YesInDeed Band วงดังกลางสยาม กว่าจะมีวันนี้..ร้องเพลงจนแม่ค้าไล่!

รู้จักแก๊งมัธยมเปิดหมวกชื่อดังกลางสยาม! YesInDeed Band ลั่นเปิดหมวกครั้งแรกถูกแม่ค้าด่ายับแถมไล่ ได้เงิน 400 บาท เอาไปกินชาบู เขินวันนี้ดังมาก ยอดฟอลโลว์พุ่งทั้งวง มีเอฟซีกรี๊ดๆ มีด้อมเป็นของตัวเอง งานชุกจนมึน หนึ่งเดือนมี 30 วัน มีงานไปแล้ว 28 วัน ฝันอยากมีซิงเกิ้ลเป็นของตัวเอง ครอบครัวขออย่าทิ้งเรียน อย่าลืมตัวตนว่ามาจากไหน


ถ้าได้ไปเดินสยามสแควร์ในวันนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างได้เปลี่ยนไป ประหนึ่งเดินอยู่ฮงแด กับการรีโนเวตแบบยกใหญ่ เหมือนเอาเกาหลีมาตั้งไว้ เป็นการคืนชีพแหล่งรวมวัยรุ่นหลังจากเงียบเหงามานาน และ “สยามสแควร์”ได้เปิดพื้นที่ให้วัยรุ่นได้แสดงออกผ่านกิจกรรมต่างๆ และสิ่งที่ถูกพูดถึงคือการแสดงดนตรีของเหล่านักเรียน นักศึกษา ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “YesInDeed Band”คือวงดนตรีมัธยมเปิดหมวกที่ดังทั้งกลางสยามสแควร์และยอดแชร์ในโลกโซเซียลแบบถล่มทลาย
 
“YesInDeed Band (เยส อินดีด)”ประกอบด้วยสมาชิกทั้ง 5 คน เริ่มจาก 2 พี่น้องร้องเพลง “พอร์ส นรากร (ร้องนำ+กีตาร์ อายุ 18 ปี)-แพนเค้กอิสรีย์ (ร้องนำ อายุ 16 ปี) อิสระวรางกูล”จากนั้นก็เพิ่มสมาชิกในแต่ละตำแหน่งไม่ว่าจะเป็น “มังกร รัชชานนท์ วรกิจไพบูลย์ (มือกลอง อายุ 18 ปี) / ติน ตฤณ ฟูจิตนิรันดร์ (คีย์บอร์ด อายุ 15 ปี) / ทะเล ยศธกร ชะเอม (กีตาร์โซโล่ อายุ 15 ปี)”ด้วยฝีมือที่เรียกได้ว่าไม่ได้สวยหล่อแค่หน้าตา แต่ทั้งเสียงร้อง และการเล่นดนตรีที่มีเสน่ห์ จนหลายคนอยากทำความรู้จักว่าพวกเขาเป็นมาอย่างไร? พร้อมกับความดังที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยการเล่าผ่าน 2 หนุ่ม “พอร์ส-มังกร” ที่พล็อตเหมือนนิยายจากการเกลียดขี้หน้ากันมาก่อน จนตอนนี้ต้องมาเป็นสมาชิกในวงดนตรีมัธยมที่ดังที่สุดในสยามสแควร์

พอร์ส : ผมเป็นนักร้องนำและกีต้าร์ครับ

มังกร : ผมเป็นมือกลองครับ

พอร์ส : ก็มีผมพอร์ส มังกร น้องติน เล แพนเค้กครับ แพนเค้กคือน้องสาวผมที่เป็นนักร้องนำหญิงคนเดียวครับ และผมกับมังกรเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ประถมครับ แต่ไม่ค่อยชอบหน้ากันเท่าไหร่ (หัวเราะ) คือเขาเป็นคนนิ่งๆ แต่ผมเป็นคนกวนๆ ออกแนวแกล้งเพื่อนในโรงเรียน พอขึ้น ม.ต้น เราก็เริ่มเล่นดนตรีกัน แต่ตอนนั้นเราก็แยกย้ายกันไปเรียนตามโรงเรียนแล้ว และกลับมารวมกันตอน ม.ปลาย ก็เลยทักไปคุยกับเขา เพราะในวงขาดมือกลองพอดี (หัวเราะ)

มังกร : ที่ตอบรับเพราะตอนนั้นอยากเล่นด้วยครับ ก็เลยมาลองเล่นดู

เจอครั้งแรกไม่ค่อยอยากยุ่ง แต่ที่ตัดสินใจมาเล่นด้วยกันเพราะดนตรี
มังกร : ไม่ค่อยอยากยุ่งเท่าไหร่ครับ ดูวุ่นวาย พอได้มาร่วมงานจริงๆ ก็เหมือนเดิม (หัวเราะ) ที่ตัดสินใจมาเล่นก็เพราะอยากเล่นดนตรีครับ พอได้มาเล่นก็รู้สึกชอบ ก็เลยเล่นมาเรื่อยๆ ครับ ทุกคนก็จะหาจุดตรงกลางของแต่ละคนครับ แล้วทุกคนก็จะมาแชร์กัน

พอร์ส : พวกเราจะไม่ซ้อมด้วยกัน เพราะการซ้อมมันทำให้เราทะเลาะกันมากขึ้น เพราะต่างคนก็มีเรื่องนั้นเรื่องนี้ ก็จะแยกกันไปซ้อม พอถึงเวลาก็มารวมและด้นสดกันเลย ซึ่งมันจะมีเซ้นส์ของเราเวลาไปหน้างาน อาจจะไม่ได้เล่นเป๊ะเหมือนต้นฉบับ แต่จะมีเซ้นส์จนเล่นจบได้ครับ และที่ไม่ได้ซ้อมด้วยกัน เพราะต่างคนเวลาว่างไม่ตรงกัน เพราะทุกคนในวงมาจากคนละโรงเรียนกันเลยครับ เราไม่ได้เจอกันที่สยามแล้วก็เริ่มเล่นเลย เราเจอกันที่เอเชียทีคครับ เราอาศัยการซ้อมโดยที่เราเลือกเพลงและไปซ้อมกันที่เอเชียทีค ก็คือซ้อมเวลาเล่นเปิดหมวกสดๆ เลย นั่นคือเวลาซ้อมของพวกเรา

มังกร : ครั้งแรกที่เล่นก็จำได้ครับ ด้วยความที่ผมไม่ค่อยอะไรมากอยู่แล้ว ก็เลยตื่นเต้นมากครับ แรกๆ ก็แอบมีตีผิดบ้างครับ แต่พอเล่นเรื่อยๆ ก็ทำให้เรากล้าขึ้นครับ ตอนที่ตีกลองก็นิ่งแบบนี้แหละ แต่ถ้าเกิดตีไปเรื่อยๆ เครื่องมันติดก็จะอีกฟีลครับ

เปิดหมวกครั้งแรกถูกแม่ค้าด่ายับ ได้เงิน 400 บาท เอาไปกินชาบู
พอร์ส : คือตอนแรกผมก็ร้องโคฟเวอร์กับน้องสาว (แพนเค้ก) ร้องตามยูทิวบ์ แต่ด้วยความที่เราก็เด็กคนนึง ร้องไปก็ไม่มีใครดูเลย มีแต่เพื่อนๆ แชร์กันเอง ก็เลยอยากลองไปเล่นให้คนอื่นได้เห็นบ้าง ก็เลยทำวงออกไปเล่น ประมาณ 600-700 วิว (หัวเราะ) แต่มันก็ไม่ใช่ทุกคลิปครับ มันเหมือนคลิปนั้นเราส่งให้เพื่อนแชร์ครับ

ที่ตัดสินใจไปเปิดหมวก อยากมีประสบการณ์ครับ คือก่อนหน้านี้เราไปเล่นพวกงานวันเด็ก ก็จะมีแต่เด็กดู ขนาดเป็นเด็ก ผมยังเขินเลย เขินมาก แต่แรกๆ ที่เราเล่นแทบจะไม่มีคนดูเลย แม่ค้าด่าด้วยซ้ำ (หัวเราะ) เพราะเมื่อก่อนผมไม่ใช่คนร้องเพลงมาก่อน ผมเล่นกีต้าร์อย่างเดียว เล่นให้น้องสาวร้องตลอด และพอเราเริ่มออกไปเล่นเสียงเรามันไม่โอเค แม่ค้าก็ด่า บวกกับเครื่องเสียงที่ตอนนั้นผมยังไม่มีกีต้าร์ที่เสียบแจ๊คได้เหมือนตอนนี้ คือเป็นกีต้าร์ที่เอาไมค์มาจ่อ เสียงมันก็จะหอนๆ (เล่นเปิดหมวกครั้งแรกได้กี่บาท?) ประมาณ 400 กว่าบาทครับ เอาไปกินชาบู (หัวเราะ)

ก่อนหน้านี้ผมเคยเล่นที่สยามตรงที่เขายืนรอรถเมล์กันอยู่แล้ว จริงๆ ปีที่แล้วเราก็มีฐานแฟนคลับอยู่แล้ว แต่ยังไม่เยอะ แต่เป็นกลุ่มที่เราไปเล่นแต่ละที่ๆ เขาก็ติดตามเรามาเรื่อยๆ ถามว่าคิดว่าคนจะเยอะขนาดนี้ไหม เอาตรงๆ ก็คิดว่าเยอะ แต่ไม่คิดว่าจะเยอะขนาดนี้ (หัวเราะ)

เขินมีคนมากรี๊ดๆ
มังกร : ก็ตื่นเต้นครับ แต่มีความมั่นใจขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะมาก ก็เลยมีความมั่นใจขึ้นครับ (จริงๆ เราเป็นคนขี้เขินไหม?) นิดหน่อยครับ ถ้ามีคนมากรี๊ด ก็เขินนิดหน่อย แต่ก็ต้องตีต่อครับ (ยิ้มหน้านิ่งอย่าต่อเนื่อง)

ปลื้มยอดฟอลฯ พุ่งทั้งวง
พอร์ส : ก็รู้สึกดีใจครับที่คนเห็นพวกเรา ยอดฟอลโลว์พุ่งทั้งวง คือนอกจากทุกคนจะติดตามผมกับมังกรแล้ว ก็อยากให้ทุกคนติดตามน้องๆ ในวงทุกคนด้วยครับ เพราะเวลาไปก็อยากให้ไปด้วยกันครับ อยากให้ขึ้นด้วยกัน

เขินมีด้อมเป็นของตัวเอง ดังแล้ววางตัวลำบาก
พอร์ส : ก็นิดนึงครับ (หัวเราะ) อย่างเมื่อกี้ไปที่บูธพารากอนก็มีแฟนคลับมารอเต็มเลยครับ ผมก็ไม่รู้จะทำตัวยังไง กลายเป็นมีด้อมแบบจริงจังเลยตอนนี้ ก็เลยงงๆ นิดหน่อย

มังกร : ก็เขินครับ แต่เริ่มปรับตัวได้แล้วครับ พอคนมาขอถ่ายรูปก็ถ่ายด้วยครับ

ครอบครัวขออย่าทิ้งการเรียน
มังกร : ที่บ้านก็ดีใจครับ แต่เขาก็บอกว่าอย่าทิ้งการเรียน

พอร์ส : และบอกว่าอย่าลืมที่ๆ เราเคยมา คือจุดเริ่มต้น อย่างเช่นเป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้น คือเวลาที่ไม่มีคนดู ตังค์ได้แค่ 400 ห้ามลืมตรงนั้น ผมเชื่อว่าการดังไม่ยาก ใครก็ดังได้ แต่ถ้าดังแล้วต้องอยู่ได้นานดีกว่า ก็คุยกันในวงครับ ต้องประชุมกัน

มังกร : คือที่แรกๆ เป็นที่ที่ให้โอกาสพวกเรา ถ้าไม่มีตรงนั้นก็ไม่มีวันนี้

ฮอตมาก หนึ่งเดือนมีงาน 28 วัน
พอร์ส : ตอนนี้ไม่มีเวลาซ้อมเลยครับ เดือนนึงมี 30 วัน งานล่อไปแล้ว 28 วัน (หัวเราะ) มีงานแทบทุกวันเลยครับ เช้า กลางวัน เย็น มีไปต่างจังหวัดด้วยครับ อย่างเล่นที่อุตรดิตถ์แล้วก็ไปต่อเชียงใหม่ พอเสร็จตอนเย็นกลับมาเล่นคอนเสิร์ตที่ลิโด้ มันจะเป็นอย่างนี้เยอะมาก

ทำแล้วมีความสุขก็ทำไปเรื่อยๆ
มังกร : การเล่นดนตรีของเราตอนแรกมันเริ่มจากงานอดิเรกครับ แต่พอเล่นไปแล้วมันคือสิ่งที่ชอบและสามารถเอามาทำเป็นงานได้ด้วย ทำแล้วมันก็มีความสุขครับ ก็ทำไปเรื่อยๆ เต็มที่ไปก่อน

ค่ายเพลงติดต่ออื้อ แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจ
พอร์ส : ก็อยากมีซิงเกิ้ล อยากเล่นคอนเสิร์ต อยากมีผลงานครับ คือก่อนหน้านี้เราอยากมีทะเลดาวของตัวเอง ตอนนี้เราก็มีแล้ว (มีค่ายเพลงติดต่อมาหรือยัง?) ตอนนี้มีเต็มเลยครับ แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจเลยครับ

มังกร : ก็ติดตามได้ที่อินสตาแกรมนะครับ yes indeed band และอินสตาแกรมแยกของแต่ละคนครับ

พอร์ส : และเราจะเล่นที่สยามหลักๆ คือทุกวันศุกร์นะครับ และอาจจะมีอัปเดตเปลี่ยนแปลงวันเวลาบ้าง เราจะอัปเดตทางไอจีสตอรี่และทางเพจของวงนะครับ