“จิน” เข้ารับทราบข้อกล่าวหา “กระติก” ฟ้อง “ทนายตั้ม” เผยซ้ำซ้อน คดี “แซน” เตรียมทำเรื่องรวมเป็นคดีเดียวกัน

วันนี้ (15 มิ.ย.) เวลา 10.30 น. “จิน จรินทร์ ธรรมวัฒนะ” สามีของผู้จัด-นักแสดงชื่อดัง “หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ” ได้เดินทางที่สน.มีนบุรี พร้อมด้วย “ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด” เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาคดีหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาที่ทาง “กระติก อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์” ได้แจ้งความเอาไว้ โดยทนายตั้ม เผยว่า ในวันนี้จินมารับทราบข้อกล่าวหาตามที่เจ้าหน้าที่นัด ซึ่งตนมองดูแล้วว่ามันซ้ำซ้อนกับที่สน.ท่าข้าม ที่ แซน วิศาพัช มโนมัยรัตน์ ได้มีการแจ้งความเอาไว้ ตนคงจะทำเรื่องถึงท่านผบช.น.ขอให้รวม 2 สำนวนเป็นคดีเดียวกัน ในวันนี้เองตนก็จะดูก่อนว่ามีการแจ้งข้อหาอะไรบ้าง ซึ่งคาดว่าจะเป็นข้อหาเดี๋ยวกัน เพราะจินก็ได้ไปคอมเมนต์ในโพสต์เดียวเท่านั้น

ซึ่งการมาในวันนี้ก็ไม่ได้เตรียมหลักทรัพย์แต่อย่างใด เพราะมีอัตราโทษน้อย และลูกความก็มาตามหมายโดยดี ส่วนการรวมคดีตนจะทำหนังสือถึงผกก.ทั้ง 2 สน. ถ้าเกิดจากการกระทำเดียวกันก็อาจจะรวมคดีได้ ส่วนเรื่องการเจรจาไกล่เกลี่ยก็ต้องมาคุยกับตน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หลังวันที่ 23 มิ.ย. แซนจะมีมหกรรมแจ้งความเอาผิดทุกคน ทนายตั้มกังวลหรือไม่ ทนายตั้มตอบว่า ในส่วนของคุณจินน่าจะไม่มีการแจ้งอะไรเพิ่มแล้ว เพราะไม่ได้มีการให้สัมภาษณ์ใดๆ แล้ว ส่วนตนไม่ได้กังวล คนที่ต้องกังวลคือคนที่ไปพูดอะไรใส่ร้ายคนอื่น แต่ถ้าพูดความจริง หรือคอมเมนต์ความจริง ไม่ต้องไปกลัวเลยว่าเขาจะขู่ฟ้อง ในเรื่องของคดีนี้ตนไม่มีความกังวลอยู่แล้ว จินแสดงให้เห็นโดยสุจริตอยู่แล้ว มันไม่ถึงกับเป็นหมิ่นประมาท ถ้าจะผิดน่าจะเป็นเรื่องการดูหมิ่น

ด้าน จิน ก็เปิดเผยว่า ตนไม่มีความกังวลใจใดๆ เลย เพราะมีทนายตั้มอยู่ด้วย ในส่วนของคดีนี้ ตนก็แค่โพสต์ตามที่เขาอนุญาต ตนไม่กังวลอยู่แล้ว

ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่เหมือนมีคณะหนึ่งที่กำลังจะแพแตก ทนายตั้มก็บอกว่า เร็วกว่าที่คิดไว้ เห็นว่ามีการทะเลาะกันเมื่อวานนี้ ตนรู้สึกเซอร์ไพรส์ และรู้สึกว่ามันเร็วมาก มันเร็วกว่าที่คิด แต่ก็คิดว่ามันก็ต้องมี ตนเป็นกำลังใจให้กับทุกคน ใครจะทำอะไรก็เป็นกำลังใจให้ เป็นเวรกรรมหรือเปล่าไม่รู้ ทุกการกระทำมันมีผลอยู่แล้ว อย่างเรื่องเมื่อวานที่มีการไปฟ้องคดีไว้ ต้องดูด้วยว่าตัวแม่ของแตงโมเขายินดีหรือไม่ ตนทราบมาว่าหนังสือมอบอำนาจ มอบไปก่อนหน้านี้นานแล้ว แล้วก็มีการทวงหนังสือมอบอำนาจ แต่ก็มีการนำหนังสือมอบอำนาจนี้ ไปฟ้องคดีโดยตรง ทุกอย่างมันมีผลออกมาแน่นอนอยู่แล้ว มารอดูในข้อกฎหมายดีกว่า เรื่องของการฟ้องแล้วถอน แล้วมีการฟ้องเท็จหรือเปล่า ถ้าเป็นฟ้องเท็จก็ยุ่งอีก ถ้าฟ้องแล้วไปถอน จะไม่สามารถเป็นโจทก์ร่วมได้ แต่ต้องดูเจตนาด้วยว่าแม่แตงโมรับรู้หรือเปล่า ถ้าแม่ไม่รู้แล้วมีคนเอาหนังสือมอบอำนาจไปใช้โดยพลการ ก็จะไม่มีการตัดสิทธิ์แม่

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการทำหน้าที่ของท่านส.ส. ทนายษิทรา เปิดเผยว่า หน้าที่ของส.ส. ไม่ใช่หน้าที่แบบนี้อยู่แล้ว ไม่ควรมีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว ตอนนี้ส.ส.มาทำหน้าที่เหมือนกับทนายความไปแล้ว ถ้าถามว่าทำได้หรือไม่ เป็นสิทธิ์ของเขา แต่ต้องถามถึงความเหมาะสม ว่ามันเหมาะสมหรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง