“แอนนา ทีวีพูล” ปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา ยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง ไม่เคยคิดหนี เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด ลั่นตนทำหน้าที่เป็นแค่พรีเซ็นเตอร์ ส่วนตำแหน่ง CEO เป็นแค่ชื่อลอยๆ เพื่อดึงดูดลูกค้าเท่านั้น ลั่นตั้งใจเปลี่ยน 4 ชุดสู้ไมค์รุม เพราะในชีวิตคงไม่ได้มีแบบนี้บ่อยๆ เพิ่งรู้ถูกอีก 1 หมาย มีดาราคนหนึ่งฟ้องด้วย
กลับมาเปิดใจด้วยตัวเองแล้ว สำหรับ “แอนนา ทีวีพูล” ที่ก่อนหน้านี้มีกรณีที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเรื่องของโชคดีลอตเตอรี่ ที่มีชื่อว่าเจ้าตัวเป็น CEO และมีการขายสลากทิพย์เกิดขึ้น ซึ่งเมื่อช่วงเช้าตรู่พอลงเครื่องที่สนามบินปุ๊บก็ถูกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบพาตัวมาที่สน.ทองหล่อทันที ซึ่งหลังจากที่เข้าไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมครึ่งวัน แอนนา พร้อม “นายอาคม คงสวัสดิ์” ทนายความส่วนตัวก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เปิดใจว่า ไม่คิดว่าตำรวจตม.จะถ่ายรูปตนส่งสื่อ ทั้งๆ ที่ตนขอไว้แล้ว
“วันนี้มาประกันตัวและรับทราบข้อกล่าวหาค่ะ จริงๆ ไม่เครียดและไม่กดดันเลยนะคะ ที่กดดันจริงๆ คือก่อนมามากกว่า เพราะเราเจอข่าวเยอะ ไม่ว่าจะเป็นข่าวว่าทำไมไม่มางานเพื่อน หรือว่าข่าวหนีออกนอกประเทศบ้าง หรือข่าวบอกว่าจะไม่กลับแล้ว และเมื่อเช้าพอลงเครื่องมาก็ตกใจ เพราะตอนนั้นบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าอย่าเพิ่งถ่ายนะคะ คือเราทราบว่ามันมีกฎหมายที่ดูแลเรื่องของสิทธิส่วนบุคคลที่ว่าถ้ายังไม่สะดวกให้ถ่าย
ก็บอกเจ้าหน้าที่ตม.ว่าอย่าเพิ่งถ่าย แต่ก็ไม่คิดว่าตม.จะถ่าย และมาส่งพี่ๆ สื่อ แต่หนูไม่ได้โกรธนะคะ เพียงแต่ถ้าเป็นคนธรรมดาที่ถูกกล่าวหา แล้ววันนึงเขาไม่ได้ผิด มันก็จะกลายเป็นตราบาปของเขาไปตลอดชีวิต แต่แอนนาอยู่ในสื่อ แอนนาพูดได้ตลอด สมมติวันนึงศาลบอกว่าไม่ผิด แอนนาก็มาพูดได้ วันนี้ยอมรับว่าเสียใจมากพอรู้ว่าตัวเองโดนถ่ายคลิป เพราะตอนลงมาจากเครื่องมันมีหลายคนที่เดินมาพร้อมเรา และเราก็เกรงใจว่าคนที่อยู่ในคลิปที่เขาโดนถ่ายติดไปด้วย บางทีเขาอาจจะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเพื่อนแอนนาหรืออะไรแบบนี้
