“เจมมี่เจมส์” เปิดบริษัทดูแลศิลปิน เผยไลน์อัปปี 2022 ประเดิมด้วย JMJ : LESSON 25 ยอมพูดเรื่องรักครั้งแรก พร้อมชวนแฟนมาเปิดตัว ค้นเจอตัวเองในวัย 25 ที่ชอบการทำอาหาร ถ้ามีช่วงว่างจะไปเรียนเพิ่ม จัดเชฟส์เทเบิ้ลไปแล้ว 2 ครั้ง หวังเป็นเบญจเพสที่ดี ให้ Documentary พาปัง ด้านหนัง Thirteen Lives ปีนี้ได้ดูแน่นอน
ออกมาเปิดบริษัทของตัวเองอีกคนหนึ่งแล้ว สำหรับ “เจมมี่เจมส์” หรือ “เจมส์ ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ” อดีตเด็กในสังกัดของนาดาวบางกอก ที่ได้ฤกษ์เปิดตัวบริษัทใหม่ “JMJ LABEL” ในวันนี้ (13 มิ.ย.) โดยได้เชิญสื่อมวลชนไปร่วมยินดีกับก้าวใหม่ พร้อมเผย LINE UP ปี 2022 ของบริษัท ประเดิมด้วยโปรเจกต์ Documentary | JMJ : LESSON 25
“JMJ LABEL ครับ เราสร้างมาสักพักแล้ว แต่เรายังไม่ได้มูฟกับมัน ยังไม่ได้มีมูฟเมนต์ ยังไม่ได้ทำคอนเทนต์ออกมา เหมือนรอจังหวะที่เราพร้อมจริงๆ แล้วก็ปล่อยมันออกมาครับผม ซึ่งวันนี้ก็เป็นวันแรก ที่เราเชิญพี่ๆ สื่อมา ก็พร้อมแล้วแหละ ที่เราจะปล่อยคอนเทนต์แรก แล้วก็พร้อมจะเดินหน้าต่อใน JMJ LABEL ครับ”
“JMJ LABEL” คือบริษัทดูแลศิลปิน และผลิตคอนเทนท์ ตอนนี้มีศิลปินคนเดียวคือตัวเอง
“JMJ LABEL คือบริษัทที่ดูแลศิลปินนี่แหละครับ เราจะดูแลศิลปิน พัฒนาศิลปิน ขายงาน แล้วเราก็มีโปรดักชั่นที่เราจะผลิตคอนเทนต์ด้วยตัวเองครับ ซึ่งศิลปินก็มีผมคนเดียวนี่แหละ (หัวเราะ) เปิดตัวเอง”
ปล่อยคอนเทนต์แรกไปแล้ว เป็นทีเซอร์ Documentary | JMJ : LESSON 25
“อันแรกที่ล่าสุดเพิ่งปล่อยไป เป็นทีเซอร์ครับ LESSON 25 Documentary เรารู้สึกว่าเราอยากเอาตัวนี้ออกมาเป็นคอนเทนต์แรก เพราะรู้สึกว่าอยากจะให้มันเป็นการแนะนำตัวเองใหม่อีกครั้งหนึ่งแล้วกันครับ จริงๆ ผมรู้สึกว่าผมหายไปจากวงการประมาณหนึ่งเหมือนกันนะ ตั้งแต่ไปถ่ายหนังที่ออสเตรเลีย แล้วเราก็ไม่ได้ทำอะไรเลย เหมือนเราไปอยู่กับตัวเอง ไปค้นหาตัวเอง แล้วก็รอจังหวะที่เราพร้อมจริงๆ ซึ่งวันนี้แหละ เราอยากจะกลับมา เราว่าเราเจอตัวเองแล้วในวัย 25 ปี ก็ทำเป็น Documentary ที่อยากจะแนะนำตัวเองใหม่กับทุกคนครับ”
การรับงานยังเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือการทำเป็นบริษัท แม้จะยากแต่ก็เอ็นจอย
