xs
xsm
sm
md
lg

“แพจินยอง CIX” บินโปรโมตหนังเรื่องแรก “ร้านของเก่า” โปรเจกต์ยักษ์รวมนักแสดง 4 สัญชาติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผ่านพ้นไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับงานแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์ไทยเขย่าขวัญเรื่องล่าสุด “ร้านของเก่า” (The Antique Shop) ที่จัดขึ้นเมื่อวานนี้ (31 พ.ค.) ณ โรงภาพยนตร์สยามภวาลัย พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ภายใต้มาตรการความปลอดภัยจากโควิด-19 อย่างเข้มงวด ซึ่งบรรยากาศภายในงาน ก็คึกคักและหลอนไปพร้อมๆ กัน มีคนในวงการบันเทิง ผู้สนับสนุนใจดี และเหล่าแฟนคลับกว่า 350 ชีวิตเข้าร่วมด้วย

โดยมี 2 ผู้บริหารจาก 2 ประเทศ อย่าง “เอ๋ ศุภกร เหรียญสุวรรณ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เลยดูดี สตูดิโอ จำกัด ที่นั่งแท่นผู้กำกับด้วย และ คุณแดสมอน โกะ (Mr.Dasmond Koh) กรรมการผู้จัดการ บริษัท Nootalk Media จำกัด บริษัทมีเดียมาแรงจากประเทศสิงคโปร์ เป็นแม่ทัพนำทีมพาทุกคนเข้าสู่ความหลอน

พร้อมด้วยนักแสดงนำจาก 4 ประเทศ ได้แก่ “มีน พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร” จากประเทศไทย “แพจินยอง (BAEJINYOUNG)” ศิลปิน KPOP สมาชิกวง CIX จากประเทศเกาหลีใต้ ที่ประเดิมงานแสดงกับการเล่นภาพยนตร์เรื่องแรก “ชูบิง (XU BIN)” นักแสดงจากประเทศสิงคโปร์ และ “ริโอ ดีวันโต้ (Rio Dewanto)” นักแสดงระดับ A LIST จากประเทศอินโดนีเซีย ที่มาร่วมเปิดมุมมองแนวคิดในฐานะนักแสดง ที่ได้ประชันฝีมือกันครั้งแรกในภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องนี้

มีน : “เป็นหนังไทยที่มีคนไทยน้อยมาก ก็ตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับทุกๆ คน เพราะทุกคนก็ฝีมือระดับโปรเฟสชั่นแนลมากๆ หวังว่าทุกคนจะสนุกกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่พวกเราเต็มที่มากๆ ภาษาไม่ใช่อุปสรรคสำหรับพวกเราแน่นอนครับ ตอนแรกเรารู้แค่ว่าเป็นหนังสยองขวัญเรื่องหนึ่ง ที่ทำงานกับต่างประเทศ คือไม่รู้เลยว่าเจอใครบ้าง ทุกอย่างถูกเก็บเป็นความลับทั้งหมด จนถึงวินาทีที่เริ่มสั่งแอคชั่นเลย ก็พยายามเต็มที่ ให้งานมันดีที่สุด ไม่ได้แคร์ว่าใครจะเป็นใคร หรือว่าใครจะมาจากไหน เพราะทุกคนสลัดสิ่งพวกนั้น แล้วมาโฟกัสกับการแสดงร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ

แต่คุยไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่นะ ภาษาอังกฤษเป็นหลัก แต่ก็มีล่ามคอยช่วยกัน ดีครับ ราบรื่น แต่ผมรู้สึกว่าผมเป็นเจ้าบ้านที่ไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่เลย ผมไม่ค่อยได้ช่วยอะไรทุกๆ คนเท่าไหร่ อาจจะช่วยได้บ้างแค่เล็กน้อย แล้วก็สอนคำว่า ‘ต๊าชมากแม่’ ไป ทำได้แค่นั้นเลยครับ แล้วในส่วนของคาแรกเตอร์ที่เราต้องไม่ได้เจอกันนาน ไม่ถูกกัน เราก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ไม่เคยเวิร์กช็อปด้วยกัน เพราะผู้กำกับต้องการให้เห็นภาพที่เรียลที่สุด ซึ่งก็ออกมาดีนะครับ ถือเป็นการในรูปแบบใหม่พอสมควรเลยครับ ร่วมงานกับชาวต่างชาติ ก็ต้องทำการบ้านพอสมควร ก็ขอเป็นตัวแทนนักแสดง ฝากภาพยนตร์ร้านของเก่าด้วยนะครับ พวกเราเต็มที่มากๆ หวังว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี อยากชวนทุกคนมาสนุก มาสยองด้วยกันครับ”