ก็เลยรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องสำคัญนะสำหรับกฎหมายที่ออกมา มันเป็นการคุ้มครองสิทธิ และแอนนาก็ไม่คิดว่าจะถูกคุกคามจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพราะแอนนาถามเจ้าหน้าที่ว่านี่เป็นการถ่ายเพื่อที่จะเอาไปทำอะไร ถ้าถ่ายออกสื่อบอกหนูก่อนนะ หนูจะได้หลบ อย่างน้อยติดเราคนเดียวไม่เป็นไร แต่พอติดคนอื่นที่เป็นผู้โดยสารลงมาพร้อมเรา เราจะทำให้คนอื่นลำบากโดยที่เขาไม่ควรจะต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ มันก็เลยรู้สึกไม่ดีค่ะ”
ปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา ยืนยันไม่ใช่ CEO
“ตอนนี้ปฎิเสธทุกข้อกล่าวหาค่ะ แอนนาเป็นพรีเซ็นเตอร์ค่ะ และต้องขอโทษพ่อแม่พี่น้องชาวไทยด้วยที่หลายๆ คนเข้าใจว่าแอนนาเป็น CEO ต้องบอกก่อนว่าแอนนาถูกว่าจ้างมา ไม่ว่างานอะไรแอนนาก็รับและทำอย่างเต็มที่มาโดยตลอด หน้าที่ของแอนนาก็คือประชาสัมพันธ์ให้คนรู้จักบริษัทโชคดีลอตเตอรี่ เพราะตอนนั้นประชาสัมพันธ์กันเดือนมกราคม ก็ยังไปล่องเรือกันอยู่เลยค่ะ ต้องบอกว่าตัวแอนนาไม่ได้มองว่าธุรกิจนี้ผิดกฎหมายและไม่คิดว่าเป็นสลากทิพย์ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ แอนนาจะไม่ทำแน่นอน
พี่ๆ น่าจะรู้อยู่แล้วว่าค่าตัวแอนนาเวลาไปออกรายการทอล์กหรืออะไรต่างๆ มันได้มากกว่า 1 แสนอยู่แล้ว ถ้าต้องมาทำงานที่ผิดกฏหมายหรือที่มันไม่ถูกต้อง แล้วได้ในราคา 1 แสนบาท มันไม่มีใครโอเคอยู่แล้ว อันนี้ก็ยืนยันในเจตนาบริสุทธิเลยว่าเราไม่ทราบ ไม่รู้จะพูดยังไงเลยว่าแสนนึงกับการทำผิดกฎหมายบ้านเมือง เราไม่ทำอยู่แล้วค่ะ”
บอกไม่รู้เรื่องการขายสลาก
“ในการขายสลากก็คือ 80 บาทค่ะ แต่ในส่วนของรายละเอียดรงนี้แอนนาบอกตรงๆ ว่าแอนนาแค่มีหน้าที่ในส่วนของการประชาสัมพันธ์ หรือเผยแพร่บริษัท แต่รายละเอียดลึกๆ เรื่องของราคาต้นทุน แอนนาแทบจะไม่มีอำนาจตรงนี้ด้วยซ้ำ เราแทบจะไม่รู้เลยว่ากำไรหรือทุนเท่าไหร่ เพราะเราก็ทำหน้าที่ที่เราได้รับมาค่ะ ตรงนี้เรามีเอกสารทั้งหมด คือตอนแรกเริ่มที่จะจัดตั้งบริษัท ทางบริษัทก็ทาบทามมาว่าถ้าแอนนาเป็นพรีเซ็นเตอร์มันอาจจะดูไม่เท่าไหร่ คนอาจจะยังไม่อยากซื้อ แต่ถ้าแอนนามารับบทเป็น CEO หรือเป็นเจ้าของ คนน่าจะให้ความสนใจมากกว่า
