ทำเอาแฟนๆเป็นห่วงกันหนักทีเดียวเมื่อ “จัสติน บีเบอร์” ได้โพสต์คลิปล่าสุดลงในอินสตาแกรมเพื่อเผยให้เห็นอาการป่วยของตนเองที่กำลังทรมานกับอาการอัมพาตครึ่งหน้า พร้อมขอประกาศเลื่อนคอนเสิร์ตออกไปก่อนเพื่อขอรักษาตัว
จัสติน บีเบอร์ ได้บอกกับแฟนๆของตนเองว่าตอนนี้เขากำลังป่วยด้วยโรค แรมซีย์ ฮันท์ ซินโดรม หลังโดนเชื่อไวรัสเข้าทำลายเส้นประสาทในหูของเขา จนกระทบให้ใบหน้าบางส่วนไม่สามารถขยับได้ ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าอาการของเขาค่อนข้างซีเรียสมากทีเดียว
นักร้องหนุ่มวัย 28 ปีที่กำลังเดินสายทัวร์คอนเสิร์ต Justice World Tour โดยตอนนี้อยู่ระหว่างเดินสายในอเมริกาเหนือ ก็ได้ระบุว่าเขาต้องยกเลิกคอนเสิร์ตใน โตรอนโต, วอชิงตัน ดีซี และ นิวยอร์ก ออกไปก่อน
ซึ่งในคลิปความยาว 3 นาที จัสติน บีเบอร์ พยายามโชว์ให้แฟนๆได้เห็นว่าเขาทั้งยิ้ม ขยิบตา และขยับใบหน้าแล้ว แต่ใบหน้าฝั่งขวาของเขาไม่สามารถขยับได้จริงๆ ซึ่งเขาจะขอไปฝึกซ้อมเพื่อฟื้นฟูเส้นประสาทบนใบหน้าให้กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง
“มันคือไวรัสที่ทำลายเส้นประสาทในหูผม บนใบหน้า ซึ่งทำให้หน้าผมกลายเป็นอัมพาต อย่างที่คุณเห็นตาผมมันขยิบไม่ได้ หน้าผมซีกนี้ยิ้มไม่ได้ รูจมูกก็ขยับไม่ได้ เพราะฉะนั้นหน้าผมฝั่งนี้เป็นอัมพาตทั้งหน้า”
อัลบัมล่าสุดของเขาที่ใช้ชื่อว่า Justice ปล่อยออกมาเมื่อเดือน มี.ค. 2021 ประสบความสำเร็จทั้งในอเมริกาและอังกฤษ และได้เริ่มเดินสายทัวร์ในแถบอเมริกาเหนือซึ่งกำหนดจบคอนเสิร์ตในอเมริกาเหนือคือเดือน ก.ค. ที่จะถึงนี้
“ดังนั้นสำหรับใครที่ผิดหวังต่อการยกเลิกการแสดงของผม ผมมีแค่ร่างกาย ที่เห็นชัดว่ามันไม่สามารถขึ้นแสดงได้ นี่คืออาการที่ค่อนข้างซีเรียสอย่างที่ทุกคนเห็นเลย”
“ผมหวังว่ามันจะไม่หนัก แต่ชัดเจนว่าร่างกายมันกำลังบอกผมว่าให้ผมช้าลงอีกสักนิด”
“ผมหวังว่าทุกคนจะเข้าใจนะครับ ผมจะขอใช้เวลานี้ไปกับการพักผ่อน และผ่อนคลายตัวเอง เพื่อจะได้กลับมาแบบ 100% และได้ทำในสิ่งที่ผมเกิดมาเพื่อจะทำ เพียงแต่ว่าตอนนี้ผมไม่สามารถทำได้แค่นั้นเอง”
“ผมไม่รู้ว่าต้องใช้นานแค่ไหนแต่มันจะไม่เป็นไร ผมมีความหวังและผมก็เชื่อในพระเจ้า ผมเชื่อว่าทั้งหมดมีเหตุมีผลของมัน ผมก็ไม่แน่ใจหรอกว่าตอนนี้คืออะไร แต่ระหว่างนี้ผมจะต้องพักก่อน”
อย่างไรก็ตามตอนนี้เจ้าตัวขอเลื่อนคอนเสิร์ตทางอเมริกาเหนือ โดยยังไม่มีการยืนยันว่าคอนเสิร์ตทางฝั่งเอเชียรวมถึงประเทศไทยจะได้รับผลกระทบตามมาด้วยหรือไม่