใจคลาดเคลื่อน ไม่ได้ฟังทีมงาน และไม่มีการปรึกษากัน แต่มาฟ้องร้องเอง แม่จึงตัดสินใจทำหนังสือแจ้งยกเลิกหนังสือการมอบอำนาจต่อนายอัจริยะทางเมล์มาที่ศาลวันนี้ ศาลจึงได้ให้แม่มายืนยันหนังสือขอยกเลิกการมอบอำนาจต่อนายอัจฉริยะด้วย

นอกจากนี้เดิมทีตั้งใจมาถอนคำฟ้องของนายอัจฉริยะ แต่เมื่อมาคัดคำฟ้องพบว่ายื่นมาตรา 290 เจตนาทำร้ายร่างกายจนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย รวมถึงมาตรา 288 และมาตรา 289 เป็นเรื่องของการทำร้ายร่างกาย ทำให้ไม่สามารถถอนคำฟ้อง 288 , 289 ได้ จึงจะไม่ดำเนินการยกเลิกใบมอบอำนาจในการฟ้องเท่านั้น โดยจะมีการไต่สวนวันที่ 20 กรกฎาคมนี้

ดังนั้น ต้องกลับไปดูคำฟ้องอย่างถี่ถ้วน รวมถึงพยานหลักฐานที่แนบมา ถึงการดำเนินคดีตั้งใจฆาตกรรมตั้งแต่ต้นหรือไม่ ก่อนจะยื่นแก้ไขคำฟ้อง โดยจะต้องเร่งดำเนินการ เพราะคดีนี้กระบวนการเสร็จสมบูรณ์ และศาลได้นัดไต่สวนแล้ววันที่ 22 สิงหาคม 2565 โดยขอให้เวลาแม่ในการพิจารณากระบวนการหลักฐาน เพราะที่ผ่านมาไม่เคยเห็นหลักฐานเลย ยืนยันว่าแม่และอัจฉริยะไม่ได้แพแตก หรือมีความขัดแย้งรุนแรง เพียงแต่ความเห็นทางกฎหมายไม่ตรงกัน และยังสามารถทำงานร่วมกันต่อไปได้ เพราะเป็นหนึ่งในพยานคนสำคัญในคดีนี้
 
ส่วนเรื่องการเปลี่ยนแปลงทนายความ ตอนนี้ยังไม่รับใครมาเป็นทนายแทน เพราะตนได้แนะแม่ว่า แม่สามารถยืนฟ้องเองได้ และไปใช้ทนายตอนไต่สวนเพื่อซักค้าน และสามารถแต่งตั้งเพิ่มอีก 10 คนก็ได้ แต่ใช้คนนำสืบเป็นทนายที่แม่ไว้ได้ วันนี้ยังไว้ใจทีมทนายอัจฉริยะเช่นเดิม

ทั้งนี้ที่นายอัจฉริยะขู่ยื่นถอนใบประกอบวิชาชีพทนายความทุกคนที่มารับความ แม่ย้ำว่ายังสามารถพูดคุยกันได้ เพราะตอนนี้ก็ยังรอโทรศัพท์นายอัจฉริยะอยู่

ด้านนางภนิดา กล่าวว่า วันนี้ตนไม่เครียดอะไร เพียงแค่อดนอนเท่านั้น ตอนนี้ไม่สามารถตอบว่ายังเชื่อใจการดำเนินการของอัจฉริยะได้ เพราะยังไม่ได้เห็นหลักฐานทั้งหมด แต่ตนไม่ได้รู้สึกโกรธอะไร ยังสามารถพูดคุยกันปกติ โดยส่วนตัวแล้วรู้สึกไม่ได้อยากฟ้องเรื่องฆาตกรรม เพราะไม่อยากจองเวรใคร และมองว่าคงไม่ใช่เจตนาฆ่าตั้งแต่ต้น แค่เชื่อว่าลูกถูกทำร้าย

ส่วนเรื่องการฟ้องแพ่งนั้น ขณะนี้มีการคืนเงิน 255,000 บาทให้ส.ส.เต้แล้ว แต่ที่ผ่านมาตนเองไม่ทราบว่าจะมีฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 200 ล้านบาท เพราะในใจไม่มีเรื่องเงินเลย เพียงต้องการแค่อยากรู้ว่าลูกสาวตายอย่างไรมากกว่า

“ทุกวันนี้ยอมรับว่ามีการคุยกับคนบนเรือ โดยปอ ตนุภัทร เป็นคนโทร.มาหาแม่เอง ซึ่งคุยล่าสุดเมื่อ 4 วันที่ผ่านมา โดยรายละเอียดไม่ได้คุยเรื่องเงินเลย เป็นเพียงการถามถึงสารทุกข์สุขดิบธรรมดาเท่านั้น แต่เขาก็มีการนัดอยากจะขอคุยด้วย แต่แม่ไม่มีเวลาเลย“ นางภนิดากล่าว









กำลังโหลดความคิดเห็น