ซึ่งแอนนาพูดตรงๆ ว่าแอนนาอยากเป็นเจ้าของอยู่แล้ว เพราะแอนนาชอบลอตเตอรี่ เมื่อก่อนซื้อหวยใต้ดินหนักกว่านี้อีก ก็เพิ่งมาเริ่มซื้อลอตเตอรี่นี่แหละค่ะ ดังนั้นพอเขาบอกว่าจ้างคุณแอนนา 1 แสนบาทมาทำหน้าที่ตรงนี้ เราก็แฮปปี้ พูดตรงๆ เมื่อก่อนหนูเป็นหนี้รายวัน 100 ละ 20 คือแสนนึงมันเยอะ ให้หนูทำอะไรหนูก็ทำ แต่ถ้าผิดกฎหมายหนูไม่ทำ เพราะอะไรที่มันผิดกฎหมายมันไม่คุ้มกับการที่เราจะอยู่ตรงนี้ ขั้นตอนการจัดตั้งบริษัท ใช้คนจดทะเบียน 3 คนค่ะ เขาก็เลยมาขอความร่วมมือจากแอนนา ก็เริ่มทำมาตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วค่ะ
ซึ่งหลังมีเรื่องเรามีการถามกับเจ้าของบริษัทตลอด เวลามีข่าวหนูจะเป็นคนแรกที่โดนถามว่า แอนนาสลากทิพย์ไหม มันมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น วันที่เกิดปัญหาหนูโทร.ถามเลย ตอนนั้นอยู่ปารีส หนูโทร.กลับมาว่ามันเกิดอะไรขึ้นคะ ก็ยังให้พุดเดิ้ลประสานว่ามันเกิดอะไรขึ้น เขาก็บอกว่ามันมีปัญหาภายในนิดหน่อย คือมีคนมาขายสลากแล้วก็ไม่เอาสลากมาให้ เราก็รับทราบ และบอกว่าพี่ต้องรีบจัดการนะ เพราะว่าหนูไม่ทราบและหนูต้องมานั่งรับหน้าก็บอกเขาไปแบบนี้ ก็เรียกว่าแอนนารับบทบาทเป็นพรีเซ็นเตอร์ดีกว่าค่ะ ถ้าบอกเป็น CEO ปลอมมันดูแปลกๆ”
เสียใจสื่อพาดหัวว่าโดนรวบ เพราะตนตั้งใจมาสน.เองอยู่แล้ว
“ที่พาดหัวข่าวเมื่อเช้าหนูเสียใจมากเลย รวบคาสนามบิน จริงๆ ไม่ใช่รวบคาสนามบินนะ หนูประสงค์ที่จะมาด้วยตัวเอง และตำรวจมาเยอะก็ดีใจ มากัน 8-9 คน แต่หนูมาคนเดียว ก็ตกใจนิดนึง เวลาพาดหัวข่าวช่วยหนูหน่อยนะคะ ไม่ได้รวบคาสนามบิน แต่แอนนามาด้วยตัวเอง แต่หนูไม่เอาผิดพี่ๆ สื่อหรอก คนด่าหนูเป็นพัน เป็นร้อยในโซเชียล โดยที่เขายังไม่ได้รู้เลยว่าหนูผิดหรือถูก หนูอภัยให้ทุกคนเลยนะ วันก่อนหนูโดนด่าว่าหนีตูดบาน อดีตโสเภณี
คือต่อให้อดีตหนูจะเป็นอะไรก็ตาม หนูมองว่าไม่ควรจะเอาเรื่องแบบนี้มาตอกย้ำในตัวหนู มันไม่มีใครอยากเอาตัวเองมาถูกย่ำยีซ้ำๆ หลายๆ ครั้ง หลายคนบอกว่าให้แอนนาฟ้อง แต่แอนนาไม่ฟ้อง เพราะถ้าฟ้องต้องฟ้องอีกกี่คนถึงจะจบ แอนนาให้อภัยกับทุกคนไม่ว่าจะคอมเมนต์ด่า หรือบางครั้งบางท่านที่เขียนเป็นเชิงเหยียดเพศหรือเหยียดอาชีพ วันนี้แอนนาให้อภัยค่ะ แต่ไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก เพราะสังคมไทยควรจะก้าวผ่านเรื่องแบบนี้ได้แล้ว การเป็นกะเทยไม่ได้ผิด การเป็นโสเภณีก็ไม่ได้ผิด มันอาจจะผิดกฎหมายนะ แต่สำหรับแอนนารู้สึกว่ามันไม่ได้ผิด
