xs
xsm
sm
md
lg

“มะตูม” โต้ทุบหน้าที่เกาหลี แค่ยกกระชับหน้า บอกลาเหมยตู! มีแฟนแต่ไม่อวด ไม่ใช่ “ณเดชน์-ญาญ่า”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“มะตูม เตชินท์” ยันไม่ได้ไปทุบหน้าที่เกาหลี แค่ไปทำยกกระชับ แต่ที่ต้องวางยาสลบเพราะใช้ยาแรงจึงต้องวางยา ถ้าตนจะทำศัลยกรรมคงต้องปรึกษาหมอดูก่อน เพราะกลัวโหงวเฮ้งจะเปลี่ยน เผยปรึกษา “หมอช้าง” บอกว่าขึ้นเลข 4 ค่อยทำ พร้อมเผยมีคนที่กำลังศึกษาดูใจอยู่ แต่คงไม่ถึงขั้นต้องเปิดตัวเป็นแฟน เพราะตนไม่ใช่คนดังระดับ “ณเดชน์-ญาญ่า” ตนแค่ตัวตลกของวงการ

เรียกว่าหลายคนรอลุ้นหน้าใหม่ของ “ดีเจมะตูม เตชินท์ พลอยเพชร” กันยกใหญ่ เพราะเจ้าตัวโพสต์ภาพว่าไปทำอัลเทอร์ร่าที่คลินิกชื่อดังที่เกาหลีนานถึง 1 ชม.เต็ม แถมที่หน้ายังมีผ้าพันเอาไว้อีกต่างหาก ซึ่งพอเจอเจ้าตัวที่งานแฟชั่นโชว์ Rainbow Runway for Equality ณ ลานสแควร์หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ มะตูมก็ยืนยันว่าไม่ได้ไปทำศัลยกรรม แค่เป็นการยกกระชับเท่านั้น

ต้องบอกก่อนว่าตูมไม่ได้ทุบหน้านะครับ (หัวเราะ) ตูมแค่ไปทำอัลเทอร์ร่า แต่ว่าต้องมีการวางยามอร์ฟีนเฉยๆ ครับ ก็อย่างที่เห็นครับ จริงๆ มันจะเห็นผลประมาณ 1-3 เดือน เพราะที่นู่นเขาใช้ช็อตแรงมาก มันเลยจำเป็นต้องวางยาสลบแบบอ่อนๆ เพราะที่ไทยเขาแค่ยาชา แต่ที่โน่นจะแรงกว่านิดนึง

จริงๆ อยากทำเพิ่มเหมือนกันนะ แต่ศัลยกรรมมันใจร้อนไม่ได้ ตูมเป็นคนที่ถ้าจะทำศัลยกรรมต้องศึกษาก่อน เพราะโหงวเฮ้งมันเปลี่ยนก็ไม่ดี แต่ถ้าที่ใจอยากทำคืออยากทำให้หน้ากระชับขึ้น เล็กลงกว่านี้สักคืบนึง เพราะเวลาตูมถ่ายรูปกับเพื่อนๆ ตูมสงสารเพื่อนที่หน้าเล็กกว่าเรามากๆ แล้วเราหน้าใหญ่ มันไปบังหน้าเขา คือแอปฯ เหมยตูมันก็ช่วยได้จริงๆ หนูก็เป็นราชินีเหมยตูอยู่นะ แต่เหมยตูมันช่วยด้านข้างไม่ได้ไง มันไปเล็กที่หน้าคนข้างหลังเรา เราก็ต้องเอาให้หน้าเราเล็กด้วย

ที่ทำมานี่ก็ช่วยเรื่องกระชับ ช่วยซ่อมเซลล์ให้มันกระชับแล้วมันจะดึงขึ้นมา จริงๆ ตูมว่ามันยกขึ้นมานิดนึงแล้ว บอกเลยว่าเป็นผู้หญิงอย่าหยุดสวย แต่เป็น LGBT อย่าหยุดสวยยิ่งกว่า ทุกวันตื่นมามันคือความที่จะต้องเติมเต็มทีละนิดละหน่อย แต่ถ้าพูดถึงเรื่องความสวยธรรมชาติ ตูมมองว่าใครไม่มั่นใจในการทำศัลยกรรมก็ไม่ต้องทำ เพราะคนเรามันสวยได้หลายรูปแบบ แต่ถ้าเกิดคุณมั่นใจว่าไม่เดือดร้อนใคร ไม่เดือดร้อนเงินใคร และมั่นใจในการทำ ก็ทำเลยครับ ศัลยกรรมไม่ได้เป็นสิ่งผิดครับ แต่ที่ตูมบอกว่าไม่คิดทำศัลยกรรมคือตอนนี้ แต่พอตูมไปเห็นหน้าแม่อ้วนรีเทิร์น แม่อ้วนสวยมาก แม่ไปดึงมา ก็รอดูแล้วกันครับ 5 ปีหลังจากนี้ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงก็แสดงว่าตูมทำ”