“ความท้าทายเหรอ ผมว่ามันเหมือนเดิมนะ คือผมรู้สึกว่าวิธีการที่เราเลือกรับงาน เวย์ที่เราทำงานมันยังเหมือนเดิม แต่พอมันเป็นพาร์ตที่มันเป็นบริษัท มันจะมีเรื่องอื่นที่เราต้องเจอมากขึ้น เรื่องคน เรื่องรายจ่ายหลายๆ อย่าง เรียกว่าเป็นพาร์ตที่ยากก็ได้ แต่มันก็สนุกดีนะ มันได้ท้าทาย เราสนุก เราเอ็นจอยกับมัน พร้อมที่จะพัฒนาต่อไป”
ค้นเจอตัวเองในวัย 25 ปี ที่ชอบทำอาหารมาก
“ผมชอบทำอาหารมากเลย ตอนนั้นไปมาสเตอร์เชฟมา แล้วก็ไม่รู้ว่าเราจะไปอินกับการทำอาหารมากขนาดนี้ครับ จริงๆ ถ้ามีช่วงว่าง ผมก็อยากไปเรียนทำอาหารต่อ แต่ตอนนี้ก็ไว้ก่อนๆ เพิ่งรับปริญญาไป”
มีโอกาสได้ทำเชฟส์เทเบิ้ล (Chef's Table) ของตัวเองไปแล้ว 2 ครั้ง
“ใช่ครับ มีทำเชฟส์เทเบิ้ล (Chef's Table) ไป 2 ครั้ง ประมาณ 7 รอบ ก็ฟีดแบ็กดี พอเราเห็นคนที่ทานแล้วเขาแฮปปี้กับรสชาติที่เราทำมา มันแฮปปี้เนาะ เหมือนเราเป็นส่วนหนึ่งในหนัง แล้วคนดูบอกว่าชอบหนัง เหมือนกันเลยครับ เวลาเราทำอาหารจานหนึ่งแล้วอร่อยจังเลย”
ไม่รู้ตอนนี้เรียกประสบความสำเร็จไหม เพราะถามตัวเองอยู่เหมือนกัน แต่แค่ได้เจอสิ่งที่ทำให้มีความสุขก็แฮปปี้แล้ว
“ที่จริงผมเคยถามตัวเองเหมือนกันนะ เป็นคำถามที่แบบ คำว่าประสบความสำเร็จเนี่ย มันคืออะไรกันแน่วะ ผมว่าทุกคนแม่-อยากประสบความสำเร็จอยู่แล้ว เหมือนเราวิ่งเข้าหาคำว่าประสบความสำเร็จอย่างเดียว มันมีช่วงหนึ่งในชีวิต ที่เรารู้สึกว่าเราอยากประสบความสำเร็จเหลือเกิน แต่การประสบความสำเร็จมันคืออะไรวะ เราไม่มีคำตอบให้กับตัวเองเหมือนกัน ว่าอะไรมันคือประสบความสำเร็จ มีเงิน 10 ล้าน มีเงิน 100 ล้านเหรอ หรือมีคนฟอลฯ 10 ล้านคน อะไรคือประสบความสำเร็จกันแน่ ซึ่งสำหรับผมแล้วอะ ผมไม่รู้เลยว่าเราประสบความสำเร็จหรือเปล่า เรารู้สึกแค่ว่าวันนี้เราเจอสิ่งที่เราทำแล้วเรามีความสุข เราเป็นตัวเองได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แล้วเราแฮปปี้ไปกับมัน เราไม่รู้ว่ามันจะประสบความสำเร็จหรือเปล่าในสายตาคนอื่น แต่สำหรับเราเราเอ็นจอยกับมัน”
ไม่กดดันเรื่องเปิดบริษัท กลับรู้สึกสนุกมากกว่า ที่ได้ปล่อยแพชชั่นลงไปในผลงานของตัวเอง
“เอาจริงๆ ผมไม่กดดันนะ ผมสนุกมากเลยอะ แต่ละวันมันเจออะไรหลายๆ อย่าง แต่ทุกคนคาดหวังให้คืนทุนอยู่แล้วครับ (หัวเราะ) อันนี้มันเป็นพื้นฐานการทำธุรกิจเลยแหละ แต่ว่าพอมันเป็น JMJ LABEL มันไม่ใช่ธุรกิจที่เราทำเพื่อหวังเงินอย่างเดียว ผมรู้สึกว่าความคาดหวังของเรา มันมากกว่านั้น มันคือการที่เราได้ทำคอนเทนต์ที่มันเป็นเราร้อยเปอร์เซ็นต์ เป็นคอนเทนต์ที่เราอยากได้ เราได้ปล่อยแพชชั่นและความชอบของตัวเอง ลงไปในผลงานของเรา ในแบบที่เป็นเรา แล้วถ้าคนอื่นชอบด้วย ผมแฮปปี้แล้ว”
ตอนนี้ขอดูแลตัวเองให้รอดก่อน แล้วแพลนต่อไปค่อยว่ากัน
“ตอนนี้เราของดูแลตัวเองให้มันรอดก่อนเนาะ ให้ JMJ LABEL มันสตรองพอ ให้ตัวผมเองมันสามารถยืนหลักได้ด้วยคงตัวคนเดียวก่อน แล้วเรื่องอนาคตเดี๋ยวเราว่ากัน ว่าแพลนต่อไปมันไปได้ถึงขนาดไหนครับ”
กับหนัง Thirteen Lives ปีนี้ได้ดูกันแน่นอน
“ปีนี้ครับ ที่จริงมันมีข่าวออกมาแล้วแหละ แต่ว่าผมไม่แน่ใจว่าพูดได้มากน้อยขนาดไหน แต่ว่าภายในปีนี้ อีกไม่นานก็น่าจะได้ดูกัน ในช่องทางที่น่าจะเป็นสตรีมมิ่งนะ ไม่แน่ใจเหมือนกันอันนี้ พูดไม่ได้ แต่ไม่นานแน่นอนครับ อยู่ในรับกับที่น่าจะใกล้ปล่อยเทรลเลอร์แล้ว”
ตอนถ่ายทำตื่นเต้นมาก แถมยังได้รับประสบการณ์ที่เงินซื้อไม่ได้
“ตื่นเต้นครับ อย่างที่บอกสำหรับผมมันก็เป็นจุดที่ใหญ่มากในชีวิตและพอเราได้ไปทำงานกับเขาได้ประสบการณ์ที่เงินซื้อไม่ได้ ดีใจมากและเป็นสิ่งที่น่าจดจำมาก ผมตื่นเต้นมากและอยากดูเหมือนกัน ผมว่าไม่ใช่แค่งานนี้หรอกครับ ทุกๆ งานเวลาเราถ่ายหนัง ถ่ายซีรีส์เสร็จ เราอยากดูผลงานตัวเองอยู่แล้วครับ”
ยังติดต่อกับกรุ๊ปคนไทย ที่ไปถ่ายทำด้วยกันอยู่ ล่าสุดก็นัดเจอกับ “เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ”
“ติดต่อครับ เพิ่งเจอล่าสุดเอง ก็นัดในกรุ๊ปที่เป็นคนไทย ก็จะคอยนัดกันเรื่อยๆ นัดกันมาร้านผมบ้าง นัดกันไปร้านพี่ปูบ้าง เราคอยนัดเจอกันเรื่อยๆ ครับ ทุกคนตื่นเต้นครับ ทักคุยกันในกรุ๊ปตลอด ก็ไปถ่ายกันมาปีกว่าแล้ว ผมไปช่วงมีนาคมปีที่แล้ว”
ยอมพูดเรื่องรักครั้งแรก หลังคบกันแฟนมา 8 ปี อยากแนะนำให้ทุกคนรู้จัก เพราะเป็นสิ่งสำคัญกับชีวิต