เรื่องเหยียดอะไรต่างๆ หนูไม่ได้ซีเรียสว่ามันจะกระทบกับการงาน แต่หนูซีเรียสว่าหนูมีลูก ลูก 6 ขวบแล้ว หนูไม่อยากให้ลูกมาอ่านข่าวแม่ตัวเองว่าแม่หนีคดี หนีตูดบาน คือโทร.หาลูกแล้วลูกบอกว่าใครทำแม่ ทำไมแม่ต้องร้องไห้ คือเราโดนเราไม่ได้รู้สึกเจ็บ แต่เวลาลูกเราพูดเรารู้สึกเจ็บ”
บอกยกเลิกสัญญาการเป็นพรีเซ็นเตอร์ และงานรีวิวอื่นๆ ตั้งแต่เกิดเรื่องของ “แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์” แล้ว
“จริงๆ เรื่องพรีเซ็นเตอร์ก็ยกเลิกไปนานแล้วค่ะ ตั้งแต่เกิดเรื่องเพื่อนของแอนนา เราก็ไม่มีจิตใจที่จะทำงานตรงนี้ แอนนาแจ้งกับทางบริษัทไปว่าเราขอยุติบทบาทตรงนี้ จริงๆ เรายุติมาตั้งแต่เกิดเรื่องแล้วนะคะ เพราะพี่ๆ จะสังเกตได้ว่าแอนนาไม่ได้รับงานรีวิวเลย ไม่ได้ทำงานอะไรเลยตั้งแต่เกิดเรื่อง มีแต่ไลฟ์สดขายของตัวเอง เพราะชีวิตยังต้องเดินต่อไปค่ะ ขนาดวันที่พ่อเลี้ยงตายก็ยังต้องมานั่งไลฟ์สดขายของกันอยู่เลย เรื่องลอตเตอรี่แอนนาหยุดมาตั้งแต่ตอนที่เกิดเรื่องโม พูดเดิ้ลรู้เพราะพุดเดิ้ลเคลียร์เรื่องงานให้ทุกอย่าง
การเป็นพรีเซ็นเตอร์ถามว่าเรามีส่วนได้ส่วนเสียกับการขายลอตเตอรี่ไหม ตรงนี้จะเล่าให้ฟังว่ามันมีข่าวที่เกี่ยวกับว่าเรารวยผิดปกติ แต่ตอนเป็นหนี้รายวัน 100 ละ 20 หายไปไหนกันหมด ตอนกู้เงินมาส่งรายวัน ส่งแชร์หายกันไปหมด แต่พอแอนนามีเงินแค่ 1-2 ล้านรวยผิดปกติ กระเป๋าแบรนด์เนมแอนนากล้าให้นับเลยว่าในบ้านมีกี่ใบ คือถ้าเทียบกับคนอื่นๆ แอนนายังมีน้อยด้วยซ้ำ แต่กลายเป็นว่าเรารวยผิดปกติ และไปโยงว่าขายลอตเตอรี่ทิพย์จะไม่รวยได้ยังไง แอนนากล้ายืนยันเลยว่าเอาระบบวีลิสต์มากางเลยว่าแอนนาขายของเช้าเย็น ขายจนคนด่าว่าทำไมไม่เคลียร์คดีให้จบก่อน แล้วค่อยออกมาขายของ ไม่ได้ค่ะ ยังต้องขายของอยู่”
ยังมั่นใจว่าโชคดีลอตเตอรี่ไม่ได้ทำอะไรผิด
“ถามว่าในช่วงที่เขากำลังมีเรื่องลอตเตอรี่กันอยู่ ทำไมแอนนาถึงกล้ารับเป็นพรีเซ็นเตอร์ หนูถามพี่ๆ สื่อกลับเลยว่าในขณะที่มีการกวาดล้างลอตเตอรี่ปลอม สลากทิพย์ แล้วบริษัทที่เราทำงานเขาขาย เราก็ยิ่งมั่นใจว่าเขาต้องทำตรงไปตรงมา ต้องทำถูกต้อง หนูก็ต้องคิดแบบนั้น และหนูก็ยังมั่นใจว่าเขาต้องทำถูกต้องค่ะ
ถามว่าแอนนาได้ขายด้วยไหม แอนนาไม่มีสิทธิในการขายค่ะ อย่าว่าแต่สิทธิในการขายเลย สิทธิในการที่จะรู้ว่าวันนี้ขายได้กี่ใบหนูยังไม่มีสิทธิที่จะไปรู้เลย คือเอาแค่สิทธิขั้นพื้นฐานที่หนูควรจะได้หนูยังไม่ได้เลย หนูมีสิทธิแค่วันนี้เราต้องโปรโมต วันนี้เราต้องประชาสัมพันธ์ อันนี้คือสิ่งที่หนูต้องทำในสัญญา ซึ่งหนูมีสัญญาพรีเซ็นเตอร์และสัญญาทุกอย่าง และสัญญายกเลิกพรีเซ็นเตอร์หนูก็มี ต่อให้เขาขายได้มากกว่านี้เป็น 20-30 ล้านใบหนูก็ได้เท่าเดิมค่ะ”
