“กีฟ ดราภดา” เผยฤกษ์ดีแต่ง “บูม กิตตน์ก้อง” รอดูต้นปีหน้า คบมา 10 ปี ขยับออกไปอีกปีคงไม่เป็นไร แพลนจัดเป็นงานภายในแค่ครอบครัว ยังไม่ได้บอกพ่อแม่เป็นกิจจะลักษณะ ตกลงกันเข้าใจว่าไม่มีลูก บอกยุคสังคมแบบนี้ ไม่รู้จะเลี้ยงได้ดีแค่ไหน และส่วนตัวไม่ชอบเด็ก
หลังจากฤกษ์แต่งปลายปีที่แล้ว หาวันได้ไม่ลงตัว ล่าสุดว่าที่เจ้าสาว “กีฟ ดราภดา โสตถิพิทักษ์” ก็ได้ออกมาเคาะฤกษ์ใหม่อีกครั้ง โดยได้เผยในงานบวงสรวงละคร “มงกุฎกรรม” ว่ารอดูต้นปีหน้าว่า จะมีฤกษ์ดีไหม แต่คบกันมานานแล้ว รออีกหน่อยก็คงไม่เป็นไร และงานนี้ก็ตกลงกับหวานใจ “บูม กิตตน์ก้อง ขำกฤษ” เรียบร้อย ว่าจะไม่มีลูก
“ก็จริงๆ เราคุยกันมาเรื่อยๆ นะคะ แต่ว่าปีนี้มันไม่มีฤกษ์ ตอนแรกจะเป็นปลายปีที่แล้ว แต่ว่าวันไม่ได้ เราก็เลยจะมาดูปีนี้เมื่อต้นปี มันก็ยังไม่ได้อีกค่ะ ถามว่าเสียดายไหมก็ไม่นะคะ จริงๆ ก็คบกันมานานแล้ว ขยับไปอีกหน่อย ก็ไม่น่าเป็นไรค่ะ (หัวเราะ)”
รอฤกษ์ใหม่อีกทีต้นปีหน้า
“ใช่ค่ะ ก็ต้องรอดูต้นปีว่ามันมีฤกษ์ไหม ถ้ามีก็น่าจะได้สักทีค่ะ ที่แพลนกันไว้อาจจะไม่ได้จัดเป็นงานเลี้ยงแบบนั้นนะคะ เพราะเป็นช่วงสถานการณ์โควิด คิดว่าอาจจะจัดแค่ภายใน มีคุณพ่อคุณแม่ของสองฝ่าย ที่คุยๆ กันไว้นะคะ”
ยังไม่ได้พ่อคุณพ่อคุณแม่ว่าจะแต่งงานแล้ว แค่มีคุยเฉยๆ ชีวิตคู่ตอนนี้ดี ไม่มีอะไรต้องปรับ
“ยังค่ะ อย่าเพิ่งบอก (หัวเราะ) คือคุยกันเฉยๆ ค่ะ ชีวิตคู่ตอนนี้ก็ค่อนข้างดีนะคะ มันไม่ค่อยมีอะไรจะต้องปรับกันมากแล้วค่ะ เพราะว่าก็ทำความรู้จักกันมาจะ 10 ปีแล้ว ค่อนข้างโอเค ไม่ค่อยทะเลาะอะไรกันเท่าไหร่ มีแต่จะวางแผนอนาคตยังไง ให้มันมั่นคงไปเรื่อยๆ ขยายธุรกิจไปแบบนี้ค่ะ”
ตกลงกันเข้าใจว่าไม่มีลูก เพราะยุคสังคมแบบนี้ไม่รู้จะเลี้ยงได้ดีแค่ไหน และส่วนตัวไม่ชอบเด็ก
“เรื่องลูกคิดว่าไม่น่ามีค่ะ เพราะว่าด้วยยุคสังคมแบบนี้ เราไม่รู้ว่าจะเลี้ยงเขาได้ดีแค่ไหนด้วยส่วนหนึ่ง ก็เลยคุยกันว่าอาจจะไม่มี แต่พี่บูมชอบเด็กค่ะ กีฟไม่ชอบเด็ก (หัวเราะ) ไม่ชอบเด็กแบบเบบี๋ แต่อุ้มได้โอเค ความจริงก็ต้องคุยกันทั้งคู่นะคะ เหมือนว่าเราไม่อยากมี แล้วถ้าเขาอยากมี มันก็อาจจะไปด้วยกันลำบากแต่ว่าเราก็คุยกันมาเรื่อยๆ ค่ะ จนในที่สุดเขาก็บอกว่า อือ…ไม่มีก็ไม่มี คือเขาเป็นคนชอบเด็กค่ะ”
คุยกันด้วยเหตุผล ไม่ทะเลาะ
“ไม่นะคะ ส่วนใหญ่เราจะคุยกันด้วยเหตุผล ไม่ทะเลาะกัน แล้วก็พบจะบอกว่าทำไมถึงไม่อยากมี มีกับไม่มีแตกต่างกันยังไง เราคุยกันด้วยเหตุผล จนท้ายที่สุดก็เออ…ไม่มีแล้วกันแต่ทางคุณพ่อพี่บูมอยากได้หลาน แต่พ่อเราเฉยๆ ยังไงก็ได้ แล้วแต่เรา แต่ต้องพี่บูมเขาก็เพิ่งให้หลานชายไป ก็น่าจะโอเคอยู่ ทดแทนกันไป (หัวเราะ)”