แพจินยอง : “ภาพยนตร์แนวสยองขวัญ เป็นแนวที่ผมอยากจะลองเล่นดูเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หลังจากที่ได้เห็นคลิป ก็รู้สึกว่ามันมีความน่าสนใจ คิดเราน่าจะแสดงได้ดีนะ ก็เลยท้าทายตัวเองด้วยการกล้ารับงานนี้ดูครับ แล้วทีมงานไทยก็เอื้อเฟื้อมีน้ำใจมากๆ ในฐานะนักแสดงอย่างผม เลยได้โฟกัสกับการแสดงอย่างเต็มที่ แล้วการได้มาร่วมงานกับทีมงานและนักแสดงชั้นนำแบบนี้ ทำให้รู้สึกเป็นเกียรติ รู้สึกดีใจและขอบคุณมากครับ 

เล่นภาพยนตร์เรื่องแรกด้วยการรับบทเป็นผี ก็รู้สึกเหมือนได้ค้นพบ ได้เจอแพจินยองในอีกรูปแบบหนึ่งครับ แล้วบทบาทนี้ก็เป็นบทบาทที่อยากจะแสดงอยู่แล้ว มีความกดดันเหมือนกัน แต่ระหว่างทางก็รู้สึกสนุก กับการที่ได้อินไปกับบท ‘ซง’ ซึ่งสมาชิกในวง CIX ของผมก็ได้เห็นแล้ว ว่าผมเล่นบทนี้ เพราะผมเป็นคนชอบมอติเตอร์การแสดงของตัวเอง โดยเฉพาะฉากที่ได้รับคำชมจากผู้กำกับ ผมก็เอาไปอวดเรียบร้อยแล้วครับ หนังสยองขวัญจะได้อรรถรสมากที่สุด ถ้ารับชมในโรงภาพยนตร์นะครับ เพราะได้เห็นดีเทลต่างๆ ที่อาจจะมองข้ามไป”

ซูบิง : “โปรเจกต์ภาพยนตร์เรื่องนี้ มันถูกเลื่อนไปเพราะโควิด-19 ทำให้ทุกอย่างมันช้าไปหมด แต่สุดท้ายผลงานออกมาสำเร็จแล้ว ก็ตื่นเต้นมากๆ ที่ได้ชมพร้อมกับทุกคนครับ เป็นเกียรติและดีใจมาก ที่เป็นชาวสิงคโปร์ที่ได้เล่นภาพยนตร์เรื่องนี้ ขอบคุณที่ให้โอกาสครั้งยิ่งใหญ่กับผม หวังว่าจะได้ฉายในสิงคโปร์เร็วๆ นี้นะครับ การร่วมงานกับทีมงานและนักแสดงไทยสำหรับผม เป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมาก รู้สึกว่าเป็นมืออาชีพ และทำงานอย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพมาก ไม่ว่าจะเป็นการจัดไฟ การจัดฉากทุกอย่าง พอทุกอย่างมันราบรื่นแบบนี้ ผมที่เป็นนักแสดงก็โฟกัสกับงานได้อย่างดีครับ อย่างที่ทราบว่าเรื่องนี้ใช้เวลา 2-3 ปี ก็เรียกว่าเป็นผลงานที่ทุ่มเทกันหนักมาก สุดท้ายสำเร็จแล้วก็อยากให้ทุกคนชอบนะครับ”

ริโอ ดีวันโต้ : “มันเพิ่งเริ่มต้นในประเทศไทยเท่านั้นครับ ผมก็หวังว่าต่อไป มันจะไปได้ทั่วเอเชีย ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ไปทั่วโลกเลยครับ ส่วนตัวผมรู้สึกว่างานนี้ เป็นการร่วมมือกันหลากหลายมากๆ ผู้กำกับให้พื้นที่กับผม ให้ได้ลองค้นหาตัวเอง ในฐานะนักแสดงอย่างแท้จริง ผมเหมือนเป็นหุ่นเชิดให้กับผู้กำกับเลยครับ แล้วประสบการณ์หลอนๆ ตอนถ่ายทำที่ผมเจอ ก็คือวันสุดท้ายของการถ่ายทำ มีอะไรบางอย่างหล่นลงมาจากเพดาน โชคดีที่ไม่มีใครยืนตรงนั้นเลย ไม่มีใครบาดเจ็บ แต่ทีมงานก็มานั่งสวดมนต์กัน เพราะรู้สึกว่ามีพลังงานอะไรบางอย่างซ่อนอยู่แน่ๆ (หัวเราะ) และสำหรับผมการเดินเข้าไปซื้อตั๋วหนัง มันไม่ใช่หาแค่สนับสนุนศิลปินหรือนักแสดงเท่านั้น แต่เป็นการสนับสนุนอุตสาหกรรมบันเทิงโดยภาพรวมเลย อยากให้ทุกคนมาร่วมสนับสนุนวงการภาพยนตร์กันนะครับ”













กำลังโหลดความคิดเห็น