บอกไม่เคยคิดหนี เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด
“ที่หลายคนบอกว่ารู้ตัวว่าจะโดนจับก็เลยบินหนี แอนนาต้องบอกว่าแอนนาใช้ยานอนหลับก่อนหน้านี้ 2-3 เม็ดแล้วพอเกิดเรื่องนี้อีกเราใช้เป็น 6 เม็ด บวกกับช่วงนั้นติดโควิด ก็มาปรึกษากันในกลุ่มว่าเราจะทำยังไงดีกับเรื่องนี้ สรุปว่าจะพยายามไม่ใช้ยานอนหลับ และไปพักผ่อน ก็เลยแพลนไว้ 1 เดือน ซึ่งพอเราไปต่างประเทศมันก็เกิดเรื่องนี้พอดี มันเลยกลายเป็นว่าหนีคดี ไม่กลับมาแล้ว วันนี้ก็ยังกลับมาเห็นไหมคะ กลับมาต่อสู้ เพราะแอนนาไม่มีเจตนา ไม่มีความคิดที่จะหลอกลวงผู้บริโภค ดังนั้นแอนนาไม่มีความจำเป็นต้องหนี จะหนีทำไมในเมื่อเราไม่ได้มีเจตนา หรือไม่มีความประสงค์ที่จะทำแบบนั้นแต่แรก
ตอนนี้กังวลเรื่องข่าวค่ะ เรื่องแรกรวบคาสนามบิน เรื่องสองว่าแอนนาโต้ปัดเป็น CEO ปลอมอะไรแบบนี้ กลัวมากๆ (หัวเราะ) ขอพี่ๆ สื่อเมตตาหนูหน่อยนะคือลงอะไรลงเลย แต่คำว่ารวบคาสนามบินมันหมายความว่าแอนนาหนี และอยู่ดีๆ ตำรวจไปจับและรวบอะไรแบบนี้ แต่นี่เราแจ้งล่วงหน้าวันนึง แต่หนูขอบคุณพี่ๆ สื่อนะ 99% ดีหมดเลย น่ารักมาก ดีกับหนูมาก จะมีน้อยมากที่จะพาดหัวข่าวเหยียดเพศ เหยียดอาชีพ คือขอแค่เรื่องเดียวค่ะอย่าเหยียดเพศ อย่าเขียนว่านายแอนนา หรืออะไรที่มันเหยียดเราค่ะ”
บอกเปลี่ยนชุด 4 ชุด เพราะในชีวิตคงไม่บ่อยที่จะมีไมค์มารุมขนาดนี้
“วันนี้ที่เปลี่ยนชุด 4 ชุดเป็นความตั้งใจค่ะ คืออันนี้ต้องขอบคุณชาวโซเชียลมากๆ ตอนแรกคิดว่าจะมองข้ามเรื่องนี้ (หัวเราะ) ซึ่งอันนี้เป็นความตั้งใจ และเรามองว่าไมค์มารุมแบบนี้ ทั้งชีวิต และหนูไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี หนูไม่ได้มองว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ดี หนูก็เลยมาแสดงความบริสุทธิ์ด้วยตัวเอง แล้วไมค์เยอะขนาดนี้ ก็ต้อง 4 ชุดค่ะ (ยิ้ม)”
รับอยากย้ายไปอยู่อเมริกา เพราะอยากหาสามีฝรั่ง
“ที่เคยบอกว่าเตรียมย้ายประเทศ คือแอนนาเลิกกับสามีมานานแล้ว เคยบอกเมื่อ 2 ปีก่อนว่าเลิก แต่ตอนนั้นคนคิดว่าพูดเล่น แต่จริงๆ เราไม่มีเพศสัมพันธ์กันมานานมาก และใช้ชีวิตเป็นเพื่อนกันมานานแล้ว และพูดตรงๆ อยากมีสามีชาวต่างชาติ อยากไปอยู่อเมริกาค่ะ แต่ไม่รู้จะได้ไปหรือเปล่า เพราะต้องดูว่าเราสวยพอไหม อีกอย่างจริงๆ แอนนากินยาโรคซึมเศร้ามาถึงตอนนี้ 6 เม็ดแล้ว และมันกัดกระเพาะ