“ใช่ครับ ปกติผมจะไม่ค่อยพูดเรื่องแฟนเท่าไหร่ เรารู้สึกว่าเรามีสเปซที่รู้สึกว่าเราไม่ได้อยากให้คนอื่นเข้ามายุ่ง แต่พอมันถึงวันนี้ที่ผมรู้สึกว่าวันนี้โอเค เราอยู่มา 8 ปีแล้วแหละ แล้วผมก็รู้สึกว่าเราอยากแนะนำเขาให้รู้จักแล้ว เขาเป็นสิ่งที่สำคัญมากในชีวิตเรา อย่างที่ผมบอกไป Documentary 5 อย่างที่เลือกมา มีความหมายกับชีวิตของผม เป็นสิ่งที่สำคัญในชีวิตของผม แล้ววันนี้แฟนผมก็เป็นคนหนึ่งที่สำคัญกับชีวิตผม ก็เลยรู้สึกว่า วันนี้ถ้าเราจะแนะนำตัวเองแล้วเนี่ย ผมก็อยากให้ทุกคนได้รู้จักแพรไปด้วยเหมือนกันครับ”
เป็นการตัดสินใจของตัวเอง ที่ไม่ขอพูดเรื่องรัก ทั้งๆ ที่คบกันมาตั้งแต่ก่อนเข้าวงการ
“อันนี้เป็นเราตัดสินใจเองครับ ใน Documentary ถามว่าเปิดหมดเปลือกไหม ผมว่าก็หมดนะ เพราะว่าน่าจะมีหลายอย่างเหมือนกัน ที่ผมเองก็ยังไม่รู้ ว่าเขามีความคิดอะไรอยู่ในบางอย่าง ผู้กำกับน่าจะรู้เยอะกว่าผม”
ขำๆ มัดมือชก ขอให้ “แพร” มาแจมใน Documentary ด้วย
“มัดมือชกครับ (หัวเราะ) พูดเล่นๆ ก็คุยกันก่อนครับ ว่าเอาอีพีหนึ่งไหม เขาก็โอเค ไม่ได้ติดอะไร”
เปิดตัวแล้วก็เหมือนเดิม เพราะไม่ได้ปิดอะไรตั้งแต่แรก
“ก็เหมือนเดิมนะครับ ผมก็ไม่ได้ปิดอะไรอยู่แล้วตั้งแต่แรก เปิดตั้งแต่วันแรกแค่ไม่ได้ลงรูปบ่อย เรารู้สึกว่าเราสบายใจแบบนี้ ถามว่าทำไมเราอยู่กันได้นานขนาดนี้ทุกอย่างอยู่ใน Documentary (หัวเราะ) บอกไม่ได้ๆ อีพี 5 ครับ อีกประมาณเดือนกว่าๆ รอหน่อยๆครับ ความรักก็ถือว่าลงตัวครับ (ยิ้ม)”
หวัง Documentary | JMJ : LESSON 25 จะพาปัง
“ก็หวังว่าให้ปังครับ อะไรจะเกิดต้องเกิดครับ ก็ขอให้มีแต่สิ่งดีๆ เข้ามาแล้วกันเนาะ”
ขอให้เป็นเบญจเพส 25 ที่ดี
“เดี๋ยวย้ายสัญชาติไปแป๊บหนึ่งแล้วค่อยกลับมา จะได้ไม่มีเบญเพส (ยิ้ม) ผมเคยคิดเรื่องนี้นะช่วง 25 ที่เบญจเพส ผมว่าเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่ออีกอันหนึ่ง เหมือนย้าย ม.ปลาย เข้ามหาวิทยาลัย อายุ 25 เหมือนเป็นช่วงที่เริ่มทำงานได้ 2-3 ปี มันอาจจะเจอตัวเองอะไรบางอย่าง เหมือนเป็นจุดเปลี่ยนตามสถิติแล้วมันช่วงเวลาชีวิตที่คนจะเปลี่ยนอะไรสักอย่าง ผมก็เลยรู้สึกว่าที่จริงมันค่อนข้างสถิติแหละ ก็เลยไม่ได้กังวลกับเรื่องนี้ แต่ถ้ามีจริงๆ ก็ขอให้เป็นเบญเพสที่ดีแล้วกันครับ”