บอกต้องให้หมอโหงวเฮ้งช่วยดูก่อนถ้าจะทำศัลยกรรม
“อันดับแรกก่อนจะทำหน้า หมอที่ดูไม่ใช่หมอศัลยกรรมครับ เป็นหมอดูครับ (หัวเราะ) หมอดูต้องดูก่อนว่าช่วงอายุนี้เท่านี้ๆ ตูมก็ปรึกษาหมอช้าง (ทศพร ศรีตุลา) เลยนะ ว่าตูมเติมคางได้ไหม เขาก็เลยบอกว่าช่วงอายุนี้อย่าเพิ่ง รอเลข 4 ไปค่อยทำ ก็เชื่อหมอดูก่อน หมอช้างบอกว่าตอนนี้ดีแล้ว ออร่ากลับมาแล้ว หลังจากที่จมน้ำ ตอนนี้ฟื้นขึ้นมาแล้ว (หัวเราะ) จริงๆ ตอนนี้ใครทักอะไรตูมเชื่อหมดนะ ตั้งแต่เราไปอยู่กับพี่มดดำ (คชาภา ตันเจริญ) ตูมว่าตูมเชื่อเรื่องที่มองไม่เห็นเยอะขึ้นครับ ถามว่าต้องบินไปทำเกาหลีอย่างเดียวเลยไหม จริงๆ หมอไทยก็เก่งนะครับ ศัลยแพทย์ไทยเก่งมาก ติดต่อเข้ามาได้เลยนะครับ”

ยอมรับมีคนศึกษาดูใจแล้ว
“หัวใจมีหลายสีครับ เพราะเราเปิดรับอยู่แล้ว ไม่ได้ปิดอะไร ก็มีคนคุยครับ แต่ก็คงไม่ต้องมาเปิดตัวเป็นแฟน อวด มันไม่ได้อยู่จุดนั้นแล้วครับ แต่จะตอบแบบดาราว่าโฟกัสที่งาน ก็จริงๆ แหละมันควรโฟกัสที่งาน เพราะไม่อย่างนั้นเราจะไม่มีงานให้โฟกัส มุมมองเรื่องความรักของตูม ตูมมองว่ามันไม่ใช่ในเรื่องของเพศ ไม่ใช่เรื่องของฐานะ หรือชื่อเสียง มันเป็นเรื่องของความเข้าใจ ถ้าคนที่เราคบด้วยเขาเข้าใจและยอมรับตัวตนเราได้ และเรายอมรับเขาได้ มันไปด้วยกันได้อย่างแน่นอน

ที่ไม่เปิดตัวไม่ใช่เพราะกลัวจะโดนโฟกัส ที่ตูมไม่เปิดตัวเพราะตูมมองว่าตูมไม่ใช่ดารา คือตูมไม่ใช่ณเดชน์-ญาญ่ที่ต้องมีคู่ ตูมมองว่าชีวิตตูมมันเป็นเอ็นเตอร์เทนเนอร์ ตูมเกิดมาเพื่อเป็นคอมเมเดี้ยน เอาง่ายๆ คาแรกเตอร์ตูมเป็นตัวตลกของวงการ ใช้คำนี้ได้เลย เพราะฉะนั้น คนคงไม่อยากรู้หรอกว่าตูมคบใคร ไปไหนมาไหนกับใคร”

บอกธรรมมะทำให้ตนตกผลึกมากขึ้น
“ตูมมองว่าบุคลิกตูมไม่ได้ซอฟต์ลงหรอกนะ แต่ด้วยการตกผลึกอะไรบางอย่าง มันเลยทำให้เรามองว่าจริงๆ แล้วเราไม่จำเป็นต้องโผงผางทุกเรื่อง ไม่จำเป็นต้องตรงทุกเรื่อง ไม่จำเป็นต้องอยู่ข้างหน้าทุกคนทุกเรื่องก็ได้ อยู่ข้างหลังแล้วมองดูทุกคนบ้างก็ดี ถามว่าเพราะเราเข้าสู่ทางธรรมด้วยหรือเปล่า ตูมไม่อยากเอาเครดิตผ้าเหลืองมาชุบให้ตัวเองดูดีขึ้นนะครับ เพราะตูมเชื่อว่าหลักพระธรรมคำสอน ต่อให้ตูมไม่ไปศึกษา เขาก็ศักดิ์สิทธิ์ของเขาอยู่แล้ว แต่ตูมถือว่าโชคดีที่โอกาสครั้งนึงได้บวชเรียนและได้ศึกษาพระธรรม ต่อให้มันเป็นเวลาสั้นๆ เพียงแค่ 19 วัน แต่ว่ามันก็ทำให้ตูมตกผลึก และหันมารักตัวเองและรักคนใกล้ตัวมากขึ้นเท่านั้นเองครับ”











กำลังโหลดความคิดเห็น