ปัญหาตอนเช้าคือปัสสาวะเป็นเลือด มันมีปัญหาจากไตเราทำงานหนัก ก็เลยรู้สึกว่าเรารับตัวเองไม่ได้เวลาที่โดนสังคมวิพากษ์วิจารณ์แต่เราไม่รู้ตัว ก็เลยคิดว่าถ้าเรายังอยู่แบบนี้ต่อไป เราน่าจะตายภายใน 3-7-10 วัน ดังนั้นเราก็หาที่ที่ไม่มีใครรู้จักเรา ไม่มีใครตัดสินเรา และใช้ชีวิตที่มันเรียบง่ายดีกว่า เพราะ 30 วันที่แอนนาหายไป แอนนามีความสุขมากๆ”
เผยเห็นใจ “ต๊ะ วินรวีร์ ใหญ่เสมอ” ที่โดนเรื่องนี้ด้วย แต่ยังรักกันดี
“เรื่องพี่ต๊ะหนูก็เห็นใจพี่ต๊ะมากเลยนะ เพราะข่าวก็พาดหัวเลยว่ารวบคาบ้าน แต่จริงๆ ไม่ได้รวบคาบ้านนะ เป็นการไปเชิญมาให้ข้อเท็จจริง แล้วพอมาถึงพี่ต๊ะก็พูดทั้งหมดออกไป ตัวแอนนาก็ไม่เคยพูดข้อเท็จจริงตรงนี้ จนถึงกระทั่งวันนี้ที่รู้สึกว่าเราต้องพูดแล้ว เพราะเราจะมานั่งเก็บไว้คนเดียวก็ไม่ได้ ก็ต้องพูดความจริงค่ะ กับพี่ต๊ะรักกันค่ะ และยังรักเสมอค่ะ”
ปัดโดนช่อง 8 ปลดจากรายการ
“เรื่องงานไม่ได้โดนปลดค่ะ แต่กลายเป็นว่าทางช่อง 8 นอกจากไม่ปลดแล้ว ให้รีบกลับไปทำงานเร็วขึ้นกว่าเดิม วันนี้ด้วยความโชคดีที่เรามาสน. เพราะเพิ่งทราบว่ามีอีกข้อกล่าวหาก็คือโดนดาราท่านนึงฟ้องมาก่อนหน้านี้แต่เราไม่เคยรู้มาก่อน ก็เพิ่งมารู้วันนี้ว่าเรามีอีกหมายนึง เป็นคดีวิพากษ์วิจารณ์ในการอ่านข่าวบันเทิง ก็เป็นเรื่องของพระเอกกับนางเอกค่ะ เดี๋ยวก็ต้องไปขอโทษเขาต่อ”
ด้าน “ทนายอาคม” ก็เผยว่าหลังจากนี้ก็จะรวบรวมพยานหลักฐานยื่นต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป
“ทั้งหมดมี 3 ข้อหาครับ 1. ฉ้อโกงประชาชน 2.ร่วมกันเป็นเจ้ามือพนันสลากกินร่วม 3.นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่คอมพิวเตอร์ครับ ใช้เงินประกันตัวไป 75,000 บาทครับ เรื่องการรับค่าจ้างพรีเซ็นเตอร์ในสัญญาระบุไว้ 1 แสนบาทต่อเดือนครับ ถามว่ามีเรื่องทำเกินหน้าที่พรีเซ็นเตอร์ไหม ไม่มีครับ เราแค่มีชื่อเป็นกรรมการเท่านั้น หลังจากนี้เราก็จะรวบรวมพยานหลักฐานนำเสนอตำรวจครับ ตอนนี้ตำรวจยังไม่ได้นัดครั้งต่อไปครับ
ถามว่าคุณแอนนาทราบไหมว่าเอาสลากมาขายต่อมันผิดกฎหมาย คือมันต้องแยกเป็น 2 เรื่อง 1.ถ้าขายในราคาที่กฎหมายกำหนด มันก็ไม่ผิด และ 2.มีสิทธิขายต่อได้นะครับ มันเป็นสิทธิของคุณ คุณซื้อลอตเตอรี่มาจะเอามาขายต่อเพื่อนได้ไหมล่ะ มันทำได้ครับ ไม่มีข้อห้ามนี่ครับ”